ตอนที่ 5 - บันทึกความทรงจำ

ในวันหยุดที่สดใสนี้ มิ้นตัดสินใจทำความสะอาดห้องเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องให้ดีขึ้น เธอคิดว่าย้ายตู้เสื้อผ้าไปยังมุมใหม่ของห้องอาจจะทำให้ห้องของเธอดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ขณะที่เธอกำลังเคลื่อนย้ายตู้เสื้อผ้าที่หนักอึ้ง เธอได้พบสมุดบันทึกเล่มเก่าที่หล่นลงมาอยู่ด้านหลังของตู้

สมุดบันทึกปกหนาสีซีดถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นเกรอะกรังจนแทบมองไม่เห็นสีที่แท้จริง เมื่อมิ้นปัดฝุ่นออก เธอรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านจากสมุดเล่มนั้น แผ่นกระดาษเก่า ๆ ด้านในถูกจารึกด้วยตัวอักษรที่บรรจงเขียนด้วยปากกาหมึกซึม ความรู้สึกขนลุกวิ่งผ่านมิ้นเมื่อเธอเปิดสมุดไปหน้าหนึ่ง หน้ากระดาษนั้นมีข้อความสั้น ๆ ที่อ่านไม่ออก แต่อ่านแล้วเหมือนกับเสียงกระซิบที่ลอยมาในอากาศ

ทุกหน้าที่เธอพลิกดู เหมือนกับมีเรื่องราวและความลับซ่อนอยู่ มิ้นสังเกตเห็นภาพวาดลึกลับหลายภาพที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและบุคคลที่ไม่รู้จัก เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในโลกที่ถูกลืม และรู้สึกถึงเงาแห่งความลึกลับที่ค่อย ๆ ปกคลุมห้องของเธอ

ขณะที่เธอจมอยู่กับสมุดบันทึกนั้น เสียงลมที่พัดผ่านหน้าต่างแผ่วเบาเหมือนกับเสียงสะท้อนจากอดีตที่แฝงอยู่ในบันทึกเล่มนั้น

มิ้นปิดสมุดบันทึกอย่างแผ่วเบา สายตาของเธอหยุดที่ปกของสมุดเหมือนกับว่ามันกำลังส่งสายตากลับมา เธอตัดสินใจวางสมุดบันทึกไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะหันไปจัดการกับการย้ายตู้เสื้อผ้าให้เสร็จ

แต่ละนาทีที่ผ่านไป จิตใจของเธอไม่อาจละจากสมุดบันทึกเล่มนั้นได้ ภาพและข้อความในสมุดยังคงวนเวียนในหัว ราวกับมีเสียงเรียกจากอดีตที่ต้องการให้เธอค้นพบความจริง ขณะที่เธอกำลังพยายามตั้งใจทำงานต่อ เสียงลมพัดกระซิบผ่านหน้าต่างทำให้เธอต้องหันไปมองสมุดบันทึกอีกครั้ง

ในที่สุด มิ้นไม่สามารถทนความสงสัยได้อีกต่อไป เธอนั่งลงที่เตียง หยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเปิดอีกครั้ง คราวนี้เธอตัดสินใจที่จะอ่านทุกหน้าด้วยความตั้งใจ ท่ามกลางข้อความและภาพวาดที่มีรายละเอียดแปลกตา

มิ้นนั่งอ่านบันทึกอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดเธอก็เจอเรื่องราวของพิมพ์ดาว บันทึกที่เขียนด้วยลายมือสั่น ๆ ของพิมพ์ดาว บอกเล่าความกลัวและความสับสนของเธอ:

"วันที่ 5 สิงหาคม 2535

ฉันชื่อพิมพ์ดาว อายุ 20 ปี ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังตามฉันอยู่ ทุกคืนเมื่อฉันนอนหลับ ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังมาจากนอกประตู ราวกับมีใครเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องของฉัน"

"วันที่ 10 สิงหาคม 2535

วันนี้ฉันเห็นเงาดำเคลื่อนไหวอยู่ที่ปลายถนนขณะที่ฉันเดินกลับหอพัก เงานั้นหยุดเมื่อฉันหันไปมอง แต่เมื่อฉันเดินต่อไป มันก็เริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง ฉันรู้สึกกลัวมาก ฉันบอกพ่อแม่ แต่พวกเขาคิดว่าฉันจินตนาการไปเอง ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรดี"

"วันที่ 20 สิงหาคม 2535

วันนี้ฉันพบจดหมายแปลก ๆ สอดอยู่ใต้ประตู จดหมายนั้นไม่มีชื่อผู้ส่ง แต่บอกว่า 'เธอไม่สามารถหนีฉันไปได้' ฉันรู้สึกหมดหวังและกลัวว่าฉันจะไม่สามารถหลีกหนีได้ ฉันหวังว่าจะมีใครบางคนช่วยฉัน"

มิ้นอ่านบันทึก ใจเธอเต้นแรงด้วยความสงสารพิมพ์ดาว ภาพวาดของห้องพักที่พิมพ์ดาววาดไว้ในหน้าต้น ๆ ของบันทึกคือห้องเดียวกับห้องของมิ้นตอนนี้ ยิ่งทำให้มิ้นสงสัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าใครคือคนที่กำลังตามพิมพ์ดาวอยู่

เธอตัดสินใจโทรหาลุงชัย ผู้ที่ดูแลอาคารนี้มานานหลายปี หวังว่าจะได้คำตอบเกี่ยวกับพิมพ์ดาว

มิ้น: "ฮัลโหล ลุงชัย นี่มิ้นเองค่ะ"

ลุงชัย "อ้าว มิ้น มีอะไรหรือเปล่า?" ลุงชัยตอบกลับด้วยน้ำเสียงใจดี

มิ้น: "ลุงชัยคะ มิ้นอยากถามเกี่ยวกับห้องที่มิ้นอยู่ตอนนี้ค่ะ ห้องนี้เคยมีคนอยู่ชื่อพิมพ์ดาวหรือเปล่าคะ?"

ลุงชัยเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ "พิมพ์ดาวเหรอ? ใช่แล้ว เธอเคยอยู่ที่ห้องนี้เมื่อหลายปีที่แล้ว แต่ทำไมหรือ?"

มิ้น: "คือ...มิ้นเจอสมุดบันทึกของเธออยู่หลังตู้เสื้อผ้า ลุงชัยมีเบอร์ติดต่อเธอไหมคะ มิ้นอยากคืนสมุดบันทึกให้เธอค่ะ"

ลุงชัย: "ลุงไม่มีเบอร์ติดต่อเธอหรอก ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เธอเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว"

มิ้นตกใจกับคำตอบที่ได้ยินจากลุงชัย "ในสมุดบันทึกของพิมพ์ดาว บันทึกบอกว่าเธอกำลังถูกใครบางคนตาม แล้วก็รู้สึกกลัวมาก" มิ้นบอกลุงชัยด้วยน้ำเสียงที่สั่น "ลุงชัยพอจะรู้เรื่องนี้บ้างไหมคะ?"

ลุงชัยถอนหายใจ "ลุงจำได้ว่าเมื่อก่อนหนูพิมพ์ดาวมักจะบ่นว่ารู้สึกมีคนตาม แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อเธอ รวมถึงพ่อแม่ของเธอเองด้วย ลุงเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไง สุดท้ายก็เกิดเรื่องร้ายกับหนูพิมพ์ดาว เธอถูกแทงเสียชีวิตในห้อง ตำรวจยังจับตัวฆาตกรไม่ได้เลย"

"ถ้าตอนนั้นทุกคนเชื่อเธอ เธอคงไม่จบชีวิตแบบนั้น" ลุงชัยตอบด้วยเสียงเศร้า

หลังจากวางสาย มิ้นรู้สึกว่าเธอไม่อาจทิ้งเรื่องนี้ไว้เบื้องหลังได้ เธอต้องการรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพิมพ์ดาว

มิ้นตัดสินใจกลับมาทำความสะอาดห้องต่อให้เสร็จ ห้องพักที่เคยรกและเต็มไปด้วยฝุ่นเริ่มดูสดชื่นขึ้นเมื่อเธอจัดการทุกมุมอย่างละเอียด การเคลื่อนย้ายตู้เสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น

เมื่อเสร็จสิ้นการทำความสะอาด มิ้นรู้สึกเหนื่อยและอยากพักผ่อน เธอจึงเตรียมตัวอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายตัวเอง น้ำอุ่นที่ไหลผ่านร่างกายช่วยให้ความตึงเครียดที่สะสมมาตลอดวันคลายลง เธอหลับตาและพยายามไม่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในบันทึกของพิมพ์ดาว

หลังจากอาบน้ำเสร็จ มิ้นรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น เธอสวมชุดสบายๆ แล้วเอนตัวลงบนเตียงนุ่ม สายลมเย็นจากหน้าต่างที่เปิดไว้แผ่วผ่านผ้าม่านบางๆ ทำให้เธอรู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น ในที่สุด มิ้นก็ปล่อยให้ความเหนื่อยล้าพาเธอเข้าสู่นิทรา ตาของเธอค่อยๆ ปิดลง และเสียงลมพัดแผ่วเบากลายเป็นเสียงกล่อมที่ทำให้เธอผลอยหลับไป

.

ตึก ตึก ตึก.....

ท่ามกลางความสลัวบนถนนสายหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเร่งฝีเท้าวิ่งไปตามทางเดินแคบๆ ที่ปกคลุมด้วยเงามืด รอบข้างมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องผ่านกิ่งไม้ทำให้เกิดเงาทึบแสงสลัว เสียงลมหายใจหอบและเสียงฝีเท้าดังก้องสะท้อนในความมืด

ผู้หญิงคนนั้นหันกลับมามองเป็นระยะๆ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ริมฝีปากสั่นระริก และเหงื่อที่ไหลอาบหน้าเป็นประกายภายใต้แสงจันทร์ เธอพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ขณะที่เบื้องหลังเธอมีใครบางคนที่เคลื่อนไหวติดตามมาอย่างใกล้ชิด เสียงฝีเท้านั้นหนักแน่นและเร่งรีบ ราวกับกำลังไล่ตาม

เธอเร่งฝีเท้ามากขึ้น เสียงฝีเท้าของเธอดังก้องในคืนที่เงียบสงัด หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก แต่เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของคนที่ไล่ตามนั้นก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะวิ่งไปทางไหนก็รู้สึกว่าหนีไม่พ้น

ขณะที่เธอกำลังวิ่งหนีด้วยความสิ้นหวัง เธอสังเกตเห็นแสงสว่างเล็กๆ อยู่ที่มุมถนน เป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดไฟสว่าง เธอเร่งฝีเท้าตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อด้วยความหวังว่าจะหาที่หลบภัย

ประตูร้านสะดวกซื้อเปิดออกเมื่อเธอวิ่งเข้าไปข้างใน หญิงสาวหยุดหายใจแรง พยายามควบคุมลมหายใจที่หอบเหนื่อย ภายในร้านมีพนักงานยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ พนักงานหันมามองเธอด้วยความแปลกใจ

"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?" แม็กซ์ที่เป็นพนักงานในร้านสะดวกซื้อ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ช่วยด้วยค่ะ มีคนตามฉันมา" หญิงสาวพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

แม็กซ์พยักหน้าและเรียกให้เธอมานั่งพักหลังเคาน์เตอร์ "คุณนั่งพักตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะโทรแจ้งตำรวจให้" "คุณชื่ออะไรครับ" แม็กซ์ถามชื่อหญิงสาว เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับแจ้งตำรวจ

"ฉันชื่อ พิมพ์ดาวค่ะ"

.

ก๊อก ก๊อก ก๊อก .....

มิ้นสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ใจเธอยังเต้นแรงจากความฝันที่เพิ่งพบเจอ เธอพยายามสงบใจแล้วเดินไปเปิดประตู เธอพบว่าธนูและแม่ของเขายืนอยู่หน้าประตู ทั้งสองถือขนมมาในมือและยิ้มอย่างเป็นมิตร

"สวัสดีครับมิ้น พวกเรามาขอบคุณที่คุณเคยช่วยแม่ผมไว้เมื่อคราวก่อน" ธนูกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ

"สวัสดีค่ะ คุณธนู คุณยาย" มิ้นตอบรับพลางยิ้ม "เข้ามาข้างในก่อนไหมคะ?"

"ไม่เป็นไรจ้ะ พวกเรามาแค่แป๊บเดียวเอง" แม่ของธนูกล่าว "ยายเอาขนมมาฝากเป็นการขอบคุณ ที่หนูช่วยยายในวันนั้น"

มิ้นยิ้มรับ "ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย หนูยินดีที่ได้ช่วยค่ะ"

"ถ้างั้น เราไม่รบกวนแล้วนะครับ ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้ง" ธนูกล่าวพลางส่งถุงขนมให้มิ้น

มิ้นรับถุงขนมด้วยความยินดี "ขอบคุณมากค่ะ ไว้ค่อยมาเยี่ยมกันใหม่ได้นะคะ"

หลังจากที่ธนูและแม่ของเขาลาไป มิ้นก็กลับเข้ามาในห้องและนั่งลงบนเตียง เธอมองถุงขนมในมือและรู้สึกอบอุ่นขึ้น มิ้นเปิดถุงขนมและหยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมากิน ขณะที่คิดถึงความฝันที่เธอเห็นพิมพ์ดาว

ใบหน้าของพิมพ์ดาวทำให้มิ้นรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เธอครุ่นคิดถึงความฝัน ทันใดนั้นมิ้นก็นึกออก พิมพ์ดาวมีความคล้ายคลึงกับหญิงสาวในชุดนอนเดรสสีขาวที่มิ้นเคยฝันเห็นก่อนหน้านี้

"เกิดอะไรขึ้นกับเธอนะพิมพ์ดาว" "ฉันต้องหาคำตอบให้ได้ ว่าใครทำร้ายเธอ" มิ้นพูดกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น

มิ้นตัดสินใจเริ่มต้นจากร้านสะดวกซื้อที่เธอเห็นในความฝัน เธอรู้จักแม็กซ์ ซึ่งอาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิมพ์ดาว คิดได้ดังนั้น มิ้นรีบไปที่ร้านสะดวกซื้อที่แม็กซ์ทำงานอยู่ทันที

เมื่อมิ้นเดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อ เธอเห็นแม็กซ์ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ทักทายลูกค้าและเรียงสินค้า เขาเงยหน้าขึ้นมองและยิ้มเมื่อเห็นมิ้น

"อ้าว คุณมิ้น! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ" แม็กซ์ถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

"สวัสดีค่ะ คุณแม็กซ์ ฉันมีเรื่องจะถามหน่อยค่ะ" “คุณรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ พิมพ์ดาวไหมคะ?" มิ้นถามด้วยความหวัง

แม็กซ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วตอบว่า "พิมพ์ดาวเหรอครับ?รู้จักครับ แต่เธอเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว คุณมิ้นมีอะไรหรือเปล่าครับ"

“ฉันพบสมุดบันทึกของเธอ ในบันทึกเขียนว่าเธอถูกใครบางคนตามอยู่ คุณพอจะรู้เรื่องนี้ไหมคะ”

แม็กซ์ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “เราไปนั่งคุยกันตรงโต๊ะนั้นดีกว่าครับ” แม็กชี้ไปที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าร้าน ก่อนจะเดินนำมิ้นไป

.

ย้อนไปเหตุการณ์เมื่อ 8 ปีก่อน ที่แม็กซ์ได้เจอกับ พิมพ์ดาว....

หลังจากที่แม็กซ์ได้ช่วยพิมพ์ดาวไว้ในคืนที่มีคนตามเธอมา เขาไม่เพียงแค่โทรแจ้งตำรวจ แต่ยังรออยู่ข้างๆ เธอเพื่อให้เธอรู้สึกปลอดภัย ตำรวจมาถึงในเวลาไม่นานและได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากพิมพ์ดาว แต่เหตุการณ์ยังคงลึกลับเพราะคนที่ตามพิมพ์ดาวมาได้หายตัวไปก่อนตำรวจจะมาถึง

ตำรวจ: "คุณพิมพ์ดาวครับ เราอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนที่ตามคุณมา คุณรู้จักเขาหรือไม่?"

พิมพ์ดาว: "ฉันไม่รู้จักเขาค่ะ แต่เขามักจะตามฉันอยู่บ่อยๆ และทุกครั้งฉันรู้สึกว่าเขาเข้าใกล้ตัวฉันมากขึ้น"

ตำรวจ: "ถ้าอย่างนั้น คุณควรหลีกเลี่ยงที่จะอยู่คนเดียวในตอนกลางคืน และระวังตัวให้มากขึ้น"

แม็กซ์: "ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าคุณพิมพ์ดาวต้องการให้ช่วย ผมอยู่ที่นี่เสมอ"

พิมพ์ดาว: "ขอบคุณค่ะ คุณแม็กซ์"

หลังจากนั้นไม่กี่วัน พิมพ์ดาวกลับมาที่ร้านสะดวกซื้ออีกครั้งเพื่อขอบคุณแม็กซ์ เธอมักจะมานั่งเล่นหรือมานั่งทำงานที่หน้าร้านบ่อยๆ บรรยากาศที่นี่ทำให้เธอรู้สึกสงบและผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีแม็กซ์คอยดูแลและให้กำลังใจเสมอ พวกเขาค่อยๆ สนิทสนมกันมากขึ้นในทุกๆ วันที่ผ่านไป

บางวันพิมพ์ดาวทำงานจนดึก แม็กซ์ที่เห็นเธอตั้งใจทำงานก็มักจะนำเครื่องดื่มอุ่นๆ มาให้ พวกเขานั่งคุยกันอย่างอบอุ่นใต้แสงไฟนวลตาหน้าร้าน ในช่วงเวลาที่ฝนตกเบาๆ หรือในยามที่ลมเย็นพัดมา พิมพ์ดาวรู้สึกได้ถึงความใส่ใจและความอบอุ่นที่แม็กซ์มีให้

เมื่อเวลาล่วงเลยจนดึกดื่น แม็กซ์ก็จะขับมอเตอร์ไซค์พาพิมพ์ดาวไปส่งที่หอพัก ทุกครั้งที่ขับผ่านถนนที่เงียบสงบ แสงไฟจากรถส่องสว่างเป็นทางเล็กๆ ในความมืด พิมพ์ดาวรู้สึกปลอดภัยและสบายใจทุกครั้งที่มีแม็กซ์อยู่ข้างๆ

เสียงเครื่องยนต์เบาๆ คลอเคล้ากับเสียงลมที่พัดผ่าน ทำให้การเดินทางในคืนเหล่านั้นดูเหมือนเป็นความฝันที่อบอุ่น แม็กซ์มักจะพูดคุยเล่าเรื่องราวต่างๆ หรือบางครั้งก็แค่เงียบฟังเสียงลมและเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

เมื่อถึงหอพัก แม็กซ์จะจอดรถและรอจนพิมพ์ดาวเดินเข้าไปในอาคารอย่างปลอดภัย ก่อนที่จะขับรถกลับไปที่ร้าน ทั้งสองยิ้มให้กันด้วยความเข้าใจและรู้สึกถึงความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นอย่างแน่นแฟ้น

วันเวลาที่ผ่านไปกลายเป็นความทรงจำที่งดงามระหว่างพิมพ์ดาวและแม็กซ์

จนวันหนึ่ง พิมพ์ดาวมาบอกกับแม็กซ์ว่า รู้แล้วว่าใครที่ตามเธออยู่ เขาเป็นผู้ชายในมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่คลาสเดียวกันกับเธอ

"แม็กซ์ พิมพ์รู้แล้วว่าใครที่ตามพิมพ์อยู่" พิมพ์ดาวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนกังวล

"ใครเหรอ?" แม็กซ์ถามพร้อมกับหยุดสิ่งที่ทำอยู่

"เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนของพิมพ์ ชื่อว่า ก้อง เขามักจะนั่งอยู่ที่มุมห้องและไม่ค่อยคุยกับใครเลย แต่ช่วงหลังๆ นี้ พิมพ์สังเกตว่าเขามักจะมองพิมพ์และบางครั้งก็พยายามเข้ามาใกล้"

"แล้วพิมพ์คิดยังไงเรื่องนี้?" แม็กซ์ถามด้วยความห่วงใย

“พิมพ์กลัว แต่คิดว่าควรคุยกับเขาและถามตรงๆ ไปว่าเขาต้องการอะไร" พิมพ์ดาวตอบ

"ถ้าอย่างนั้น ผมจะไปด้วยเพื่อความปลอดภัย?" แม็กซ์เสนอ

"ขอบคุณมากนะแม็กซ์ ถ้าแม็กซ์ไปด้วย พิมพ์ก็อุ่นใจมากขึ้น" พิมพ์ดาวยิ้ม

พิมพ์ดาวและแม็กซ์นัดกันว่า พรุ่งนี้จะไปคุยกับผู้ชายที่ตามพิมพ์ดาว หลังจากตกลงกันแล้ว แม็กซ์เข้าไปทำงานในร้านต่อ ส่วนพิมพ์ดาวนั่งทำการบ้านที่หน้าร้าน

บรรยากาศที่หน้าร้านสะดวกซื้อในเย็นวันนั้นเต็มไปด้วยความเงียบสงบ แสงอาทิตย์ยามเย็นที่ลอดผ่านเมฆสีเทาอ่อนๆ สร้างเงาสลัวๆ บนถนน พิมพ์ดาวนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กหน้าร้าน โดยมีโน้ตบุ๊ควางอยู่ตรงหน้า เธอกำลังจดจ่อกับการทำการบ้าน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นเมฆฝนที่เริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ

ลมเย็นๆ เริ่มพัดมาเบาๆ ทำให้ใบไม้ที่อยู่รอบๆ ร้านเริ่มสั่นไหว ลมพัดเอากลิ่นหอมของดินที่เปียกชื้นลอยมาเตือนว่าฝนกำลังจะตก พิมพ์ดาวรู้สึกได้ถึงหยดน้ำฝนที่เริ่มตกลงมาบางเบาบนหลังมือของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดครึ้มมากขึ้นเรื่อยๆ

แม็กซ์ที่อยู่ในร้านสังเกตเห็นพิมพ์ดาวที่กำลังเก็บของ เขาจึงเดินออกมาช่วยเธอ "ฝนจะตกแล้ว รีบเก็บของดีกว่า เดี๋ยวจะเปียก"

พิมพ์ดาวยิ้ม "ขอบคุณนะแม็กซ์"

เมื่อเก็บของเสร็จ พวกเขาทั้งสองก็กลับเข้ามาในร้าน ฝนที่เคยตกปรอยๆ ตอนนี้เริ่มตกหนักขึ้น เสียงฝนตกกระทบกับหลังคาและกระจกหน้าต่างเป็นเสียงเพลงธรรมชาติที่ฟังดูสงบเงียบ

แม็กซ์มองออกไปนอกหน้าต่างและพูด "ฝนตกหนักขนาดนี้ เธอจะกลับหอยังไงดีล่ะ?"

