หลังจากวางสายจากกัปตัน
เทเรซ่าได้มอบชุดแบทเทิลสูทที่มีชื่อว่า white comet ให้แก่เคียน่า และอธิบายว่าชุด White Comet นั้นเป็นชุดรบรุ่นที่ 3 ซึ่งมีเพียงวาลคิเรียระดับ B ขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถใช้งานมันได้
ชุดแบทเทิลสูทนั้นนับได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายที่ผสมผสานอยู่ภายในชุด ทำให้วาลคิเรียแข็งแกร่งเหนือมนุษย์มนาจนสามารถต่อกรกับฮงไกได้อย่างสูสี
อย่างไรก็ตามชุดแบทเทิลสูทนั้นไม่ได้ใช้งานง่ายนักเพราะวาลคิเรียส่วนใหญ่ใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะสามารถปรับตัวและดึงประสิทธิภาพสูงสุดของชุดออกมาได้
ปัง! ปัง!
กระสุนจากปืนพลังงานถูกยิ่งทะลุร่างของมิโกะสาวจนร่างขอเธอสลายหายไป เคียน่าหันมองเทเรซ่าด้วยรอยยิ้มมั่นใจ
“แค่นี้เองเหรอเทริ? ฉันยังรู้สึกว่าต่อให้มาอีกเป็นร้อยคนฉันก็ยังไหวอยู่เลย!”
“ยัยเด็กนี้….”
เทเรซ่ากัดฟันพูด เห็นท่าทีได้ใจของเธอแล้วมันรู้สึกหงุดหงิดชอบกล
ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ ก็จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่ายัยเด็กนี้มีความสามารถจริงอย่างที่เธอโม้ไว้ แม้ว่าศัตรูที่เธอพึ่งกำจัดไปนั้นจะเป็นเพียงโฮโลแกรมของศัตรูที่ดึงมาจากความทรงจำของเคียน่าเองและไม่ได้แข็งแกร่งเท่าตัวจริง
แต่จากการสังเกตของเทเรซ่านั้นเธอสามารถบอกได้เลยว่า มิโกะคนเมื่อครู่และคนก่อนหน้าฝีมือไม่ใช่เล่นๆ เลยสักคน
“อย่าได้ใจให้มากนักนะเคียน่า การฝึกของเธอยังไม่จบคนต่อไปกำลังจะไปแล้วเตรียมตัวให้ดีละ!” เทเรซ่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ถึงจะหงุดหงิดแต่ก็ดีใจที่เห็นว่าหลานของเธอแข็งแกร่ง
พอเห็นภาพแผ่นหลังของเคียน่าภาพของอีกคนหนึ่งก็แวบขึ้นมา แม้ความสูงและรูปร่างจะต่างกันแต่ความรู้สึกที่แผ่ออกมานั้นใกล้เคียงกันมาก
“ลูกสาวเธอนี้เหมือนเธอมากเลยนะเซซิเลีย…”
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง ณ หอพักวาลคิเรีย
มีสองร่างนั่งอยู่หน้าTV ดูเหมือนพวกเธอจะกำลังเล่นเกมต่อสู้หรืออะไรสักอย่างอยู่
“อ-เอ๋? ล-แล้วต้องทำไงต่อ!?”
“….”
เมย์พูดตะกุกตะกักในขณะที่สองมือกดจอยให้มั่วไปหมด โบรเนียมองภาพของเมย์ที่กำลังจะแพ้เต็มทีด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ภายในกำลังประมวลผลบางอย่าง
ปิ๊บ
โบรเนียเอื้อมกดปุ่มหนึ่งบนจอยและจากนั้นผลการต่อสู้ก็ออกมาทันที เมย์ได้รับชัยชนะเป็นครั้งแรกหลังจากแพ้มาตลอด
เธอร้อง เย้~! ออกมาด้วยท่าทางดีอกดีใจก่อนที่จะเกิดความสงสัยเล็กน้อยขึ้นมา เมื่อกี้เธอกดอะไรถึงชนะมาได้? เมย์ครุ่นคิดและพยายามนึกให้ออก โดยไม่รู้เลยว่าต้นตอของชัยชนะนั้นคือโบรเนียที่กำลังปรบมือแปะๆ อยู่นั้นเอง
ก๊อก ก๊อก
“มีคนมาหรอ..”
“อื้มเดี๋ยวพี่ไปดูเอง”
เมย์เอ่ยและลุกเดินไปเปิดประตู และเห็นว่าด้านนอกเป็
“ขออภัยที่มารบกวนกลางดึกนะครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ ท่านเทเรซ่าต้องการคุยกับคุณเมย์เป็นการส่วนตัว เชิญตามผมมาด้วยครับ…”
ชายสวมเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินเอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อมเมย์พยักหน้าตอบ พยายามซ่อนความระแวงไว้
เช่นเดียวกันโบรเนียก้าวเดินเข้าไปหาเมย์และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์
“โบรเนียเองก็จะไปด้วย”
“ขออภัยด้วย ท่านเทเรซ่าเรียกพบแค่เมย์เท่านั้น”
ชายคนนั้นปฏิเสธทันที ทำให้โบรเนียและเมย์ยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม แรกเริ่มเดิมทีแล้วเซนต์เฟรย่ามีบุคลากรเพศชายเพียงไม่กี่คนเท่านั้นและชายคนนั้นไม่ได้อยู่ในหมู่คนเหล่านั้นเลย
แถมการแต่งตัวยังค่อนข้างแปลกมากเพราะปกติเทเรซ่าจะเน้นย้ำให้สวมชุดเครื่องแบบประจำตำแหน่ง แต่ชายคนนี้กลับไม่ใช่ซ้ำยังปกปิดใบหน้าด้วยฮู้ดกับเสื้อคลุมอีก จะมองมุมไหนก็น่าสงสัย
“ไม่เป็นไร โบรเนียจะไปคุยกับเทเรซ่าเอ- อึ๊ก!? ”
“อ้าา!”
ตึง!
โบรเนียยังคงยืนยันที่จะตามไปด้วยแต่ยังพูดได้ไม่ครบประโยคเธอก็ถูกแรงหรืออะไรบางอย่างผลักจนกระเด็นชนกำแพงจนเป็นรอยแตกขนาดใหญ่โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ในเวลาเดียวกันก็สามารถคว้าแขนของเมย์ไว้และใช้พลังบางอย่างทำให้เธอสลบไปได้อย่างง่ายดาย
“หุปปากแล้วนอนนิ่งๆ ไปซะยัยเด็กของโคโคเลีย…”
ชายคนนั้นถอดฮู้ดและเดินออกไปโดยใช้พลังของตนทำให้เมย์ลอยตามหลังเข้าไปติดๆ
“โคโคเลียบอกว่าห้ามทำร้ายเธอเกินความจำเป็น…..เอาเถอะยังไงก็ชั่งแค่พายัยนี้กลับไปก็เป็นอันเสร็จ”
เขาเอ่ยกับตัวเองเบาๆ ตามแผนเดิมคือนำตัว ไรเดน เมย์ ไปยังจุดนัดพบและนำตัวเธอกลับไปยังฐานของAE ชายคนเดิมจิปากอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่คาดฝันว่าการจับตัวแฮชเชอร์จะง่ายดายเพียงนี้ เขาเหลือบมองร่างที่ลอยอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“…”
เมย์ที่ยังคงหลับอยู่ไม่แสดงท่าทีต่อต้านใดๆ ด้วยรูปร่างและความสวยของเมย์ที่ไม่เป็นสองรองใคร ชายหนุ่มยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ เขาก้มดูเวลา ดูเหมือนว่าทางเขาจะจัดการทุกอย่างเสร็จเร็วเกินไปหน่อย เวลาที่นัดไว้เหลือมากถึง20นาที
“งานเสร็จเร็วแบบนี้ต้องหาอะไรทำฆ่าเวลาสักหน่อย”
เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงทางออก เขาเปิดประตูออกไปทางด้านหลังของหอพัก
ตามที่โคโคเลียบอกไว้ถ้ามีใครเข้ามาขวางก็จัดการได้เลยไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น
เพราะตัวปัญหาอย่าง ยัยผู้หญิงผมแดงหรือไอเจ้าผู้ชายผมแดงนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ หรือแม้แต่เทเรซ่าก็ไม่สามารถเข้ามาขัดขวางเขาได้เช่นกันเพราะทางนั้นโคโคเลียจะจัดการเอง
ในขณะที่เขากำลังเดินอยู่นั้นก็ถูกหมัดต่อยเข้าที่คอแต่ยังดีที่เขามีบาเรียค่อยป้องกันอยู่ที่ให้หมัดของเธอไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆ
“หืม? ตกใจนะเนี้ยไม่คิดเลยว่าจะมีวาลคิเรียโผล่มาด้วย?”
คนที่ต่อยไปนั้นคือฟูกะ แต่พอเห็นว่าการโจมตีของเธอไม่ได้ผล เธอจึงกระโดดหลังออกมาเพื่อเว้นระยะห่างทันที
“ก็ไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใครและมีจุดประสงค์อะไรแต่ฉันไม่ยอมให้พาเพื่อนของฉันไปได้ง่ายๆ หรอก”
เธอตั้งหลักวางฐานเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ถึงชุดเชิดอะไรจะไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่เพราะรีบออกมาจากห้องน้ำก็ตาม
“น่าสนุกดีนิ ไม่คิดเลยว่ามีวาลคิเรียที่ทนแก๊สยาสลบของโคโคเลียได้ด้วย ชื่ออะไรฮะเรา?”
ชายคนนั้นเอ่ย ก็ตามที่เขาพูดไปนั่นแหละ ก่อนที่เขาจะไปจับตัวไรเดนเมย์เขาได้ใช้แก๊สยาสลบทำให้วาลคิเรียทั้งหอพักสลบไปก่อนแล้ว ทำให้การปรากฏตัวของฟูกะทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย
“วาลคิเรียระดับ A จากสาขาตะวันออกไกล ฟูฮัว” เธอเอ่ยชอบของตนก่อนจะพูดต่อทันทีด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “นี้เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย ปล่อยเมย์และหมอบลงกับพื้นซะผู้บุกรุก”
“โห? ปากเก่งใช้ได้ ดูซิว่าจะเก่งเหมือนปากรึเปล่า……?”
ชายคนนั้นเอ่ยก่อนที่สายตาของเขาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อสำรวจวาลคิเรียตรงหน้าด้วยสายตา
“อ๋อ อย่างี้นี่เอง ที่แท้ก็ชอบอะไรที่มันเร้าใจใช่มั้ย? รู้สึกแปลกนิดหน่อยที่ต้องมาสู้กับวาลคิเรียโรคจิต”
“ฮ๊ะ?”
ฟูกะเป็นงงเมื่อจู่ๆ ผู้บุกรุกก็พูดอะไรไม่รู้เรื่องออกมา สายตาไอเจ้านี้มันมองอะไรของมัน? เธอเหลือบมองตัวเองเล็กน้อยและเข้าใจทันทีว่ามันหมายถึงอะไร
“สงสัยฉันจะจับเป็นแกไม่ได้แล้ว….”
ฟูกะเปลี่ยนความอับอายเป็นความโกรธและแปรเปลี่ยนความอับอายเป็นเหตุผลที่จะกำจัดชายตรงหน้า ร่างบางปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ดวงตาด้านหลังแว่นสีแดง แฝงไปด้วยเจตนาฆ่าที่ชัดเจน เธอจะพุ่งตรงเข้าประชิดและออกหมัดขึ้นกระบวนท่าของเธอด้วยความเร็วจนผู้บุกรุกผงะและเตรียมที่จะหลบ
“ตายซะเถอะผู้บุกรุก”
.
.
.
.
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ขณะที่ฟูกะกำลังเข้าปะทะกับผู้บุกรุกอยู่นั้น ภายในชั้นใต้ดินของอาคารศึกษาอันเป็นเขตหวงห้ามที่มีเพียงเทเรซ่าและคนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะสามารถเข้ามาได้
แต่ ณ เวลานี้มีหญิงสาว สองคนยืนอยู่ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยแสงไฟอ่อนๆ
“ไม่นึกเลยว่าโบสถ์ใต้ดินจะเข้ามาได้ง่ายดายขนาดนี้”
หญิงสาวหรือเด็กหนุ่มตัวเล็กผู้มีผมสีฟ้าอ่อนเอ่ยขึ้นขณะที่สองมือก็ยังคงกดแป้นพิมพ์บนแผงควบคุม โดยมีหญิงสาวอีกคนยืนดูอยู่ข้างๆ
“ก็จริง แต่ฉันว่าการที่คุณปิดระบบรักษาความปลอดภัยเกือบทั้งหมดไปนั้นทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว”
หญิงสาวหรือ โคโคเลียพูดขึ้นดูพึงพอใจกับผลลัพธ์ในปัจจุบันไม่น้อย หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีทางฝั่งเธอก็จะมีแต่ได้กับได้
“แล้วคิดว่าอีกนานแค่ไหนว่าเทเรซ่าจะมา?”
“เผื่อเวลาเดินไปหยิบจูดาร์แล้ว ช้าสุดคงสัก10นาที”
“ก็นะขาสั้นขนาดนั้นคงไม่แปลกที่จะนาน”
ปกติแล้วการถอดรหัสเพื่อเข้าถึงเอกสารหรือข้อมูลสำคัญจะใช้เวลา 7 ชั่วโมงในการถอดรหัส อย่างไรก็ตาม บุคคลที่โคโคเลียพอมาด้วยนั้นคือ ไอน์สไตน์ อัจฉริยะซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Anti Entropy
โคโคเลียไม่ได้สนใจว่าไอน์สไตน์ใช้วิธีไหนหรือทำยังไงอยู่แล้ว เธอรู้แค่ว่าระยะเวลาในการถอดรหัสลดลงอย่างมาก คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน10นาทีก็เสร็จแล้ว ป่านนั้นเทเรซ่าคงมาถึงพอดี
“ถ้าเทเรซ่าปฏิเสธเราละ?” ไอน์สไตน์ถามขึ้น โคโคเลียที่ได้ยินก็ตอบไปทันทีด้วยท่าทางมั่นใจ
“เธอจะไม่ปฏิเสธเราแน่นอน”
เพราะเธอรู้ว่าเทเรซ่ารักหลานของเธอมาแค่ไหนผ่านการสังเกตการณ์จากโบรเนียตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เธอรู้ว่าเทเรซ่าจะไม่ปฏิเสธ และถึงจะปฏิเสธเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักหรอกแค่ต้องเตรียมแผนใหม่
“ยังไงก็เถอะ ต่อให้นางปฏิเสธข้อเสนอของเรา ฉันก็เตรียมที่จะเอาอย่างอื่นไปอยู่แล้ว มาครั้งนี้ไม่เสียเปล่าแน่นอน”
“เพราะงั้นถึงสูงเขาไปจับตัวแฮชเชอร์ที่3?”
“ก็ตามนั้น”
กลับมาที่หอพักวาลคิเรีย
หลังจากเข้าปะทะกันได้สักพัก ฟูกะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดเธอได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากพลังของอีกฝ่ายที่สามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงได้ทำให้รับมือได้ค่อนข้างยาก
“เป็นอะไรไปละแม่สาวน้อย ไม่โดดไปโดดมาแล้วเหรอ?”
“ชิ…”
ฟูกะเดาะลิ้น ในหัวก็คิดหาวิธีจัดการอีกฝ่ายให้ได้โดนเร็ว แต่จากการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบัน เธอตระหนักได้ว่าตัวเองไม่สามารถฆ่าชายคนนี้ได้เลย
“ต่อหน้าแฮชเชอร์อย่างฉันแก่มันก็แค่มนุษย์ธรรมดานั่นแหละวาลคิเรีย”
“….”
“ดี! ยอมแพ้และมาเป็นของเล่นของฉันซะ-”
‘ตอนนี้แหละ!’
ในเสี้ยววินาทีที่แฮชเชอร์ลดการป้องกันลงฟูกะใช้ความเร็วสูงสุดที่เธอสามารถทำได้ในการเข้าประชิดอีกฝ่ายและง้างหมัดต่อยเข้าที่หน้าของแฮชเชอร์อย่างจัง
“แกนี้ดื้อด้านใช่เล่น- ห๊ะ?”
หมัดของฟูกะติดบาเรียของแฮชเชอร์ทำให้การโจมตีของเธอไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆ เลย แฮชเชอร์ยิ้มเย้ยหยันก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่ามีบางอย่างหายไป
“แกนี้โง่กว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะผู้บุกรุก”
ฟูกะเอ่ยขึ้นโดยมีเมย์อยู่ในอ้อมแขน ใช่แล้วหมัดเมื่อครู่เป็นเพียงตัวล่อเพื่อให้อีกฝ่ายลดการป้องกันลงมากกว่าเก่า ในเวลาที่การโจมตีของเธอไม่ได้ผลคือวินาทีที่อีกฝ่ายจะลดการป้องกันลงมากที่สุด เธออาศัยจังหวะนั้นพาตัวเมย์กลับมาโดยไม่ได้ยากเย็นอะไร
ความจริงเธอจะทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ได้เพราะอีกฝ่ายเปิดช่องโหว่แบบนี้โคตรบ่อยแต่เพราะฟูกะอยากปล่อยให้อีกฝ่ายตายใจไปก่อน
“แกว่าใครโง่กันวะ! ฉันแค่อ่อนให้เฉยๆ หรอกน่า!!”
แฮชเชอร์ตวาดเสียงดังด้วยความโกรธก่อนจะบีบอัดพลังและโจมตีใส่ฟูกะอีกครั้ง ฟูกะรีบหลบทันที เธอไม่คิดจะสู้ต่อโดยที่เมย์ยังอยู่ในมือเธอแน่นอน
‘ต้องพาไปที่ปลอดภัย’ ฟูกะคิด
“จะหนีเหรอฟระ! ฝันไปเถอะ!!” แรงโน้มถ่วงในจุดที่ฟูกะกำลังจะเหยียบเพิ่มสูงขึ้น ไม่ใช่แค่ฟูกะคนเดียวที่อ่านคู่ต่อสู้ ทางแฮชเชอร์เองก็สามารถอ่านการเคลื่อนไหวของฟูกะได้ในระดับหนึ่งแล้ว เขาใช้พลังของเขาเพิ่มแรงโน้มถ่วงในจุดที่คาดว่าฟูกะจะไปและมันได้ผล ฟูกะไม่สามารถขยับไปไหนได้อีกแล้วเพราะแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า
“แรงโน้มถ่วง25เท่า..เลิกเล่นกันเท่าไหร่แหละ ลาขาดละฟูฮัว!”
แฮชเชอร์ชูมือไปข้างหน้าปลายทางคือฟูกะที่ไร้การป้องกันโดยสมบูรณ์ มวลสีน้ำเงินก่อตัวขึ้นบนมือของแฮชเชอร์ก่อนที่เขาจะยิ่งมันออกไป
เปี๊ยง!!
เหมือนฟ้าจะเล่นตลก สายฟ้าสีม่วงผ่าลงตรงกลางระหว่างฟูกะและแฮชเชอร์ ความรุนแรงของมันมากพอจะหักล้างการโจมตีของแฮชเชอร์ไปได้แต่ในเวลาเดียวกันเองร่างของฟูกะกลับลงไปนอนอยู่หน้าประตูหอพักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ชักช้าเป็นบ้า ดูซิพวกแกทำให้ผิวของข้าเป็นรอยหมดแล้ว”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments