...รถม้าขนาดใหญ่มีตราราชวงศ์ที่ประทับมาพร้อมกับอิศวินได้เข้าใกล้เขตแดนเหนือของดยุกเซเกร์ เฮร์ฟ ไมเออร์ ที่เป็นผู้ดูแลทั้งรถม้าขนาดใหญ่พร้อมกับอัศวินได้มาหยุดรงดัชชีคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ออกมาต้อนรับพร้อมกับเหล่าพ่อบ้านและสาวใช้ประจำคฤหาสน์...
..."ยินดีต้อนรับพ่ะย่ะค่ะ อาทิตย์แห่งแสงสว่าง จันทรายามค่ำคืน นภาผู้โอบอุ้ม เชิญเสด็จเข้าไปพักข้างในก่อนพ่ะย่ะค่ะ ในตอนนี้ท่านดยุกทรงออกไปทำธุระด่วน ถ้าหากท่านดยุกมาถึงแล้วกระหม่อมจะแจ้งให้ทราบนะพ่ะย่ะค่ะ"...
..."ขอบใจพ่อบ้านยามะงั้นเราจะเดินเที่ยวชมฤหาสน์รอ"...
..."ให้กระหม่อมเตรียมผู้นำทางให้ไหมพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"...
..."ไม่ต้อง ๆ เรากับครอบครัวมาที่นี่ออกจะบ่อยไม่ต้องเตรียมให้ยุ่งยากหรอก งั้นเราไปล่ะ"...
...หลังจากจักรพรรดิพูดจบเขาและครอบครัวก็เดินเที่ยวชมคฤหาสน์รอท่านดยุกกลับมา...
...กุบกับ กุบกับ กุบกับ ...
...บนรถม้ากำลังมุ่งหน้าไปยังดัชชี...
..."มาร์ฟ่าแกได้เขียนร้องเรียนไปยังมหาดเล็กหรือยังแล้วเขียนว่ายังไง"...
..."อ๋อฉันเขียนส่งไปแล้วให้มิงค์ไปส่งให้นะ ก็เขียนเรื่องขอไต่สวนกรณีการยักยอกเงินประชาชนของบารอน การค้าทาสเด็กที่นำไปเป็นหนูทดลองและอีกเยอะ ส่วนยัยผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าเป็นหลานบารอนก็เลยทำตัวเป็นใหญ่คิดว่าเป็นหลานบารอนจะทำอะไรก็ได้นะสิ"...
...ในชาติก่อนแฟสเซลทำดีกับฉันเพื่อหาผลประโยชน์ในตัวฉันสินะ แต่พอหมดประโยชน์แล้วก็เขี่ยทิ้งทั้งฉันทั้งแอสทัสแต่ว่า...เจ้าหมอนี่ทนมาได้ยังไงกัน ถึงชาติก่อนฉันตายเพราะโดนม้าทับก็เถอะแต่ชาตินี้ก็คงจะไม่ระแวงการขี่ม้าหรอกมั้ง (?) แต่ทำไงได้พลังเวทย์ก็ไม่มีไหนจะทักษะการต่อสู้ก็เป็นศูนย์จะเอาอะไรไปเข้าอะเคเดมี่สถาบันมีชื่อเสียงของจักรวรรดิได้ละ ถ้ามีสิทธิ์จะเข้าก็ได้แค่ห้องธรรมดา แถมท่านพ่อจะต้องแต่งงานใหม่ด้วยแต่ทำไมล่ะ ถึงเราจะรู้สาเหตุที่ท่านแม่หนีท่านพ่อแล้วแต่ทำไมถึงเลือกแต่งงานใหม่ละทั้งที่มีสิทธิ์ปฏิเสธแท้ ๆ คิดไปคิดมาก็ใกล้จะถึงดัชชีแล้วแฮะ...
..."น้องเมลคือพี่มีเรื่องสงสัย น้องเมลอยากจะเข้าเรียนที่อะเคเดมี่หรือเปล่าครับ"...
..."หนูก็ไม่รู้เหมือนกันคะพี่เมฟ หนูพลังเวทย์อาจจะไม่ถึงก็ได้เลยว่าจะสละสิทธิ์ที่จะเข้าเรียนอีกสามปีนะคะ"...
..."ทำไมเมลคิดว่าพลังอาจจะไม่ถึงละ แล้วที่เรียกจิ้งจอกเวอร์บีน่าที่หายสาปสูญไปเมื่อสามร้อยปีก่อนคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะ พ่อจะทำให้ลูกหายข้อสงสัยเองว่าทำไม ลูกถึงมีพลังเวทย์น้อยเพราะฉะนั้นแล้วหลังทานอาหารค่ำเสร็จก็ไปเจอกันที่หน้าผา พ่อจะทำการวัดพลังเวทย์ของลูกให้เองเชิญองค์ชายและองค์หญิงด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ"...
...เมลจะไม่เป็นอะไรแน่นะครับ ทำไมถึงดูกังวลเรื่องพลังเวทย์จัง...
..."เมลผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ"...
..."เอ่อ...ว่ามาสิเพคะองค์ชายสอง" อึก ถึงผมไม่รู้ว่านี้คือความรู้สึกอะไรแต่ทำไมเมลเรียกผมว่าองค์ชายสองกับใช้ทำลงท้ายแบบนั้นผมไม่ชินเลยนะครับเมล...
..."ทำไมเมลดูยึดติดกับพลังอันน้อยนิดของตัวเองแบบนั้นละครับ แถมบางทีตอนอยู่ย่านสลัมก็มักจะดูถูกพลังของตัวเองด้วยนะครับ ผมไม่รู้หรอกครับว่าทำไมเมลคิดแบบนั้นแต่ผมอยากจะบอกเมลเอาไว้ครับ ว่าอย่าดูถูกพลังเวทย์ของตัวเองมากเกินไปครับพลังน่ะไม่ใช่ทุกอย่างของจอมเวทย์หรอกครับ" ไม่ใช่ทุกอย่างจริงด้วยทำไมแอสทัสพูดแค่ไม่กี่คำก็ทำให้ฉันหายคิดมากนะ...
..."ขอขอบพระทัยองค์ชายสองที่ทำให้หม่อมฉันได้ข้อคิดอีกแล้วนะเพคะ" อึก เจ็บจังเลยในที่อกข้างซ้ายเนี่ย...
...ฉันได้ยิ้มอย่างสดใสให้แอสทัส แต่รู้สึกเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่ร้ายแรงมาจากข้างหน้าเลยแฮะ...
...'ตาแก่ปกติรอยยิ้มนั้นของเมลจะต้องเป็นของพวกเราไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไอองค์ชายนี่ถึงได้รอยยิ้มเมลไปง่าย ๆ ล่ะ'...
...'นั้นสิครับผมรู้สึกเริ่มอยากจะเก็บองค์ชายแล้วนะครับท่านพ่อ' ...
...'เฮ้อ...พวกแกสองคนนะหยุดแผ่รังสีได้แล้วเดี๋ยวเมลก็กลัวหรอก'...
...'ตาแก่/ท่านพ่อ นั้นแหล่ะหยุดแผ่รังสีได้แล้วมันเห็นชัดกว่าอีกนะ!!' ทั้งสามก็ได้ลดการแผ่รังสีลง...
..."ทั้งสามคนซุบซิบอะไรกันกันนะค่ะ" ...
..."ไม่มีอะไรหรอกลูกไม่ต้องสนใจพ่อหรอก" เมื่อกี้ตาแก่อย่างแกยังแผ่รังสีอยู่เลยไม่ใช่เหรอไหง่บอกไม่มีอะไร...
..."แล้วก็อีกเรื่องครับ ถ้าอยู่ด้วยกันแบบนี้ผมอยากให้เมลพูดปกติมากกว่านะครับได้หรือเปล่าครับ" ไอหูกับห่างโผล่มาจากไหนเนี่ยอดลูบไม่ได้เลยแฮะขอลูบหน่อยแล้วกัน ฉันได้เอามือไปลูบหัวของแอสทัสไม่ทันได้มองเห็นหน้าของท่านพ่อกับพวกพี่ ๆ ว่ากำลังนั่งแผ่รังสีอยู่...
..."อ๊ะ...ขอโทษเผลอไปลูบซะได้ ทั้งที่ยังไม่ได้ขออนุญาตก่อนแท้ ๆ "...
..."อื้อ อื้อ ไม่เป็นไรหรอกครับอีกอย่างก็ถึงดัชชีแล้วด้วยลงกันเถอะครับ"...
...พี่มาร์ฟ่ากับเมฟลงไปก่อนตามด้วยแอสทัสที่อุ้มซัลเวียที่ป่วยอยู่ลงส่วนท่านพ่อก็อุ้มฉันลงมาที่จริงฉันก็เดินเองได้นะ พอฉันลงรถม้าปุ๊บ ก็เห็นพี่ชายทั้งสองของฉันยืนปล่อยพลังกันไปแล้วครึ่งแถบ...แต่ทำไมต้องมายืนปล่อยพลังหน้าทางเข้าบ้านด้วยล่ะเนี่ยยยย!!! ส่วนพ่อบ้านยามะก็ไปเรียกจักรพรรดิและครอบครัวไปคุยกันที่ห้องรับแขก...
..."ไงเฮร์ฟไม่เจอกันนานเลย โอ๊ะนี้คือลูกสาวที่นายพึ่งหาเจอเหรอ แล้วข้างหลังนั้น-ลูก!!" น้ำตาของผู้เป็นพ่อก็ได้ไหลออกมาเขาพยายามตามหาลูกไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตามในที่สุดก็เจอแล้ว...
..."มีอะไรหรือเพคะฝ่าบา-อะ...แอสทัสซัลเวียแม่คิดถึงพวกลูกมากเลยนะดีใจที่ได้เจอกันอีกแม่ขอกอดหน่อยได้หรือเปล่าจ๊ะ" ...
...ผมได้อุ้มซัลเวียไปอยู่ตรงหน้าของแม่ และคนที่ซัลเวียคิดถึงตลอดก็คือท่านแม่นี้แหล่ะบ่นคิดถึงท่านแม่กับท่านพ่อทุกวัน แต่ผมก็ต้องอดทนและเข้มแข็งไว้ตลอดแต่วันนี้น้ำตาของผมก็ได้ไหลรินและโพล่งเข้าไปกอดท่านพ่อกับท่านแม่ ...
..."วีมาดูน้องสิน้องกลับมาอย่างปลอดภัยแล้วนะจ๊ะ"...
..."อะ แอสทัสซัลเวีย!! พวกน้องปลอดภัยแล้วผมต้องขอบคุณท่านลุงมากเลยนะครับ"...
..."ไม่เป็นไรหรอก มีะไรก็ต้องช่วยกันอยู่แล้วไมใช่เหรอ"...
..."ขออนุญาตครับท่านดยุกผู้ต้องขังที่พาตัวมาจะนำไปขังไว้ชั้นใต้ดินนะครับ"...
..."อื้ม ฝากด้วยมาเช-" ไม่ทันได้พูดจบแฟสเซลในสภาพที่ถูกมัดไว้ได้กรีดร้องออกมา...
..."กรี๊ดดดดด พวกแกเป็นใครนะปล่อยฉันนะปล่อยยยยย!!! กรี๊ดดดอีนางทาสแกกล้าตบหน้าฉันเหรอห๊ะ!!"...
..."เมล !!!!!" ทุกคนต่างตกใจที่เดินเข้าไปตบยัยแฟสเซล ก็ช่วยไม่ได้ยัยนี่มันร้องน่ารำคาญ...
...นี่ลูกเดินไปตอนไหนเนี่ยเมล...
..."แล้วจะทำไมนี้มันยังน้อยไปสำหรับคนอย่างแกด้วยซ้ำ"...
...ไม่ทันพูดจบทหารที่คุมตัวก็เผลอลดแรงทำให้แฟสเซลหลุดออกมาจากเชือกที่คุมตัวอยู่และเข้ามาตบหน้าฉันทั้งตบทั้งจิกสารพัดอย่าง ...
..."หึ แกมีแรงแค่นี้เองเหรอแฟสเซล ตบมาสิฉันจะได้ฟ้องแกข้อหาทำร้ายสี่ตระกูลใหญ่และทำร้ายร่างกายเชื้อพระวงศ์ อันนี้ฉันขอคืน"...
...เพี๊ยะ ผั๊วะ ผั๊วะ ฉันทั้งตบทั้งต่อย...
..."เมลผมว่าพอแค่นี้เถอะแฟสเซลเองก็พอได้แล้ว"...
..."แอสทัสนายลืมแล้วเหรอว่ายัยนี่ทำอะไรกับพวกเราไว้ขนาดซัลเวียก็ไม่เว้น นายลืมแล้วเหรอที่ฉันถูกขายก็เพราะยัยนี้ นายก็เกือบตายก็เพราะยัยนี้ ซัลเวียก็เกือบเอาชีวิตกลับมาไม่รอดก็เพราะยัยนี่!!!"...
..."ลูกพอได้แล้ว ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของมหาดเล็กทหารเอาบารอนกับยัยเด็กไร้มารยาทไปขังไว้ชั้นใต้ดินแล้วก็หมัดแน่น ๆ เตรียมทรงตัวไปพระราชวังในวันพรุ่งนี้"...
..."ฮึก...ฮือ...ทั้งที่หนู...ทั้งที่หนู...ควรจะปกป้องซัลเวียจากยัยนั้นแต่...ฮึก..."...
..."เมลเมื่อกี้ผมขอโทษนะครับที่ไปพูดจาไม่ดีกับเมลไปแบบนั้น"...
..."ไม่เป็นไรหรอกแอสทัสแล้วซัลเวียล่ะ"...
..."ท่านแม่พาไปอาบน้ำนอนแล้วนะ"...
..."เอาละลูกก็ไปทานอาหารค่ำกันเถอะมีของโปรดที่ลูกชอบด้วยนะ" ท่านพ่อจับมือฉันเดินไปยังโต๊ะทานอาหารที่มีอาหารเต็มโต๊ะ...
..."เอ๊ะ...นี่ใช่เฮร์ฟที่รู้จักหรือเปล่าเนี่ย...ไปกันเถอะวีแอสทัส เดี๋ยวพ่อมีเรื่องจะถามพวกลูกสองคนอีกเยอะเลยล่ะ โฮะ โฮะ" ...
..."แล้วท่านแม่ละครับ"...
..."แม่บอกไม่ทานนะแต่ไม่ต้องห่วงหรอกกก"...
..."ฮึ่ย ท่านพ่อเลิกพูดแบบนี้สักทีเถอะครับฟังแล้วมันขนลุก"...
..."โถ่ ๆ ลูกชายคนเล็กของพ่อโตเป็นหนุ่มเข้าวัยต่อต้านแล้วสิน่าาา"...
..."ท่านพี่ช่วยผมด้วยสิครับ"...
..."เจ้าวีรายนั้นไม่ช่วยลูกหรอกนะ รายนั้นกำลังคลั่งรักเลยล่ะ"...
..."คลั่งรัก?" ...
..."เอาล่ะ ๆ ถึงแล้วทานอาหารค่ำกันเถอะ ว่าแต่ลูกชายคนโตนายไปไหนล่ะเฮร์ฟ"...
..."ไปเตรียมสถานที่ใช้วัดพลังของเมล" ...
..."ทานอาหารเสร็จถ้านายว่างมากก็ไปดูได้วีก็เชิญด้วย"...
..."ขอบคุณครับท่านลุง"...
...หน้าผาริกซ์...
...หลังจากที่ทุกคนทานมื้อค่ำแสนอร่อยกันเสร็จก็พากันไปที่หน้าผาริกซ์เพื่อวัดระดับเวทย์มนต์...
..."ฟิกซ์อัญเชิญผู้คุมกฎแห่งโลกวิญญาณกิม รีฟเชอร์"...
..."นายท่านเรียกข้าบ่อยจังเลยนะคะช่วงนี้"...
..."กระจกวัดพลัง เรียกออกมา"...
..."ได้สิคะนายท่าน กระจกเรียกพลังจงออกมา" ฮึ่ยเรียกใช้ข้าบ่อยจริง...
..."พ่อจะสาธิตวิธีการวัดพลังให้ดู ก่อนอื่นแบบมือแล้วเอาไปทาบกับกระจกแบบนี้ จะปรากฎสีแสดงค่าของพลังเวทย์มีทั้งหมดสามระดับ ระดับต่ำคือสีเขียวอ่อน ระดับปานกลางคือสีแดงอ่อน ระดับสูงคือสีฟ้าอ่อน แต่จะพิเศษหน่อยคือจะเรียกสัตว์เวทย์ได้จะต้องเป็นกระจกระดับสูงเท่านั้น และเรียกฟิกซ์ได้เลย...อันเชิญฟิกซ์เครอลและเวรี่ ไงเวรี่"...
...ฟึ่บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ ฮูก ฮูก นกแก้วเครอลได้ออกมาและสัตว์เวทย์อีกตัวคือเวรี่นกฮูกกลางคืน...
..."ระดับของพ่ออยู่ระดับสูงสีฟ้าอ่อน แต่ถ้าระดับต่ำกับระดับกลางฝึกฝนบ่อย ๆ ก็จะขึ้นระดับสูงได้เอง"...
..."ว้าว!!...ท่านพ่อเก่งจังเลยคะ" ...
..."พี่ก็เก่งน่าเมลคอยดู"...
..."เดี่ยวก่อนคะทุกท่าน ข้าจะทำการจัดเรียงการวัดระดับให้แต่ละท่านเรียงตามคิว คนที่หนึ่งองค์จักรพรรดิแอสเตอร์ ฟรอเก็ต เดบูเลน คนที่สององค์ชายรัชทายาทลำดับที่หนึ่งวีเซอร์ ฟรอเก็ต เดบูเลน คนที่สามเซเกร์ มาร์ฟ่า ไมเออร์ คนที่สี่เซเกร์ เมฟ ไมเออร์ คนที่ห้าองค์ชายลำดับที่สองแอสทัส ฟรอเก็ต เดบูเลน คนที่หกเซเกร์ เมล ไมเออร์ ถ้าเช่นนั้นแล้วเริ่มการวัดพลังได้"...
..."ทำไมไม่กลับเข้าร่าง"...
..."นายท่านข้ามีผู้ที่ต้องรับผิดชอบอยู่ในนี้" รับผิดชอบ (?)...
..."ราซจงออกมา...มังกรโบราณโพไซดอน หื้ม พลังเวทย์ระดับสูง" แค่ออกมาเฉย ๆ ก็ดีล่ะจะได้ไม่อาละวาด...
..."เก่งจังครับท่านพ่อ" ผมเดินเข้าไปชม ร่างเล็กเดินเข้าไปชมพ่อของตัวเอง...
..."ขอบใจมากมากแอสทัส" ร่างสูงผู้เป็นพ่อลูบหัวกลับ...
..."ราซออกมามังกรแห่งนภาผู้โอบอุ้มไวท์และปีกแห่งความสิ้นหวังเมอร์ริส ระดับสูงเหรอ"...
..."ว้าว!!...นี่เมอร์ริสที่นายพูดถึงบ่อย ๆ เหรอไอวี"...
..."เมอร์ริสก็แค่นกอีกาปีกหักเท่านั้นแหล่ะครับ อีกอย่างไม่ถูกกับผมด้วยแล้วเมอร์ริสจะถูก (?) กับคุณเหรอครับ"...
...ก๊าก ก๊าก ก๊าก นกอีกาปีกหักเมอร์ริสได้บินมาเล่นมาเกาะบนหัวของมาร์ฟ่า...
..."ไหนว่าไม่ถูกกับฉันไงไอวี นิสัยสัตว์เวทย์ไม่เหมือนกับเจ้าของเลยนี่น่า" มาร์ฟ่ายิ้มแย้มเหมือนทุกทีแต่ครั้งนี้รอยยิ้มนั้นมันพิเศษกว่าเขาได้เจอนกอีกาที่ดูเหมือนเขาจะถูกชะตาเข้าแล้ว...
..."เอ่อ...ผมก็พึ่งเห็นว่าเมอร์ริสไปเกาะบนหัวคนอื่นนอกจากผมด้วย" เป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จังเลยนะครับ ชักอยากเก็บไว้ดูคนเดียว (?) แล้วสิ...
..."เลิกจีบกันต่อหน้าพวกฉันได้แล้วx2" พ่อทั้งสองคนได้บอก...
..."เงียบไปเลย ครับท่านพ่อ/ตาแก่ !! พวกเราไม่ได้จีบกันอยู่"...
..."หึ คอยดูเถอะตาแก่ ฟิกซ์ออกมากระต่ายสี่ฤดูมิงค์ โอ๊ะ ระดับสูงแฮะ"...
...หงิง หงิง กระต่ายสี่ฤดูได้เข้าไปอ้อนวีเซอร์...
..."นี่กระต่ายหรือหมาเนี่ย โอ๊ย โอ๊ย รู้แล้ว ๆ เลิกหันพลังใส่ฉันสักทีฉันเจ้านายแกนะมิงค์!!" กระต่ายที่อยู่กับวีจะหันพลังมาร์ฟ่า...
..."ต่อไปเมฟ" พี่เมฟจะมีพลังเท่าไหร่กันนะ...
..."ฟิกซ์ออกมาเสือป่ามิเสะ ระดับกลางเหรอ"...
..."ลูกเก่งมากฝึกมิเสะอีกหน่อยน่าจะขึ้นระดับสูงได้เลย เดี๋ยวพ่อจะให้ฝึกกับกิมแล้วกัน" อายุสิบเอ็ดได้ระดับกลางก็ถือว่าเก่งมากแล้ว...
...ฟึ่บ มือใหญ่ลูบหัวเมฟลูกคนรองไปมา...
..."ครับท่านพ่อ"...
...นี่ภาระตกที่ข้าเหรอเนี่ยยยยทั้ง ทั้งหนูจิ้กจอก (เมล) ทั้งลูกเสือน้อย (เมฟ) เดี๋ยวจะต้องตกลงกับนายหญิงใหม่หน่อยแล้วว่าต้องเพิ่มเงินเดือนเป็นสองเท่าสักหน่อยแล้ว...
..."พูดว่าราซจงออกมานะแอสทัส แล้วก็ไม่ต้องเกรงด้วย"...
..."ครับท่านพ่อ ราซจงออกมา" ไม่เคยเห็นสัตว์เวทย์ที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย...
..."นั้นมันนกยูงเมฆา!! ที่หายสาปสูญไปเมื่อหนึ่งพันปีก่อนไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังจะมีตัวเหลือรอดอยู่ ลูกฉันเรียกสัตว์เวทย์ระดับสูงได้ขนาดนี้เลยเหรอ"...
...กรู๊ว กรู๊ว กรู๊ว ...
..."มันบอกอยากให้นายตั้งชื่อให้นะแอสทัส"...
..."ชื่อเหรอครับอืม...อ๊ะรู้แล้วต่อไปนายชื่อซูส"...
...กรู๊ว กรู๊ว ...
..."ดูเหมือนเจ้านี่จะชอบนะ ส่วนระดับของนายคือสีเขียวอ่อนระดับต่ำ ถ้าขยันฝึกใช้เวทย์มนต์กับสัตว์เวทย์บ่อย ๆ ล่ะก็เก่งขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่นอนเดี๋ยวฉันจะให้ฝึกกับกิมนะ" นายท่านจะทำแบบนี้กับข้าไม่ได้นะเจ้าค่ะ!!!...
..."เอ่อขอบคุณมากรับท่านดยุก"...
..."ไม่ต้องเรียกฉันแบบนั้นหรอก มันห่างเหินเกินไป เรียกฉันเหมือนที่วีเรียกก็ได"...
..."อ๊ะครับ ขอบคุณครับท่านลุง" หึ เจ้าเด็กนี่เรียนรู้ไวจริง ๆ ...
..."ชักอยากเห็นสัตว์เวทย์ของเมลแล้วสิ"...
..."นั้นสิครับท่านพี่"...
..."ลูกไม่ต้องเกรงนะเมล แล้วก็พลังเวทย์นะถ้าฝึกฝนบ่อย ๆ ก็ เก่งได้เหมือนกัน พูดว่าฟิกซ์จงออกมานะ"...
..."เข้าใจแล้วคะท่านพ่อ ฟิกซ์จงออกม-" อึก อะไรกันเวียนหัว...
...ฟึ่บ เมลได้ตกลงมา สถานที่นั้นมืดมิดแถมมองอะไรไม่ค่อยเห็นอีก...
..."ที่นี่ที่ไหนกัน มีใครอยู่ไหม!! มืดจัง"...
..."เมล เมล แม่อยู่นี่"...
..."ทะ...ท่านแม่ ท่านแม่จริง ๆ หรือค่ะ...
..."ถึงลูกจะเห็นแม่แต่นี้ก็คือจิตวิญญาณของแม่จ๊ะ แม่เฝ้าดูลูกอยู่ตลอดเลยนะคนสวยของแม่ต่อไปนี้จงฟังแม่ให้ดี เพราะแม่มีเวลาไม่มากสัตว์เวทย์ของลูกมีทั้งหมดสี่ตัว ถึงพลังเวทย์หนูจะน้อยแต่แม่ผนึกพลังเวทย์หนูเอาไว้โชคดีอาจจะมาภายในหนึ่งปีหรือสองปี แม่อยากให้ลูกได้เห็นพลังเวทย์ของลูกด้วยตัวเองนะเมล เพราะพลังเวทย์ของลูกนั้นส่องประกายสวยงามมากแต่ก็แข่งแกร่งมากเช่นกันลูกจงไปฝึกพลังเวทย์และสัตว์เวทย์กับกิมซะ"...
..."ทะ...ที่ท่านแม่จะบอกหนูก็คือท่านแม่ผนึกพลังเวทย์หนูเอาไว้และจนกว่าพลังเวทย์จะปลดผนึกต้องรอหนึ่งถึงสองปีก่อนหนูจะเข้าเรียนที่อะเคเดมี่เเหรอคะและระหว่างนั้นให้หนูไปฝึกกับสัตว์เวทย์ของท่านพ่อใช่ไหมค่ะ"...
..."ถูกต้องจ๊ะถึงแม่จะเป็นแค่วิญญาณที่ลูกมองไม่เห็นแต่แม่อยู่กับลูกตลอดนะจ๊ะ ให้แม่ที่ไม่ดีคนนี้กอดหน่อยได้หรือเปล่าเอ่ย"...
..."ฮึก...ท่านแม่คะ!! แงงงแงงง"...
...ฟึ่บ...
...เมลเด็กสาวตัวน้อยได้วิ่งเข้าไปกอดเฟพาสผู้เป็นแม่มีผมยาวสีขาวนัยตาสีส้มอำพันรอยยิ้มเปล่งประกายได้ลูบหัวเด็กน้อยไปมา...
..."ถึงเวลาที่ลูกจะต้องกลับไปแล้วก่อนที่ท่านพ่อของลูกจะทำร้ายสัตว์เวทย์ของลูกนะ ลูกจะต้องเป็นนักเวทย์ที่แข่งแกร่งได้แน่จ๊ะ"...
..."หนูจะต้องไปแล้วเหรอคะพึ่งจะได้คุยกับท่านแม่แค่แป๊บเดียวเอง"...
..."จงระวังหอคอยมืดเอาไว้เพราะมันใกล้จะเข้ามาอีกแล้ว ฝากบอกคิดถึงท่านพ่อกับพี่ ๆ ด้วยนะจ๊ะ"...
...อะไรกันมืดอีกแล้ว เมลได้ลืมตาตื่นขึ้นมา ...
..."ตาแก่ ตาแก่ เมลฟื้นแล้ว" มาร์ฟาบอก...
..."แล้วลูกไปเจออะไรมา"...
..."หนูไปเจอท่านแม่มาคะ"...
..."ฟะ...เฟพาสเหรอ แล้วแม่พูดอะไรกับหนูบ้าง" เฮร์ฟผู้เป็นพ่อนั่งคุกเข่าลงคุยกับเมล...
..."ท่านแม่บอกว่าให้หนูฝึกเวทย์มนต์กับสัตว์เวทย์คะ ท่านแม่ได้ทำการผนึกพลังของหนูเอาไว้ช่วงหนึ่งถึงสองปีนี้ให้ฝึกกับสัตว์เวทย์ของท่านพ่อคะ แล้วบอกว่าให้ระวังหอคอยมืดเอาไว้คะเพราะมันใกล้เข้ามาแล้ว"...
..."ลูกฟื้นก็ดีแล้วสัตว์เวทย์ของลูกรออยู่ตรงหน้ากระจกแล้ว"...
...เมลได้เดินไปที่หน้ากระจกที่มีสัตว์เวทย์ทั้งหมดสี่ตัว ที่สายตากำลังจ้องผู้เป็นนายอยู่ ...
..."เอ่อ...สวัสดีคะเอ่อ...ขอฝากตัวด้วยนะคะ" เมลได้ก้มหัวให้สัตว์เวทย์และสัตว์เวทย์ก็ก้มหัวให้เหมือนกัน...
..."เดี๋ยวพ่ออธิบายสัตว์เวทย์ของลูกให้ฟัง ตัวแรกจิ้งจอกเก้าหางเวอร์บีน่า ตัวที่สองม้าอัลลิคอร์น ตัวที่สามไซเรน ตัวที่สี่พิกซี ทั้งสามตัวนอกจากจิ้งจอกเก้าหางเป็นสัตว์ระดับตำนานทั้งนั้นเลยพ่อก็พึ่งจะเห็นนี่แหล่ะลูกนะเก่งมากนะถึงระดับได้สีแดงอ่อนระดับกลางแต่หมั่นฝึกเยอะเหมือนที่แม่บอกเดี๋ยวลูกก็ไประดับสามได้เอง อย่าลืมตั้งชื่อให้อีกสามตัวของลูกนะ พอดีพ่อมีธุระคุยกับลุงแอสเตอร์เดี่ยวพ่อจะเข้าไปในบ้านก่อนแล้วลูกกับพี่ ๆ ค่อยตามเข้าไปนะ"...
..."คะท่านพ่อ"...
..."ไปกันแอสเตอร์"...
..."ได้เลย ได้เลย พ่อมีธุระจะคุยกับลุงเฮร์ฟหน่อยแล้วพวกลูกค่อยตามไปทีหลังนะ"...
...เฮร์ฟและแอสเตอร์ได้ตรงไปยังห้องทำงานของเฮร์ฟ...
..."ชื่อเหรออ๊ะ...นึกออกแล้วม้าอัลลิคอร์นชื่ออาเรียไซเรนเป็นผู้ชายไคเมียร่าชื่อส่วนพิกซีชื่อคุโระ อ๊ะ ลืมแนะนำตัวไปเลยฉันชื่อเซเกร์ เมล ไมเออร์ นะฝากตัวด้วยอีกที"...
...กร๊าว กร๊าว ฮี่ ฮี่ ขอบคุณขอรับนายหญิง ขอบคุณคะนายหญิงที่ทำให้เราเกิดมา...
..."พะ พูดได้ด้วย"...
..."สัตว์เวทย์พวกนี่จะเหมือนกับข้าคะคุณหนูถึงพวกเขาจะมีปีกมีเขาแต่พวกเขาก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อนคะ เอาล่ะตารางการฝึกซ้อมจะเริ่มขึ้นในอาทิตย์หน้าเราจะไปทำการฝึกที่พระราชวังเพราะมีการป้องกันอย่างแน่นหนาด้วยพลังของจอมเวทย์เรื่องที่ไปพักที่พระราชวังข้าจะคุยกับนายท่านให้ ผู้ฝึกซ้อมมีองค์ชายลำดับสองแอสทัส เมฟ และ เมล ส่วนองค์หญิงหนึ่งหายจากราซเมื่อไหร่ค่อยจะซ้อมให้ทีหลังเอาล่ะพักผ่อนได้"...
...ทุกคนได้แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัยฉันก็ได้บอกฝันดีทุกคนและกับเข้าห้องนอนฮิ ฮิ มีสัตตว์เวทย์แบบนี้โล่งใจขึ้นเยอะเลยอาบน้ำนอนดีกว่า-...
...ก๊อก ก๊อก ...
..."เมลอยู่หรือเปล่าพี่เองนะ"...
..."หือ พี่มาร์ฟ่าเหรอ เข้ามาได้เลยคะ!"...
...แอ๊ดดด เสียงเปิดประตูดังขึ้น...
..."เมลกำลังทำอะไรอยู่เหรอ"...
..."คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปนะคะพี่มาร์ฟ่ามีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"...
..."อ๋อ ตาแก-เอ้ยท่านพ่อนะฝากพี่มาบอกเมลว่าวันมะรืนไปพระราชวังกันเมลต้องไปเป็นพยานตัดสินโทษกับแอสทัสนะ"...
..."เข้าใจแล้วคะ ต้องเก็บของไหมคะ"...
..."ไม่ต้องหรอกเรามีบ้านพักในเมืองหลวงอยู่นะ"...
..."เข้าใจแล้วคะ ขอบคุณที่มาแจ้งให้ทราบนะคะ"...
..."ขอโทษที่พี่มารบกวนตอนที่เมลจะอาบน้ำนะ"...
...แกร๊ก มาร์ฟ่าได้ออกไปเมลก็ได้อาบน้ำนอน...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 12
Comments