พิมพ์ดาวยิ้มเบาๆ "ไม่เป็นไร รอให้ฝนซาลงหน่อยแล้วค่อยกลับก็ได้"

แม็กซ์พยักหน้าและกลับไปทำงานต่อ แต่ยังคอยสังเกตฝนที่ตกอย่างไม่ขาดสาย พิมพ์ดาวนั่งอ่านหนังสือและจิบกาแฟอุ่นๆ รอเวลาให้ฝนเบาลง บรรยากาศในร้านสะดวกซื้อเงียบสงบ มีเพียงเสียงฝนตกกระทบหลังคาและเสียงเพลงเบาๆ ที่เปิดคลอเป็นเพื่อน

เวลาผ่านไปสักพัก ฝนเริ่มเบาลง เสียงฝนที่เคยดังเป็นเสียงกึกก้องตอนนี้กลายเป็นเสียงหยดน้ำที่ตกเป็นระลอกเบาๆ พิมพ์ดาวเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างและหันมายิ้มให้แม็กซ์

"ฝนซาลงแล้ว เราไปกันเถอะ" เธอพูด

แม็กซ์พยักหน้าและเดินไปหยิบกุญแจมอเตอร์ไซค์ เขาเดินนำพิมพ์ดาวออกไปที่หน้าร้าน ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่มีแสงไฟจากเสาไฟริมถนนที่ส่องสว่างพอให้เห็นทาง แม็กซ์สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์และส่งหมวกกันน็อคให้พิมพ์ดาว

"พร้อมหรือยัง?" เขาถาม

พิมพ์ดาวสวมหมวกกันน็อคแล้วพยักหน้า "พร้อมแล้วค่ะ"

แม็กซ์ขับมอเตอร์ไซค์ออกไปอย่างช้าๆ ถนนที่เคยเปียกน้ำฝนมีแสงไฟสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ บรรยากาศเย็นสบาย ลมพัดอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น พิมพ์ดาวนั่งซ้อนท้ายและมองเห็นทิวทัศน์รอบข้างที่ดูเงียบสงบและโรแมนติก

ระหว่างทาง แม็กซ์พูดคุยกับพิมพ์ดาวเพื่อให้การเดินทางไม่น่าเบื่อ พวกเขาแลกเปลี่ยนเรื่องราวชีวิตและความฝัน แม็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและให้กำลังใจ พิมพ์ดาวรู้สึกสบายใจและมีความสุขที่ได้มีคนเข้าใจและอยู่เคียงข้างเธอ

เมื่อถึงหอพักของพิมพ์ดาว แม็กซ์จอดรถและรอให้เธอลงจากรถ พิมพ์ดาวถอดหมวกกันน็อคและยิ้มให้แม็กซ์ "ขอบคุณมากนะแม็กซ์"

แม็กซ์ยิ้มตอบ "ไม่เป็นไรครับ ยินดีเสมอ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะพิมพ์"

พิมพ์ดาวพยักหน้าและเดินเข้าหอพัก ขณะที่แม็กซ์มองตามเธอจนกระทั่งเธอเข้าไปข้างในอย่างปลอดภัย จากนั้นเขาจึงรีบขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน เพราะฝนเริ่มตกลงมาอีกครั้ง

.

แม็กซ์หยุดเล่าเรื่อง เสียงของเขาเงียบลงและมีสีหน้าเศร้าหม่น แสดงถึงความเจ็บปวด แม็กซ์พยายามอย่างมากที่จะควบคุมอารมณ์ของเขา แม็กซ์หันหน้าหนีไปอีกทางเพื่อขจัดน้ำตาที่เริ่มจะไหลลงมา

มิ้นเห็นอาการของแม็กซ์ เธอรู้ทันทีว่าเขากำลังควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจ

"แม็กซ์" มิ้นเอ่ยเสียงเบา "เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น? "

แม็กซ์ก้มหน้าลงเล็กน้อย น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม ก่อนที่จะเล่าต่อ....

.

เมื่อแม็กซ์มารับพิมพ์ดาวในตอนเช้า เขาพบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและโศกเศร้า ผู้คนต่างยืนมุงดูเหตุการณ์อย่างตื่นตระหนก มีรถตำรวจและรถกู้ภัยจอดเรียงราย เสียงไซเรนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเสียงร้องไห้อย่างเจ็บปวดของหญิงชายวัยชราคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล

แม็กซ์เดินเข้าไปถามผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ "เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ" แม็กซ์ถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วง

“มีผู้หญิงถูกแทงเสียชีวิตในห้อง แม่บ้านเป็นคนพบศพ” ผู้ชายคนนั้นเล่าด้วยน้ำเสียงขนลุก

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม็กซ์รู้สึกเป็นห่วงพิมพ์ดาวอย่างมาก เขาพยายามจะขึ้นไปหาพิมพ์ดาว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นตึกไว้ ไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไป แม็กซ์จึงพยายามมองหาพิมพ์ดาวท่ามกลางผู้คนที่อยู่ข้างล่าง หวังว่าเธอจะลงมาดูเหตุการณ์เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ แต่ไม่พบเธอเลย

แม็กซ์พยายามโทรหาพิมพ์ดาว แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ โทรศัพท์ดังอยู่นานแล้วตัดไป ความกังวลในใจของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะที่แม็กซ์กำลังโทรหาพิมพ์ดาวอีกครั้ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ยกร่างผู้เสียชีวิตลงมาในถุงคลุมสีขาว ใบหน้าของแม็กซ์เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและกลัวว่าความจริงจะเป็นอย่างที่เขาไม่อยากให้เป็น

ชั่วขณะหนึ่ง ผ้าคลุมร่างเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าของผู้เสียชีวิต แม็กซ์เข่าทรุดลงกับพื้น โทรศัพท์มือถือหลุดจากมือ เขาตะโกนสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด

“พิมพ์ดาว!” เมื่อตั้งสติได้ แม็กซ์รีบลุกขึ้น วิ่งไปหาพิมพ์ดาว 

"ไม่นะพิมพ์ ไม่จริงใช่ไหม เกิดอะไรขึ้น ใครมันทำกับเธอแบบนี้ ฮึก ฮือ..." แม็กซ์กอดร่างที่เย็นชืดของพิมพ์ดาว น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด

เสียงร้องไห้เจ็บปวดของแม็กซ์ดังก้องไปทั่วบริเวณ ผู้คนรอบข้างต่างมองดูเหตุการณ์ด้วยความสะเทือนใจ และมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและเศร้าสลด หัวใจของแม็กซ์รู้สึกเหมือนแตกสลาย เขาไม่สามารถรับได้กับความจริงที่โหดร้ายนี้ ความหวัง ความฝัน และความรักที่มีต่อพิมพ์ดาวถูกทำลายลงในพริบตาเดียว ทุกอย่างกลายเป็นฝันร้ายที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น

เขารู้สึกเหมือนเวลาหยุดหมุน โลกทั้งใบกลายเป็นความมืดมน ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันกับพิมพ์ดาวแทรกเข้ามาในใจ ทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอ ความอบอุ่นที่เธอมอบให้ ตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของแม็กซ์

เขาเริ่มโทษตัวเองที่ไม่ได้ขึ้นไปส่งพิมพ์ดาวที่ห้อง โทษตัวเองที่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเธอในเวลานั้น

"ถ้าเราอยู่กับเธอ เรื่องนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น พิมพ์... แม็กซ์ขอโทษ ฮือ... ขอโทษจริงๆ" 

ฮอต

Comments

amoakakashisensei

amoakakashisensei

แอด ต้องการตอนต่อไปเร็วๆนี้!!

2024-11-08

1

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!