ตอนที่ 3 น่ารังเกียจ

ถึงช่วงใกล้เวลารับประทานอาหารเย็นท่านดยุกได้กลับมายังดัชชี ดยุกได้เดินเข้าไปห้องทำงานของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้า

อีกด้าน มาร์ฟ่าลูกชายคนโตกำลังสะสางงานที่ทำค้างเอาไว้แทนดยุก ส่วนเมฟและเมลก็อยู่ในห้องของตัวเองเมฟนั่นกำลังทบทวนบทเรียนที่จะใช้ในการเปิดภาคเรียนฤดูหนาวส่วนเมลนั่นกำลังนอนหลับด้วยความเพลีย

จากการเดินทางมาดัชชี ได้เวลารับประทานอาหารเย็นมาร์ฟ่าก็ได้ไปเรียกเมฟและเมลและกำลังมุ่งหน้าไปยังห้องอาหาร

ห้องอาหาร

"มากันแล้วเหรอ นั่งสิ" พูดจบท่านพ่อก็เดินมาอุ้มฉันแล้วไปนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ ท่านพ่อ หลังจากนั้นสาวใช้นำอาหารและของหวานชนิดต่าง ๆ มาไว้ข้างหน้าโต๊ะ

"น้องเมลทานได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงและทานเท่าที่ทานได้เลยครับ" ท่านพี่เมฟที่นั่งอยู่อีกฝั่งพูดขึ้นเพราะกลัวฉันเกรงหรือเปล่านะ จากนั้นท่านพ่อก็ตักอาหารมาใส่จานของฉันเพียบเลย แถมบางอย่างหันพร้อมทานแล้วด้วย แถมยังไม่หยุดอีกกะจะให้ฉันทานให้หมดนี้เลยหรือไงตายกันพอดี

"ท่านพ่อพอแล้วคะ มันเยอะเกินไปไม่งั้นหนูจะทานไม่หมดนะคะ" ฉันพูดไปแบบท่านพ่อก็หยุดและหันไปทานอาหารของตัวเอง งอนหรือเปล่าเนี่ย

"จริงสิตาแก่การประชุมวันนี้เป็นยังไงบ้าง" มาร์ฟ่าเอ่ยถามท่านพ่อ

"ก็โอเค แอสเตอร์กับจูเลียก็กำลังตามหาลูกชายคนรองกับลูกสาวคนเล็กอยู่"

"แอสเตอร์กับจูเลียหรอะ?" ตามจริงฉันก็รู้อยู่แหละว่าเป็นใคร

"แอสเตอร์คือจักรพรรดิส่วนจูเลียคือจักรพรรดินีนะลูก ตอนนี้ลูกชายคนรองและลูกสาวคนเล็กของทั้งคู่หายไป" ท่านพ่อตอบฉันแบบนั้น

"หนูเคยอ่านหนังสือพิมพ์อยู่นะคะ ไม่ใช่จักรพรรดิและจักรพรรดินีมีโอรสแค่องค์เดียวเหรอคะ"

ตอนฉันตายในชาติที่แล้วม้าที่ขี่มาทับฉันคือม้าของราชวงศ์ไม่ผิดแน่แต่เป็นของใครกันละถ้าไม่ใช่ของจักรพรรดิและจักรพรรดินี บางทีอาจจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้

"เรื่องนั้นแอสเตอร์กับจูเลียมีลูกทั้งหมดสามคน องค์ชายหนึ่งเป็นคนที่มาร์ฟ่าสังกัดทำงานด้วยอยู่คือองค์ชายรัชทายาทวีเซอร์ ฟรอเก็ต เดบูเลน ส่วนองค์ชายสองพ่อเคยได้ยินพวกขุนนางพูดกันมา ว่ากันว่ามีเส้นผมสีเหลืองทองมีนัยตาสีฟ้าเหมือนอัญมณีเหมือนจะชื่อว่าแอสทัส ฟรอเก็ต เดบูเลน ล่ะมั้ง ส่วนองค์หญิงหนึ่งพ่อเคยเห็นหน้าตอนที่เธอยังเด็กองค์หญิงนั้นมีผมที่ยาวสีเหลืองทองสวยนัตตานั้นสีฟ้าดั่งอัญมณีถ้าพ่อจำไม่ผิดน่าจะชื่อซัลเวียนะ พ่อจำได้แค่นั้นแหละ" ดูจากที่ท่านพ่อพูดมาดูจะคับคล้ายคับคราวเคยเห็นและได้ยินที่ไหนนะ

"เมลเป็นอะไรไป" มาร์ฟ่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถามฉัน

"เปล่าคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรหนูแค่เคยได้ยินชื่อองค์ชายสองกับองค์หญิงหนึ่งจากที่ไหนนี่แหละคะ"

"เมลลูกเคยได้ยินแน่นะ จำได้หรือเปล่าว่าได้ยินจากที่ไหน" ท่านพ่อถาม

"แต่ก่อนหนูเคยอยู่ย่านสลัมคะมีเพื่อนชื่อแอสทัสกับซัลเวียน้องสาว หนูไม่ว่าจะใช่คนเดียวกันที่พวกท่านพ่อตามหาหรือเปล่าหรืออาจจะเป็นคนที่ชื่อเหมือนก็ได้นะคะ" ฉันพูดออกไปแบบนั้นแต่ท่านพ่อก็ช็อคน่าดู

"ย่านสลัมหรอครับ น้องเมลจำได้ไหมว่าอยู่ตรงไหน หรือจำชื่ออะไรแถวนั้นได้หรือเปล่าครับ" เมฟพูดขึ้นมา

"ถ้าหนูจำไม่ผิดก็น่าจะข้างโบสถ์เซนต์พอลมั้งคะ" เอ่อทำไมหน้าตาพากันตกใจจังเลยละก็แค่ย่านสลัมเองนะ

"เอาล่ะ ๆ นี่ก็ดึกแล้วพากันอาบน้ำเข้านอนกันได้แล้ว อ่อเมลเดี๋ยวรีย์เชลจะเป็นสาวใช้ใหลูกนะ ทหารส่วนตัวของลูกเดี๋ยวพ่อค่อยดูให้อีกที พรุ่งนี้เราจะต้องเตรียมตัวไปย่านสลัม เพราะฉะนั้นเข้านอนกันเร็วด้วยนะเด็ก ๆ "ท่านพ่อตัดบทพูดจบทุกคนก็ต่างแยกย้ายพากันไปห้องของตัวเองหลังทานอาหารร่วมกันเสร็จ

ห้องนอนเมล

"หนูเมลเดี๋ยวพี่วางชุดนอนของหนูเอาไว้ตรงชั้นวางหน้าห้องน้ำนะจ๊ะ มีอะไรก็เรียกพี่ได้เลยนะจ๊ะกระดิ่งนี่พี่จะวางเอาไว้ตรงลิ้นชักหัวเตียงของหนูนะจ๊ะ" หลังจากที่พี่รีย์เซลออกไปฉันก็เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ชุดที่เตรียมให้นี่มันชุดนอนลายกระต่ายนี่น่าาาา!! แถมเป็นสีชมพูด้วยอีกต่างหากเห้อฉันยอมพี่รีย์เชลจริง ๆ

ห้องนอนมาร์ฟ่า

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"เข้ามา อ้าวก็นึกว่าใครที่แท้ก็ตาแก่นี่เองยังไม่ไปนอนอีกเหรอ"

"ถ้าฉันเข้านอนแล้วแกยังจะเห็นฉันในตอนนี้อยู่ไหม"

"แล้วเข้ามานี่มีเรื่องอะไรให้ผมช่วยไหมล่ะครับท่านพ่อ\~"

"ได้ยินว่าวีส่งจดหมายมาหาแกไม่ใข่เหรอ"

"มันก็ใช่อยู่\~ เดี๋ยวไปได้ยินมาจากไหนเนี่ยตาแก่!" จึกเลยตาแก่เหรอ!

