ติ๊ดติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ดติ๊ด
เสียงนาฬิกาดังขึ้นอย่างเงียบงันในห้องเล็ก ๆ ที่นรินทร์พักอยู่ เขานั่งอยู่บนเตียงเล็ก ๆ มองไปยังบิลที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ มีบิลค่ารักษาพยาบาลของแม่ที่ป่วย ค่าธรรมเนียมการเรียนของน้อง และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
นรินทร์ โอเมก้าผู้แสนใจดีและอ่อนโยน อายุ 25 ปี สูง 170 เซนติเมตร ผิวขาวชมพู เขามองเห็นแสงสว่างเพียงเล็กน้อยในชีวิตที่เต็มไปด้วยความกังวล แต่ความรักและความรับผิดชอบต่อครอบครัวของเขาทำให้เขายังยิ้มได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้
นรินทร์คิดถึงแม่ที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลและน้องที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย ความกดดันทางการเงินทำให้เขาต้องหาทางออกใหม่ ๆ วันหนึ่งในขณะที่นั่งอยู่หน้าแล็ปท็อป นรินทร์ได้ไปเจอประกาศรับสมัครโอเมก้าอุ้มบุญบนเว็บไซต์
"เอายังไงดีนรินทร์" เขาพูดพึมพำกับตัวเองพยายามหาคำตอบในความเงียบ
เขาจ้องมองประกาศนั้นอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ข้อเสนอดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีต่อปัญหาทางการเงินของเขา แต่ในใจของนรินทร์ก็เต็มไปด้วยความลังเลและกลัว
การตัดสินใจที่จะอุ้มบุญไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา มันเป็นการตัดสินใจที่อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล เขารู้ว่ามันมีความเสี่ยงและความท้าทายมากมายที่ต้องเผชิญ แต่เพื่อครอบครัวที่เขารัก นรินทร์ก็พร้อมที่จะพิจารณาทุกทางเลือก
- - -
หลังจากเบนพิมพ์ประกาศเสร็จเรียบร้อย เขาตรวจทานเนื้อหาหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด ประกาศถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่มีผู้คนมากมายใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโอเมก้าหรือผู้ที่สนใจในงานอุ้มบุญ หลังจากประกาศไปเพียงไม่นาน ข้อความแจ้งเตือนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด มีผู้สมัครหลายคนที่ส่งโปรไฟล์และรายละเอียดมาให้เบนตรวจสอบ
เบนใช้เวลาหลายชั่วโมงในการคัดกรองผู้สมัครที่เข้ามา พร้อมกับตรวจเช็คว่าคนที่สมัครนั้นมีคุณสมบัติตรงตามที่แดเนียลต้องการหรือไม่ ขณะที่เขากำลังตรวจสอบข้อมูล เขาก็คิดถึงแดเนียล ผู้ที่ทุ่มเทให้กับองค์กรและความฝันในการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แม้ว่าแดเนียลจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทาย แต่ความฝันนั้นกลับเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่ย่อท้อ
เวลาผ่านไป เบนได้รวบรวมรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการคัดกรอง จากนั้นเขาเดินกลับไปหาแดเนียลในห้องทำงานของเขา ประตูห้องเปิดออก และแดเนียลยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีแสงไฟจากเมืองใหญ่
เบน: ขออนุญาตครับ คุณแดเนียล ผมได้รวบรวมรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งหมดแล้วครับ นี่คือแฟ้มข้อมูลของพวกเขาครับ
แดเนียล: ดี แล้วมีใครโดดเด่นเป็นพิเศษไหม?
เบน: มีครับ ผมได้คัดเลือกมาแล้วสองคน ซึ่งทั้งคู่มีโปรไฟล์ที่น่าสนใจ
แดเนียล: โอเค เอามาให้ฉันดูหน่อย
แดเนียลตอบเบนด้วยเสียงเรียบ เขายื่นมือไปรับแฟ้มข้อมูลที่เบนส่งให้ ขณะที่เบนยื่นแฟ้มสองเล่มให้ แดเนียลเปิดแฟ้มแรกอ่านอย่างตั้งใจ
เบน: คนแรกคือนายเบญจมาศ อายุ 28 ปี เป็นโอเมก้าที่มีประสบการณ์ในการอุ้มบุญมาก่อนครับ เคยอุ้มบุญให้กับครอบครัวที่มีฐานะดี และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร
แดเนียลพยักหน้ารับฟัง แต่ยังคงไล่สายตาไปที่ข้อมูลในแฟ้มอย่างละเอียด
เบน: คนที่สองคือนายอรรถพล อายุ 25 ปี เป็นโอเมก้าที่ไม่เคยอุ้มบุญมาก่อน แต่มีแรงจูงใจที่ชัดเจน พื้นฐานมาจากครอบครัวที่มีปัญหาทางการเงิน และต้องการเงินเพื่อรักษาแม่ที่ป่วยกับส่งน้องไปเรียน
แดเนียล: อืม แล้วคนสุดท้ายล่ะ?
เบน: คนสุดท้ายคือนายณัฐวุฒิ อายุ 27 ปี เป็นโอเมก้าที่สุขภาพดี ไม่มีภาระผูกพัน แต่คนนี้ประสบการณ์การอุ้มบุญมาก่อน และเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน มีความรับผิดชอบสูง
แดเนียล: ขอบคุณมาก เบน แต่มีคนหนึ่งที่ผมรู้สึกสนใจเป็นพิเศษ เขาชื่อ นรินทร์ อายุ 25 ปี ใช่ไหม?
เบน: ใช่ครับ นรินทร์เป็นคนที่มีจิตใจดีและอ่อนโยน มีความรับผิดชอบสูง สุขภาพแข็งแรงดี และไม่มีภาระผูกพัน
แดเนียล: ใช่ ผมจำได้ว่าเขามีเหตุผลที่ชัดเจนในการสมัคร เขาต้องการเงินเพื่อรักษาแม่และส่งน้องไปเรียนต่อ
เบน: ใช่ครับ นรินทร์มีความตั้งใจจริงและพร้อมที่จะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่
แดเนียล: นรินทร์…
แดเนียลทวนชื่อในใจ เขาวางแฟ้มลงบนโต๊ะ ก่อนจะพิจารณาตัดสินใจ
แดเนียล: งั้นผมตัดสินใจแล้ว ผมเลือกนรินทร์ ผมคิดว่าเขาเหมาะสมที่สุด
เบน: เข้าใจแล้วครับ ผมจะติดต่อเขาและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยครับ
แดเนียล: ขอบคุณมาก เบน การเลือกครั้งนี้สำคัญต่ออนาคตของเราจริง ๆ ผมหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี
เบน: ผมมั่นใจว่านรินทร์จะทำได้ดีครับ คุณแดเนียล
เบนเดินออกจากห้องพร้อมกับความรับผิดชอบในการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เขาเตรียมพร้อมที่จะติดต่อกับนรินทร์และเริ่มกระบวนการตามที่แดเนียลต้องการ
เมื่อเบนออกจากห้องไป แดเนียลยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ทบทวนความคิดและแผนการของตัวเอง เขามองออกไปยังวิวของเมืองที่ส่องแสงระยิบระยับในความมืด ความทะเยอทะยานและความฝันของเขานั้นยังคงชัดเจนเหมือนเดิมคือการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แม้จะเป็นมาเฟียใหญ่ที่ใครต่างเกรงกลัว แต่แดเนียลกลับโหยหาความอบอุ่นในชีวิต ซึ่งไม่เคยได้สัมผัสมาตั้งแต่เด็ก…
- - -
และไม่กี่วันถัดมา นรินทร์เขาได้รับการติดต่อกลับจากบริษัทที่ประกาศรับสมัคร ทางบริษัทแจ้งว่าเขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นคุณแม่อุ้มบุญ ขณะที่ฟังการประกาศนั้น หัวใจของนรินทร์เต้นแรงด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความหวังและความกังวล
เบน : สวัสดีครับ คุณนรินทร์ใช่ไหมครับ?
นรินทร์ : ใช่ครับ ผมนรินทร์ครับ
เบน : ผมเลขาเบนนะครับ ผมติดต่อมาเพื่อแจ้งว่าคุณนรินทร์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นคุณแม่อุ้มบุญครับ
นรินทร์ : จริงเหรอครับ? ผมไม่คิดว่าจะได้โอกาสนี้
เบน : ใช่ครับ คุณมีคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการทั้งหมด เราต้องการนัดคุณมาพูดคุยรายละเอียด และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ
นรินทร์ : ครับ แล้วการตรวจร่างกายต้องทำอะไรบ้างครับ?
เบน : เราจะทำการตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจเลือด และตรวจสุขภาพโดยละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสุขภาพดีและพร้อมสำหรับการอุ้มบุญครับ
นรินทร์ : ได้ครับ ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้แม่กับน้องมีชีวิตที่ดีขึ้น
เบน : ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะครับ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เรามีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยดูแลคุณตลอดกระบวนการครับ
นรินทร์ : ขอบคุณมากครับ ผมยินดีที่จะรับงานนี้เพื่อครอบครัว
เบน : ดีครับ งั้นเรานัดคุณมาที่บริษัทของเราในวันพรุ่งนี้ได้ไหมครับ เวลา 10.00 น. เพื่อเริ่มกระบวนการตรวจสุขภาพ
นรินทร์ : ได้ครับ
เบน : ขอบคุณครับคุณนรินทร์ ผมจะส่งรายละเอียดและที่อยู่ของบริษัทเราไปทางอีเมลนะครับ
นรินทร์ : ครับ ขอบคุณครับ
เบน : แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ
นรินทร์ : ครับ สวัสดีครับ
หลังจากวางสาย นรินทร์หายใจลึก ๆ พร้อมรับรู้ถึงความหวังที่มีในอนาคตสำหรับครอบครัวของเขา
เขานั่งลงและคิดถึงแม่และน้องที่กำลังเผชิญกับความลำบาก หากเขารับงานนี้ได้สำเร็จ เงินที่จะได้รับก็เพียงพอที่จะช่วยให้แม่ได้รับการรักษาที่ดีขึ้นและสนับสนุนน้องในการศึกษาต่อไป
แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจที่อาจเกิดขึ้น แต่นรินทร์ก็ตัดสินใจที่จะยอมรับข้อเสนอ เขารู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็พร้อมจะทำเพื่อครอบครัวที่เขารัก
- - -
ผ่านไปไม่นาน เบนกลับมาพร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติม
เบน: นายครับ ผมได้นัดหมายให้คุณนรินทร์มาพบพรุ่งนี้ตอน10โมงเช้า ผมให้เขามาตรวจสุขภาพก่อนเข้าพบนายครับ
แดเนียล: (พยักหน้ารับ) ดี เตรียมการทุกอย่างให้พร้อม ฉันต้องการให้การพบครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
เบน: ครับ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย
เบนตอบอย่างนอบน้อมก่อนจะออกไป
เมื่อเบนออกไป แดเนียลลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ของห้องทำงาน มองออกไปยังทิวทัศน์ของเมืองใหญ่ที่เขาปกครองอย่างสงบ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความคิด เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว การมีทายาทคือก้าวสำคัญของชีวิต ไม่ใช่เพียงเพื่อสืบทอดอำนาจและธุรกิจที่เขาได้สร้างขึ้น แต่เพื่อเติมเต็มความฝันในใจของเขา
แดเนียล: พรุ่งนี้แล้วสินะ
แดเนียลพึมพำกับตัวเองขณะที่เขามองออกไปยังเส้นขอบฟ้า แสงอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ลับขอบฟ้าและหลงเหลือเพียงเงามืดที่เข้ามาครอบงำเมือง เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจเขาดังเป็นจังหวะชัดเจนในความเงียบนี้
เขารู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องธุรกิจหรืออำนาจ แต่เป็นเรื่องของชีวิตและอนาคตของตัวเขาเอง การสร้างครอบครัวที่เขาฝันถึงมาตลอด และการมีทายาทที่พร้อมจะสืบทอดมรดกของเขา มันไม่ใช่แค่การตัดสินใจชั่วคราว แต่เป็นก้าวสำคัญในชีวิตของมาเฟียใหญ่ที่ต้องการมากกว่าความมั่งคั่ง
แดเนียลรู้ดีว่าการตัดสินใจที่จะให้คนมาอุ้มบุญนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างอนาคตใหม่ที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสมาก่อน
แดเนียล: ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป…
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments