เช้าวันรุ่งขึ้น ดัชชีคฤหาสน์ทิศเหนือได้ชนละมุนวุ่นวายไปหมด เนื่องจากต้องเตรียมงานบางอย่างที่ใหญ่ (?)โต
"พวกเจ้าชักช้านักจับคุณหนูเล็กและคุณชายรองไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้พวกเรามีเวลาก่อนงานเริ่มแปดชั่วโมง ผู้ชายที่ว่างไปจัดเตรียมสถานที่ที่หน้าคฤหาสน์ เราจะชักช้าไม่ได้!!!!" หัวหน้าสาวใช้ตะโกนบอกเพราะว่านี้คืองานสำคัญและงานใหญ่ (?) ประจำตระกูลเลยก็ว่าได้
"รับทราบครับ/คะ!!!!" เหล่าสาวใช้พากันวุ่นวายอยู่พอสมควรและแยกย้ายทำหน้าที่ของแต่ละคนไป เพราะนี้เวลาพึ่งจะตีสามเอง
...----------------...
ห้องนอนเมล
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นแต่ไร้เสียงการตอบรับกลับมา
ปัง!!!
"ขออนุญาตนะคะคุณหนูเล็กตื่นได้แล้วนะคะ นี่คือพิธีสำคัญที่คุณหนูเล็กเป็นตัวเอกของงานนะคะ"
"..." ไรการตอบรับจากเมล เพราะยังไม่ตื่น
"ท่านรีย์เชลข้าฝากด้วยคะ" รีย์เชลไม่พูดแต่พยักหน้าเป็นการตอบรับ
ฟรึ่บ รีย์เชลอุ้มเมลที่กำลังนอนหลับอย่างสบายใจ (?) ไปที่ห้องน้ำส่วนกลางฝั่งผู้หญิง
ฉ่า ฉ่า
"เฮ้ย หนาว!! พี่รีย์เชลทำอะไรคะเนี่ย" เมลสะดุ้งตื่นเพราะรีย์เชลพาเมลมาอาบน้ำ เมลในตอนนี้มีแค่ผ้าขนหนูห่อตัวไว้ผืนเดียวจะอายอะไรล่ะก็เพราะที่นี้คือห้องน้ำหญิงไม่มีผู้ชายเข้ามาหรอกและนอกจากนี้ก็ไม่ได้มีแค่เมลด้วยที่มาอาบน้ำ (โดนบังคับ) ยังมีเหล่าสาว ๆ คนอื่นด้วย
"ฮ้าววว...หนูเมลตื่นแล้วเหรอจ๊ะ" เสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจักรพรรดินี
"อ๊ะ ถวายบังคมเพคะ จันทรายามค่ำคืนหม่อมฉันต้องขอโทษด้วยที่มาในสภาพที่ไม่พร้อม"
"ว่าแต่ซัลเวียละคะไม่ได้มาด้วยกันหรอกเหรอเพคะ"
"ฮิฮิ อยู่ทางนู้นจ๊ะ พิษไข้ยังไม่หายเต็มร้อยนักเกรงว่าถ้าให้มาอาบน้ำเย็นก็ไข้ขึ้นอีกกันพอดีเลยให้อาบน้ำอุ่นนะจ๊ะ" จูเลียชี้ไปทางที่ซัลเวียอาบน้ำ
"หนูเมลจ๊ะ หนูไม่ต้องเรียกน้าเต็มยศก็ได้นะจ๊ะ"
"ตะ แต่วะ---" ก่อนที่เมลจะพูดจบจูเลียก็พูดขึ้นมาก่อน
"เรียกน้าหรือว่าน้าจูเลียก็พอจ๊ะ อันนั้นเอาไว้เรียกพิธีทางการดีกว่านะจ๊ะหนูเมล"
"คะ แต่ว่านี้คืองานอะไรอย่างงั้นหรือคะ" เมลถามจูเลียด้วยความสงสัย
"น้าก็ไม่รู้เหมือนกันจ๊ะว่านี้คืองานอะไร" ก่อนที่รีย์เชลจะเดินเข้ามาอธิบายให้ฟัง
"นี่คืองานรับทายาทเข้าตระกูลหรืออีกชื่อแฟมิลี่ผู้คนภายนอกจะมักเรียกกันว่ารับทายาทเข้าตระกูลแต่พวกเราคนในจะเรียกว่าแฟมิลี่ตามเวลาพิธีจะจัดสิบโมงคะ รายการที่น้องเมลต้องทำมีไม่เยอะคะ
หนึ่ง ก่อนเวลาเก้าโมงต้องแต่งตัวให้เสร็จทานอาหารให้เรียบร้อย
สอง เก้าโมงครึ่งทายาทตระกูลทุกคนจะต้องพร้อมกันที่หน้าสวนดอกไม้
สาม ทายาทสายหลักและสายรองจะต้องเข้าร่วมงานนี้ด้วย
สี่ ข้อนี้ท่านดยุกฝากมาบอกคุณหนูโดยเฉพาะเลยนะคะว่า ท่านดยุกจะรอชมความสวยงามของคุณหนูนะค่ะ"
นัยตาสีส้มอำพันของหญิงสาวได้เบิกตาโตขึ้นหลังจากที่รีย์เชลพูดจบ ฉันอาจจะไปเปลี่ยนอะไรบางอย่างอยู่ในตัวของท่านพ่อก็ได้นะ ชาติก่อนอย่าว่าแต่พิธีรับเข้าตระกูลเลยงานเลี้ยงสักนิดหน่อยก็ยังไม่มี ถ้าฉันจะขัดขวางการแต่งงานครั้งใหม่ของท่านพ่อให้ได้
ฟรี่บ จุ่ม จุ่ม
"ได้เวลาแล้วคะคุณหนูเล็กถ้าแช่ไปมากกว่านี้ผิวจะเปื่อยและเย็นนะค่ะ" หัวหน้าแม่บ้านได้อุ้มเมลและซัลเวียตามมาพร้อมกับจูเลีย
...----------------...
ห้องแต่งตัว
อ๊ากกกกกกกกกกก!!!! เจ็บจังรัดแน่นมากด้วย
"เบา เบา หน่อยสิคะคุณฟินเซีย" เสียงร้องโอดโอยเมื่อกี้เป็นของเมลนั้นเอง
"ไม่ได้หรอกคะคุณหนูเล็ก คุณหนูเล็กจะต้องใส่คอร์เซ็ตและสุ่มให้เสร็จนะคะ!! ฝั่งนั้นจัดการองค์หญิงหนึ่งและจักรพรรดินีด้วย"
"กรี๊ดดดด ฮือทำไมมันเจ็บแบบนี้ละคะคุณเซ็ต"
"ทนเอาหน่อยนะเพคะองค์หญิง"
"ทะ ทำไมน้าจูเลียถึงทนใส่ได้ล่ะคะ" เมลที่ใส่คอร์เซ็ตและสุ่มเสร็จแล้วก็เดินมาหาจูเลียพร้อมกับซัลเวีย
"นั้นสิคะ ท่านแม่ไม่เจ็บเลยเหรอคะ"
"ไม่หรอกจ๊ะแค่นี้สบายแม่มาก เพราะแม่จะต้องออกงานบ่อยแค่นี้ถือว่าสบายมากเลยจ๊ะ" แต่น้าจูเลียก็ชิลล์เกินไปนะคะ!!! เมลได้แต่บ่นอยู่ในใจ ไม่นานฟินเซียผู้ดูแลการแต่งตัวของเมลก็ได้เข้ามาและพา (ลาก) เมลมายังหน้ากระจกที่มีเครื่องสำอางเต็มโต๊ะแน่นอนว่าจักรพรรดินีและซัลเวียก็ไม่รอดจากการแต่งหน้าในครั้งนี้ ในระหว่างการแต่งหน้าสาวใช้ก็ได้นำอาหารมาเสิร์ฟในระหว่างการแต่งหน้าเสริมความงาม...
แปดโมงครึ่ง
"เห้อออ เสร็จทันเวลาพอดีขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะเพคะองค์จักรพรรดินี องค์หญิงหนึ่ง คุณหนูเมล สามารถบริการใช้ห้องเสื้อฟินเซียได้ตลอดเลยนะเพคะ" ฟินเซีย เซ็ต และเหล่าผู้ช่วยในการแต่งตัวในวันนี้ได้ก้มหัวขอบคุณสำหรับการสละเวลาตั้งแต่ตีสามจนเวลานี้
"ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เหนื่อยในวันนี้ด้วยนะ เราขอบคุณมากที่ทำให้เราและลูก ๆ ของเราสวยขนาดนี้ได้ถ้าเป็นไปได้โอกาสหน้าเราจะจ้างอีก" สิ้นคำขอบคุณของจูเลียทุกคนต่างร้องห่มร้องไห้กันยกใหญ่ และถึงเวลาทานอาหารเช้าสักที
"ง่ำ ง่ำ ว่าแต่พวกท่านพ่อกับท่านพี่ไปไหนกันหมดเหรอคะอย่างไม่เห็นเลย ง่ำพี่รีย์เชลเห็นหรือเปล่า" เมลที่กำลังเคี้ยวเนื้อตุ่ย ๆ อยู่ได้ถามขึ้น
"ท่านดยุกและองค์จักรพรรดิองค์รัชทายาทและคุณชายทั้งสองเตรียมพร้อมรอที่หน้างานแล้วคะ เนื่องจากมีกฎอยู่ว่าห้ามให้ฝ่ายชายเจอฝ่ายหญิงก่อนที่จะเริ่มงานคะ"
"เข้าใจแล้วละคะว่าทำไมตอนพวกเราถูกอุ้มมาแต่งตัวท่านพ่อถึงยังนอนสบายใจเฉิบแบบนั่น" ซัลเวียพูดไปพร้อมกับเคี้ยวอาหารไปด้วย
ทุกคนในห้องพากันหัวเราะ
...****************...
เก้าโมง สวนดอกไม้
เหล่าชาย ๆ ที่ถูกกีดกันออกมาจากเหล่าสาว ๆ
"ตาแกทำไมฉันเข้าไปดูเมลไม่ได้ล่ะ" มาร์ฟ่าสถบคำออกมาอย่างไม่พอใจ เพราะเขาถูกเรียกให้ไปแต่งตัวตอนตีห้าตั้งแต่เขาตื่นนอนยังไม่ได้เจอน้องสาวของเขาถึงวินาทีด้วยซ้ำ เมฟและวีกับแอสทัสก็อารมณ์ร้อนเหมือนกันพวกเขาทั้งสี่คนคิดจะปล่อยพลังเวทย์ออกมาเพื่อเป็นการระบายอารมณ์
"หยุดความคิดของพวกแกสี่คนเอาไว้เลยนะแค่นี้ก็รอกันไม่ได้หรือยังไงนะห้ะ!!!!" แอสเตอร์ตะโกนมาแต่ไกลเสียงมาก่อนตัวสะอีก
"ก่อนที่จะบอกเด็กพวกนี้แกควรเก็บรังสีอาฆาตของแกไว้ก่อนไหมแอสเตอร์" ตอนนี้รังสีอาฆาตของแอสเตอร์รุนแรงขึ้นมากเพราะไม่ได้เจอเมียของตัวเองตอนตื่นขึ้นมา
"อีกครึ่งชั่วโมงก็ได้เจอแล้ว พวกแกสี่คนก็ด้วยเก็บรังสีอาฆาตได้แล้วคนอื่นเขากลัวหมดแล้วเห็นไหมนะฮะ!!!!" เฮร์ฟได้ดุทั้งสี่คนและทำหน้าจ๋อยไปกันที่ละคน
"เอ่อ สวัสดีครับท่านดยุก" ชายคนนึ่งเดินมาพร้อมลูกชาย
"หือ ใครกันเหรอเฮร์ฟ" แอสเตอร์สงสัยเลยถามขึ้นมา
"ตระกูลสายรองนะน่าจะตระกูลซินเกร์ใช่ไหมไวเคานต์ซินเกร์"
"ใช่ครับท่านดยุกนี่ความจำแม่นจริงเลย" ฉันจะแย่งตำแหน่งจากแกมาให้ได้เฮร์ฟ
"ไวเคานต์เตสล่ะไม่มาด้วยเหรอ"
"วันนี้เธอบอกไม่สบายครับเลยไม่ได้มาร่วมงาน" ยัยนั้นถ้าให้มาคงปากสว่างบอกคนู่นคนนี้แน่ถ้าฉันคิดจะแย่งตำแหน่งดยุก
"หายเธอหายไว้ ๆ ละ"
"ขอบคุณครับท่านดยุ----" เสียงหญิงสาวผู้มาใหม่นั้นทำเอาทุกคนจ้องไปที่เธออย่างไม่ละสายตารวมถึงอีกสองคนข้างหลังที่วิ่งตามมาด้วย
"ท่านพ่อ พี่มาร์ฟ่า พี่เมฟ!!! แฮ่ก แฮ่ก รอนานไหมคะ"
"ฟะ เฟพาส เหมือนเฟพาสจริงด้วย"
"อ้าวนี่ คุยธุระกับแขกอยู่อย่างงั้นเหรอคะ เอ่อ...ขอโทษที่เข้ามารบกวนด้วยนะคะ" หญิงสาวผมขาวลอนยาวถึงกลางหลังก้มขอโทษที่ตนเข้ามาขัดจังหวะเวลาคุยงานของท่านพ่อ
"เปล่าหรอกคุยเสร็จแล้วล่ะ พวกเราเข้าไปในงานเถอะไปมาร์ฟ่าเมฟ!!" เฮร์ฟตะโกนเรียกสองชายหนุ่มที่ไม่ไกลจากนั้นว่าได้เวลาเตรียมตัวเข้างานแล้ว และทิ้งไวเคานต์ซินเกร์กับลูกชายคนโตไว้ตรงนั้น
"แกอยากได้คุณหนูเล็กของตระกูลไหมละเซีย" ชายวัยกลางคนถามลูกชายคนโตด้วยแววตาความแค้น ความต้องการ ต้องการที่จะได้ตำแหน่งนั้นมาครอบครอง
"เอาสิครับท่านพ่อสวยขนาดนั้นขายได้ราคาดีแน่เลย หึหึ รอก่อนเถอะนังหนูรอพี่ได้ตัวมาจะจับมาทำเมียก่อนค่อยขายให้พวกชายข้างถนนค่อยดู" สายตาของพ่อลูกคู่นี้เปลี่ยนไปเป็นสายตาเจ้าเล่ห์ในทันที โดยที่ไม่ทันสังเกตว่าวิญญาณสาวแม่ของเด็กจับตาดูอยู่
"ก็ไม่อยากเสียแรงหรอกนะ แต่จะมาจับลูกสาวที่น่ารักของฉันทำเมียเนี่ยนะคิดอะไรอยู่โตแต่ตัวสมองเท่าเด็กเหอะ กิมจัดการดูสองคนนั้นที่มาจากตระกูลซินเกร์เอาไว้ให้ดี เดี๋ยวจะต้องสื่อสารผ่านกระแสจิตหาเมลแล้วไว้ใจสองคนนั้นไม่ได้" วิญญาณของเฟพาสลอยไปอยู่ตรงหน้าเมล "หลับสักหน่อยนะลูก"
ฟรึ่บ
แวบ...ที่มืดมิดนี้อีกแล้วเหรอ
"อ๊ะ...ท่านแม่มีอะไรอย่างงั้นเหรอคะ" เด็กสาวถามด้วยความสงสัยเพราะหน้าตาแม่ของเธอนั้นจริงจังมาก
"แม่จะมาบอกลูกว่าให้ระวังพ่อลูกจากตระกูลซินเกร์เอาไว้ให้ดีอย่าอยู่คนเดียวให้อยู่กับพ่อและพวกพี่ๆ หรืออยู่ใกล้แอสเตอร์กับจูเลียไว้ก็ได้แม่สัมผัสถึงไอชั่วร้ายของสองพ่อลูกนั้นได้" ในนิยายไม่ได้ปรากฎพ่อลูกตระกูลซินเกร์นี่นาแต่เล่าถึงความชั่วร้ายที่คนพ่อจะยึดตระกูลจากท่านพ่อคนลูกก็เที่ยวเสเพล
"ได้เลยคะท่านแม่แต่ท่านแม่รู้ได้ยังไงคะว่าหนูอยู่ที่สวนดอกไม้" เมลถามด้วยความสงสัย
"ก็ง่าย ๆ สวนของแม่พ่อไม่อนุญาตให้คนนอกเข้านอกจากคนในครอบครัวอยู่แล้ว สวนหลังบ้านก็พื้นที่ใช้สอยน้อยไม่พอที่จะรับคนจากตระกูลสายรองไว้ก็มีแต่สวนดอกไม้หน้าคฤหาสน์นี้แหล่ะจ๊ะลูกเอาล่ะถึงเวลาของลูกแล้วก่อนที่พ่อเขาจะไล่แขกกลับหมดอย่าลืมนะจ๊ะแม่อยู่กับลูกเสมอ"
จุ๊บ เฟพาสได้จุมพิตไปที่หน้าผากของเมลเพื่อเป็นการส่งกลับไปยังที่เดิม
"ลูกเป็นอะไรหรือเปล่าไม่ไหวก็บอกพ่อนะ"
"อ๊ะ ไหวคะท่านพ่อกับพวกท่านพี่ไม่ต้องหวงนะคะ" เมื่อกี้เราไม่ได้ฝันแสดงว่าที่ไปเจอท่านแม่ก็แค่ความคิดของเรางั้นเหรอ
"แต่น้องเมลหน้าซีดมากเลยนะครับจะไหวเหรอ"
"ไม่เป็นไรหรอกคะพี่เมฟแค่นี้หนูสบายมากอีกอย่างแขกก็มากันเยอะแล้วไม่อยากให้แขกต้องรอด้วยคะ"
'พวกนั้นรอดไปนะตาแก่ถ้าเมลไม่ห้ามไว้เจ้าพวกนั้นฉันจะจัดการเอง' มาร์ฟ่าได้กระซิบกับเฮร์ฟผู้เป็นพ่อเพราะก่อนหน้านี้เมลเหม่อลอยไปเขาคิดว่าเมลไม่สบายเลยจะยกเลิกงานด้วยการกำจัดคน
'ก็ดีที่เมลไม่ได้เป็นอะไรมากเอาล่ะเริ่มการแสดงกันเถอะจะได้รู้ว่าตระกูลไหนทรยศเราบ้าง' เฮร์ฟได้ยิ้มร้ายออกมาจนดูหน้ากลัวและพวกเขาทั้งสี่คนก็ได้เดินออกไปจนถึงกลางงาน
"ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาในวันนี้ทั้งเชื้อพระวงศ์และตระกูลสายรองครับ ถ้าจะให้กล่าวทั้งหมดก็คงไม่ได้เริ่มงานสักทีเอาละครับเริ่มงานแฟมิลี่ได้!!!" หลังจากที่มาร์ฟ่าพูดจบแขกทั้งงานก็ยกเครื่องดื่มของตัวเองมาดื่มเพื่อเป็นการเปิดพิธี
"เราขอต้อนรับสมาชิกตระกูลสายหลักคนใหม่ เซเกร์ เมล ไมเออร์" เมลที่ยืนอยู่ข้างเมฟก็ได้ก้าวเท้าออกมา
ทุกคนเห็นเมลก็ตกตะลึง ในความงามของเมลเด็กสาวในชุดเจ้าสาวที่ถูกดัดแปลงโดยห้องเสื้อผ้าฟินเซียที่ว่าจองคิวยากที่สุดให้ออกมาเป็นชุดทรงบอลกาวน์ตัวกระโปรงมีความฟูฟ่อง พองบาน ตัวกระโปรงจะทำให้เลยหัวเข่าลงหนึ่งเมตรเพื่อตอนนั่งจะไม่โป๊เปื่อยจนเกินไป ตัวชุดประดับด้วยลูกไม้สีส้มอ่อนเอวคาดด้วยริบบิ้นสีส้ม รองเท้าส้นตื้นสีส้ม ผมลอนขาวยาวถึงกลางหลังใบหน้าสดใสดวงตาสีส้มอำพันกลมโต ให้ความรู้สึกเหมือนดูดัชเชสในฉบับย่อส่วนไม่มีผิด
"สวัสดีแขกที่มาทุกท่านคะดิฉันดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูล ขอบคุณท่านพ่อที่จัดงานนี้ขึ้นมาให้คะ ขอบคุณแขกทุกท่านที่เสียสละเวลามาร่วมงานในครั้งนี้เชิญตามสบายเลยคะ" หลังจากที่เมลพูดจบเด็กผู้ชายก็มองเมลกันเป็นแถวเพราะตกหลุมรักหรืออะไรแต่เมลไม่ทันได้สังเกตว่ามีรังสีอาฆาตของเหล่าคน (?) หวงลูกและน้องสาวทำให้ผู้ชายพวกนั้นไม่กล้าเข้าใกล้เมลกันเป็นแถวเพราะรังสีอาฆาตของผู้เป็นพ่อและเหล่าพี่ชาย
ฝั่งจักรพรรดิและครอบครัว
"แอสทัสทำไมไม่ไปขอหนูเมลเต้นรำล่ะ" แอสเตอร์ถามขึ้น
"ถ้าผมไปรังสีอาฆาตของลุงเฮร์ฟกับพี่ของเมลได้ฆ่าผมแน่เลยถ้าท่านพ่อไม่อยากเสียลูกชายไปก็อย่าให้ผมไปเข้าเถอะครับ" แอสทัสในชุดสูทสีดำ รองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม ผมสีเหลืองทองปลิวไสว นัยตาสีฟ้าราวกับอัญมณี ได้ตอบแอสเตอร์ผู้เป็นพ่อไป
"แต่แม่ว่าลองเสี่ยงดูก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนะจ๊ะ อีกอย่างหนูเมลต้องชอบใจแน่ ๆ ที่ลูกไปขอเขาเต้นรำ พวกเราก็ไปเต้นเปิดงานกันเถอะคะแอสเตอร์" จูเลียให้คำปรึกษาลูกชายไปและชวนแอสเตอร์ออกไปเต้นรำ
"อะไรกันจูเลียนั้นเป็นคำพูดของเค้านะตัวเองก็\~" เอ่อท่านพ่อเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยแปลกขึ้นทุกวัน
"พี่ก็ว่างั้นลองเสี่ยงดูก็ไม่เห็นเป็นไรเลย/ หนูเห็นด้วยกับพี่วีนะคะ อิอิ" x2 สองพี่น้องมองหน้ากันว่าแผนนี้ต้องสำเร็จแน่นอน
"ซัลเวียเราไปเต้นรำกันไหม" วีเอ่ยถามซัลเวีย
"ได้สิคะพี่วี แล้วก็พี่แอสทัสนะช้าหมดอดนะคะพี่เมลนะเขาฮอตมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะคะ เดี๋ยวก็โดนคนอื่นชกไปกินหรอกคะ" ซัลเวียพูดจบก็เดินไปพร้อมกับวีเพื่อไปเต้นรำทิ้งให้แอสทัสนั่งอยู่คนเดียว
"อ้าวไหง่ทิ้งผมเอาไว้แล้วหนีไปเต้นรำกันหมดเลยละ" หึ ลองเสี่ยงเหมือนที่ท่านแม่บอกมาก็ไม่เห็นเป็นไรเลย
บริเวณหน้าเวทีเต้นรำเฮร์ฟส่งสัญญาณว่าเริ่มบรรเลงเพลงได้ไม่รอช้าโดยมีคู่เปิดงาน นำโดยจักรพรรดิและจักรพรรดินี องค์ชายรัชทายาทลำดับที่หนึ่งองค์หญิงหนึ่ง แอสทัสได้เดินเข้าไปหาเมลทำให้ทุกคนตกใจกันไปเป็นแถบ
"คุณหนูเซเกร์ เมล ไมเออร์ ได้โปรดเต้นรำกับสักเพลงสองเพลงจะได้หรือเปล่าครับ" แอสทัสมองเมลด้วยความจริงใจ และไม่อยากให้เธอปฏิเสธสักเท่าไหร่ แอสทัสยื่นมือออกไป
"ได้สิเพคะองค์ชายลำดับที่สอง" เมลได้ให้มือกับแอสทัสและได้ออกไปเต้นรำ ทำให้เหล่าพี่ชายพากันหวงหนักยิ่งกว่าเดิม
"ท่านพ่อไม่ห้ามน้องหน่อยเหรอครับ" เมฟถามเฮ์ฟผู้เป็นพ่อ
"หึ ไม่ล่ะเจ้าหนูนั้นมาขอเมลเต้นรำดีกว่าเจ้าพวกสวะนั้นที่คอยเข้าหาเมลเพื่อผลประโยช์น" เฮร์ฟหันหลังพูดพร้อมที่จะไปสวนดัชเชส
"แล้วนั้นตาแก่จะไปไหน" มาร์ฟ่าถาม
"ไปสวนทำไมจะตามมาเหรอ ถ้าตามมาก็อย่าเกะกะ"
"มะ ไม่ละฉันกับเมฟจะรออยู่นี่แหล่ะเชิญไปคนเดียวเถอะ หึ" ตาแก่จะไปหาท่านแม่อีกแล้วล่ะสิช่วงนี้ไปบ่อยจัง เหอะใครสนละ
"เมฟเราไปหาอะไรกินกัน"
เมฟกับมาร์ฟ่าได้ออกไปเดินหาอะไรทานเพราะในตอนนี้พวกเขาสองคนก็ใกล้หิวแล้ว ประจวบเหมาะกับที่แอสทัสและเมลเต้นรำเสร็จพอดี
"แอสทัสเต้นเก่งมากเลยนะฉันยังเต้นไม่เก่งเท่านายเลย" เมลก็อย่าชมผมเยอะสิครับเดี๋ยวผมก็เหลิงหรอก
"ผมยังไม่เก่งหรอกคร---" แอสทัสยังไม่ทันพูดจบก็มีเสียงคนมาพูดแทรก
"สวัสดีครับคุณหนูเมลกระผมชื่อซินเกร์ เซีย เราเคยพบกันครั้งนึ่งก่อนเข้างานนะครับคุณหนูจำได้หรือเปล่าครับ" อะไรกันเจ้าหมอนี่มีพลังมืดแผ่ออกมาเหรอให้เมลอยู่ตรงนี้ต่อไปอันตรายแน่
"เขาคือใครกันเหรอครับเมล" เสียงเย็นชาของแอสทัสทำให้เซียสะดุ้งทันที
"ก็แค่ตระกูลสายรองซินเกร์นะคะแอสทัสไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ" ตระกูลซินเกร์ที่ท่านแม่บอกให้ระวังไม่อยากเข้าใกล้เลยทางที่ดีด้องหาวิธีปฏิเสธแบบสุภาพดีกว่า
"ผมหิวแล้วเมลพาไปดูโซนอาหารหน่อยครับ" เมลพยักหน้าเป็นการตอบรับ
หมับ เซียจับข้อมือของเมลไว้เพื่อเป็นการไม่ให้เธอหนี
"อึก เจ็บนะปล่อยเดี๋ยวนี้นะคะคุณซินเกร์ เซีย อย่าหาว่าฉันไม่เตือน" ทุกคนเริ่มมามุงดู
"อะไรกันครับคุณหนู ผมก็แค่อยากคุยเป็นเพื่อนคุณหนูเท่านั้นเองครับ" เซียบีบข้อมือเมลแรงขึ้นอีกจนเธอร้องออกมา
"โอ๊ยยยย!!!" เมลร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจนทำให้แอสทัสทนไม่ไหว
ผลั๊วะ!! แอสทัสต่อยเข้าไปที่หน้าของเซียอย่างแรง ทำให้คนที่เดินเข้ามาคือมาร์ฟ่าและเมฟตามด้วยเฮร์ฟที่มองเมลที่นั่งล้มลงไปทำให้ทั้งสามคนเข้าไปดู
"เมล!!!! เป็นอะไรไปข้อมือทำไมแดงแบบนี้" x3ทั้งสามคนเรียกเมลด้วยความเป็นห่วง
"คุณนะผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยก็ยังจะตามตื้ออีก แบบนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะครับ" ไอความมืดมาจากหมอนี่จริงด้วยต้องระวังสักหน่อยแล้ว
"กะ แก เป็นใครห้ะ มาต่อยฉันแบบนี้ได้!!!" เซียร้องลั่นเมื่อถูกแอสทัสต่อยเข้าไปที่หน้าอย่างจัง
ผลั๊วะ ผลั๊วะ เสียงต่อยของแอสทัสทำให้เซียร้องออกมาดังลั่น
"อ๊ากกกกกกก พะ พอแล้วฉันจะไม่ทำอะไรคุณหนูเมลอีกแล้ว" แค่นี้ยังไม่พอหรอกแกทำเมลเจ็บแกต้องเจ็บเป็นร้อยเท่า
"ราซออกมา...ซูสจัดการ" แกต้องเจ็บกว่าเมลร้อยเท่าพันเท่า
กร๊าซซซซซ นกยูงเมฆาพุ่งเข้าโจมตีใส่เซียแต่มีบางอย่างมาหยุดเอาไว้
"พอแค่นั้นแหละแอสทัส เก็บนกยูงเมฆาของนายซะไม่งั้นจะทำคนอื่นเดือดร้อน" เสียงของเฮร์ฟดูโกรธมากเขาไม่ได้โกรธที่แอสทัสเรียกนกยูงเมฆาออกมาแต่เขาโกรธที่ซินเกร์ เซีย ทำร้ายเมล
"ลุงเฮร์ฟ คือผมขอโทษครับผมวู่วามไปหน่อย" แย่ละ ทำไมเจ้าเซียถึงถูกเหยียบแบบนั้น ทุกคนเห็นเซียลงไปกองกับพื้นและโดนแอสทัสเหยียบหน้าอยู่ ซูสนกยูงเมฆาของแอสทัสก็ได้กลับเข้าไปในร่าง
"แอสเตอร์ฉันรู้ว่าแกอยู่ตรงนั้นเอาแอสทัสไปพักก่อน ฉันจะเคลียร์กับเจ้าเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้านี่ก่อน" แอสเตอร์พยักหหน้าให้จูเลียและวีพาแอสทัสไปพักส่วนเขาจะรอดูสถานการณ์ตรงนี้เผื่อเฮร์ฟฆ่าเด็กนั้นขึ้นมาจริง ๆ เขาจะได้ห้ามไว้ทัน
"เฌอร่าหมัดไว้ แกทำอะไรลูกสาวฉัน!!!!" เฮร์ฟเข้ามาคุมตัวของเซียโดยใช้เฌอร่าหมัดเอาไว้ผู้คนก็มาดู
"..." เจ้านี่แกไปทำอะไรท่านดยุกว่ะ ฉันยังไม่อยากตายเพราะแกนะเว้ยไอลูกเฮงซวย
"ไม่ตอบสินะ ฉันถามว่าแกทำอะไรลูกสาวฉัน ไวเคาน์ตซินเกร์ออกมา ถ้าไม่ออกมาอย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
"ผมอยู่นี่ครับท่านดยุก" เสียงหือหาลั่นขึ้นมาอีกครั้ง "เงียบ" เสียงสุดเย็นยะเหยือกของท่านดยุกทำเอาผู้คนแถวนั้นไม่กล้าแม้แต่จะปลิปากถ้าปลิปากออกไปหัวพวกเขาทั้งหมดได้หลุดออกจากบ่าเป็นแน่
"รู้ใช่ไหมว่าแกทำความผิดอะไรเอาไว้" เฮือก หรือว่าท่านดยุกรู้แล้วว่าเรายักยอกเงินตระกูล
"ลูกชายคนโตของแกทำร้ายลูกสาวฉัน รู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น รีย์เชลพาเมลกับจักรพรรดินีและครอบครัวเข้าไปข้างในมาเชลไปเอาเอกสารบนโต๊ะฉันมา"
"รับทราบคะ/ครับ ท่านดยุก" รีย์เชลพาทุกคนเข้าไปข้างในเหลือแต่แขกในงานและแอสเตอร์ส่วนมาเชลก็ไปเอาเอกสารมาทันเวลาพอดี ถ้าเข้ามาไม่ทันเวลานายของเขาต้องฆ่าพ่อลูกนี้แน่
"นี่คือข้อมูลหลักฐานการยักยอกของแก เงินตระกูลลดลงไปเยอะมากคงไม่บังเอิญหรอกใช่ไหม ส่วนลูกชายของแกก็นำเด็กไปขายเอาเงินมาใช้สุรุ่ยสุร่าย ฉันขอถอนชื่อพวกแกสองคนออกจากตระกูลสายรองเนื่องจากไวเคาน์ตเตสไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยไม่ได้ยุ่งยากใช่ไหมมาเชล"
"ครับท่านดยุก อะแฮ่ม! ผมจะขอประกาศรายชื่อ ชื่อที่ถูกถอนจะไม่สามารถใช้ชื่อตระกูลสายรองได้อีกต่อไปนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!!!" มาเชลตะโกนเพื่อแจงข่าวสารให้ทั่วถึง และแขกที่มาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตระกูลรองทั้งสิบสองตระกูล พวกเขาได้แต่ภาวนาว่าจะไม่มีชื่อของพวกเขา
"หนึ่ง ไวเคาน์ตซินเกร์ เซเคอร์ สอง ซินเกร์ เซีย สาม บารอนเดย์นา ริกซ์ สี่ บารอน ไอ ริกซ์ มีทั้งหมดสี่คนเราจะต้องนำตัวของท่านไปถอนชื่อด้วยตัวเองครับ ถ้าไม่ไปเราจะต้องใช้กำลัง ทหารจับตัวไว้!!!" มาเชลได้พาตัวไปไม่เว้นแต่ไวเคาน์ต เซเคอร์ ทุกคนพากันโล่งใจเมื่อคดีถอนชื่อจบไปแล้วแต่ต้องตกใจกับสิ่งที่ท่านดยุกประกาศ
"เราจะยุบตระกูลรองจากสิบสองให้เหลือห้าจดหมายยุบตระกูลจะถูกส่งไปให้ในอีกสามวันข้างหน้า แต่ไม่ต้องกังวลไปตระกูลที่ถูกยุบจะให้ไปอยู่ร่วมกับอีกห้าตระกูล งานเลี้ยงจบแล้วแยกย้ายได้" จากนั้นดยุกและแอสเตอร์ก็ได้เดินเข้าไปในคฤหาสน์ตรงไปยังห้องรับรอง และช่วงบ่ายก็เตรียมเดินทางไปเมืองหลวง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 12
Comments
ヌッチです〜〜★彡
โห้ยยย ป๋าเฮร์ฟเอาให้หนักเลย เป็นแค่ตระกูลสายรองบังอาจมาทำร้ายตระกูลสายหลัก สม
2024-10-28
0