ตอนที่ 6 คนรักขององค์ชายรัชทายาท

ห้องทำงานเฮร์ฟ

เฮร์ฟได้พาแอสเตอร์มาคุยที่ห้องทำงานเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ให้เด็ก ๆ รู้

“นั่งก่อน” แอสเตอร์ได้นั่งที่โซฟาตัวใหญ่ใจกลางห้อง

“แหม ไอของที่ตกแต่งด้วยของน่ารักนี้มันอะไรเนี่ย คนอย่างนายไม่น่าจะตกแต่งอะไรแบบนี้ได้เลยนะ”

แอสเอร์ได้มองรอบห้องที่เต็มไปด้วยของตกแต่สีชมพูหวานแหวว

“ก็เมลมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องฉันประจำก็เลยเผลอซื้อของพวกนี้มาไม่รู้ตัว”

“หึ นายนะเปลี่ยนไปนะเฮร์ฟหลังจากที่เฟพาสหายไปก็หันหลังให้กับสงครามตลอดเลยนิ”

“งั้นเหรอ เข้าเรื่องกันเถอะ”

“นายบอกว่าไปเจอลูกฉันที่ย่านสลัมหลังจากพามาที่นี้เด็กที่พ่อแม่ไม่สั่งสอนคนนั้นทำร้ายทำลูกนาย แล้วนายมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติ่มไหม”

“บารอนอาของยัยเด็กนั้นทำการค้าทาสและนำเด็กไปทดลองโกงเงินประชาชนอีกเยอะเลย ฉันให้มาร์ฟ่าส่งเรื่องร้องเรียนประหารไปให้มหาดเล็กแล้ว ฉันจะให้เมลเดินทางไปเป็นพยานแน่นอนว่าพวกฉันก็จะไปด้วย ฉันส่งเรื่องไปแค่ของเมล ข้อหาทำร้ายร่างกายสี่ตระกูลใหญ่และเชื้อพระวงศ์ก็โดนประหารแล้ว ส่วนลูกชายนายนะจะจัดการยังไง"

"ยัยเด็กนั้นมีส่วนทำให้ลูกชายกับลูกสาวฉันเกือบตายฉันจะไม่ปล่อยมันไว้แน่ แล้วเรื่องเฟพาสละเห็นลูกสาวนายไปเจอมาไม่ใช่เหรอ"

"ใช่ เฟพาสบอกว่าผนึกพลังเวทย์เมลไว้ และจะต้องให้กิมเป็นคนฝึกให้ พระราชวังมีการป้องกันแน่นหนาฉันก็น่าไว้ใจได้ที่จะให้เมลไปฝึกอีก

อย่างนายกับจูเลียก็อยู่ด้วยฉันก็วางใจได้"

"หนูเมลยังไม่เคยไปเมืองหลวงไม่ใช่เหรอ แล้วแบบนี้จะให้พักอยู่ที่บ้านพักคนเดียวหรือไง"

"ไม่มันเสี่ยงเกินไปที่จะมีหนูลอบกัดฉันจะให้เมลไปพักที่ราชวังกับนายแน่นอนฉันจะจ้างครูสอนพิเศษกับครูสอนมารยาทมาด้วย ฉันอยากจะให้เมลเข้าเรียนที่อะเคเดมี่"

"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงฉันก็จะจ้างครูสอนพิเศษมาให้ลูกฉันเหมือนกัน ฉันอยากให้หนูเมลเรียกฟันดาบเพื่อเป็นการป้องกันตัวนายจะว่าอะไรไหม ถ้าจะเข้าอะเคเดมี่ก็ต้องอายุสิบเอ็ดปีเหมือนเมฟไหนจะต้องเรียนอีกแปดปี"

"ฟันดาบก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่เมฟก็ไม่ค่อยจะได้ออกมาด้วยนอกจากใกล้เรียนจบ

เหมือนมาร์ฟ่ากับวีหรือใกล้ปิดเทอม"

"นายไม่ต้องห่วงหรอกฉันกับจูเลียจะดูแลให้อีกอย่างพวกฉันก็เป็นผู้ชายฉันก็อย่างให้ลูกสาวฉันมีเพื่อนวัยเดียวกันด้วย ถ้านายว่างก็ไปเยี่ยมเธอบ้างก็ได้"

"หึ ฉันขอฝากด้วยนายจะกลับพระราชวังพรุ่งนี้เลยไหม"

"ใช่ จะให้มหาดเล็กเพิ่มข้อหาเรื่องร้องเรียนคดีนี้ ก็จะเปิดตัวแอสทัสในชั้นศาลแต่สภาพนี้ซัลเวียมาให้การไม่ได้หรอกเพราะราซยังไม่หาย"

"เหรอ คืนนี้นอนนี้ก่อนแล้วกันอย่าลืมไปทำอาหารให้จูเลียทานละยัยนั้นยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่ตอนเย็นไม่ใช่เหรอ"

"อืม ยื่มใช้ห้องครัวหน่อย" 

หลังจากที่แอสเตอร์ออกไปเฮร์ฟก็ได้ออกจากห้องไปอาบน้ำนอน

ห้องครัว

สับ สับ สับ สับ สับ ฉ่า ฉ่า ฉ่า ฉ่า เสียงสับเนื้อหมูและนำหมูไปผัดในกระทะ

ปิ๊ง เสียงหม้อหุงข้าวดังให้สัญญาณว่าข้าวนั้นสุกแล้ว

ฟึ่บ ฟึ่บ แอสเตอร์ได้ตักข้าวใส่จานแล้วนำผัดหมูเมื่อกี้เทลงใส่จานทำให้มีกลิ่นหอมทั่วห้องครัวจนพ่อครัวต้องออกมาดูด้วยตาตนเอง

"องค์จักรพรรดิทำไมไม่ให้กระหม่อมเป็นคนทำให้เสวยละพ่ะย่ะค่ะ"

"มันดึกแล้วเราเลยไม่อยากรบกวนพวกเจ้านะ อีกอย่างอาหารก็ทำเสร็จแล้วด้วยพวกเจ้ากลับไปนอนเถอะ"

"รับทราบพ่ะย่ะค่ะ ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมทูลลาอาทิตย์แห่งแสงสว่าง"

แอสเตอร์ได้เดินออกไปพร้อมในมือถือจานข้าวสองจานไปยังหน้าห้องของตัวเอง จูเลียและซัลเวียจะต้องชอบเป็นแน่เลย อ๊ะวีกับแอสทัสนี่นา

"วี เจ้าจะไปไหนหรือ"

"กำลังจะกลับห้องนะครับท่านพ่อแล้วนี่อาหารของเสด็จแม่กับซัลเวียเหรอครับ"

"ใช่มือเจ้าว่างเปิดประตูให้หน่อยสิ"

"เฮ้อ จริงเลยเสด็จพ่อ"

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้งและมีคนเดินมาเปิด

แอ๊ดด

"อ้าว ฝ่าบาทเองเหรอเพคะ เข้ามาก่อนอาบน้ำอาบท่าก่อน วีลูกก็ไปนอนได้แล้วจ๊ะ"

"ราตรีสวัสดิ์ครับเสด็จแม่"

"จูเลียข้าวางจานข้าวของเจ้ากับซัลเวียไว้บนโต๊ะนะถ้าเจ้าหิวก็ทานได้เลยเดี๋ยวข้าไปอาบน้ำก่อน"

...----------------...

แอสเตอร์ได้ถอดเสื้อท่อนบนออกเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องเต็มไปด้วยซิกแพคเป็นหมัด ๆ ท่อนล่างใส่กางเกงไว้และเดินเข้าไปอาบน้ำ ทำให้หญิงสาวเกิดอาการหน้าแดงจัดคล้ายไข้ขึ้นและได้ปลุกลูกสาวตัวน้อยมาทานข้าวและยาเสร็จก็หลับต่อ ส่วนเธอนั้นก็ทานข้าวที่พระสวามีทำมาให้ทานจนหมด

"ทานหมดแล้วอร่อยไหม"

สภาพที่แอสเตอร์ชายร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำนั้น ผมเปียกน้ำเล็กน้อยท่อนบนไม่ได้ใส่อะไรเผยให้เห็นกล้ามแขนทั้งสองข้างและหน้าท้องเต็มไปด้วยซิกแพค ท่อนล่างนั้นได้มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบตัว ยิ่งทำให้ร่างเล็กของหญิงสาวหน้าแดงขึ้นไปอีก จนทำให้แอสเตอร์เดินมาดูว่าจูเลียภรรยาของเขาเป็นอะไรหรือเปล่า

"จูเลียนี่เจ้าหน้าแดงหมดแล้วไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า" ฉ่า หน้าของจูเลียแดงขึ้นใครกันที่ไม่สบายก็ท่านแต่งตัวแบบนี้ออกมาข้าจะไหวเหรอ

"เอ๊ะ...เปล่าเพคะ ข้าสบายดี"

"งั้นหรือดีแล้ว วันมะรืนเจ้าจะต้องขึ้นศาลตัดสินเรื่องหนูเมลกับแอสทัสพร้อมข้าเจ้าพร้อมหรือเปล่า"

"พร้อมเพคะฝ่าบาท แต่ว่าทำไมพระองค์ทรงไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเพคะ" จูเลียเบี่ยงหน้ามองไปทางอื่น

"เจ้าไม่ชอบหรือองค์จักรพรรดินี หื้มมม" หน้าเจ้ามันฟ้องหมดแล้วนะจูเลีย คิคิ แกล้งเจ้านี่สนุกจังแฮะ

"ฝ่าบาทลูกทรงบรรทมอยู่เพคะ"

"ไม่เป็นไรหรอกจะมีลูกอีกสักคนจะเป็นไรไป ไม่ได้ให้นางสนมเลี้ยงสักหน่อย" 

"พอเถอะฝ่าบาทหม่อมฉันไปจะบรรทมแล้ว ทรงไปแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วยเพคะ" เฮ้อ...ฝ่าบาทขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ยังไงเนี่ย

หมับ! มือใหญ่ได้ไปคว้าข้อมือเล็กของหญิงสาวที่ตนรัก ปากของทั้งสองได้ประกบกันลิ้นสากได้ไล่ต้อนลิ้นเล็กเข้าไปช่องปากเล็กที่เก็บตักตวงความหวานเอาไว้

"อื้ออ...อือออ"

"อืมมม...ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะจักรพรรดินี" หญิงสาวในตอนนี้สมองขาวโพลนไปหมด หน้าแดงระเรือเป็นมะเขือเทศอีกครั้งหลังจากที่แอสเตอร์มอบจูบที่เร้าร้อนให้

"เอาทายาทอีกสักคนสองคนไหมซัลเวียจะได้มีเพื่อนเล่น"

"พอเลยเพคะ แค่นี้ข้าก็จะไม่ไหวแล้ว" เจ้างอนข้าไปเรียบร้อยแล้วสินะ

หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เข้านอน

...----------------...

ห้องนอนวีและแอสทัส หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำเสร็จก็ได้มาคุยตามประสาพี่น้องที่เตียงใหญ่

"เสด็จพี่มีคนรักหรือยังครับ"

พรวด แค่ก แค่ก แค่ก วีที่ดื่มน้ำอยู่ก็ได้สำลักน้ำเพราะความที่แอสทัสถามหรืออะไร

"เสด็จพี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" แอสทัสรีบลุกจากเตียงมาดูพี่ชายของตัวเองที่สำลักน้ำกับคำถาม (?) แค่นี้

"ไม่หรอกเจ้ากลับเตียงเถอะ" วีวางแก้วน้ำแล้วเดินไปที่เตียงใหญ่

"แล้วเรื่องที่ผมถามเมื่อกี้ละครับ" จะตอบว่าไงดีละ เรื่องนี้ตอบยากด้วย

"อืม...จะว่ามีก็ยังไม่มีหรอกแต่ก็เร็ว ๆ นี้ก็ไม่แน่"

"ใครหรือครับผมรู้จักหรือเปล่าเสด็จพี่ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายครับ" รู้สึกว่าความอยากรู้อยากเห็นนี่ (?) เหมือนใครเลยวะเนี่ย

"ตอนนี้กฎหมายสมรสอย่างเท่าเทียมยังไม่ออกมาเจ้าคิดว่าอย่างไรกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้"

"ข้าคิดว่าดีออกนะครับ คนเราไม่จำเป็นจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงเสมอไป ถ้าใจชายรักชายหรือหญิงชอบหญิงก็ไม่เห็นจะผิด ถ้าพวกเขารักกันชอบกันแต่ไม่มีกฎหมายรับรองให้พวกเขาแต่งงานกันแบบนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะมีผลอะไรล่ะ จริงไหมครับ"

"ข้าเห็นด้วยนะเดี๋ยวข้าจะเอาเข้าที่ประชุมขุนนางกับสี่ตระกูลใหญ่เดือนนี้แล้วกัน ข้าว่ากฎหมายนี้จะต้องผ่านแน่ เพราะกฎหมายแค่นี้พวกตาเฒ่าหัวโบราณก็จะดิ้นรนหาข้ออ้างมาอธิบายไม่ได้แล้ว" โห้...อายุแค่นี้มีความคิดดีกว่าพวกตาเฒ่าขุนนางอีก

"ดิ้นรนหรือครับ"

"ใช่พวกขุนนางหัวโบราณนั้น แก่แล้วตามยุคสมัยไม่ทันหรอกตอนที่ข้าประชุมครั้งก่อนก็มีคนเสนอเรื่องสมรสเท่าเทียมขึ้นมาก็ถูกปัดตกไปเพราะไม่มีข้อโต้แย้งและข้อเสนอที่ดีกว่าแล้วเจ้าคิดว่ากฎหมายถูกตั้งขึ้นมาเพื่ออะไรละ"

"อืม...กฎหมายมีทั้งถูกตั้งมาใช้ในข้อหาต่าง ๆ เช่นกฎหมายอย่าร้าง กฎหมายคุ้มครองแม่และเด็ก กฎหมายพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์อย่างพวกเราใช้ชีวิตแบบตามกฎหมาย

กฎหมานก็มีทั้งดีและไม่ดีเช่นกฎหมายทารุณกรรมผู้กระทำผิด อันนี้ข้าเห็นด้วยครับเราจะปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวลงั้นหรือก็ไม่ใช่ถึงการประหารจะรุนแรงไปแต่ถ้าผู้กระทำผิดหนักอันนี้ก็สมควรโดนอย่างสาสมแล้วครับ"

"โห...ข้าอึ้งตั้งแต่เจ้าตอบกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว หันหลังให้ข้าหน่อยข้าจะใช้เวทย์รักษากับเจ้า" แอสทัสได้หันหลังให้วี ว่าแต่เสด็จพี่รู้ได้ไงว่าเรามีแผล

วีได้เอาฝามือไปแตะที่หลังของแอสทัสและร่ายเวทย์รักษา 

"ฌาร่า ฌาร่า "

วิ้งค์ ประกายแสงสีฟ้าปรากฏขึ้น

"อะ อึก เย็นจังครับ"

"คิคิ เวทย์ฌาร่านะเป็นเวทย์สมานแผลชนิดเย็นถ้ากลับถึงบ้านแล้วข้าจะพาเหมาเหมามารักษาให้เจ้านะ"

"เหมาเหมาหรือครับ"

"ใช่หมอคนเก่งของวัง เอาเถอะวันนี้เจ้าเหนื่อยแล้วก็นอนเถอะข้าจะทบทวนบทเรียนนิดหน่อยก่อนนอน"

"ราตรีสวัสดิ์ครับเสด็จพี่"

ฟรึ่บ มือใหญ่ลูบหัวน้องชายตัวเล็ก (?) ที่กำลังหลับอยู่ส่วนตัวเขาก็ได้ดับเทียนพร้อมกับออกไปนอกห้องและไม่ลืมยิบชีทเรียนออกมาทบทวน

...----------------...

และที่เขาไปทบทวนบทเรียนนั่นคือสวนดัชเชสปกติท่านลุงก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาหรอกนอกจากคนในครอบรัวและสี่ตระกูลใหญ่กับพวกเขาและคนดูแลสวน ได้มีชายร่างสูงนั่งอ่านหนังสือใจจดใจจ่อเขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนคือมาร์ฟ่านั้นเอง

แกร๊ก เสียงเหยียบกิ่งไม้แถวนั้นดังสนั่นอาจเพราะเป็นช่วงเวลากลางคืนทำให้ดังไปทั่ว

"นั้นใคร !! ถ้าไม่ออกมาแกได้เละไปคุยกินดินแถวนั้นแน่" 

"ใจเย็นก่อนสิครับมาร์ฟ่าคุณจะฆ่าผมแล้วหรือ"

"แล้วไปก็นึกก็ว่าใครที่แท้องค์ชายวีเซอร์นี้เอง"

"เรียกผมหรือประชดครับนั่น ผมนั่งด้วยคนสิ"

"เชิญ ว่าแต่ดึกดื่นคุณชายวีเซอร์อย่างนายทำไมมาอ่านหนังสือได้ละปกติเห็นอ่านแค่ตอนเช้า นายบอกเองนะว่าอ่านตอนเช้ามืดสมองจะได้แล่น"

"ผมเคยพูดด้วยเหรอเนี่ยจำไม่เห็นได้เลยครับ" 

"แต่ฉันจำได้!!" ท่าทีการตอบโต้ของมาร์ฟ่าเปลี่ยนไป เขามานั่งอ่านหนังสือนะไม่ได้มาทะเลาะเพื่อน (เมีย)

"ครับ ๆ คุณนี้ความจำแม่นจังเลยนะครับไม่น่าละสอบได้ที่สองตลอด"

"หึ นี่นายแอบหลอกด่าฉันอยู่หรือเปล่าเนี่ย"

"หลอกด่าอะไรกันละครับ มาอ่านหนังสือเถอะครับเดี๋ยวเปิดเทอมฤดูหนาวไปก็สอบแล้ว" ระหว่างทั้งสองคนคุยกันก็อ่านหนังสือไปด้วย

"แต่งานกาลา กาล่า ให้บุคคลภายนอกร่วมได้ไหมนะฉันอยากให้เมลเห็นฉันในชุดห้องเรียนพิเศษจัง"

"เห็นว่าให้แต่ครอบครัวของเด็กในสถาบันเข้าร่วมได้นะครับ ส่วนแขกที่มาก็จะเข้าร่วมงานเต้นรำที่จัดในพระราชวังคืนที่สามเอานะครับ"

"หื้อ...นายรู้เรื่องแบบนี้ด้วยเหรอปกติอยู่ที่อะเคเดมี่ไม่เห็นจะพูดสุงสิงกับใครเลยนี่" มาร์ฟ่าเอามือท้าวค้างและทำหน้าทำตาสงสัย

"ผมรู้ครับ ก็เหมือนคุณนั้นแหล่ะควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเลยในแต่ละวัน" จึก เจ็บเลยแฮะทำไมต้องย้ำด้วย

"รู้ไหมครับว่าพวกผู้ชายตั้งฉายาให้คุณครับว่าเพลย์บอยตัวพ่อเลยนะครับเพราะควงสาวไม่ซ้ำหน้ากันเลยในแต่ละวัน" ฮึก แย่ละกั้นไว้ไม่ไหว ทำไมหมอนี้พูดเราถึงได้ร้องไห้ได้ล่ะ

"ฮึก...ฮึก ฮึอ ฮือ ก็ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงนี่นาฮึก ฮือออ" ระ ร้องไห้อยู่เหรอแล้วจะต้องปลอบยังไงเนี่ย ผมปลอบผู้ชายไม่เป็นด้วย

"เอ่อ...ผมขอโทษเมื่อกี้ผมก็พูดแรงไปจริง ๆ คุณจะให้อภัยผมหรือเปล่าครับ" อะไรเนี่ยเหมือนเห็นหูกับห่างโผล่มาจากตัวของหมอนี่เลย

วีได้เดินมาตรงเก้าอี้ที่มาร์ฟ่านั่งแล้วคุกข่าคุยเนื่องจากเขาปลอบผู้ชาย (?) ไม่เป็นเลยไม่รู้ว่าจะต้องปลอบยังไงเขาก็พูดตามที่เขารู้

"ก็ได้...นายช่วยฉันติวจนกว่าจะเปิดเทอมภาคฤดูหนาวได้หรือเปล่า"

"ได้สิครับไม่มีปัญหา" ผมรู้สึกดีซะอีกที่คุณไม่โกรธผมไปมากกว่านี้ 

"เอาเวลากลางคืนนะครับมันรู้สึกสงบดี"

"ได้เอาติวที่ห้องนายนะ ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม" ห้องผม หึหึคงต้องเก็บทำความสะอาดครั้งใหญ่แล้วละครับ

"ไม่มีปัญหาครับเริ่มสัปดาห์หน้านะครับครั้งนี้พักก่อน"

"วิชาที่เราจะสอบมีอะไรบ้างนายจำได้หรือเปล่า"

"มีห้าวิชาครับ ประวัติศาสตร์ เวทย์มนต์ภาคทฤษฎี เวทย์มนต์ภาคปฏิบัติ การต่อสู้แบบคู่ และวิชาสุดท้ายคือการป้องกันครับ"

"การต่อสู้แบบคู่ต้องสู้กับห้องอื่นไหม"

"ใช่ครับจับคู่ในห้องของตัวเองและวันจริงขึ้นสนามไปสู้กับห้องอื่น"

"เหรอ...นายมีคู่หรือยัง เอ๊ะแต่คนอย่างนายน่าจะมีคู่แล้วนะคู่กับองค์หญิงเมืองข้าง ๆ อะไรนั้นใช่ไหมล่ะ" นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ยเหมือนฉันกำลังน้อยใจอยู่งั้นแหล่ะ 

"ยังครับองค์หญิงบรีทอะไรนั้นนะ เคยมาขอให้ผมเป็นคู่ให้อยู่หรอก แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะเวทย์ของผมกับเธอมันต่างกัน" 

"เวทย์ของนายเป็นการโจมตีเพราะงั้นก็เลยต้องหาเวทย์ป้องกันกึ่งโจมตีใช่ไหมล่ะ"

"ใช่ครับ เพราะผมเจอแล้วละคนที่จะป้องกันหลังให้ผม" วีมองมาหน้าตาจริงจังทำให้มาร์ฟ่ารู้ว่าเขานั้นแหล่ะคือคนที่จะมาป้องกันหลังให้วี

"เอ๊ะ ฉันแต่ยัยองค์หญิงนั้นจะยอมเหรอตื้อนายไม่เลิกขนาดนั้นยัยนั้นชอบนายด้วยไม่ใช่หรือไง"

"ใช่ครับ ตามตื้อไม่เลิกแต่ผมไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย" รอก่อนเถอะถ้าผมยื่นกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน พิธีกาลา กาล่าผมจะขอคุณแต่งงานแน่

"วันนี้พอแค่นี้เถอะพรุ่งนี้นายจะต้องกลับแล้วไม่ใช่เหรอเดี๋ยวพรุ่งนี้นายก็ตื่นสายหรอก"

"ผมก็ไม่เคยตื่นสายหรอกครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ"

"หึ ราตรีสวัสดิ์" 

ทั้งสองคนได้แยกย้ายกลับห้องของตัวเองเพราะใกล้จะถึงเวลาเที่ยงคืนแล้ว ความมืดมิดและความเงียบสงัดก็เกิดขึ้น ภายในสวนที่พวกเขานั่งอ่านหนังสือกันอยู่ได้มีเงาของหญิงสาวผมขาวยาวนัยตาสีส้มอำพันมองดูอยู่ตลอดเวลานั้นไม่ใช่ใครที่ไหนคือเฟพาส อดีตดัชเชสที่ได้เสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนเพราะมนต์ดำของหอคอยมืด

"ข้าอยากเห็นจริง ๆ เลยนะความรักของเจ้ากับวีจะออกมาเป็นแบบไหนกันนะ\~ใช่ไหมคิริว"

กร๊าววว สิงโตตัวน้อยสัตว์เวทย์ของเฟพาสสิงโตทำลายคิริว มีพลังการทำลายสูงกว่ามังกรโบราณโพไซดอนของแอสเตอร์เสียอีก

"ได้เวลากลับไปทำงานแล้วสินะ ไปกันเถอะคิริว" เฟพาสพูดเสร็จก็ได้หายไปพร้อมกับคิริวคู่หูตัวน้อย

ฮอต

Comments

ヌッチです〜〜★彡

ヌッチです〜〜★彡

แอสเตอร์นี่ดุเดือดเหมือนกันนะคะเนี่ย

2024-10-26

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!