มหาสงครามแห่งดารา: บทเพลงแห่งอัคคีและน้ำแข็ง

มหาสงครามแห่งดารา: บทเพลงแห่งอัคคีและน้ำแข็ง

ตอนเดียวจบ

ในดินแดนอันไกลโพ้น เบื้องหลังม่านหมอกแห่งกาลเวลาและห้วงอวกาศอันเวิ้งว้างไร้ขอบเขต ณ ที่แห่งนั้นมีดวงดาวน้อยใหญ่ส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณี ดวงดาวแต่ละดวงล้วนมีเรื่องราว มีอารยธรรม มีชีวิต และมีเวทมนตร์ ท่ามกลางดวงดาวเหล่านั้น มีดวงดาวดวงหนึ่งนามว่า "อาร์เคเดีย" ซึ่งเป็นดวงดาวแห่งความสมดุล เป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธุ์มากมาย ทั้งมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระ และเผ่าพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขภายใต้กฎแห่งธรรมชาติ

แต่แล้ว ความสงบสุขนั้นก็ถูกทำลายลง เมื่อ "จักรพรรดิ์แห่งเงามืด" ผู้ครอบครองพลังอำนาจแห่งความมืดมิด ปรารถนาที่จะครอบครองดวงดาวอาร์เคเดีย และทำให้จักรวาลตกอยู่ในความมืดมิดตลอดกาล เขาได้ส่งกองทัพปีศาจร้ายออกโจมตีดวงดาวต่างๆ เพื่อที่จะรวบรวมพลังแห่งดวงดาว และใช้มันในการทำลายล้างดวงดาวอาร์เคเดีย

ท่ามกลางความโกลาหล วีรบุรุษและวีรสตรีจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องดวงดาวอันเป็นที่รักของพวกเขา พวกเขาต้องร่วมมือกัน ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ เพื่อที่จะเอาชนะจักรพรรดิ์แห่งเงามืด และนำความสงบสุขกลับคืนสู่จักรวาล

บทที่ 1: คำทำนายแห่งหายนะ

ณ ใจกลางป่าลึกแห่งอาร์เคเดีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "วิหารแห่งดวงดาว" วิหารศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าผู้วิเศษใช้ในการทำนายดวงชะตา และติดต่อกับพลังแห่งดวงดาว "เอลาร่า" ผู้วิเศษหญิงสูงศักดิ์ กำลังทำนายดวงชะตาของจักรวาล ด้วยความรู้สึกกังวลใจ

ภาพที่ปรากฏในลูกแก้ววิเศษ ทำให้เอลาร่าตกตะลึง เธอเห็นภาพแห่งความมืดมิด กองทัพปีศาจร้ายกำลังบุกโจมตีดวงดาวต่างๆ ผู้คนต่างร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว และจักรวาลกำลังจะถูกกลืนกินด้วยความมืดมิด

"หายนะกำลังจะมาเยือน" เอลาร่าพึมพำกับตัวเองด้วยความหวาดหวั่น "จักรพรรดิ์แห่งเงามืดกำลังจะกลับมา"

เอลาร่ารู้ดีว่า จักรพรรดิ์แห่งเงามืดคือภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่จักรวาลเคยพบเจอ เขาคือจอมปีศาจผู้ชั่วร้าย ที่เคยถูกผนึกไว้ในห้วงมิติมืด เมื่อหลายพันปีก่อน แต่บัดนี้ เขากำลังจะกลับมาอีกครั้ง เพื่อที่จะทำลายล้างจักรวาล

เอลาร่ารีบรวบรวมสติ และตัดสินใจที่จะเตือนภัยให้กับผู้คนในอาร์เคเดีย เธอออกเดินทางจากวิหารแห่งดวงดาว มุ่งหน้าสู่ "เอลฟ์เฮเว่น" เมืองหลวงของอาณาจักรเอลฟ์ ซึ่งเป็นที่ประทับของ "ราชินีเอลานอร์" ผู้ปกครองแห่งเอลฟ์ และเป็นผู้นำแห่งสภาพันธมิตรแห่งดวงดาว

บทที่ 2: การรวมตัวของวีรบุรุษ

ณ เอลฟ์เฮเว่น เมืองที่งดงามราวกับภาพวาด เอลฟ์ผู้สง่างามกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งฤดูใบไม้ผลิ ท่ามกลางเสียงเพลง การเต้นรำ และเสียงหัวเราะ แต่แล้ว บรรยากาศแห่งความสุขก็ถูกทำลายลง เมื่อเอลาร่าปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับคำทำนายแห่งหายนะ

"ราชินีเอลานอร์ หายนะกำลังจะมาเยือน" เอลาร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "จักรพรรดิ์แห่งเงามืดกำลังจะกลับมา"

คำพูดของเอลาร่า ทำให้เหล่าเอลฟ์ตกอยู่ในความตื่นตระหนก ราชินีเอลานอร์ ผู้มีสติปัญญาและความกล้าหาญ รีบเรียกประชุมสภาพันธมิตรแห่งดวงดาว เพื่อหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามครั้งนี้

ในที่ประชุม มีตัวแทนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ มารวมตัวกัน ทั้งมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระ และเผ่าพันธุ์อื่นๆ พวกเขาต่างตกตะลึงกับคำทำนายของเอลาร่า และตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์

"เราต้องร่วมมือกัน เพื่อที่จะหยุดยั้งจักรพรรดิ์แห่งเงามืด" ราชินีเอลานอร์กล่าว "เราต้องรวมพลังของเรา และต่อสู้เพื่อปกป้องดวงดาวของเรา"

เหล่าผู้นำแห่งเผ่าพันธุ์ต่างๆ ต่างเห็นด้วยกับราชินีเอลานอร์ พวกเขาตัดสินใจที่จะรวมตัวกัน และจัดตั้งกองทัพพันธมิตร เพื่อต่อสู้กับจักรพรรดิ์แห่งเงามืด

บทที่ 3: การเดินทางสู่ดินแดนต้องห้าม

เพื่อที่จะเอาชนะจักรพรรดิ์แห่งเงามืด เหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ต้องออกเดินทางสู่ดินแดนต้องห้าม เพื่อค้นหาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถทำลายล้างจักรพรรดิ์แห่งเงามืดได้

การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ทั้งป่าลึก ภูเขาสูง ทะเลทราย และดินแดนแห่งความมืด พวกเขาต้องต่อสู้กับสัตว์ร้าย ปีศาจร้าย และกองทัพแห่งความมืด

ระหว่างการเดินทาง เหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีได้เรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความหมายของมิตรภาพ ความรัก และความเสียสละ พวกเขาได้ค้นพบพลังที่แท้จริงในตัวเอง และได้เติบโตขึ้นเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง

บทที่ 4: การต่อสู้ครั้งสุดท้าย

หลังจากการเดินทางอันยาวนาน เหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีก็ได้เดินทางมาถึงดินแดนต้องห้าม ซึ่งเป็นที่ซ่อนของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพปีศาจร้าย ที่นำโดยจักรพรรดิ์แห่งเงามืด

การต่อสู้ครั้งสุดท้าย เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด และยาวนาน เหล่าวีรบุรุษและวีรสตรี ต่างต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ และเสียสละ พวกเขาได้ใช้พลังทั้งหมดที่มี เพื่อที่จะปกป้องดวงดาวของพวกเขา

ในที่สุด ด้วยความร่วมมือ และความเสียสละของเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรี จักรพรรดิ์แห่งเงามืดก็ถูกทำลายลง ความมืดมิดถูกขับไล่ และความสงบสุขก็กลับคืนสู่จักรวาล

บทที่ 5: ความลับแห่งอาร์เคเดีย

แม้จักรพรรดิ์แห่งเงามืดจะถูกทำลายลง แต่เอลาร่ากลับรู้สึกไม่สงบใจ คำทำนายในลูกแก้ววิเศษยังคงวนเวียนในหัวของเธอ ราวกับว่าหายนะยังไม่จบสิ้น เธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยังวิหารแห่งดวงดาวอีกครั้ง เพื่อค้นหาความจริง

ในวิหารอันเงียบสงัด เอลาร่าใช้เวลาหลายวันในการศึกษาคัมภีร์โบราณ และทำนายดวงชะตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุด เธอก็ค้นพบความจริงที่น่าตกใจ จักรพรรดิ์แห่งเงามืดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการชั่วร้าย เบื้องหลังยังมีจอมมารตนอื่น ที่ทรงพลังยิ่งกว่า กำลังรอคอยที่จะครอบครองจักรวาล

เอลาร่าพบว่า ดวงดาวอาร์เคเดีย มิใช่แค่ดวงดาวธรรมดา แต่เป็นกุญแจสำคัญ ในการปลดผนึกพลังแห่ง "มหาเทพโบราณ" ผู้ซึ่งถูกจอมมารผนึกไว้ เมื่อครั้งสงครามแห่งเทพเจ้า หากจอมมารได้ครอบครองอาร์เคเดีย ก็จะสามารถปลดผนึกมหาเทพโบราณ และใช้พลังนั้นในการครอบครองจักรวาลได้

ด้วยความตระหนักถึงภัยอันตราย เอลาร่ารีบเดินทางออกจากวิหาร เพื่อแจ้งข่าวนี้แก่เหล่าวีรบุรุษ แต่ระหว่างทาง เธอกลับถูกกลุ่มนักฆ่าลึกลับโจมตี เอลาร่าต่อสู้สุดกำลัง แต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังของพวกมันได้

ในวินาทีสุดท้าย "อาร์เธอร์" อัศวินหนุ่มแห่งอาณาจักรมนุษย์ ผู้เป็นหนึ่งในวีรบุรุษที่ร่วมต่อสู้กับจักรพรรดิ์แห่งเงามืด ได้ปรากฏตัวขึ้น และช่วยเอลาร่าเอาไว้ได้

บทที่ 6: อัศวินแห่งแสง

อาร์เธอร์เป็นอัศวินหนุ่มผู้กล้าหาญ มีจิตใจที่บริสุทธิ์ และเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม เขาเป็นผู้สืบทอดพลังแห่ง "แสงศักดิ์สิทธิ์" พลังโบราณที่สามารถต่อกรกับความมืดได้

หลังจากได้ฟังเรื่องราวจากเอลาร่า อาร์เธอร์ตระหนักถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า เขาตัดสินใจที่จะร่วมมือกับเอลาร่า เพื่อปกป้องดวงดาวอาร์เคเดีย และหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของจอมมาร

อาร์เธอร์และเอลาร่า เดินทางกลับไปยังเอลฟ์เฮเว่น เพื่อแจ้งข่าวนี้แก่ราชินีเอลานอร์ และเหล่าวีรบุรุษ แต่พวกเขากลับพบว่า เอลฟ์เฮเว่นถูกกองทัพปีศาจโจมตี

บทที่ 7: สงครามกลางเมืองเอลฟ์

กองทัพปีศาจที่บุกโจมตีเอลฟ์เฮเว่น นำโดย "ลอร์ดออฟเดธ" ปีศาจตนสำคัญของจอมมาร ผู้มีพลังแห่งความตาย ลอร์ดออฟเดธได้ใช้พลังอำนาจของตน ควบคุมเหล่าเอลฟ์บางส่วน ให้กลายเป็นทาสรับใช้ และก่อกบฏต่อราชินีเอลานอร์

อาร์เธอร์และเอลาร่า ต้องฝ่าฟันกองทัพปีศาจ และเหล่าเอลฟ์ที่ถูกควบคุม เพื่อเข้าไปช่วยเหลือราชินีเอลานอร์ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด อาร์เธอร์ใช้พลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ ต่อกรกับลอร์ดออฟเดธ

บทที่ 8: พันธมิตรแห่งเงา

ในขณะที่อาร์เธอร์กำลังต่อสู้กับลอร์ดออฟเดธ เอลาร่าได้พบกับ "เซลีน" นักรบหญิงแห่งเผ่าพันธุ์ "ดาร์คเอลฟ์" เผ่าพันธุ์เอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งความมืด เซลีนเป็นนักรบผู้แข็งแกร่ง และมีจิตใจที่แน่วแน่ เธอต้องการที่จะช่วยเหลือเอลฟ์เฮเว่น แต่ก็ลังเลที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายอาร์เคเดีย เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ในอดีต

เอลาร่าพยายามเกลี้ยกล่อมเซลีน ให้ร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูร่วมกัน เธอเชื่อว่า ความร่วมมือระหว่างเผ่าพันธุ์ คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะจอมมาร

บทที่ 9: แผนการร้าย

ลอร์ดออฟเดธ รู้ตัวว่าไม่อาจเอาชนะอาร์เธอร์ได้ จึงตัดสินใจล่าถอย พร้อมกับจับตัวราชินีเอลานอร์ไป เพื่อใช้เป็นเครื่องต่อรอง

อาร์เธอร์ เอลาร่า และเซลีน ตัดสินใจร่วมมือกัน เพื่อช่วยเหลือราชินีเอลานอร์ และหยุดยั้งแผนการร้ายของจอมมาร พวกเขาต้องเดินทางไปยัง "ปราสาทแห่งเงามืด" ฐานที่มั่นของลอร์ดออฟเดธ ซึ่งตั้งอยู่ในดินแดนต้องห้าม

บทที่ 10: การเดินทางสู่ปราสาทแห่งเงามืด

การเดินทางสู่ปราสาทแห่งเงามืด เต็มไปด้วยอันตราย เส้นทางวกวนผ่านป่าทึบมืดมิด ที่ซึ่งแสงอาทิตย์ไม่อาจส่องถึง อาร์เธอร์ เอลาร่า และเซลีน ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย และปีศาจที่คอยปกป้องเส้นทาง

ระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับ "โกรธ" คนแคระนักรบผู้แข็งแกร่ง ซึ่งหลงทางอยู่ในป่า โกรธเป็นนักรบผู้มีฝีมือ และมีความรู้เกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้เป็นอย่างดี เขาตกลงที่จะร่วมเดินทางไปกับพวกเขา เพื่อช่วยเหลือราชินีเอลานอร์ และกำจัดลอร์ดออฟเดธ

ด้วยความช่วยเหลือของโกรธ พวกเขาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ และเดินทางมาถึงปราสาทแห่งเงามืดได้ในที่สุด ปราสาทแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสูงชัน ล้อมรอบด้วยกำแพงหนา และกองทัพปีศาจ

บทที่ 11: แผนการบุกปราสาท

ก่อนที่จะบุกเข้าไปในปราสาท อาร์เธอร์ เอลาร่า เซลีน และโกรธ ได้วางแผนการโดยแบ่งออกเป็นสองทีม ทีมแรก นำโดยอาร์เธอร์และโกรธจะบุกเข้าไปในปราสาท เพื่อสร้างความวุ่นวายและดึงดูดความสนใจของกองทัพปีศาจ

ส่วนทีมที่สอง นำโดยเอลาร่า และเซลีน จะแอบลอบเข้าไปในปราสาท เพื่อช่วยเหลือราชินีเอลานอร์

บทที่ 12: การต่อสู้ในปราสาท

อาร์เธอร์ และโกรธ บุกตะลุยเข้าไปในปราสาท ราวกับพายุ พลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ของอาร์เธอร์ ส่องสว่างไปทั่วปราสาท ขับไล่ความมืด และทำลายล้างเหล่าปีศาจ

โกรธใช้ขวานคู่ใจฟาดฟันเหล่าปีศาจด้วยความแข็งแกร่ง และความดุร้าย เสียงตะโกนเสียงอาวุธกระทบกัน ดังกึกก้องไปทั่วปราสาท

ในขณะเดียวกัน เอลาร่า และเซลีน ก็แอบลอบเข้าไปในปราสาท ด้วยความระมัดระวัง พวกเธอต้องหลบเลี่ยง และต่อสู้กับเหล่าปีศาจ ที่คอยลาดตระเวนอยู่

บทที่ 13: ห้องขังแห่งความมืด

เอลาร่า และเซลีน ตามหาห้องขังของราชินีเอลานอร์ จนพบ พวกเธอต้องใช้เวทมนตร์ ในการเปิดประตูห้องขัง ที่ถูกปิดผนึกด้วยเวทมนตร์แห่งความมืด

ภายในห้องขัง ราชินีเอลานอร์ ถูกจองจำไว้ ด้วยโซ่ตรวนแห่งความมืด เอลาร่า ใช้เวทมนตร์ ในการทำลายโซ่ตรวน และช่วยเหลือราชินีเอลานอร์

บทที่ 14: เผชิญหน้าลอร์ดออฟเดธ

อาร์เธอร์ และโกรธ ต่อสู้ฝ่าฟัน จนมาถึงห้องโถงใหญ่ ที่ซึ่งลอร์ดออฟเดธ กำลังรอคอยอยู่

"พวกเจ้าบังอาจ บุกรุกเข้ามาในปราสาทของข้า" ลอร์ดออฟเดธ กล่าวด้วยเสียงอันน่าเกรงขาม

"ปล่อยตัวราชินีเอลานอร์ แล้ว เจ้าจะรอดชีวิต" อาร์เธอร์ กล่าว

"ฮ่าๆๆ เจ้าคิดว่า เจ้าจะสามารถเอาชนะข้าได้หรือ" ลอร์ดออฟเดธ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

การต่อสู้ระหว่าง อาร์เธอร์ และลอร์ดออฟเดธ จึงเริ่มขึ้น พลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ ปะทะกับพลังแห่งความตาย แสงสว่าง และความมืด ต่อสู้กันอย่างดุเดือด

เอาล่ะ คราวนี้ อาร์เธอร์จะเอาชนะลอร์ดออฟเดธได้หรือไม่ แล้วแผนการร้ายของจอมมารคืออะไร ติดตามตอนต่อไปนะครับ 😉

บทที่ 15: แสงสว่างแห่งความหวัง

การต่อสู้ระหว่างอาร์เธอร์และลอร์ดออฟเดธ ดุเดือดราวกับพายุ พลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ของอาร์เธอร์ สว่างไสว ต่อกรกับพลังแห่งความมืด ที่แผ่กระจายจากลอร์ดออฟเดธ ห้องโถงใหญ่สั่นสะเทือน ด้วยแรงปะทะของพลังทั้งสอง

ลอร์ดออฟเดธ ใช้พลังแห่งความตาย สร้างร่างเงาปีศาจ ขึ้นมารุมโจมตีอาร์เธอร์แต่อาร์เธอร์ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ ฟาดฟันและพลังแห่งแสง เผาผลาญร่างเงาปีศาจจนสลายไป

ท่ามกลางการต่อสู้ อาร์เธอร์ สัมผัสได้ถึงพลัง ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเขา พลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ กำลังตอบสนองต่อความมุ่งมั่น และ ความกล้าหาญของเขา

อาร์เธอร์ รวบรวมพลังทั้งหมด เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าแผ่กระจายไปทั่วห้องโถงพลังแห่งแสงเข้าปะทะกับลอร์ดออฟเดธอย่างรุนแรงเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

เมื่อแสงสว่างจางหายไปร่างของลอร์ดออฟเดธ ก็สลายกลายเป็นผุยผงอาร์เธอร์ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ ดวงตาของเขา เต็มไปด้วยความหวัง

บทที่ 16: การหลบหนี

หลังจาก ลอร์ดออฟเดธ ถูกทำลาย อาร์เธอร์ โกรธ เอลาร่า เซลีน และราชินีเอลานอร์รีบหนีออกจากปราสาทแห่งเงามืดก่อนที่กองทัพปีศาจจะรู้ตัว

พวกเขาฝ่าฟันกองทัพปีศาจที่เหลืออยู่ออกจากปราสาทและหลบหนีเข้าไปในป่าลึก

บทที่ 17: การเปิดเผย

ระหว่างการหลบหนี ราชินีเอลานอร์ เปิดเผยความลับ เกี่ยวกับ ดวงดาวอาร์เคเดียให้อาร์เธอร์ เอลาร่า เซลีน และ โกรธ ฟัง

ราชินีเอลานอร์ เล่าว่า ดวงดาวอาร์เคเดีย เป็นที่ตั้งของ "วิหารแห่งแสง" วิหารศักดิ์สิทธิ์ ที่ มหาเทพโบราณ เคยใช้เป็นที่ ประทับและเป็นที่เก็บ "คทาแห่งแสง" อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถทำลายล้างจอมมารได้

บทที่ 18: ภารกิจใหม่

อาร์เธอร์ เอลาร่า เซลีน และ โกรธ ตระหนักถึง ภารกิจใหม่ ที่รออยู่ข้างหน้าพวกเขาต้องเดินทางไปยังวิหารแห่งแสงเพื่อค้นหาคทาแห่งแสงและใช้มันในการต่อสู้กับจอมมาร

บทที่ 19: การเดินทางสู่วิหารแห่งแสง

การเดินทางสู่วิหารแห่งแสงเต็มไปด้วยอันตรายและ อุปสรรคพวกเขาต้องเดินทางผ่านดินแดนที่ไม่เคยมีใคร เข้าไปถึงมาก่อนเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายและปีศาจที่แข็งแกร่งกว่าที่เคยพบเจอ

บทที่ 20: บททดสอบแห่งศรัทธา

วิหารแห่งแสง ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ เส้นทางสู่วิหาร เต็มไปด้วยขวากหนาม และอุปสรรค ที่ทดสอบจิตใจ และศรัทธาของเหล่าวีรบุรุษ

พวกเขาต้องปีนป่ายหน้าผาสูงชัน ฝ่าฟันพายุหิมะ และหลบเลี่ยงกับดักเวทมนตร์ ที่ซ่อนอยู่ ระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับ "ผู้พิทักษ์แห่งวิหาร" วิญญาณนักรบโบราณ ที่ทำหน้าที่ปกป้องวิหารแห่งแสง

ผู้พิทักษ์ ท้าทาย อาร์เธอร์ ให้ต่อสู้ เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่ง และ ความบริสุทธิ์ใจ อาร์เธอร์ ต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ และ ความมุ่งมั่น ในที่สุด เขาก็สามารถเอาชนะ ผู้พิทักษ์ ได้ ด้วยพลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ และ จิตใจที่แน่วแน่

ผู้พิทักษ์ ยอมรับในตัว อาร์เธอร์ และ เปิดทางให้ พวกเขา เข้าสู่ วิหารแห่งแสง

บทที่ 21: วิหารแห่งแสง

ภายในวิหารแห่งแสงสว่างไสวด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่กระจายจากแท่นบูชาที่ตั้งอยู่ใจกลางวิหารบนแท่นบูชามีคทาแห่งแสงวางอยู่

เมื่ออาร์เธอร์เอื้อมมือไปสัมผัสคทาแห่งแสงวิหารก็สั่นสะเทือนและปรากฏภาพของมหาเทพโบราณขึ้น

มหาเทพกล่าวกับอาร์เธอร์ว่า "เจ้าคือผู้ถูกเลือก ผู้ที่จะนำคทาแห่งแสงไปปราบจอมมารและนำความสงบสุขกลับคืนสู่จักรวาล"

อาร์เธอร์รับคทาแห่งแสงด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ และ ความรับผิดชอบ

บทที่ 22: การเตรียมพร้อม

อาร์เธอร์ และเหล่าวีรบุรุษใช้เวลาในวิหารแห่งแสง เพื่อฝึกฝนและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย กับ จอมมาร

เอลาร่าสอนอาร์เธอร์เกี่ยวกับวิธีใช้คทาแห่งแสง และ พลัง ที่แท้จริง ของมัน

เซลีน และ โกรธ ช่วยอาร์เธอร์ฝึกฝนการต่อสู้และ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง

บทที่ 23: การเผชิญหน้า

ในที่สุด วันแห่งการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ก็มาถึง อาร์เธอร์ และ เหล่าวีรบุรุษ เดินทางไปยัง "หุบเหวแห่งความมืด" ที่ จอมมารใช้เป็นฐานที่มั่น

จอมมาร ปรากฏตัวขึ้นด้วยร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬาร และพลังที่น่าสะพรึงกลัว

"พวกเจ้า คิดจะ ต่อกรกับ ข้า หรือ" จอมมารกล่าวด้วย น้ำเสียงที่เยือกเย็น

"เราจะ หยุดยั้ง เจ้า ไม่ให้ ทำลายจักรวาลอาร์เธอร์ กล่าวด้วยความมุ่งมั่น

บทที่ 24: สงครามครั้งสุดท้าย

หุบเหวแห่งความมืด สั่นสะเทือนด้วยพลังอำนาจของจอมมารท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำทะมึนสายฟ้าสีม่วงแลบแปลบปลาบ อาร์เธอร์ เอลาร่า เซลีนและโกรธ ยืนหยัด เผชิญหน้ากับจอมมาร ด้วยความกล้าหาญ

"พวกเจ้าต่ำต้อยคิดจะต่อกรกับข้าผู้เป็นอมตะงั้นรึ" จอมมาร คำราม เสียงดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา

"ถึงแม้จะต้องสละชีวิต'' ข้าก็จะปกป้องจักรวาลจากเงื้อมมือของเจ้า" อาร์เธอร์ประกาศกร้าวพร้อมกับชูดาบศักดิ์สิทธิ์และคทาแห่งแสง

สงครามครั้งสุดท้ายจึงเริ่มต้นขึ้นอาร์เธอร์พุ่งเข้าใส่ จอมมารด้วยความเร็วดาบศักดิ์สิทธิ์และคทาแห่งแสง เปล่งประกายพลังแห่งแสงปะทะกับพลังแห่งความมืด อย่างรุนแรง

เอลาร่า ร่ายเวทมนตร์โจมตีจอมมารจากระยะไกล ลูกไฟสายฟ้าและพายุโหมกระหน่ำใส่จอมมาร อย่างไม่หยุดยั้ง

เซลีน ใช้ความว่องไวและทักษะการต่อสู้โจมตีจอมมารอย่างต่อเนื่องสร้างบาดแผลให้กับจอมมาร ทีละเล็กทีละน้อย

โกรธใช้ขวานคู่ใจฟาดฟันเหล่าปีศาจที่จอมมาร เรียกออกมา ปกป้อง อย่างแข็งแกร่ง

การต่อสู้ เป็นไปอย่างดุเดือดและยาวนานอาร์เธอร์ และเหล่าวีรบุรุษต่อสู้อย่างสุดกำลังแต่จอมมารแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือได้

บทที่ 25: พลังแห่งมิตรภาพ

ท่ามกลางการต่อสู้ที่สิ้นหวังอาร์เธอร์เริ่มอ่อนล้า พลังแห่งแสงเริ่มลดลงจอมมารเห็นโอกาสจึง รวบรวมพลังเตรียมปลิดชีพอาร์เธอร์

ในวินาทีนั้นเอลาร่าเซลีนและโกรธพุ่งเข้ามา ขวางการโจมตีของจอมมารเอาไว้พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อปกป้องอาร์เธอร์

"ไม่!!!" อาร์เธอร์ ร้องตะโกนด้วยความเสียใจ

การเสียสละของเพื่อนๆทำให้อาร์เธอร์ตระหนักถึง พลังที่แท้จริงพลังแห่งมิตรภาพความรักและความเสียสละพลังเหล่านี้หลอมรวมเข้ากับพลังแห่งแสงทำให้ พลังของอาร์เธอร์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

บทที่ 26: ชัยชนะแห่งแสงสว่าง

อาร์เธอร์ลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้งด้วยพลังที่เหนือกว่า เดิมเขาชูคทาแห่งแสงขึ้นเหนือศีรษะรวบรวม พลังทั้งหมดปลดปล่อยพลังแห่งแสง ที่บริสุทธิ์และ ทรงพลังที่สุดออกไป

แสงสว่างแผ่กระจายไปทั่วหุบเหวแห่งความมืดกลืนกินร่างของจอมมารเสียงกรีดร้องของจอมมารดังกึกก้องก่อนที่ร่างของมันจะสลายกลายเป็นผุยผง

เมื่อแสงสว่างจางหายไปความสงบสุขก็กลับคืนสู่ จักรวาล

บทส่งท้าย

อาร์เธอร์และเหล่าวีรบุรุษได้รับการยกย่องเป็น วีรบุรุษแห่งจักรวาลพวกเขาได้นำความสงบสุข กลับคืนมาสู่ดวงดาวและจักรวาล

อาร์เธอร์ และ เซลีน แต่งงานกันและมีทายาทสืบต่อ เชื้อสายแห่งแสงสว่าง

เอลาร่า กลับไปยังวิหารแห่งดวงดาว เพื่อ ทำหน้าที่ เป็น ผู้พิทักษ์แห่งดวงดาวต่อไป

ส่วนโกรธกลับไปยังอาณาจักรคนแคระและได้รับ การยกย่องเป็นวีรบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์

ดวงดาวอาร์เคเดียและดวงดาวอื่นๆในจักรวาล กลับมาสงบสุขอีกครั้งผู้คนต่างใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่าวีรบุรุษผู้ กอบกู้จักรวาลจากความมืดมิด

จบ

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!