“ทำไมไปเกาะอยู่ตรงนั้น?”
“คือ…ฉันไม่มีท่อนล่างใส่….นะ”
ด้วยความสงสัยในการกระทำดังกล่าวเขาจึงเอ่ยถามไปโดยไม่ได้คิดอะไรพลางจิบนมร้านไปด้วย
แต่คำที่เธอพูดออกมาทำให้เขาถึงกับสำลักและร้อง'ห๊ะ'เลยทีเดียว
กัปตันหันซ้ายขวาอย่างร้อนรนมอง
“นายพอมีกางเกงให้ยืมหน่อยไหม..”
เบียงก้าถามย้ำด้วยสีหน้าเขินอายและหลบเข้าไปหลังประตูเพราะทนความอับอายไม่ไหว กัปตันยิ่งรนหนักกว่าเก่าหลายเท่าตัว ตอนนี้ในหัวเขายุ่งเหยิงไปหมด เขาเปิดตู้เสื้อผ้าด้วยความรีบร้อนและคว้ากางเกงมาตัวหนึ่ง เป็นกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน
“ต-ตัวนี้พอได้ไหม!?”
พอได้แล้วเขาก็รีบเอาไปให้เบียงก้าทันที เธอเอื้อมมือออกหยิบมันไปอย่างรวดเร็วและปิดประตูไปอีกครั้งเขาเห็นรางๆ ว่าใบหูของเธอกลายเป็นแดงไปแล้ว หรือเขาจะมองผิดไปก็ไม่รู้เช่นกัน
ไม่นานเบียงก้าก็กลับออกมา
เธอเดินมาทางเก้าอี้ตัวเดิมที่เธอเคยนั่งแต่ถูกกัปตันขัดซะก่อน
“เธอนั่งบนเตียงได้นะน่าจะสบายกว่าเก้าอี้”
“อ-อ่า!”
เธอขานตอบ ตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำเธอก็เอาผ้าที่ให้ไปเช็ดผมอยู่ตลอด กัปตันพยายามมองเธอให้น้อยที่สุดและไม่ใส่ใจรายละเอียดในตัวเธอมากเกินไป….
‘หอม….กลิ่นสบู่ที่เราใช้มันหอมแบบนี้เหรอ?’
กัปตันเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงของเขา เสื้อเชิ้ตสีดำตัดกับผิวขาวเนียน ส่วนโค้งเว้าที่เลือนรางใต้เสื้อที่ใหญ่เกินตัวกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นได้เป็นอย่างดี
พอเธอก้มตัวลงช่องว่าระหว่างกระดุมเสื้อกว้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว ยิ่งรู้ว่าใต้เสื้อผ้านั้นไม่มีชั้นในแล้วความอยากรู้อยากเห็นที่มีก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกจนยากจะควบคุมตัวเองไหว
“ที่นี่ฝนตกหนักเอาเรื่องเลยนะ”
“ห-อ๊ะ! น-นั้นสินะ!”
กัปตันรีบหันมองไปทางหน้าต่างและหยิบแก้วนมขึ้นมาดื่มแม้ว่าข้างในจะเป็นแก้วเปล่าก็ตาม
เกือบไป! เกือบได้กลายเป็นโรคจิตแล้วไง ดีนะที่เบียงก้าพูดอะไรสักอย่างเมื่อกี้ (ไม่ได้ฟังที่เธอพูดและตอบไปแบบส่งๆ) ไม่งั้นได้งานเข้าแน่
กัปตันเหลือบมองเธออีกครั้งด้วยหางตา ดูจากสีหน้าและท่าทางแล้วเมื่อกี้เธอคงไม่ทันสังเกตเราสินะ ค่อยโล่งอกหน่อยดีที่เธอไม่รู้ตัว ไม่งั้นหลังจากนี้คงมองหน้ากันไม่ติดแหงๆ
กัปตันหันมองนาฬิกาบนผนัง
“จะบ่ายสามแล้วเหรอเนี้ย?”
เขาคิดกับตัวเองว่า เขากลับห้องมายังไม่ถึงชั่วโมงเลยเหรอ? พอกัปตันพูดเสร็จเบียงก้าก็มองไปทางนาฬิกาเช่นกันแต่ดูเหมือนความคิดของเธอจะแตกต่างจากกัปตัน
“บ่ายสองสี่สิบห้าแล้ว? เวลานี้ผ่านไปเร็วจังนะ”
“เร็ว?”
เบียงก้าพยักหน้าและพูดต่อ ดูเหมือนเธอจะใจเย็นลงแล้วท่าทางของเธอกลับมาเป็นปกติไม่มีความเขินอายใดๆ แล้ว
“อื้ม ฉันขอหยุดงานทั้งหมดเป็นเวลา3วันเพื่อพักผ่อน”
“เธออะนะพัก?”
กัปตันถามย้ำสีหน้าของเขาบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อ
“นานๆ ทีฉันจะพักบ้างไม่ได้รึไง?”
เบียงก้าตอบเค้นเสียง สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย กัปตันหัวเราะเบาๆ นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นเบียงก้าพูดประชดประชัน พอมุมนี้แล้วก็แบบคล้ายเคียน่าอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน
“หัวเราะอะไรของนาย”
ดูเหมือนเธอจะโกรธแล้ว เบียงก้ายกกำปั้นของเธอขึ้นมาเป็นการเตือนว่าหากยังไม่หยุดจะมีการลงไม้ลงมือเกิดขึ้นเขาเลยต้องพูดอะไรสักอย่างเพื่อทำให้เธอคลายความโกรธลง
“เปล่าๆ แค่เห็นเธอตอนนี้แล้วทำให้นึกถึงนักเรียนคนหนึ่งขึ้นมาเท่านั้นเอง”
“นักเรียน…จะบอกว่าฉันเหมือนเด็กว่างั้น?”
เบียงก้าทำท่าครุ่นคิดก่อนจะหันกลับทางกัปตัน ใบหน้าสวยยิ้มกว้างและเอื้อมมือกระชากแขนเขาขึ้นมาบนเตียง
“เห้ย!?”
ด้วยแรงของเบียงก้าไม่ใช่เรื่องยากที่จะดึงกัปตันจนตัวปลิวเข้ามุมกำแพงอย่างง่ายดาย และใช้มือซ้ายยันกับกำแพงขวางไม่ให้เขาหนี ส่วนมือขวาตั้งท่าง้างหมัด
“ใจเย็นแม่คุณ ไม่ใช่งั้น! ฉันแค่จะบอกว่าพวกเธอคล้ายกันนิดหน่อยเฉยๆ! ไม่ได้จะหลอกบูลลี่ว่าเหมือนเด็กสักหน่อย!”
กัปตันรีบแก้ความเข้าใจผิดทันทีก่อนที่หมัดระดับSจะประทับลงบนหน้าของเขา
“โฮ๋~…..นักเรียนที่ว่านี้ใช่ผู้หญิงที่ไปกับนายเมื่อวานหรือเปล่า”
เบียงก้านึกย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ที่เธอเห็นกัปตันกำลังกลับเซนต์เฟรย่าพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ
หรือหมอนี้กำลังพูดถึงผู้หญิงคนนั้น? พอคิดเช่นนั้นหน้าของเธอก็มืดลงยิ่งว่าเก่าสายตาที่มาสัมผัสได้ชัดเจนถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรง
‘ใจเย็นแม่คุณณณณ!’
กัปตันหน้าซีดเผือดและมีเหงื่อเย็นไหลอาบไปทั่วหน้า ไม่ใช่เพราะเขากลัวที่จะพูด แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าเขาไม่รู้ว่าเธอหมายถึงผู้หญิงคนไหนต่างหาก!
คิดสิกัปตัน คิดเข้าว่าเมื่อวานนายอยู่กับใครสองต่อสองนานๆ บ้าง … ก็มีแค่เมย์นิหว่า!?
“อ-อ๋อหมายถึงเมย์หรอ? โทษทีแต่ไม่ใช่คนนั้นหรอกคนที่ฉันพูดถึงนะคือเคียน่าคาสลาน่า หลานของผู้อำนวยการเทเรซ่าไงจำได้ไหม?”
“คาสลาน่า?”
“อ่าใช่ๆ เธอเป็นทายาทของคาสลาน่าเหมือนเธ-….”
กัปตันหยุดพูดกลางคันนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่เธอควรจะรู้เรื่องนี้
“เหมือน?”
“เปล่าๆ ” กัปตันตอบปัดและเปลี่ยนหัวข้อการพูดทันที
“เอาเป็นว่าช่วยลุกออกไปก่อนได้ไหม”
เบียงก้าที่อารมณ์เริ่มคงที่แล้วก็ยอมลุกออกไปดีๆ พร้อมเอ่ยขอโทษ กัปตันบอกไม่เป็นไรและทั้งคู่ก็นั่งคุยกันเรื่องอื่นต่อ
แน่นอนว่า3ปีมันต้องมีอะไรให้คุยบ้างละ เริ่มแรกก็เป็นการคุยเล่นเรื่อยเปื่อย และก็เรื่องงานของเธอในฐานะวาลคิเรียระดับ S ที่รัดตัวทำให้อยากที่จะหาเวลาพักผ่อนจริงจังๆ
พวกเขาคุยอะไรไปเรื่อยจนเบียงก้าเริ่มหิว กัปตันเลยไปทำอะไรง่ายๆ จากวัตถุดิบในตู้เย็นมาทำกินเป็นมื้อเย็นไปเลยเพราะตอนนี้ก็ปาเข้าไป6โมงเย็นแล้วด้วย
.
.
.
ในการคุยครั้งนี้ทำให้กัปตันรู้ว่าเนื้อเรื่องยังไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักและยังได้ข้อมูลต่างๆ ในมุมมองที่กว้างขึ้นมากทีเดียวและเธอก็ยังบอกอีกว่าวันหยุดครั้งหน้าจะมาหาเขาอีก แต่กัปตันรีบห้ามเธอทันควันเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเบียงก้าอาจจะพลาดอีเว้นท์ใหญ่ที่สำคัญมากๆ ไปก็ได้
“ทำไมไม่ลองไปลอนดอนดูละ”
“ลอนดอน?”
“อื้ม ฉันแนะนำให้ลองไปดูสักครั้งนะ”
กัปตันพยายามป้อนข้อมูลเกี่ยวกับกรุงลอนดอนให้เบียงก้าเกิดความสนใจที่จะไปที่นั่นมากขึ้น แต่มันไร้ประโยชน์ เธอไม่มีท่าทีสนใจเลยแม้แต่น้อยกัปตันจึงต้องงัดเรื่องที่ริต้าเป็นชาวอังกฤษและเธอน่าจะสามารถพาเธอเที่ยวชมและแนะนำสถานที่ต่างๆ ให้เบียงก้าได้ดี ซ้ำยังเป็นการดีที่จะพานางกลับไปบ้านเกิดสักครั้งในรอบหลายปี
เบียงก้าครุ่นคิด แสดงว่าเธอเริ่มสนใจแล้ว เธอตอบตกลงและบอกว่าหลังจากไปลอนดอนแล้วครั้งต่อไปเธอจะมาที่นี่อีก ซึ่งกัปตันตอบตกลงเสมือนโดนบังคับ
“ตายละดึกขนาดนี้แล้ว?”
เบียงก้าหันมองนาฬิกา พวกเราคุยกันจนลืมสนใจเวลาไปเสียสนิท รู้ตัวอีกทีก็ปาเข้าไป3ทุ่มแล้ว กัปตันและเบียงก้ามองออกไปนอกหน้าต่าง พายุเริ่มสงบลงแล้วแต่ฝนยังคงตกอยู่ เบียงก้าคิดอะไรสักอย่างอยู่นานก่อนที่เธอจะพูดบางอย่างที่กัปตันไม่คาดคิด
“วันนี้ขอค้างที่ได้มั้ยอัล?”
กัปตันแสดงสีหน้าตกตะลึงสุดๆ เบียงก้าที่เห็นอีกฝ่ายกำลังอึ้งอยู่นั้นก็รีบพูดแก้ต่างให้ตัวเองทันที เธอให้เหตุผลว่าฝนน่าจะตกอีกนานและเธอก็เริ่มง่วงแล้วจะให้กลับห้องตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้
กัปตันคิดหนัก ใจหนึ่งก็สงสารและอยากให้ค้างอย่างที่เธอขออยู่หรอก แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าตัวเองจะรับไม่ไหว
“ไม่ได้หรออัล….”
เบียงก้าเอ่ยถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“โอเคเอางั้นก็ได้”
กัปตันแพ้ลูกอ้อนเขาตอบตกลง เบียงก้ายิ้มหวานและล้มตัวนอนลงบนเตียงเล็กอย่างรวดเร็ว กัปตันมองการกระทำของวาลคิเรียระดับSด้วยสีหน้าปลาตาย
ออดอ้อนทำตาใสท่าทางน่าสงสารมีเสียงสองเสียงสาม กัปตันแทบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้คือดูลันดัลวาลคิเรียที่แข็งแกร่งที่สุดของซิกซอล ที่เขาเคยเห็นในเกม ในสายตาเขาตอนนี้เธอแทบไม่ต่างจากเคียน่าเลยด้วยซ้ำไป
“งั้นเดี๋ยวฉันไปนอ-”
กัปตันลุกยืน จำได้ว่ามีหมอนหรืออะไรนี้แหละอยู่ในกล่องสักใบ เตียงถูกยึดไปเรียบร้อยแล้วเขาตั้งใจจะไปหยิบมันมาใช้แต่แรงดึงจากด้านหลังทำให้เขานั่งลงอีกครั้ง
“จะไปไหน?”
เบียงก้าบีบแขนเขาไว้แน่น
“นอนกับฉันนี้แหละ เหมือนเมื่อก่อนไง”
เธอเอ่ยตาใสเหมือนว่าเธอไม่ได้รู้ความหมายอีกแบบของมันเลย กัปตันได้แต่หัวเราะแห้งให้กับความใสซื่อของเธอจริงๆ
“โอเคอางั้นก็ได้”
สุดท้ายกัปตันก็จำใจตกลง เบียงก้าที่เห็นว่ากัปตันรับปากแล้วก็ปล่อยมือออกจากนั้นกัปตันกลั้นใจล้มตัวนอนบนเตียงของตัวเองที่มีเพื่อสาววัยแรกรุ่นนอนอยู่ข้างๆ
สมัยเด็กๆ เราก็เคยนอนด้วยกันแบบนี้จริงๆ แต่ตอนนี้มันทำเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ เบียงก้าอาจจะไม่เข้าใจเพราะเธอไม่ได้รู้จักผู้ชายมากขนาดนั้นและคงแยกความต่างระหว่างชายหญิงนอนด้วยกันไม่ออก
จะเรียกว่าบริสุทธิ์หรือซื่อดีละ สุดท้ายคืนนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เบียงก้าหลับไปทันทีหลังจากนอนไปได้ไม่ถึง20นาที
ผมก็กลั้นใจทำเป็นไม่สนใจสิ่งล่อตาล่อใจข้างๆ และข่มตาหลับให้ได้ด้วยความเชื่อใจที่เบียงก้ามีให้ผมมันค้ำคอผมอยู่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments
HN-SERA
ตามค่ะ
2024-11-06
1