บทที่ 5: ความมุ่งมั่นท่ามกลางหมอกควัน

วันที่การแสดงที่รอคอยใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว หลินรั่วอี๋รู้สึกตื่นเต้นและกังวลในเวลาเดียวกัน ทุกสิ่งที่เธอและทีมงานทำมาถึงจุดนี้ และการแสดงในคืนที่จะถึงนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ

การเตรียมการต่าง ๆ กำลังดำเนินไปอย่างเร่งรีบ พวกเขาซ้อมดนตรีกันอย่างหนัก และหลินรั่วอี๋ก็ทุ่มเทให้กับการจัดทำการแสดงใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องการใช้แสงและเลเซอร์ที่เธอเสนอ ชูหลิงเซวียนมักจะคอยสนับสนุนเธอ และมันทำให้เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในตัวเอง

วันก่อนการแสดง หลินรั่วอี๋รู้สึกว่าความตึงเครียดในบรรยากาศรอบ ๆ ตัวเริ่มเข้มข้นขึ้น นักดนตรีทุกคนรู้ว่าการแสดงครั้งนี้มีความสำคัญมาก และพวกเขาต่างก็หวังว่าจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด

“อย่าลืมว่าทุกคนที่นี่ต่างมีความสามารถ” ชูหลิงเซวียนพูดกับทีมงานในช่วงประชุมก่อนการแสดง “ถ้าเราเชื่อในตัวเองและทำงานร่วมกัน เราจะสามารถสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้”

หลินรั่วอี๋รู้สึกอิ่มเอมใจเมื่อได้ยินคำพูดของเขา มันทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองไม่โดดเดี่ยวในการเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้

ค่ำคืนของการแสดงมาถึงอย่างรวดเร็ว และหลินรั่วอี๋รู้สึกหัวใจเต้นแรงเมื่อเธอเห็นผู้คนที่มารอชมการแสดง ในห้องแต่งตัว เธอส่องกระจกและมองดูตัวเองในชุดที่เธอเลือกอย่างตั้งใจ

“ทำไมฉันถึงรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้?” เธอคิดในใจ ขณะที่แต่งตัวอยู่ “มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันแสดง แต่ทำไมครั้งนี้รู้สึกแตกต่าง?”

เมื่อถึงเวลาเข้าร่วมการแสดง หลินรั่วอี๋และทีมงานเดินขึ้นเวที ทุกคนรู้ว่าพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ และเสียงดนตรีเริ่มเล่นไปทั่วห้อง

หลินรั่วอี๋เริ่มเล่นดนตรีอย่างมุ่งมั่น เธอสามารถรู้สึกได้ถึงพลังของเสียงเพลงที่ลอยไปทั่วห้อง ทุกคนในทีมทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ แสงและเลเซอร์ถูกใช้อย่างมีศิลปะ เพิ่มความน่าสนใจให้กับการแสดง

ในระหว่างการแสดง หลินรั่วอี๋เห็นชูหลิงเซวียนยืนอยู่ที่ขอบเวที เขาเฝ้าดูการแสดงด้วยความเข้มข้น ขณะที่เธอเล่น เธอรู้สึกว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น

การแสดงดำเนินไปอย่างราบรื่น จนถึงช่วงเวลาที่หลินรั่วอี๋ต้องนำเสนอการแสดงที่เธอเตรียมไว้ โดยการใช้แสงและการเคลื่อนไหวร่วมกับเสียงเพลง

ทันใดนั้น เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ เสียงเพลงและแสงที่ส่องประกายรอบตัวเธอทำให้เธอหลุดลอยไปในอารมณ์ ความรู้สึกที่เธอมีต่อชูหลิงเซวียนลอยเข้ามาในใจ

“เขาคือแรงบันดาลใจของฉัน” เธอคิด ขณะที่เธอเคลื่อนไหวไปตามจังหวะดนตรี “เขาเชื่อในตัวฉัน และฉันก็ต้องเชื่อในตัวเอง”

การแสดงจบลงด้วยเสียงปรบมือที่ดังสนั่น หลินรั่วอี๋รู้สึกถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาได้สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ชม และเธอก็รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่

เมื่อเดินออกจากเวที หลินรั่วอี๋เห็นชูหลิงเซวียนยิ้มให้เธอ ความรู้สึกที่อบอุ่นและความภูมิใจที่เขามีในตัวเธอทำให้เธอรู้สึกมีพลัง

“คุณทำได้ดีมาก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “การแสดงนี้ยอดเยี่ยมมาก”

“ขอบคุณค่ะ ท่านประธาน” หลินรั่วอี๋ตอบกลับด้วยความรู้สึกยินดี “มันเป็นการทำงานร่วมกันของทุกคน”

“ใช่ มันคือทีมเวิร์ก” เขาเห็นด้วย ก่อนที่จะพูดต่อ “แต่ผมรู้ว่าเพราะคุณ คุณทำให้มันพิเศษ”

ในขณะนั้น หลินรั่วอี๋รู้สึกถึงความกดดันที่ลดลง และความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในทีมทำให้เธอรู้สึกยินดี

“คืนนี้เป็นคืนที่น่าจดจำ” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “และมันจะอยู่ในใจของทุกคน”

เมื่อการแสดงสิ้นสุดลง ทุกคนในทีมรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จ และบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ

“เราทำได้!” หลินรั่วอี๋ตะโกนออกมา พร้อมกับยิ้มให้กับทุกคน

“ใช่!” ทีมงานทุกคนตอบรับด้วยความกระตือรือร้น

เมื่อค่ำคืนเริ่มเข้าสู่ช่วงท้าย หลินรั่วอี๋มองไปที่ชูหลิงเซวียนที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาดูมีความสุขกับผลลัพธ์ และเธอรู้สึกว่าเวลานี้คือเวลาที่เธอจะต้องเปิดใจ

“ท่านประธาน” หลินรั่วอี๋พูดด้วยความมั่นใจ “ขอบคุณที่เชื่อในตัวฉันและทำให้ฉันสามารถแสดงศักยภาพได้”

ชูหลิงเซวียนหันมามองเธอ และแววตาของเขาทอประกาย “คุณมีความสามารถมากกว่าที่คุณคิด หลินรั่วอี๋ ผมดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับคุณ”

ในใจของหลินรั่วอี๋เต็มไปด้วยความอบอุ่น เธอรู้ว่าอนาคตของพวกเขาอาจจะมีอะไรที่พิเศษมากกว่าการทำงานร่วมกัน แต่เธอไม่แน่ใจว่าจะก้าวไปในทิศทางใด

“ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้สิ่งที่เราสร้างขึ้นต่อไปดีขึ้น” เธอพูดด้วยความมุ่งมั่น

“ผมเชื่อในตัวคุณ” ชูหลิงเซวียนตอบกลับ “และหวังว่าเราจะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไป”

หลินรั่วอี๋รู้สึกตื่นเต้นและมีความหวังในสิ่งที่จะมาถึง แม้จะมีความไม่แน่นอนในอนาคต แต่เธอรู้ว่าตนเองได้เริ่มต้นการเดินทางใหม่ที่น่าตื่นเต้นในชีวิต และชูหลิงเซวียนก็เป็นส่วนสำคัญในเส้นทางนี้ค่ำคืนผ่านไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยเข้าสู่เช้าวันถัดมา หลินรั่วอี๋ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน เธอรู้สึกตื่นเต้นจากการแสดงที่ประสบความสำเร็จ แต่กลับยังไม่สามารถหยุดคิดถึงชูหลิงเซวียนและความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาได้

หลังจากผ่านวันแห่งการแสดงที่น่าจดจำ เธอได้รับการติดต่อจากสื่อมวลชนหลายแห่งเกี่ยวกับการแสดงของพวกเขา มันกลายเป็นข่าวที่ฮือฮาในวงการดนตรี และทุกคนต่างชื่นชมถึงการแสดงที่มีความคิดสร้างสรรค์และการใช้แสงสีที่ยอดเยี่ยม

ในขณะที่หลินรั่วอี๋กำลังอ่านข่าวในห้องพัก เธอได้รับข้อความจากชูหลิงเซวียน “หลินรั่วอี๋ วันนี้เรามีการประชุมสำคัญเกี่ยวกับโปรเจกต์ใหม่ มาเจอกันที่สำนักงานนะ”

“ค่ะ!” หลินรั่วอี๋ตอบกลับด้วยความตื่นเต้น

เมื่อเธอเดินทางไปที่สำนักงาน หัวใจของเธอเต้นแรงตลอดทาง ความคิดถึงโปรเจกต์ใหม่ทำให้เธอรู้สึกมีความหวัง และในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความกดดันที่ต้องรักษาความสำเร็จนี้ไว้

เมื่อถึงสำนักงาน หลินรั่วอี๋พบกับชูหลิงเซวียนและสมาชิกทีมคนอื่น ๆ รออยู่ในห้องประชุม เขามองเธอด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น “ยินดีต้อนรับครับ หลินรั่วอี๋ วันนี้เราจะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะทำต่อไปหลังจากการแสดงนี้”

“ได้ค่ะ ฉันพร้อมที่จะฟัง” หลินรั่วอี๋ตอบกลับอย่างมั่นใจ

“เรามีโอกาสที่จะขยายขอบเขตของการแสดงของเราไปยังสถานที่ใหม่ ๆ” ชูหลิงเซวียนกล่าว “และทำการตลาดที่กว้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนรู้จักเรา”

สมาชิกในทีมต่างสนับสนุนแนวคิดนี้ และเริ่มเสนอแนวทางในการขยายกิจกรรมใหม่ ๆ ซึ่งหลินรั่วอี๋รู้สึกทึ่งกับความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นที่ทุกคนมี

“ผมคิดว่าเราควรใช้โซเชียลมีเดียให้มากขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้ชมใหม่ ๆ” หนึ่งในสมาชิกกล่าว “และอาจจัดงานที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรีเพื่อสร้างความสนใจ”

“ใช่ค่ะ!” หลินรั่วอี๋เห็นด้วย “ถ้าเราสามารถให้ผู้คนมีโอกาสมาสัมผัสการแสดงของเรา จะทำให้พวกเขาต้องการกลับมาดูอีกครั้ง”

การประชุมดำเนินไปอย่างเข้มข้น ทุกคนต่างนำเสนอไอเดียและร่วมมือกันอย่างจริงจัง หลินรั่วอี๋รู้สึกถึงบรรยากาศของความร่วมมือและการสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยพลัง

เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง หลินรั่วอี๋ได้ยินเสียงหัวเราะและการพูดคุยในกลุ่ม เธอเห็นชูหลิงเซวียนยืนอยู่ที่มุมห้อง เขาดูมีความสุขกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

“คุณทำให้การประชุมนี้มีชีวิตชีวาขึ้น” เขาพูดเมื่อหลินรั่วอี๋เดินไปหาเขา “การมีส่วนร่วมของคุณทำให้ผมรู้สึกว่ามีอนาคต”

“ขอบคุณค่ะ ท่านประธาน” หลินรั่วอี๋ตอบกลับ “การทำงานร่วมกับทีมนี้ทำให้ฉันรู้สึกมีพลัง”

“คุณมีส่วนสำคัญในความสำเร็จของทีม” ชูหลิงเซวียนกล่าว “และมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะทำงานร่วมกันต่อไป”

หลินรั่วอี๋รู้สึกอบอุ่นในใจ เธอรู้สึกว่าความเชื่อมั่นที่เขามีในตัวเธอนั้นมีค่ามาก “ฉันจะทำงานอย่างหนักเพื่อไม่ให้คุณผิดหวัง”

“ผมมั่นใจว่าคุณจะทำได้” เขาพูดด้วยความจริงใจ “แล้วคืนนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ ที่เราจัดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของการแสดงและเริ่มต้นโปรเจกต์ใหม่”

หลินรั่วอี๋รู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินข่าวนี้ เธอเห็นว่าทีมงานต่างมีความสุขและรอคอยที่จะได้เฉลิมฉลอง “ฉันอยากไปค่ะ!”

เมื่อค่ำคืนมาถึง การเลี้ยงฉลองเริ่มต้นขึ้นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความยินดี ทุกคนรวมตัวกันในห้องจัดเลี้ยงที่สวยงาม เสียงเพลงดังกระหึ่มและแสงไฟที่ส่องสว่างทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

หลินรั่วอี๋รู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นทีมงานทุกคนยิ้มแย้มและพูดคุยกันอย่างมีความสุข ชูหลิงเซวียนยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนร่วมงานของเขา และเธอเห็นว่าเขาดูมีเสน่ห์และมั่นใจในตัวเอง

“เรามาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลอง!” ชูหลิงเซวียนประกาศเมื่อทุกคนรวมตัวกัน “การแสดงครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพราะความพยายามของทุกคน!”

เสียงปรบมือดังสนั่นในห้องและทุกคนต่างรู้สึกถึงความสำเร็จร่วมกัน หลินรั่วอี๋รู้สึกอบอุ่นเมื่อได้ยินเสียงเชียร์ของเพื่อนร่วมงาน

“ผมขอให้ทุกคนดื่มเพื่อความสำเร็จและโอกาสใหม่ ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า” เขายกแก้วขึ้นและทุกคนต่างยกแก้วตาม

“สุขสันต์วันสำเร็จ!” ทุกคนตะโกนพร้อมกัน

หลินรั่วอี๋ยิ้มให้กับชูหลิงเซวียนและรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในค่ำคืนนี้ เธอรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง และความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาเริ่มชัดเจนขึ้น

“คืนนี้เป็นคืนที่น่าจดจำ” เธอคิดในใจ ขณะที่เธอมองไปที่ชูหลิงเซวียน “และฉันรู้สึกว่าฉันพร้อมที่จะทำให้มันเป็นจริง”

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***