"ก็ได้ยินมาจากเมฟ และฉันไม่ใช่ตาแก่อีกอย่างฉันพึ่งจะสี่สิบเองแล้วเนื้อความในจดหมายว่ายังไงบ้าง" หน๊อยเมฟฉันจะเอาคืนแก— //เมฟ:ฮัดชิ้ว! ใครนินทาผมเนี่ย

"ก็ไอบ้าวีมันจะไปตามหาน้องมันเองนะสิฉันยังไม่ได้ตอบจดหมายกลับไปเลยก็ว่าจะรอถามตาแก่อยู่นั่นแหละ" มาร์ฟ่าทำหน้าตาเป็นกังวล

"ฉันเข้าใจนะว่าแกนะเป็นเพื่อนห่วงเพื่อน (ที่ไม่ใช่เพื่อน)  แต่การที่ให้องค์ชายลำดับที่หนึ่งออกตามหาด้วยตัวเองมันเสี่ยงอันตรายเกินไปถึงวีจะแข่งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม ฉันให้คำตอบที่แกค้างคาใจได้เท่านี้ถ้านายฉลาดพอที่เหลือก็ไปคิดเอาเองจะส่งจดหมายตอบกลับไปบางที่เจ้าวีนั้นอาจจะรออยู่ก็ได้" ฉันช่วยแกไม่ได้มากก็จริงแต่ฉันเชื่อว่านายจะต้องหาคำตอบที่สมเหตุสมผลแน่นอน เอาล่ะไปขอให้องค์จักรพรรดิบ้านั้นออกกฎหมายเท่าเทียมดีไหมนะ\~ ไม่ว่าเพศไหนก็แต่งงานกันได้ไม่สนว่าจะเป็นชายหรือหญิง ก่อนอื่นก็ไปขอร้องเรียนก่อนละนะ

"ตาแก่เป็นอะไรไป ขาดสติแล้วหรือไงยืนยิ้มอยู่คนเดียวอยู่ได้น่าขนลุกเป็นบ้าเลย ไปได้แล้วคนเขาจะหลับจะนอน" มาร์ฟ่าพูดจบก็ดันหลังผู้เป็นพ่อออกจากห้องของตัวเอง

"โถ่\~อะไรกันนี่แกจะเรียกฉันดี ๆ ไม่ได้หรือไงมาร์ฟ่า"

"มันเรื่องของฉัน ตาแก่อย่างแกไม่ต้องยุ่ง!!" ปัง! มาร์ฟ่าปิดประตูใส่เฮร์ฟ

เห้อ...เฟพาสฉันจะทำยังไงดีกับลูกชายตัวแสบดีเนี่ยเหมือนเธอซะจริงเลย ดยุกได้แต่บ่นในใจแล้วเดินเข้าห้องตัวเองที่ไม่ไกลจากห้องของมาร์ฟ่าภายในห้องมีเตียงสีขาวขนาดใหญ่ที่นอนได้สามถึงสี่คน ชายร่างสูงเดินเข้ามาในห้องฟุบลงกับเตียงสีขาวขนาดใหญ่ เขานั่นเหนื่อยล้ามาทั้งวันได้ล้มนอนลงคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ภายในความคิดแวบเดียวก็เผลอได้คิดถึงหน้าของหญิงสาวที่มีผมสีขาวยาวราวกับนางฟ้ามีนัยตาสีส้มอำพันมีรอยยิ้มที่สดใสราวกับถูกต้องมนต์สะกดที่ถูกดึงดูดด้วยรอยยิ้มนั้นใช่เขากำลังนึกถึงเฟพาสภรรยาสุดสวยของเขาที่เธอได้จากไปแล้ว แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมพลังเวทย์ของคนที่เขารักนั้นถึงได้ไปอยู่กับลูกสาวตัวน้อยของเขาได้ เขาก็ได้แต่คิดซ้ำวนไปวนมาแบบนั้นและเขาก็เผลอหลับไปราวกับมีคนบอกว่าวันนี้ตัวเขานั้นเหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้วมีเงาคล้ายวิญญาณโผล่มาลูบผมสีดำขลับที่กำลังหลับไปมานั้น และได้พูดบางอย่างกับหญิงสาวที่เป็นสัตว์เวทย์ที่กำลังตกใจ

"เฮร์ฟเจ้าคงเหนื่อยมากสินะงั้นวันนี้พักเถอะ...

กิมเจ้ามาแล้วหรือ ข้ารอเวลานี้มาตลอดแต่ข้าก็อดเป็นห่วงเฮร์ฟกับลูก ๆ ตัวน้อยของข้าไม่ได้ ข้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าทำนั้นไม่ผิดนะ ที่ข้าลงมายังโลกมนุษย์แต่ข้าไม่ได้มาในฐานะเฟพาส แต่ข้ามาในร่างของวิญญาณข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะตกใจไปบ้างแต่ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือคอยดูเฮร์ฟมาตลอด ใช่ไหมล่ะผู้คุมกฎแห่งโลกวิญญาณกิม รีฟเชอร์" หญิงสาวในร่างวิญญาณพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและเน้นคำลงท้าย

"เป็นเกียรติมากที่ได้พบดัชเชสแห่งดัชชีทิศเหนือหรือนายหญิงโลกวิญญาณ แต่ข้าไม่เข้าใจที่ท่านบอกข้าว่าท่านรอข้ามาตลอด" สัตว์เวทย์อย่างกิมเอ่ยถามดัชเชสที่อยู่ตรงหน้า

"ก่อนอื่นเราเปลี่ยนที่คุยกันก่อนดีกว่า" หญิงสาวในร่างวิญญาณได้จุมพิตไปที่หน้าผากของชายวัยกลางคนที่กำลังหลับไหลอยู่ในห้วงนิทราก่อนที่จะลอยไปทางหน้าต่างและกิมก็บินตามมา

"ถึงข้านั้นจะเป็นวิญญาณแต่ข้าก็สามารถรับรู้ความรู้สึกของเฮร์ฟได้ เขายังอาลัยอาวรณ์ที่ตายไปและหันหลังให้กับสมรภูมิที่มีแต่การการฆ่าฟันเลือดสาดนั่น ถึงข้าจะตายไปได้สองปีแต่ข้าก็ยังอดเป็นห่วงลูกสาวตัวน้อยและลูกชายตัวแสบไม่ได้เช่นกัน ตอนนี้เฮร์ฟเขารู้พลังในตัวของเมลแล้ว นั้นเป็นครึ่งหนึ่งของพลังข้าที่หยุดยั้งไม่ให้เมลนั้นเกิดเหตุการณ์พลังเวทย์เข้าแทรกเด็กคนนั้นมีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งมากเลยที่เดียว ข้าก็เลยระงับพลังเวทย์เอาไว้ก่อน พลังเวทย์ของเมลนั้นข้าปลดขีดจำกัดไว้ตอนเมลนั้นอายุเก้าปีก่อนที่จะเข้าเรียนที่อะเคเดมี่ข้านั้นกลัวนางจะรับไม่ไหวข้าก็เลยจะมาขอร้องเจ้าเป็นครูสอนให้เมลควบคุมพลังเวทย์ ได้หรือไม่กิม" หญิงสาวในร่างวิญญาณก้มศีรษะขอร้องสัตว์วิญญาณที่อยู่ข้างหลังตน

"มาแบบนี้ข้าก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เห้อ...เอาเป็นว่าข้าตกลงที่จะสอน แต่ข้าไม่รับรองชีวิตว่าเจ้าหนูน้อยของท่านจะว่ารอดชีวิตหรือเปล่า ก่อนอื่นดัชเชสเงยหน้าขึ้นเถิด จะมาก้มหัวให้ข้าที่มียศต่ำกว่าท่านได้อย่างไรกัน อีกอย่างข้าสงสัยทำไมดัชเชสไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกเจ้านายเองละ" สัตว์เวทย์ถามด้วยความสงสัย

"ก็เป็นเพราะ...ข้าปรากฏตัวต่อหน้าเฮร์ฟไม่ได้เจ้าก็รู้ว่าถ้าเฮร์ฟเห็นข้าในร่างวิญญาณคนที่ถูกลงโทษจะเป็นข้า"

"แล้วทำไมดัชเชสไม่เขาฝันล่ะ ถ้าเข้าฝันก็จะไม่ผิดกฎและไม่ถูกลงโทษด้วยนะดัชเชสและอีกอย่างท่านนะไปแค่สองปีก็กลายเป็นนายหญิงแห่งโลกวิญญาณแล้วนะตามปกติใช้เวลานานกว่าร้อยปีเชียว ท่านตำแหน่งสูงขนาดนั้นไม่เห็นจะต้องสนใจกฎเกณฑ์อะไรพวกนี้เลยนี่นา"

"ที่ข้าไม่อยากเข้าฝันก็เพราะว่าข้าอยากให้เขาลืมข้าให้ได้และใช้ชีวิตต่อไปพร้อมกับลูก ๆ ถึงข้าจะเป็นนายหญิงอะไรนั้นข้าก็ไม่สนใจหรอก กฎหมายทั้งหมดสามสิบกฎนั้นถึงข้าจะทำขึ้นมาเองแต่ถ้าผู้นำไม่ทำตามกฎแล้วแบบนี้ลูกน้องจะเคารพได้อย่างไรกันล่ะจริงไหม" ดัชเชสคนนี้ไม่ทำธรรมดาจริง ๆ

"เอาล่ะเจ้าก็กลับไปได้แล้วงั้นข้าก็ขอฝากเฮร์ฟและเมลด้วยนะกิม"

"รับทราบ ๆ ท่านดัชเชสแห่งดัชชีทิศเหนือ" คิคิน่ารักจริงเลยสมแล้วที่ข้าไว้ใจให้เจ้าช่วยดูแลเฮร์ฟจากนั้นร่างของหญิงสาวก็ได้หายไป

อีกด้านหนึ่ง ย่านสลัมของโบสถ์เซนต์พอล

ชิ ย่านนี้มันไม่พอที่จะเรียกอัศวินของจักรวรรดิได้เลย หวังว่าเสด็จพ่อและเสด็จพี่จะตามหาน้องกับซัลเวียอยู่นะ เด็กชายสถบคำอย่างลำบากใจ นี้ข้าใช้ชีวิตแบบนี้มานานปีแล้วเนี่ย แถมซัลเวียยังมาเป็นราซเวลาอีกถ้าทนไม่ได้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง พอเขาคิดจบก็หันไปมองเด็กหญิงที่อายุน้อยกว่าเขาตรงหน้า ปานนี้เจ้าจะเป็นอย่างไรบ้างเมลเจ้าจะมีความสุขหรือเปล่าหลังจากไปอยู่กับครอบครัว เจ้าคงอยู่สบายดีสินะเมลข้าก็ได้แต่หวังว่าเจ้าจะมีแต่ความสุขนะ เด็กชายตัวน้อยก็ได้หันไปมองหน้าที่ทรุดโทรมและได้นอนหลับไป

เช้าวันต่อ ณ ดัชชีคฤหาสน์ทางทิศเหนือในเวลาเช้าตรู่ท่านดยุกได้เดินทางออกจากคฤหาสน์ ตรงไปยังย่านสลัมข้างโบสถ์เซนต์พอลโดยมีเหล่าลูกชายและลูกสาวตามมานำทางโดยทหารประจำตระกูล

ย่านสลัมข้างโบสถ์เซนต์พอล

"มาเชลเจ้าไปตามผู้คุมการเขตนี้มาให้จับเป็น ส่วนรีย์เชลเจ้าไปสืบประวัติผู้คุมแถวนี้งบประมาณและกองถุนสนับสนุนการอยู่อาศัยของประชากรด้วย"

"รับทราบคะ/ครับ ท่านดยุก" หลังจากที่ท่านพ่อส่งคนไปจัดการงานของตัวเองแล้วพวกเราก็เดินไปเรื่อย ๆ ไม่คิดว่าฉันจะได้เจอกับหล่อนอีกรอบนะ

"นี่นางทาสยังมีหน้ามาให้ฉันเป็นอีกเหรอ ได้ยินว่าถูกขายแล้วนี่น่าคงจะโดนเขี่ยทิ้งเพราะเป็นตัวโชคร้ายสินะเนี่ย!!" ยัยตัวประหลาดโผล่มาอีกแล้ว

"ฉันจะถูกขายหรือเปล่าก็เป็นเรื่องของฉัน" ยัยนี่คิดแล้วก็อดโมโหไม่ได้แต่ชีวิตเธอก็ต้องเป็นไปตามชะตากรรมชาติก่อนทำกับฉันไว้ยังไงชาตินี้ฉันจะเอาคืนให้สาสมหลายเท่าเลยคอยดู

"คงจะถูกเขี่ยทิ้งสินะ หล่อนเนี่ยไม่สนใจมาทำงานกับท่านบารอนฟิเซเออร์เหรอเขาดูแลฉันดีมากเลยนะ" หญิงสาวที่ดูโตกว่าเมลพูดเยาะเย้ยใส่

"แฟสเซลฉันจะบอกให้นะว่า ฉันไม่ต้องการและอีกอย่างฉันไม่ได้ถูกขาย" หึคิดว่าฉันโง่หรือไง (ก็ไง่จริงแหละ) ฉันรู้นะว่าเธอถูกขายแต่สงสัยกลัวยอมรับความจริงไม่ได้

"อ่าวหรอสงสัยแหล่งข่าวผิดพลาด ถ้างั้นถ้าเธอไม่ได้ถูกขายเธอก็คงถูกครอบครัวรับไปเลี้ยงใช่ม่าาา\~ โอ๊ะลืมไปเธอไม่มีครอบครัวนี่น่า\~" จี๊ดเลยด่าฉันได้แต่อย่ามาด่าครอบครัวของฉันนะ

เพี๊ยะ!! เสียงตบหน้าของหญิงสาวที่สนั่นดังไม่ว่าใครก็ต่างได้ยินและมามุงดูไม่เว้นแต่ท่านพ่อและท่านพี่

"กรี๊ดดดดดดด!! นี่นางทาสแกกล้าตบหน้าฉันเหรอ แกกล้าเหรอ!! คอยดูฉันจะฟ้องท่านบารอน" หญิงสาวที่โดนตบ เกิดโวยวายขึ้นมาและเหตุนั้นเองทำให้ท่านพ่อและท่านพี่ที่กำลังคุยกันได้วิ่งมาดู

"จะฟ้องก็ฟ้องสิโตขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกขี้ฟ้องอีกเหรอ!!" ฉันพูดโตกลับไป

"หน็อยแน่แก" หลังจากนั้นยัยนั้นก็เดินมาทางฉัน

เพียะ เสียงตบหน้าที่ทำให้ฉันหน้าหันได้ได้อยากเอาแบบนี้ใช่ไหมแฟสเซลฉันจะสนองความต้องการของเธอให้

"เป็นไงแค่นี้คิดว่าแกไม่ตายง่าย ๆ หรอก"

"เดี๋ยวรอฉันคิดก่อนนะว่าเคยทำอะไรฉันไว้บ้างอืม...ก็เยอะแหละแต่อันนี้น่าจะเหมาะกับแกสุด" จากนั้นฉันก็จิกหัวยัยนี้และลงไปถูไถไปมากับพื้นดินที่สกปรก

"กรี๊ดดด นี่แกยัยอัปลักษณ์"

"ฉันอัปลักษณ์เหรอ พวกท่านพี่กับท่านพ่อยังไม่เคยว่าฉันอัปลักษณ์สักครั้งแกเป็นใครมาว่าฉันอัปลักษณ์!! ฉันจะบอกให้นะคนอย่างแกอยู่ไปก็รกหูรกตาฉัน ฉันจะบอกอะไรให้อีกอย่างนะแกทำฉันฟิวส์ขาดตั้งแต่มาด่าครอบครัวฉันแล้วเตรียมรับบทลงโทษเอาไว้ซะเถอะ"

"ถุย...คนอย่างแกจะทำอะไรฉันได้"

"หึ...ทำได้กว่าแกเยอะก็แล้วกัน" จากนั้นมีพลังบางอย่างพุ่งขึ้นมาในตัวฉัน อึกแย่ล่ะควบคุมสติไม่ได้...จากนั้นแววตาของฉันได้เปลี่ยนไป

"เจ้าสินะที่ทำให้ข้ารู้สึกโกรธ..." ฟิกซ์!! ต้องรีบพาเมลออกมา

"ท่านพ่อแบบนี้ผมว่าควรไปหยุดน้องนะครับ" เมฟพูดขึ้นมา

"นี่เมลสงบสติลงก่อนนะ เมลลืมแล้วเหรอว่าเรามาที่นี้เพื่ออะไร" มาร์ฟ่าเข้ามาเตือนสติฉัน...ใช่ฉันมาที่นี้เพื่ออะไรรีบจัดการยัยนี่ให้จบเลยดีกว่า

"ท่านพี่มาร์ฟ่า...ก็ได้ค่ะแต่หนูก็จะไม่ฆ่ายัยนี่ก็ได้แต่ว่าเอายัยนี่ไปประหารข้อหาทำร้ายสี่ตระกูลใหญ่"

"อะไรนะ งั้นแสดงว่าที่มานี้ก็คือดยุกเซเกร์และลูก ๆ งั้นเหรอแต่ว่าประหารนี่ไม่มากไปหน่อยหรอ

"เจ้านี่คิดอะไรประหลาดอีกแล้ว แม่หนูน้อยผมขาวคนนั้นเป็นฝ่ายถูกกระทำนะ ส่วนยัยแฟสเซลต่างหากที่ไปว่าครอบครัวท่านดยุกก่อน" ประชากรได้เริ่มมามุงดูอีกจนได้ว่าวันพรุ่งนี้อาจจะเป็นข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหน่ึงเลยก็ได้

"เดี๋ยวฉันจะไปพาเมลออกมา พวกแกหลบไปอาจจะเป็นอันตรายก็ได้ถ้าโกรธอาจจะเกิดเหตุฟิกซ์ได้เพราะงั้นพาประชาชนหลบไป" ทั้งสองพยักหน้าและพาประชาชนหลบไปที่ที่ปลอดภัยจากรัศมีของฟิกซ์ ตอนนี้ในบริเวณเหลือแค่เมล แฟสเซล และ ดยุกเซเกร์

"ลูกสงบสติก่อนและเอาเท้าออกจากหน้าแม่หนูคนนั้นด้วย"

"นี่ท่านพ่อคิดจะช่วยยัยนี่หรอค่ะ" ฉันไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เลยทำไมท่านพ่อต้องช่วยยัยนี่ด้วย

"อ้วยอ้วยอ่ะ (ช่วยด้วยคะ)" หลังจากที่ฉันเอาเท้าออกจากหนังหน้ายัยนี้แล้วก็ไปเกาะแขนท่านพ่อทันทีเลย

"อย่ามาจับเอามือสกปรกออกไป" ดยุกได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและสบัดแขนของเธอออกมองด้วยสายตาน่ารังเกียจ ยัยนี่อะไรเนี่ยถ้าเกิดเมลไม่อาละวาดเพราะฟิกซ์ก็แล้วไป

"ก่อนที่เราจะไปงั้นก็ขอ..." ฉันนั้นได้เรียกสัตว์เวทย์ออกมาโดยไม่รู้ตัวและสลบไป

"เมลลูกฟื้นขึ้นมาสิ เมล!! มาร์ฟ่า เมฟ!! พาเมลไปพักก่อนที่เหลือเดี๋ยวพ่อจะจัดการเอง เฌอร่า" หลังจากที่ท่านดยุกร่ายเวทย์นั้นก็ได้มีเชือกเขามารัดตัวของแฟสเซลและไม่ลืมที่จะเอาเทปมาปิดปากไว้

"เอาล่ะที่นี้จะจัดการกับเจ้านี้ยังไงดี น่าจะพอทำให้สงบลงอยู่หรอกแต่ถ้าสัตว์เวทย์เสียหายเจ้าของก็จะได้รับบาดเจ็บไปด้วยงั้นเอาเจ้านี่ไปจัดการแล้วกัน...ฟิกซ์เครอลจงออกมาอย่าทำให้สัตว์เวทย์ของเมลเกิดอันรายแค่ทำให้สงบลงก็พอ" เครอลเป็นนกแก้วที่มีขนสีเขียวเงางามและไม่ใช่นกแก้วธรรมดา แต่เป็นนกเวทย์ที่มีพลังเวทย์สูงมากถ้าผู้ใช้ไม่แข็งแกร่งก็อาจะตายได้ทันที สัตว์เวทย์ที่เมลอัญเชิญมานั้นเป็นสัตว์สี่ขามีขนสีเทาฟูฟ่องมีหางเป็นเอกลักษณ์และมีหน้าดุร้ายนั้นก็คือจิ้งจอกเก้าหางเวอร์บีนาที่หายสาปสูญไปตั้งแต่สามร้อยปีก่อนแแต่ตอนนี้ถ้ามันสงบลงได้ก็ดี

กร๊าวววว!! จิ้งจอกเก้าหางนั้นได้ปล่อยพลังบอลไฟสีฟ้าออกโจมตีนกแก้วเครอล

ฟึ่บ!! นกแก้วเครอลได้ใช้ปีกป้องกันและโจมตีกลับด้วยบัตเตอร์บรีฟคล้ายบูมเมอแรงออกมาจากปีกและหยุดการโจมตีของจิ้งจอกเก้าหางได้และจิ้งจอกเก้าหางก็ได้กลับเข้าไปในตัวของเมล

"เครอลนายเก่งมาก เดี๋ยวพวกฉันจะกลับมานะนายช่วยดูยัยคนนี้ให้หน่อยได้ไหม"

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

"ไม่ได้เหรอแต่กลับไปฉันมีของกินให้นายด้วยนะ"

จิ๊บ จิ๊บ จากนั้นเครอลนกแก้วก็ได้เฝ้าดูแฟสเซลไม่ให้หนีไปส่วนท่าดยุกก็เดินไปหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

"เมลยังไม่ฟื้นอีกเหรอ"

"ยังครับน่าจะเป็นผลกระทบของการเรียกใช้ฟิกซ์ครั้งแรก" อืมมม...ก็ช่วยไม่ได้นะบรรพบุรุษบางคนใช้ฟิกซ์แล้วอาการหนักกว่านี้ก็มียังดีที่แค่สลบไป

ในความฝันได้เงาคนปรากฎขึ้นมาอยู่ตรงหน้าเมลและได้พูดอะไรบางอย่างกับเธอ

"นั้นใคร"

"พวกเขาคือสัตว์เวทย์ของลูกเมล" เสียงของหญิงสาวที่นุ่มละมุนใบหน้าที่มองดูแล้วรู้สึกคุ้นเคยความรู้สึกที่หวนคิดถึงแบบนี้เหมือนเคยเจอมาก่อน

"มาแล้วหรือเจ้านายพวกข้ารอเวลานี้มาลอด...รอเวลาที่จะได้ไปอยู่กับท่าน"

เมลได้ฟื้นขึ้นมาและมองคนรอบข้างด้วยหน้าตาที่เป็นห่วงไม่เว้นแต่ท่านพ่อ

"เป็นไงบ้างลูกลุกไหวหรือเปล่า" ท่านพ่อถามด้วยความเป็นห่วงฉัน

"ดื่มน้ำก่อนนะครับและพักสักหน่อยจะได้เดินทางกันต่อ" เมฟพูดพร้อมยื่นกระบอกน้ำมาให้ฉัน

"ว่าแต่เมลนี้อีกไกลไหมกว่าจะถึง"

"ไม่ไกลคะ ใกล้จะถึงแล้ว"

หลังจากที่พวกเราหยุดพักสักหน่อยก็ได้เดินทางต่อ ตรงไปยังบ้านพักที่ทรุดโทรมเกือบจะพังภายนอกนั้นมีกระถังต้นไม้ที่เหี่ยวเฉามีพืชที่ไม่ได้รดน้ำและมีประตูที่เกือบพัง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้นและมีเงาเด็กผู้ชายเดินออกมาเปิด

ฮอต

Comments

ヌッチです〜〜★彡

ヌッチです〜〜★彡

สมควรแล้วเด็กผี ไปทำลูกดยุกก่อนถถถ.สงสารชีวิต😡

2024-10-23

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!