ตอนที่ 1 พบพาน

ปี 2014 เซนต์เฟรย่า

“รายงานคะกัปตัน พันตรีฮิเมโกะเดินทางเข้าสู่เขตเมืองนางาโซระเรียบร้อยแล้วคะ”

“อืมขอบใจที่ยังรายงานให้ฉันนะ ตอนนี้ทุกคนคงยุ่งกันอยู่เพราะงั้นไปทำงานของพวกเธอเถอะ ถ้าไม่มีการเอ่ยถึงก็ไม่ต้องมารายงานฉันก็ได้ ไว้เสร็จแล้วฉันค่อยตามเรื่องเอาทีหลังได้”

“รับทราบคะกัปตัน”

การปะทุครั้งที่3 เมืองนางาโซระ

สัญญาณเตือนถึงการเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ไม่แปลกเลยทีทุกคนจะดูยุ่งกันไปหมดเพราะผลกระทบจากเหตุการณ์การปะทุครั้งที่2 นั้นรุนแรงมากถึงขนาดมีอีกชื่อว่า "สงครามฮงไกครั้งที่2"เลยด้วย

ดังนั้นเมื่อพบว่ามีการปะทุครั้งที่3เกิดขึ้นรอยแผลเก่าก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ความระแวดระวังก็ยิ่งมากขึ้นเพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ทุกอย่างเลวร้ายขึ้นจนกลายเป็นสงครามฮงไกครั้งที่3ก็ได้ถูกมั้ยละ

แต่สำหรับคนที่ไม่มีบทบาทอะไรในสงครามเลยอย่าง'กัปปิตัน'นั้น ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือไม่อยู่ก็คงไม่ต่างกันเลย

ใช่แล้วครับ ขณะที่ทุกคนกำลังวุ้นว่ายหัวหมุนเป็นทอนาโดนั้น กัปปิตันของเราก็กำลังนอนสบายใจเฉิบอยู่ที่ห้องพักของเขานั้นเองครับ

“ตายๆ เงินเดือนเดือนนี้คงหายไปนิดหน่อยละมั้ง…แต่ชั่งเถอะ”

กัปตันยกหมอนอีกอันขึ้นมาปิดหู ตัดเสียงรบกวนและหลับตาอย่างสงบ

.

.

.

“ใครมันจะไปสงบลงกันฟระ!”

จะบ้าตายขนาดบอกว่าไม่ต้องรายงานแท้ๆ แต่เสียงของยัยลูกเรือคนเก่งของเราก็ดังไม่หยุดเลย พอจะหลับเข้าหน่อยก็มีเสียงใสเรียกชื่อของเขาอย่างโกรธเกรี้ยว

“กัปตัน!! ทำไมไม่มาประจำอยู่ที่ยานและเอาแต่โยนงานทุกอย่างให้ฮิเมโกะทำอยู่ได้แล้วแบบนี้เราจะมีกัปตันไว้เพื่ออะไรกันยะ!!”

ก็รู้ว่าเป็นเด็กที่บ่นเก่งแต่ไม่คิดว่าจะเล่นบ่นเรายาวเกือบสิบนาทีได้แถมดันบ่นผ่านอุปกรณ์สื่อสารทที่ตัวกัปตันไม่สามารถปิดได้เนื่องจากระเบียบของวาลคิเรียกำหนดไว้ (ถึงกัปตันจะเป็นผู้ชายและเป็นถึงกัปตัน แต่ก็ยังต้องทำตามกฎระเบียบและข้อบังคับแบบเดียวกับวาลคิเรีย)

สุดท้ายกัปตันก็ต้องลุกจากเตียงและออกมารอที่ลานจอดยานรบเพราะดูเหมือนพวกฮิเมโกะจะกลับมากันพอดี

“….”

ยานไฮเปอร์เรี่ยนค่อยๆลงจอดที่ลานในสภาพที่เสียหายขอนข้างหนัก สังเกตได้จากควันไฟบนด้านฟ้าของยานที่ยังไม่ดับดี

กัปตันจึงสั่งให้วาลคิเรียใกล้ๆไปจัดการเรื่องการดับเพลิงและติดต่อหน่วยซ่อมบำรุงก่อนที่เขาจะเดินไปที่ห้องควบคุมบาเรียป้องกันเพื่อทำการตรวจสอบความเรียบร้อยของบาเรียและระบบรักษาความปลอดภัย

ในเวลาเดียวกันเทเรซ่าและคนอื่น ๆก็ลงมาจากไฮเปอร์เรี่ยนพอดี โดยมีเด็กสาวตัวเล็กหรือเทเรซ่าที่พยุงฮิเมโกะลงมาด้วย พอเห็นว่าทั้งคู่ลงมาแล้ววาลคิเรียที่รอต้อนรับอยู่ก็เข้าไปหาพวกเธอทันที

“อ๊ะ มาพอดีเลย พวกเธอช่วยไปตามหมอกับทีมแพทย์มาหน่อยมีคนเจ็บ-”

“ขอโทษที่ให้รอคะผอ.!”

เทเรซ่ายังพูดไม่ทันจบประโยคทีมแพทย์ที่เธอขอไปก็มาถึงพอดิบพอดี เธอจึงอธิบายเกี่ยวกับคนเจ็บให้แพทย์ฟังเล็กน้อยก่อนที่เธอจะส่งฮิเมโกะให้ทีมแพทย์ดูแลต่อและขึ้นไปดูอาการของคนเจ็บอีกสองคนบนยาน

คนหนึ่งคือเด็กสาวผมเปียคู่สีขาวในชุดนักเรียน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่กลางหลัง ส่วนอีกคนเป็นนักเรียนเข่นกัน เธอมีแผลถลอกตามแขนขาแต่ด้วยร่วมแล้วอาการไม่ได้หนักเท่าอีกคน

ทางด้านกัปตัน

“บาเรียไม่มีปัญหา ระบบป้องกันปกติดี…ดูเหมือนทางนี้จะไม่มีปัญหาอะไร”

กัปตันเอ่ยลอยๆกับตัวเอง การตรวจเช็กความเรียบร้อยก็พอจะนับเป็นหน้าที่ได้อยู่ พอกัปตันเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็ปออกจากห้องควบคุมและมุ้งหน้าไปยังที่ที่หนึ่ง

.

.

.

ณ ห้องเก็บของในไฮเปอร์เรี่ยน

“…..”

ภายในห้องเก็บของที่มืดสนิทจนไม่สามารถห้องเห็นได้นั้นมีเด็กสาวผมสีเงินกำลังนั่งกอดตุ๊กตาตัวหนึ่งอยู่ แม้จะไม่ได้ตั้งใจหลบซ่อนแต่ด้วยรูปร่างที่เล็กกะทัดรัดทำให้ไม่มีใครรับรู้ว่าเธอหลบอยู่ที่นี่

จนกระทั่งประตูห้องเก็บของถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง

“….” เด็กสาวกอดตุ๊กตาแน่นขึ้น หากยังไม่เห็นอีกเธอตั้งใจจะลุกขึ้นแสดงตัวแต่ดูแล้วคงไม่จำเป็น

“ไงเด็กน้อย”

เด็กสาวหรือโบรเนียเงยหน้าขึ้นมองไปยังเจ้าของเสียงทุ้มด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“มาหลบอยู่ในนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดเอาหรอก”

แม้จะเป็นเพียงห้องเก็บของ แต่ก็มีเครื่องปรับอุณหภูมิคอยทำให้ห้องนั้นเย็นอยู่เสมอ เพราะอาวุธบางอย่างนั้นค่อนข้างไวต่อความร้อนจึงต้องมีการปรับอุณหภูมิห้องตลอดเวลา

ชายคนเดิมค่อยๆคุกเข่าลงตรงหน้าโบรเนียและถามอีกครั้ง

“หนูชื่ออะไรหรอ?”

“…..”

โบรเนียก้มหน้าเบนสายตาไปทางซ้ายทีขวาที เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมา

“โบรเนีย..”

“โบรเนียสินะ นี่ก็ดึกมากแล้วตอนนี้เดี๋ยวฉันหาที่พักให้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกตกลงนะ?”

ชายคมเดิมพูดและโบรเนียก็พยักหน้าเป็นการตอบตกลง

“อื้ม เดินไหวรึเปล่า?…อ่อใช่เกือบลืมเลย ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวสินะ ฉันคือกัปตันของยานลำนี้ ทุกคนเรียกฉันว่ากัปตันเพราะงั้นเรียกฉันว่ากัปตันก็ได้”

กัปตันกล่าวพร้อมกับอุ้มโบรเนียขึ้นมาและพาเธอออกจากห้องเก็บของ

“โบรเนียเดินเองได้….”

“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง ถ้าเธอเป็นคนเจ็บอะไรอะไรก็จะง่ายขึ้นจริงมั้ย?”

“…”

กัปตันพาโบรเนียมาที่ห้องพยาบาลเพื่อให้ทีมแพทย์ตรวจดูว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือไม่ โดยระหว่างทางก็มีคนถามอยู่บ่างว่าเด็กที่เขาอุ้มอยู่นั้นเป็นใคร แต่กัปตันก็ตอบกลับไปว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากการปะทุครั้งที่3 ทุกคนจึงเข้าใจและไม่ถามอะไรกันต่อ

“หมอบอกว่าไม่มีบาดแผลอะไรจะมีก็แค่อาการเหนื่อยล้านิดหน่อยพักสักวันสองวันก็กลับมาเป็นปกติแล้ว”

กัปตันพูดในขณะที่โบรเนียกำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเพราะยังไม่สามารถจัดหาที่พักที่ดีกว่านี้ให้ได้

“โทษทีนะที่เราไม่มีห้องเหลือเลย วันนี้ก็พักผ่อนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีป้าผมแดงๆมาหาเธอ ถ้าเขาถามอะไรก็ตอบเขาไปละฉันพูดได้แค่นี้แหละ^^;”

โบรเนียพยักหน้าเข้าใจ พอหมดเรื่องจะพูดกัปตันก็ลุกจากเก้าอี้และเดินออกไปจากห้อง

“….”โบรเนียมองไปยังประตูที่กัปตันพึ่งออกเมื่อครู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

.

.

.

3 วันต่อมา

“พันตรีเอายานไปรับเรลกันของศูนย์ใหญ่มารึไงเนี้ย\=\=”กัปตันบ่นอุบอิบ

ผ่านมาแล้ว 3 วัน กัปตันแทบจะกินนอนอยู่กับหน่วยซ่อมบำรุงบนไฮเปอร์เรี่ยนเลยก็ว่าได้

ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณป้าฮิเมโกะจริงๆที่เล่นเอาไฮเปอร์เรี่ยนไปรับการโจมตีของแฮชเชอร์ตรงๆ พอดับไฟบนด่านฟ้าหมดแล้วถึงได้รู้ว่าด่านฟ้าถูกเป่าจนแหวงไปหน่อยหนึ่ง แถมมีรู้อยู่ตรงกราบซ้ายของยานอีกต่างหาก

“ขอบคุณมากคะกัปตัน ไว้มีอะไรเราจะติดต่อไปใหม่นะคะ”

“อื้ม ไว้เสร็จแล้วส่งงบประมาณการซ่อมบำรุงไปให้ฉันด้วยละ”

ผมยังสงสัยไม่หายว่าไอยานลำนี้มันกลับมาถึงเซนต์เฟรย่าโดยไม่ร่วงกลางทางได้ยังไง อย่าว่าแต่ผมเลย ขนาดหน่วยซ่อมบำรุงยังคิดแบบเดียวกันเลย จะว่าบังเอิญหรือดวงดีสุดๆดีละ

เพราะตัวจ่ายพลังงานไปยังห้องเครื่องยังทำงานได้อยู่ ก่อนมันจะระเบิดทันทีที่เครื่องลงจอด

“ใช้งาน4ชั่วโมง ซ่อมเกือบ4วัน”

เป็นอะไรที่ขำไม่ออกจริงๆ ไอเราชักเริ่มเข้าใจละว่าทำไมยานรบในเรื่องมันพังกันง่ายแท้ ทั้งๆที่บาเรียของยานก็ใช้เกรดเดียวกับที่กางไว้รอบเซนต์เฟรย่าแท้ๆแต่ดันแตกทันทีที่โดนแฮชเชอร์ที่3ตบเบาๆ

.

.

ก่อนหน้านี้

ณ ห้องของผู้อำนวยการ

“อ่าห๊ะ แล้วผอ.ก็จับแฮชเชอร์ที่3มาขังไว้ห้องขังพิเศษนะหรอครับ?”

เทเรซ่าได้เรียกกัปตันเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวและบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการปะทะกับแฮชเชอร์ที่3 หรือก็คือ ไรเดน เมย์

“อื้ม เพราะเห็นว่าแฮชเชอร์ยังไม่ลืมตาตื่นโดยสมบูรณ์ดีนัก แถมดูเหมือนเธอจะไม่มีกะจิตกะใจจะต่อต้านเราเลยด้วย”

“แต่ด้วยความเคารพและนับถือสุดใจนนครับ”

“ท่านคิดอะไรอยู่ถึงได้เอาแฮชเชอร์ที่3 ซึ่งเป็นแอชเชอร์แห่งสายฟ้า ไปยัดไว้ในห้องขังที่ใช้ระบบล็อกอิเล็กทรอนิกดาดๆเป็นเบสหรอครับท่าน?”

“…”

“ท่านก็รู้นิว่างบเรามันน้อยนิดขนาดไหน แค่เอาไปใช้สำหรับทำการเรียนการสอนก็แทบไส้แห้งอยู่แล้ว และจะไปเอางบจากไหนมาอัปเกรดห้องขังที่10ปีไม่เคยได้ใช้กันละครับ!!”

“แล้วนะพันตรี คุณเอายานเราไปทำอะไรมาถึงได้มีสภาพแบบนั้นกันครับ!”

“เอ่อคือ-”

“รู้มั้ยว่างบประมาณในการซ่อมบำรุงมันใช้เท่าไหร่! ดีนะที่งบที่เราสะสมไว้ยังพอมีอยู่!”

กัปตันบ่นชุดใหญ่ด้วยความเดือดหน่อยๆ ไม่กลัวเลยว่าจะโดนเทเรซ่าตัดเงินเดือนหรือโดนฮิเมโกะต่อยหน้าหงาย เพราะเรื่องที่เขาพูดไปนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

“ข-เข้าใจแล้ว ขอโทษแล้วกัน!”

“ชิ โดนเด็กบ่นนี่ไม่สนุกเลยสักนิด”

“ผมเองก็ต้องขอโทษที่เผลอขึ้นเสียงเหมือนกัน”

สองสาวกล่าว ด้านกัปตันที่เริ่มเย็นลงแล้วก็ก้มหัวขอโทษ ตัวเขาเองก็ดันเผลอขึ้นเสียงไปโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน ก่อนจะเปลี่ยนไปที่หัวข้อต่อไป

“งั้นเรื่องต่อไป ฮิเมโกะเอารายงานนั้นมาหน่อย”

“อ๋อ”

ดูเหมือนเทเรซ่ากับฮิเมโกะจะคุยกันมาก่อนแล้วในเรื่องนี้ทั้งคู่จะเพียงแค่ส่งสัญญาณให้กันก่อนที่ฮิเมโกะจะหยิบเอาการ์ดบางอย่างออกมาจากหน้าอก?

“ไหงเอาไปเก็บไว้ในที่แบบนั้นกันยะ!”

“บวกหนึ่ง เห็นด้วยอย่างยิ่ง แม้ว่าวิวจะดีแต่ช่วงวัยก็สำคัญ-”

กัปตันพูดยังไม่ทันจบประโยค

ปัง!

เสียงฮิเมโกะใช้มือทุบโต๊ะจนหักครึ่งทำให้กัปตันหยุดพูดทันทีไม่งัยเขาอาจมีสภาพไม่ต่างจากโต๊ะตัวนั้น

“ลองพูดต่อสิ แกได้เจ็บหนักแน่กัปตัน…”

“ไว้โอกาสหน้าค่อยพูดแล้วกัน”

“นี่นาย!”

“พอแค่นั้นแหละทั้งสองคน!”

เทเรซ่ารีบเข้ามาห้ามไม่ไห้เจ้าของตำแหน่งกัปตันทั้งสองเกิดทะเลาะกันขึ้นมาในระหว่างที่กำลังทำการประชุมลับกันอยู่

“ยังไงก็เถอะอันนี้คือข้อมูลของเด็กสองคนที่เราพากลับมาด้วย”ฮิเมโกะพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“อืม” เทเรซ่าพยักหน้ารับก่อนจะเปิดการ์ดข้อมูลขึ้น ปรากฏจอโฮโรแกรมสีฟ้าพร้อมกับข้อมูลประวัติโดยย่อของคนๆหนึ่งขึ้นมา

“….ใช่จริงๆด้วย”

เทเรซ่าเอ่ยเบาๆเหมือนกับคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นคนคนนี้และก็ใช่อย่างที่เธอคิด

เคียน่า คาสลาน่า นั้นคือชื่อของเด็กสาวอีกคนที่ฮิเมโกะพากลับมาด้วย เธอเป็นทายาทเพียงคนเดียวของ ซิกฟรีด คาสลาน่า และยังเป็นตัวเอกหลักในเกม Honkai Impact 3 อีกด้วย

“คาสลาน่า…ไม่คิดว่าจะได้ยินชื่อนี้อีกนะเนี้ย”

กัปตันพูด แม้ว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเข้าไว้เพื่อไม่ให้สองคนนี้สงสัยในตัวเขาขึ้นมาและเป็นการหลีกเลี่ยงคำถามไปในตัว

“อื้ม ก็คิดไว้แล้วละว่าคงใช่แต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้อยู่ดี”

“อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสมีบาดแผลฉกรรจ์ กลางหลังแต่ก็ยังลุกขึ้นมาเด็ดปีกแฮชเชอร์ได้ด้วยมือเปล่าสมกับเป็นคาสลาน่า ไม่ธรรมดาเลย” ฮิเมโกะพูดซึ่งตรงจุดนี้ทั้งกัปตันและเทเรซ่าเองก็เห็นด้วยเช่นกัน

“ส่วนอีกหน้าหนึ่งคือข้อมูลประวัติของแฮชเชอร์”

เทเรซ่าขยับนิ้วเปิดข้อมูลอีกอันหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเป็นข้อมูลของ ไรเดน เมย์ แฮชเชอร์ลำดับที่3 แฮชเชอร์แห่งสายฟ้าผู้เป็นต้นเหตุของการปะทุครั้งที่3ในเมืองนางาโซระ และเป็นหนึ่งในตัวเอกหลักของ Honkai Impact 3 เช่นเดียวกับเคียน่า

“และคนสุดท้ายคือเด็กคนนี้”

“มีอีกหรอ?” เทเรซ่าถาม

“ใช่ พอดีมีติดมาด้วยอีกคนหนึ่ง” ฮิเมโกะตอบก่อนจะใช้มือของเธอในการปัดหน้าจอเปิดข้อมูลของเด็กสาวอีกคนขึ้นมาให้เทเรซ่าดู

“โบรเนีย เซชิค? มีแค่นี้เองหรอ?”

ในหน้าข้อมูลของเธอนั้นนอกจากชื่อแล้วก็ไม่มีอะไรเลย โล่งซะจนเทเรซ่าต้องหันไปถามคนที่ไปหาข้อมูลมาอย่างฮิเมโกะและเจ้าตัวก็ตอบกลับมาว่า

“อืม ฉันหาได้แค่นี้แหละ ถ้าอยากได้เพิ่มก็ไปหาเอาเองเถอะ ”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอกลับก่อนนะครับผอ. พอดีว่าผมยังติดธุระเรื่องซ่อมยานอยู่เลย”

กัปตันพูดพร้อมกับหยิบหมวกขึ้นมาสวมเตรียมจะออกจากห้องไปแต่ก็ถูกเทเรซ่าหยุดไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อนกัปตัน พอดีว่าอยากให้ช่วยอะไรหน่อยนะ!”

“ช่วย?”

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!