“ชักช้าเป็นบ้า ดูซิพวกแกทำให้ผิวของข้าเป็นรอยหมดแล้ว”
เมย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นแฝงด้วยความรังเกียจ ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สลัดภาพเด็กสาวไร้พิษภัยไปจนสิ้น ทำเอาแฮชเชอร์ทึ่งกับการเปลี่ยนแปลงของเธอไม่ได้
“ยัยนี้….-!?”
แฮชเชอร์ยกแขนรวบรวมพลังไว้ที่ฝ่ามือของเขาอย่างรวดเร็ว
ทว่าเพียงเธอชำเลืองมองมาที่เขาร่างกายก็สั่นสะท้านไปหมด ความรู้สึกและความคิดเดียวที่แล่นเข้ามาในหัวทำให้เขาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
‘อันตราย’
ด้วยพลังงานมหาศาลที่พรั่งพรูออกมาจากตัวเธอ แฮชเชอร์รู้ว่าตนไม่อาจเอาชนะได้หาก-
“ฮึ….”
ในขณะที่กำลังลังเลอยู่นั้นสายตาของแฮชเชอร์ได้สังเกตเห็นบางอย่าง มันคือ'รอยยิ้ม'เย้ยหยัน
แฮชเชอร์ตัวแข็ง ตะลึงกับสิ่งที่เห็น ก่อนที่สติและความอดทนของเขาจะขาดลง
“แก!!!!”
แฮชเชอร์คำรามด้วยโกรธสุดขีด บิดเบือนแรงโน้มถ่วงทั่วทั้งหอพักอย่างบ้าคลั่งด้วยพลังของเขา
แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง พลังของแฮชเชอร์ไม่สามารถทำอะไรเมย์ได้เลย
“หือ? นี้เอาจริงแล้วหรือ?”
บนใบหน้าของเมย์ยังคงประดับด้วยยิ้มดูถูกสายตาที่จ้องมองแฮชเชอร์นั้นไม่ได้ต่างจากหนอนแมลงน่าขยะแขยงบนพื้นเลยแม้แต่น้อย
รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ จางหายไป
“คำก็แฮชเชอร์ สองคำก็แฮชเชอร์ ถ้าอย่างแกเป็นแฮชเชอร์ได้งั้นหนอนในดินก็เป็นแฮชเชอร์ได้?”
เมย์กล่าวและหัวเราะเบาๆ ท่าทางของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้รอบตัวจะถูกกดทับด้วยแรงโน้มถ่วงหลายสิบเท่าจากพลังของแฮชเชอร์
“หุปปากซะยัยกะ*รี่! จงรู้ไว้ซะว่าชั้นคนนี้ยังไม่เอาจริง!!!”
“เหรอ?”
นั้นคือคำที่เมย์พูดตอบแฮชเชอร์ ก่อนจะหัวเราะชอบใจ บางทีเรื่องตลกก็มีให้เห็นอย่างเรื่อยไปในเวลาเช่นนี้
“หัวเราะหาแม่*ึงรึไง!”
แฮชเชอร์ก่นด่า แต่หาได้เข้าหูเมย์เลยแม้แต่น้อย และเช่นกันแม้ว่าแฮชเชอร์จะเพิ่มพลังของเขาไปมากแค่ไหนก็ไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนให้เมย์ได้เลย
จู่ๆ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปและเดาะลิ้นเบาๆ
นับถอยหลัง3นาที45วินาที
“ข้าคงปล่อยเจ้าเพ้อนานเกินไป…”
เสียงเตือนนับถอยหลังดังขึ้นอีกครั้งจากอุปกรณ์สื่อสารบนข้อมือ มันจะคอยเตือนเวลาที่เหลือก่อนที่ระเบิดซึ่งติดอยู่ที่หัวใจของเธอจะเริ่มทำงาน เมย์เห็นว่าเวลานั้นเริ่มน้อยแล้วเธอจึงตั้งใจจะปิดฉากโดยเร็ว
ประกายแสงสีม่วงสว่างวาบ เพียงพริบตาเดียวร่างของแฮชเชอร์ก็หายไปจากจุดที่เขาเคยอยู่ และถูกแทนที่ด้วยเมย์
เธอยืนอยู่ตรงนั้นในท่าแปลกๆ เธอเหยียดขาตรงยกสูงไปยังทิศทางหนึ่ง ก่อนจัดท่ายืนตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ
แฮชเชอร์ถูกเตะความเร็วที่ของสายฟ้าส่งร่างปลิวหายไปจากสายตาของเมย์ภายในพริบตา เธอไม่แม้แต่จะสนใจว่าอีกฝ่ายจะดับในการเตะครั้งนี้หรือไม่ด้วยซ้ำ เพราะต่อให้รอดมาได้ แรงเตะนั้นก็มากพอจะส่งเขาออกนอกเขตบาเรียของเซนต์เฟรย่าได้อย่างแน่นอน
“น่าขัน ข้านึกว่ามันจะสนุกกว่านี้เสียอีก….หือ?”
เธอเหลือบมองลงมาที่ปลายเท้าซึ่งมีเลือดติดอยู่เป็นจำนวนมากจนย้อมขาเธอเป็นสีแดง
“ขยะแขยง คราวหน้าต้องเคลือบด้วยกระแสไฟฟ้าสักหน่อยเลือดเน่าๆ จะได้ไม่เลอะขาข้าอีก….”
เมย์สบถคนเดียว หันหลังและเดิมกลับเข้าหอพักโดยที่เท้าของเธอมีควันลอยออกมาอยู่ครู่หนึ่ง มันคือเลือดของแฮชเชอร์ที่กำลังระเหยจากกระแสไฟฟ้าที่เมย์ปล่อยออกมา
เธอก้าวไปยืนหน้าประตูและนึกขึ้นได้ว่าฟูกะยังนอนแผ่อยู่บนพื้น
“ชิ….” เธอจิ๊ปากขณะฟังเสียงนับถอยหลัง
นับถอยหลัง3นาที5วินาที
เมย์ยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเก่าเมื่อเสียงเตือนนับถอยหลังใกล้จะกลายเป็น ศูนย์เต็มที
จิตแฮชเชอร์ที่3ซึ่งควบคุมร่างกายอยู่ในเวลานี้กัดฟันแน่น
นับถอยหลัง2นาที50วินาที
คืนก็คืน น่าหงุดหงิดชะมัด! เธอสบถในใจและเดินไปเอนหลังพึงต้นไม่ต้นหนึ่งจำใจต้องคืนร่างอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่กำลังจะหลับตาลงนั้นสายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับพื้นหญ้าเปล่าๆ ใต้ต้นไม้เข้า
เธอจำที่ตรงนี้ได้ มันเป็นสถานที่ที่เจ้านั้น เคยมาเป็นประจำ และตำแหน่งที่เธอนั่งอยู่ในตอนนี้ก็เป็นจุดที่ยัยไร้ค่านั้นเคยนอนอยู่ครั้งหนึ่ง
แม้ว่าตัวเธอจะไม่ได้ควบคุมร่างก็ตามแต่แฮชเชอร์ที่3ก็รับรู้ทุกการกระทำและทุกความคิดของเมย์อยู่ตลอด
น่าขันนักที่ใบหน้ายิ้มแย้มของเจ้านั้นแล่นขึ้นมาในหัวซะได้ แฮชเชอร์ที่3เอื้อมมือลูบไปที่พื้นอย่างแผ่วเบา เธอรู้สึกว่าเมย์รู้สึกถึงบางอย่างจากชายคนนั้น แต่ช่างน่าขันนักที่แฮชเชอร์อย่างข้ากลับไม่รู้สึกอะไรเลย…มันทำให้ข้าหงุดหงิดที่ไม่รู้
มันเหมือนกับว่านางมองเห็นบางอย่างที่ข้ามองไม่เห็นจากชายคนนั้น
เธอเห็นอะไรจากเจ้านั้นกันแน่?
.
.
.
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านโคโคเลีย
ในระหว่างที่เมย์หรือแฮชเชอร์ที่3กำลังจัดการกับแฮชเชอร์ตนแรกอยู่นั้นเอง ทางโคโคเลียก็กำลังดำเนินการตามแผนของเธออยู่
“ว่าไง จะยอมร่วมมือกับเราไหม เทเรซ่า?”
เทเรซ่าแสดงท่าทางลังเลออกมาอย่างชัดเจน เธอครุ่นคิดอย่างจริงจังหน้าแคปซูล…ในใจเธอมีคำถามมากมายแต่ผู้ที่สามารถให้คำตอบได้นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่
และข้อเสนอที่ไอน์สไตน์บอกเธอมานั้นค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวแต่ก็เสี่ยงจนยากจะตอบตกลงได้ทันทีโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน
“ฉันขอเวลาคิด-”
“เราไม่มีเวลามากขนาดนั้นคุณเทเรซ่า”
เทเรซ่าต้องการเวลา แต่ไอน์สไตน์นั้นไม่มีเวลาขนาด เธอชี้ไปที่กล้องตรงมุมห้อง
อีกไม่กี่สิบนาที ระบบรักษาความปลอดภัยจะกลับมาทำงานอีกครั้ง เทเรซ่าจึงต้องตัดสินใจในตอนนี้เท่านั้น
.
.
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สักเล็กน้อย
เทเรซ่ามาถึงห้องลับหลังผ่านไป 10นาที ตามที่ไอน์สไตน์ได้พูดเอาไว้ เด็กสาวตัวเล็กสูงราวๆ 140 เซน ปรากฏตัวพร้อมกางเขนสีทองขนาดใหญ่ เธอไม่พูดอะไรให้มากความและพุ่งเข้าไปหาโคโคเลียโดยแบกกางเขนของเธอฟาดใส่เต็มเหนี่ยว
จนโคโคเลียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเรียกหุ่นยนต์ไททันรุ่นใหม่ซึ่งอยู่ในขั้นพัฒนา ออกไปต่อกรกับเทเรซ่า
ซึ่งผลก็ออกมาตามที่คาดไว้ ไททัน1ตัว สามารถยื้อเทเรซ่าได้ตัวละ1หรือ2วิตามที่ไอน์สไตน์คาดการณ์ไว้ แต่แค่นั้นก็เกินพอ
ไอน์สไตน์ได้เปิดแคปซูลตู้หนึ่งซึ่งภายในบรรจุร่างของมนุษย์เอาไว้โดยด้านหน้ามีตัวอักษรเขียนไว้ว่า SIRIN PROJECT
แต่เทเรซ่าหาได้สนใจเดิมทีเรื่องโปรเจกต์ซีรินนั้นไม่ได้เป็นความลับอะไร ทุกคนในซิกซอลรู้กันดีว่าอาร์คบิชอปของพวกเขาได้ทำการทดลองเพื่อนำพลังของแฮชเชอร์ที่2ซีรินมาใช้งาน
ไอน์สไตน์ค้านทันทีและแนะนำให้เทเรซ่าดูมนุษย์ที่อยู่ในแคปซูลให้ชัดเจน เทเรซ่าทำตามและนั่นแหละเป็นเหตุทำให้เทเรซ่าลังเลอยู่ในปัจจุบัน
SIRIN PROJECT มันคืออะไรกันแน่....ทำไมคนที่อยู่ในแคปซูลถึงไม่ใช่แฮชเชอร์ที่2 แต่เป็นเด็กที่มีหน้าตาเหมือนกับเคียน่าทุกประการได้
คนที่น่าจะตอบคำถามนี้ก็คงมีแค่เจ้าของ โปรเจกต์อย่างอาร์คบิชอป...มีแค่คุณปู่เท่านั้น
ถ้าวันหนึ่งซิกซอลไม่ใช่ที่ที่หลานเธอสามารถพึ่งพาได้...
"ไอน์สไตน์...ฉันตกลง"
ทางป่าด้านหลังของหอพักวาลคิเรีย
ด้วยแรงเตะของแฮชเชอร์ที่3 ได้ส่งร่างของแฮชเชอร์ตนแรกปลิวออกไปซ้ำยังทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ไม่น้อยเลย ต้นไม้ในแนวตรงหักโค่นเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร
แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังคงไม่สามารถฆ่าแฮชเชอร์ตนแรกได้
“ย…ยัยกะ*รี่นั้น….สักวัน*ูจะกลับมาฆ่ามึ*แน่!!!”
แฮชเชอร์ตนแรกแบบรัดแขนของตนแน่นด้วยความเจ็บปวด แขนขวาของเขาถูกแรงเตะของแฮชเชอร์ที่3จนฉีกขาดไปแล้ว ซ้ำยังมีบาดแผลเล็กน้อยตามตัวอีกนับไม่ถ้วน เรียกได้แค่เดินยังยากลำบากเลยด้วยซ้ำไป
แฮชเชอร์ตนแรกพยายามเดินต่อไปอย่างยากลำบาก โชคดีที่สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากจุดนัดพบมากนัก หากไปถึงที่นั่นได้เขาก็ยังพอมีโอกาสรอดอยู่บ้าง
นั้นคือสิ่งที่แฮชเชอร์คิด
“ค่อยคุ้มกับที่มาดักรอหน่อย”
มีผู้ชายสวมแว่นโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เขาเดินเข้าไปหาแฮชเชอร์อย่างช้าๆ แฮชเชอร์ชูมือเตรียมที่จะใช้พลังโจมตีชายคนนั้น
“อย่าดีกว่า ด้วยสภาพแบบนั้นหากฝืนใช้พลังมากกว่านี้จะเจ็บปวดเอาเปล่าๆ”
ชายสวมแว่นพูด เขาเดินไปยืนอยู่ตรงแฮชเชอร์และปัดมวลพลังงานบนฝ่ามือของแฮชเชอร์จนสลายไปอย่างง่ายดาย
“ไม่ต้องห่วง…ถือว่าเป็นการให้เกียรติฉันจะแสดงอะไรให้ดู”
“ [Star of Eden 0th power] ”
แรงดึงดูด
ตรงหน้าของแฮชเชอร์คือก้อนมวลสารดำมืดที่พร้อมจะกลืนกินทุกอย่างแม้กระทั่งแสง
“ห-เหี้*ไรวะ!!???”
แฮชเชอร์เบิกตากว้างพยายามวิ่งหนี แต่ด้วยแรงดึงดูดอันมหาศาลแฮชเชอร์ไม่มีโอกาสได้แม้แต่ก้าวเดียวที่ เพียงเสี้ยววิร่างของเขาก็ถูกมวลสีดำดูดกลืนหายไปในทันที
เมื่อแฮชเชอร์ถุกกลืนกินไปแล้วหลุมดำขนาดใหญ่ราวสองเมตรก็หายวับไปทันที เหลือไว้เพียงหลุมขนาดใหญ่ซึ่งเป็นผลกระทบที่ถูกหลุมดำดูดกลืนไปด้วย
“ไม่คิดเลยว่าร่างโคลนของเขาจะใช้พลังนี้ได้แล้ว…” ชายสวมแว่นหันไปยังทิศทางหนึ่ง
“เป็นอย่างที่เธอบอกเลยกัปตัน”
“แหม ผมเองก็ไม่มั่นใจนักหรอกจนกระทั่งเห็นหมอนี้สู้กับแฮชเชอร์ที่3”
คนที่ชายสวมแว่นกำลังพูดคุยอยู่นั้นคือกัปตัน เขาเดินไปหาชายสวมแว่นและพูดต่อ
“ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างร่างโคลนของแฮชเชอร์ที่มีพลังของแฮชเชอร์จริงๆขึ้นมา แม้กระทั่งท่านอาร์คบิชอปแห่งซิกซอลก็ยังไม่สามารถทำได้”
“อื้ม ถึงอย่างนั้นร่างโคลนเหล่านี้ก็ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าเธอมีเวลามากกว่านี้อาจจะสามารถสร้างมนุษย์ที่พลังของแฮชเชอร์ออกมาได้จริงๆก็ได้”
“…”
กัปตันครุ่นคิดก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ว่ามีใครกำลังมาทางพวกเขา กัปตันคาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นไอน์สไตน์
“ดูเหมือนเขาจะมาแล้วนะ งั้นผมขอตัวก่อนละครับคุณเวลท์”
“….”
ชายสวมแว่น- ไม่สิ เวลท์ หยาง พยักหน้ารับทันทีที่การสนทนาจบลงกัปตันก็เดินหายเข้าไปในป่า และไม่นานหลังจากนั้นก็มีคนๆปรากฏตัวต่อหน้าเวลท์
อย่างที่กัปตันได้บอกเอาไว้ คนคนนั้นคือ ไอน์สไตน์
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments