พฤศจิกายน ปี2014
ณ ห้องทำงานของผู้อำนวยการ เทเรซ่า
“นี้เป็นรายงานของวันนี้ครับผอ.”
“อื้มวันนี้ก็ขอบใจมากนะ”
กัปตันยื่นเอกสารวางลงบนโต๊ะเทเรซ่าขานรับก่อนจะก้มหน้าจัดการงานของเธอต่อ กัปตันเห็นว่าเธอกำลังยุ่งอยู่เขาจึงกล่าวลาและออกจากห้องไป เมื่อเทเรซ่าพยักหน้าให้
กัปตันเดินไปเรื่อยๆตามทางเดินที่คุ้นเคย ก็นะเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาจะ3ปีแล้ว ไม่แปลกที่จะคุ้นไปซะทุกอย่าง
อย่างเช่นถ้าเดินตามทางนี้ไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวซ้ายละก็จะเจอกับสนามฝึกซ้อมที่3 กัปตันคิดในใจ เขาจำเส้นทางทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ยกเว้นพื้นที่พิเศษที่ให้แค่เทเรซ่าเข้าไปคนเท่านั้นที่เขาไม่รู้
ในระหว่างที่เดินอยู่นั้นกัปตันเบนสายตามองไปทางสนามฝึกเล็กน้อย
“คนเยอะจัง….วันนี้มีใช้สนามฝึกด้วยเหรอ?”
สนามที่3เป็นสนามขนาดเล็กที่สุดและมีสนามย่อยมากที่สุดด้วย เพราะมักถูกใช้เป็นสนามฝึกแบบตัวต่อตัว
เสียงของเหล่าเด็กสาววาลคิเรียตะโกนเชียร์สอดแทรกไปด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าด กัปตันจำเด็กๆบางส่วนได้ พวกเธอเป็นวาคริเรียฝึกหัดรุ่นเดียวกับฟูกะ
“มาส่องเด็กเหรอจ๊ะพ่อหนุ่ม~”
“อี้ว หยุดทำเสียงงั้นเถอะพันตรี”
ฮิเมโกะเดินเข้ามาทักทายเล็กน้อย นับว่าถูกเวลาพอดี กัปตันถามเธอว่าวันนี้มีฝึกภาคสนามด้วยเหรอ?
“อ่า วันนี้มีสอบปลายภาคครั้งสุดท้ายก่อนปิดปีใหม่”
“ไม่ใช่ว่ามันเป็นสอบทฤษฎีหรอกเหรอครับ?”
“ป-ปฏิบัติต่างหากนายจำผิดแล้วกัปตัน”
“คุณแน่ใจ?”
“แน่สิ”
ฮิเมโกะยิ้มกว้างวางมือลงบนไหล่ของกัปตันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่กลับมีเหงื่อมากมายบนใบหน้าและรอยยิ้มเองไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่
“ทำหน้างั้นใครก็ดูออกครับพันตรี….” กัปตันทำหน้าตายและเบนหน้าหนีไปอีกทาง
“นายนี่จะจริงจังเกินไปแล้วนะ ฉันแค่สลับสอบเฉยๆหรอกน่า”
“เชื่อตายละครับ….เอาเป็นว่าอย่าลืมแก้เอกสารข้อใช้สนามด้วยละครับ”
“จ้าๆ เรื่องนั้นก็ฝากด้วยนะ”
เชื่อเค้าเลย กัปตันกุมขมับ ป้าคนนี้จะทำอะไรบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว แต่ยังดีที่เธอรู้ขอบเขตว่าอันไหนทำได้อันไหนทำไม่ได้
“แล้วทำไมถึงใช้สนามที่3ระครับ ไม่ใช่ว่าตอนแรกขอเป็นสนามที่1เพราะจะให้สู่กับอสูรฮงไกจำลองหรอกเหรอครับ?”
“อ๋อ อันนั้นน่ะพอดีมีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย ตอนนี้ไมา่สามารถใช้งานได้เลยใช้เป็นการสอบแบบเก็บคะแนนจาก-”
ในขณะที่สองกัปตันกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเอง จู่ๆก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอย่างฉับพลัน กัปตันและฮิเมโกะหันไปทางต้นเสียงซึ่งก็คือบนสนามฝึก
ฝุ่นควันที่ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรฟุ้งกระจายเต็มสนามก่อนที่เงาร่างของใครบางคนจะเดินออกมา ตามด้วยเสียงเชียร์ของสาวๆวาลคิเรีย แต่บุคคลที่เดินออกมานั้นทำให้กัปตันตกใจและเกิดคำถามขึ้นมา
“แหม….แค่การสอบไม่เห็นต้องเอาตัวเองไปลงสนามเลยนิครับพันตรี”
ร่างบนสนามนั้นคือพันตรี มุราตะ ฮิเมโกะ ในชุดรบ สการ์เล็ต ฟิวชั่น (Scarlet Fusion)
“ฮะๆ~ เมื่อกี้ฉันก็กำลังจะบอกนายอยู่นี้ไงว่ามันเป็นการสอบเก็บคะแนนโดยใช้แต้มจากการต่อสู้กับโฮโลแกรมของฉัน ส่วนคะแนนที่ได้จะอิงจากความเสียหายที่โฮโลแกรมได้รับในเวลาที่กำหนด”
กัปตันกุมขมับอีกครั้ง
ต้องเข้าใจก่อนว่าฮิเมโกะเป็นวาลคิเรียระดับA ที่เคยผ่านสนามรบมามากมาย ฝีมือของเธอนั้นนับว่าเป็นตัวท็อปในระดับเดียวกันเลยด้วยซ้ำ และการที่ให้วาลคิเรียฝึกหัดไปดวลหนึ่งหนึ่งกับวาลคิเรียระดับA แม้จะเป็นแค่โฮโลแกรมก็ตามแต่ระดับมันต่างกันเกินไป
“เป็นการสอบที่หินเกินไปมั้ย”
“ไม่หรอกฉันตั้งค่าให้โฮโลแกรมอยู่ในระดับต่ำสุดแล้วเพราะงั้นไม่มีปัญหาอีกอย่าง…..เด็กพวกนั้นไม่ได้อ่อนแอหรอกนะกัปตัน ดูบนสนามสิ”
กัปตันหันกลับไปทางสนาม ฝุ่นควันเริ่มจากลง ร่างบางในชุดรบสีขาวปรากฏขึ้นเหนือหัวของโฮโลแกรมก่อนที่จะตอกส้นลงกลางอากาศ ฉายภาพอุ้งเท้าขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาโฮโลแกรม
โฮโลแกรมยกดาบขึ้นมาตั้งรับ
“ถ้าเทียบกับป้าแล้วแกนี้กระจอกสุดๆ!”
เคียน่าอาศัยจังหวะนั้นใช้ปืนของเธอยิงไปที่ขาของโฮโลแกรม3นัดให้เธอเสียหลักจากนั้นเคียน่าจึงใช้การฉายพลังงานฉายอุ้งเท้าแมวขนาดใหญ่เตะโฮโลแกรมจนปลิวตกสนาม
“เย้!!!! ฉันชนะ!”
ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดีและเสียงปรบมือก็ตามมาติดๆ คะแนนที่ปรากฏบนหน้าจอนั้นคือ 70คะแนนซึ่งสูงที่สุดในหมู่คนที่สอบไปแล้วทั้งหมด
“ยินดีด้วยพันตรีคุณโดนเด็กเกรียนบอกว่ากระจอกแนะ”
“เธอหมายถึงโฮโลแกรมหรอกน่า”
“ครับผมก็หมายถึงโฮโลแกรมนั้นแหนะครับ”
กัปตันแสยะยิ้มมุมปาก ฮิเมโกะที่เห็นก็ได้เลยว่าเขาไม่ได้หมายความอย่างที่พูด แต่เธอทำอะไรไม่ได้เพราะมันเป็นเธอเองที่ตั้งค่าไว้แบบนั้น
จากนั้นไม่นาน เหมือนเหล่าสาวๆวาลคิเรียจะเริ่มจับทางได้บ้างแล้วคะแนนที่ออกมาจึงค่อนข้างน่าพอใจ แต่ส่วนมากนั้นจะทำคะแนนได้ 40-60 แต่มันก็จะมีอยู่พวกหนึ่ง
“อิไอ!”
ฉับ!
ไรเดน เมย์ 72คะแนน
“โปรเจคบันนี่….”
ตู้ม!
โบรเนีย เซชิค 80คะแนน
“สมแล้วที่เป็นโฮโลแกรมกระจอกจริงๆ”
“นั้ น สิ น ะ”
ฮิเมโกะกัดฟันพูด หรือความจริงแล้วการสอบในครั้งนี้มันจะง่ายเกินไป?
หลังจากการสอบจบลงฮิเมโกะก็กลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อในฐานะอาจารย์ ส่วนกัปตันก็เดินไปตามทางเดิน หาอะไรทำฆ่าเวลา
กัปตันเดินชมวิวทิวทัศน์ของเซนต์เฟรย่าไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีจุดหมายอะไรเพียงแค่เดินไปตามที่อยากเดิน
จนมาถึงสวนหลังหอพักวาลคิเรีย
“โห? นี่เราเดินมาทำอะไรตรงนี้ละเนี้ย?”
กัปตันตามตัวเองอย่างติดตลก ก่อนจะนั่งลงบนพื้นหญ้า
นี้ก็พฤศจิกายนแล้วสินะ…..
ผมเข้ามามีบทบาทในโลกนี้ได้3ปีแล้ว ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไงต่อ
3ปีที่พยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามเนื้อเรื่อง โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ทำไปมันดีแล้วจริงรึเปล่า
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงคิดว่าฉากจบที่เรารู้มันคือฉากจบที่เหมาะสมที่สุด?
เวลาเหลือน้อยลงทุกที
หากผมยังไม่สามารถเลือกแนวทางที่ตัวเองจะเดินได้สักทีเกรงว่ามันจะสายเกินไป
แต่ผมยังคาใจกับแฮชเชอร์เทียมในนางาโซระอยู่เลย ผมรู้สึกว่ามีหลายอย่างไม่ถูกต้อง ทำไมเทเรซ่าถึงไม่เอ่ยถึงเรื่องพลังงานฮงไกในเมืองขณะนั้นเลยทั้งที่มันผิดปกติขนาดนั้น หลังจากำจัดแฮชเชอร์ไปแล้วแม้แต่ฮิเมโกะก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นเลย
แต่นั้นอาจเป็นเรื่องดีก็ได้ถึงมันจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ก็ตาม
…
…
“ฮะฮะฮะ…” กัปตันหัวเราเบาๆสองสามครั้ง ให้กับตัวเอง
นี้ฉันมัวคิดมากทำไมในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมาเราก็พยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามเนื้อเรื่องมาโดยตลอดแท้ๆแล้วจะมามัวลังเลอะไรอยู่… แค่ทำเหมือนที่ผ่านมาก็พอแล้ว ทำเหมือนทุกที
“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว”
ในขณะที่กัปตันกำลังจมไปกับความคิดอยู่นั้นก็มีใครบางคนเรียกเขาจากด้านหลัง
กัปตันเก็บความคิดของเขาไว้และหันไปทางต้นเสียงด้วยท่าทางปกติ
“มานั่งเล่นเฉย…เฉย…...”
กัปตันพูดตอบด้วยท่าทางปกติแต่พอเห็นหน้าผู้ที่ถามเขานั้นปากของเขาก็หนักขึ้นซะจนพูดไม่ออก
“….?” ฮิเมโกะเลิกคิ้ว “เป็นอะไรรึเปล่ากัปตันหน้านายดูซีดๆนะ”
กัปตันไม่ได้พูดตอบ…..ถ้าจะพูดให้ถูกคือเขาพูดไม่ออกเสียมากกว่าใบหน้าของเขาซีดเผือกอย่างที่ฮิเมโกะพูด ความคิดหนึ่งที่แว็บเข้ามาในหัวทำให้หัวใจเขาหยุดเต้นไปแวบหนึ่ง
.
.
.
“นี้นะเหรอเซนต์เฟรย่า”เด็กหนุ่มในชุดเครื่องแบบลากกระเป๋าลงจากยานขนส่งชื่นชมภาพตรงหน้าที่แตกต่างจากสถานที่ที่เขาเคยอยู่ “ใหญ่โตกว่าที่คิดแฮะ”
แม้จะเทียบกับสาขาหลักไม่ได้แต่ แต่บรรยากาศที่นี้ดีกว่ามาก เด็กหนุ่มผมแดงลากกระเป๋าเดินชมวิวทิวทัศน์ของสถานศึกษาแห่งเดียวของวาลคิเรียอย่างสนองสนใจ
เพื่อนของเขาเคยบอกว่าที่นี่มีการฝึกอบรมที่ดีมาก แต่สำหรับเธอมันช้าเกินไปจึงย้ายรับการฝึกที่สาขาหลักแทน
เด็กหนุ่มเดินไปตามถนนเส้นเล็กๆสายตาก็วาดมองซึมซับบรรยากาศที่แปลกใหม่สำหรับเขาจนลืมเวลาไปเลย
ไม่รู้ว่าเขาเดินมาอยู่สวนไหนของสาขาตะวันออกไกลซะแล้ว ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ในสวนด้านหน้าไม่ก็ด้านหลังของอาคารตรงหน้าเขา เด็กหนุ่มยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองรอบๆหาใครสักคนเพื่อจะถามทาง
“มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว?”
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังมองหาใครสักคนอยู่นั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาเขา เด็กหนุ่มเหลือบมองหญิงสาวผู้มีเรือนผมสีแดงเช่นเดียวกับตนเชิงวิเคราะห์ก่อนจะพูดตอบเธอ
“ผม…หลงทาง ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน”
เธอหวาดตามองสำรวจตัวผมอย่างถี่ถ้วนก่อนจะร้องอ๋อและพูดว่า
“นายคือกัปตันที่สำนักงานใหญ่ส่งมาสินะ”
เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบ
“งั้นดีเลยฉันกำลังจะไปหาผอ.พอดี นายก็มาด้วยกันสิ” กัปตันตอบรับทันที แต่หระว่างที่กำลังจะเดินไปนั้นเธอก็หันกลับมา
“เกือบลืมแนะ ฉัน มุราตะ ฮิเมโกะ ฝากตัวด้วยนะกัปตัน”
นั้นเป็นครั้งแรกที่กัปตันพบกับฮิเมโกะ กัปตันจำได้ดีว่าวันนั้นเทเรซ่าอารมณ์เสียมากที่กัปตันเดินหลงนานหลายชั่วโมงทั้งที่เธออุตส่าห์ส่งวาลคิเรียไปรับแท้ๆแต่กลับไม่พบตัวเขาซะงั้น
“โอ้กัปตัน อันนี้นายยังดื่มไม่ได้นะ”
“น่าน่า~ ไว้ฉันจะเขียนรายงานส่งไปให้ทีหลังเอง”
“เอาเป็นว่าฝากจัดการด้วยนะ”
“เรียกใครว่าป้ายะ!!”
ภาพความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง กัปตันก้มหน้ามือกุมขมับ
“กัปตัน นายโอเครนะ?!”
ฮิเมโกะก้มลงมาดูอาการของกัปตันแต่อีกฝ่ายก็พูดตอบมาว่าไม่เป็นไร เธอเลยละมือออกจากตัวเขา
“….”
กัปตันคลายมือออก มือเขาสั่นขนาดนี้เลยเหรอ? กัปตันถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เห้ออ….”
“….”
ตุบ
ฮิเมโกะนั่งลงข้างๆ กัปตันหันมองด้วยความแปลกใจ แต่ไม่ได้พูดอะไร
“เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ เรื่องนั้นฉันเข้าใจ”
“…..”
“ให้ฉันนั่งเป็นเพื่อนเถอะนะ อย่างน้อยนายก็มีฉันอยู่เป็นเพื่อน”
ทั้งคู่นั่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ไม่มีใครพูดอะไร กัปตันเงยหน้ามองทองฟ้า เขาไม่รู้เลยว่าจากดวงอาทิตย์มันกลายเป็นดวงจันทร์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ กัปตันหันมองข้างๆอีกครั้ง
“…”
ฮิเมโกะยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
“ขอบคุณมากที่อยู่เป็นเพื่อน….”กัปตันพูด ตอนนี้เขาใจเย็นลงมากแล้ว ฮิเมโกะที่เห็นว่าสีหน้าดีขึ้นแล้วจึงสายหน้าเบาๆ
“ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่ถ้าอยากขอบคุณละก็ขอเป็นไวน์ดีๆสักขวดก็ไม่เลว~”
“นั้นดูไม่เหมือนเป็นทางเลือกเลยนะครับ…..แต่รอได้เลยเดี๋ยวหามาให้”
“ฮ่าฮ่าๆ ต้องแบบนี้สิกัปตันน่ารักที่สุดดดด มาให้พี่สาวคนนี้กอดหน่อยสิ~”
ฮิเมโกะกอดเอวบิดตัวไปมาทำท่าทีเขินอาย กัปตันหัวเราะเบาๆ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments