เกิดใหม่เป็นน้องคนเล็กในตระกูลพระรอง
ผู้หญิงวัยทำงานได้เดินเข้าประตูบ้านมา ด้วยความเหนื่อยจากการทำงานที่สะสมเป็นเวลานานเธอจึงนอนลงไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นและหลับไป ตื่นขึ้นมาก็พบกับพระเจ้า พระเจ้าได้บอกเธอว่า ‘ ข้าวางชีวิตของเธอยากลำบากไปจริงๆจะให้ชีวิตรอบสองกับเธอแล้วกันนะ จะมอบสิ่งที่เจ้าไม่เคยได้และพบเจอ จงใช้ชีวิตใหม่ให้สนุกนะ ’ ตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นตาอย่างที่เคยร่ายกายก็ไม่คุ้นชิน ‘ ข…ขยับตัวไม่ได้เลยเจ็บไปทั้งตัวด้วย ท่านผู้นั้นคือพระเจ้าสินะแต่ทำไมเจ็บตัวแบบนี้อ๊ะ ’ เด็กหญิงกำลังคิดอะไรอยู่นั่นเองก็ได้ยินเสียงของประตูดังขึ้นมา
“ อาการเป็นอยย่างไงบ้างคะหมอ ” เสียงหญิงวัยกลางคนได้ถามแพทย์ออกไปถึงอาการที่เป็นอยู่ในตอนนี้ว่าร้ายแรง มากน้อยแค่ไหนก็จะได้เสียงปิดประตูอีกครั้งเช้ารุ่งขึ้นก็มาถึง คาร์เซลิน ได้ตื่นขึ้นมาจากอาการป่วยขั้นรุนแรง บนเตียงในกลางดึก โดยในช่วงที่ยังไม่มีใครตื่นในเวลานี้ ‘ ตอนนี้ก็น่าจะตี 5 สินะ ติดนิสัยตื่นเช้าทำงานมาด้วยสิ จริงสิเราอยู่ในร่างกายของเด็กสินะ ถ้าประมาณอายุก็ 11-12 ปี ส่วนสูงกับรูปร่างกำลังโตด้วยสิ ต้องกินของที่มีประโยชน์หน่อย ดูจากสภาพร่างกายคงกินแต่ของหวานแน่ๆ’ ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆก็ได้ยินเสียงคนกำลังจะเปิดประตูเข้ามา
“ คุณหนูอย่าพึ่งลุกขึ้นเลยนะคะ อาการป่วยยังไม่ดีขึ้นเลยคะ นอนลงก่อนจะดีกว่านะคะหรือคุณหนูอยากได้อะไรไหมคะฉันจะไปเอามาให้ ” หญิงร่างสูงบางได้ถามด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก พร้อมกับนั่งลงที่พื้นข้างเตียงเพื่อให้ คาร์เซลินได้นอนลง
“ อะ...เออ..ตะ…ตอนนี้ยังไม่เอาอะไรหรอกนะ ฉันจะนอนต่อก็ได้ ” คาร์เซลินได้บอกไปด้วยท่าทีที่ประมาทที่สุด พร้อมกับค่อยๆนอนลงที่นอนและหลับไปจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน
“ ตื่นแล้วหรอคะ คุณหนูต้องการอะไรหรือเปล่าคะ ดิฉันจะไปเตรียมมาให้ ” สาวใช้ได้ถามขึ้นมา ก่อนจะออกไปจากห้องของ คาร์เซลิน
“ ขอเป็นนมอุ่นๆก็พอและล่ะ ส่วนของหวานช่วงนี้ของดไปก่อนแล้วกันนะ ” คาร์เซลิน ได้พูดพร้อมกับสิ่งที่ต้องการและไม่ต้องการก่อนที่ เชอริ จะได้เดินออกไปจากห้องที่ คาร์เซลิน ได้นั่งอยู่บนเตียง ‘ ถือว่าชีวิตของเราในครั้งนี้จะดีกว่าที่ผ่านมานะ ขอบคุณท่านมากที่ให้โอกาสอีกครั้ง’ คาร์เซลินได้นั่งบนเตียงนอนและคิดขอบคุณพระเจ้าที่ให้มาอยู่ที่นี้ และได้ยินเสียงของประตูเปิดเข้ามา
“ เชอริ มาเร็วจะเลยนะ ” คาร์เซลิน ได้เอยปากก่อนที่จะหันไปเห็นหญิงวัยกลางคนที่น้ำตาซึมและค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางที่เป็นห่วงมากๆ ‘ ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของเธอคนนี้สินะ ดูเป็นห่วงเป็นใยและดูอบอุ่นแบบบอกไม่ถูก ’ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้เดินเข้ามากอดด้วยความเป็นห่วงมากๆ
“ คาร์เซลิน เป็นอย่างไงบ้าง ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าลูก ” หญิงอายุสามสิบต้นๆได้ถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงมือข้างหนึ่งได้ลูบหัวอยู่แถงรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับมา
“ ไม่เป็นไรแล้วล่ะคะ ไม่ต้องกังวนนะคะท่านแม่ ” คาร์เซลิน ยิ้มให้ผู้เป็นแม่และปลอบโยนให้หายกังวน
“ รอก่อนนะท่านพ่อของลูกกำลังให้คนไปตามหมอประจำตระกูลมาดูอาการอีกรอก่อนนะลูก ” ผู้เป็นแม่ ได้เอยปากบอกก่อนที่จะกอดอีกครั้งก่อนที่จะได้ยิดเสียงเปิดประตูอีกครั้ง
“ เป็นอย่าไงบ้างลูก พ่อจะให้หมอประจำตระกูลตรวจให้นะลูก ” ชายอายุสามสิบต้นๆผู้เป็นพ่อได้พูดขึ้นพร้อมออกคำสั่งให้หมอประจำตระกลูตรวจอย่างดี
“ ไม่ได้เจ็บส่วนไหนแล้วล่ะคะ ท่านพ่อกับแม่ท่านแม่ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ” คาร์เชลิน ได้กล่าวออกมาพร้อมกับมองสักพักก่อนที่จะรับกอดที่ผู้เป็นพ่อกอด
“ ขอเริ่มทำการตรวจก่อนนะครับ เพื่อความสบายใจของท่านดยุค และดัชเชส เองด้วย” หมอประจำตระกลูได้เอยปากบอกพร้อมกันเหตุผลในการตรวจ ดูเหมือนอยากจะให้ตรวจสินะ
“ ได้คะ จะตรวจก็ได้คะเพื่อความสบายใจของท่านพ่อท่านแม่ ลูกก็ไม่ขัดขืนอะไร ” คาร์เซลิน บอกทั้งสองคนว่าจะรับการตรวจ ผ่านไปหลายชั่วโมงการตรวจก็จบลง หมอประจำตระกูลที่ได้ตรวจร่ายกายเสร็จ ก็ให้พักดูอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นว่าจะมีหรือไม่เพียงเท่านั้น ‘ ไม่มีอะไรทำเลย อ่านหนังสือหน่อยก็ดี ’ คาร์เซลิน ได้เปิด ลิ้นชักที่โต๊ะหัวเตียงก็เจอสมุดบันทึกที่เจ้าของร่างได้เขียนไว คาร์เซลินเลยนำมาอ่าน แต่ภายในหนังสือมีแค่รายชื่อภายในครอบครัวเท่านั้น การเขียนแบบนี้เป็นการบอกวัตถุประสงค์ที่อยากให้สารต่อความต้องการที่อยากทำให้สำเร็จอยู่ คาร์เซลิน ได้นั่งอ่านหนังสือเล่นนั้นจนจบลงจึงทำให้รู้อะไรหลายๆอย่างที่ไม่รู้อีกมากมาย
เวลาผ่านไป 2 เดือน เมื่อทุกอย่างเริ่มจะกลับเข้าที่เข้าทางของในตัวของ คาร์เซลิน เองด้วยเพราะการประสบอุบัติเหตุจากนั้นก็กับเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้านจนในวันหนึ่ง พี่ชายทั้งสองได้กลับมาจากการออกรบทางตอนใต้ของเมืองหลวง
“ ท่านแม่มารอใครหรอคะ ” คาร์เซลินได้ถาม มิคาริส ที่ได้ยืนรอรับใครสักคนอยู่ที่ หน้าประตู
“ นั้นไงล่ะจ๊ะ มาพอดีเลยล่ะ ” จบคำพูดของ มิคาริส รถม้าคันหนึ่งได้เข้ามา คาร์เซลิน ที่ได้ถามก็หยุดมองรถม้าคันนั้นได้เข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน
“ ยินดีต้อนรับกลับคะนายน้อยทั้งสอง ” สาวใช้ทุกคนก็ได้กว่าคำต้อนรับกลับเมื่อชายทั้งสองลงจากรถม้ามาพร้อมกัน
“ สวัสดีครับท่านแม่ ท่านแม่พวกเราบอกแล้วนิครับว่าไม่ต้องก็ได้ เรื่องการต้อนรับกลับมานะครับ ” โรมิอาร์ ผู้ที่ลงจากรถม้าคนแรกพร้อมกลับกล่าวคำทักทายมิคาริสที่ได้ยืนรอ
“ เรื่องแควนี้แม่เตรียมให้ลูกทั้ง 2 คนได้อยู่แล้วล่ะไม่ต้องห่วง และอีกอย่างแม่ก็ไม่ได้ทำคนเดียวแล้วด้วย ” มิคาริส ได้หวันมาทาง คาร์เซลิน ที่ได้ยืนอยู่นานแล้ว โดยไม่บ่นอะไรสักคำ
“ ท่านแม่ ให้น้องมายืนทำไมกันล่ะครับ แบบนี้น้องจะไม่ปวดขาเอาหรอกนะครับ ” ผู้เป็นพี่ชายคนกลาง ได้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงและได้เดินเข้ามาหา คาร์เซลิน ที่ยืนอยู่
“ ไม่เป็นไรเลยคะ ท่านพี่ทั้นสองกลับมาเหนื่อยๆเข้าไปข้างในกันเถอะนะคะ ” คาร์เซลิน ได้พูดออกมาด้วยความเป็นมิตรบริสุทธิ์และยิ้มให้กับพี่ๆทั้งสองจากใจ
“ ท่านแม่ น้องเป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ ทำไมน้องถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ล่ะครับ ” โรมิอาร์ พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชามาก และมองด้วยสายตาแปลกหน้าไม่มากก็น้อย คาร์เซลิน ก็ได้เดินนำมาที่ห้องอาหารที่ให้สาวใช้ได้เตรียมอาหารไว้ให้ จนเรียบร้อยดี และวันนี้ก็จบลงไปด้วยดี
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments