ตอนที่11 การเดินทางสู่ยุโรป

วันที่ 30 ของการเดินทางข้ามเวลา

วันเป็นวันเปลี่ยนตอนครั้งสุดท้ายเรามาดูอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เตรียมนำไปปฏิบัติภารกิจ

รถถัง Leopard \=14 คัน

ปืนใหญ่ อัตตาจร M777\= 10 คัน เป็นปืนใหญ่ที่สามารถเคลื่อนที่ด้วยตัวเองและมีความเร็วสูง

เครื่องบิน A-10 \= 12 ลำ

เครื่องบินลำเลียง C-5 \= 1 ลำ

เครื่องบินรบ F35 \= 1 ลำ

จากนั้นรักชาติจึงได้เรียกรวมพลเจ้าหน้าที่ทุกคน

เมื่อทุกคนมาถึง รถบรรทุกคันใหญ่ก็ได้ขับมาจอดตรงที่จุดรวมพลและประตูด้านข้างก็เปิดออกสิ่งที่อยู่ในนั้นคือ ชุดเครื่องแบบ

ทุกคนฟังให้ดี เนื่องจากภารกิจของเราเป็นภารกิจลับและที่ที่เราไปจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คนได้ภาระกิจของเราจะไม่เกี่ยวข้องกับสยามผมจึงได้สั่งทำชุดเครื่องแบบมาให้ทุกคนชุดเครื่องแบบรักชาติเป็นคนออกแบบและสั่งทำ ให้นึกภาพตามโดยนำเครื่องแบบเลียนแบบจากชุดคอมมานโดหรือทหารหน่วยรบพิเศษที่ใส่ผ้าคลุมหน้า ชุดออกแบบมาเนื้อผ้าระบายอากาศได้เป็นอย่างดีมีชุดเกราะอ่อนที่สามารถป้องกันกระสุนได้ตามร่างกายโดยจุดสำคัญและเมื่อออกปฏิบัติการสามารถดึงผ้ามาปิดคลุมหน้าได้เพื่อป้องกันการเปิดเผยตัว

ที่เสื้อด้านหลังเป็นรูปเหยี่ยวตัวใหญ่ขนาดเต็มหลัง

ด้านหน้าเป็นรูปเหยี่ยวทั้งเต็มตัวเล็กอยู่บนอกด้านซ้าย

กฎเหล็กคือห้ามเปิดเผยใบหน้า และเมื่อต้องการสื่อสารให้ใช้ภาษาอังกฤษ

และที่สำคัญ เนื่องจากหน่วยของเราจะรับสมาชิกเพิ่มเราจะเปลี่ยนชื่อหน่วยของเราใหม่เป็น

"กองพันเหยี่ยว"ต่อไปกองพันเหยี่ยวของเราจะไปสร้างชื่อฝั่งยุโรปให้ขจรไกล

ขอให้ทุกคนเปลี่ยนชุดอย่ามารวมพลกันอีกครั้งในอีก 30 นาทีไปได้

เจ้าหน้าที่ทุกคนขานรับการเดินเรือข่าวการเข้ามารับชุดแต่ละคนได้รับชุดคนละ 5ชุด ชุดแต่ละชุดถูกตัดมาพอดีขนาดตัวเพราะตอนรับสมัครเจ้าหน้าที่เข้ามาวันไหนนั้นมีการเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว

30 นาทีต่อมาทุกคนมารวมตัวกันที่จุดรวมพลอีกครั้งหนึ่งทุกคนใส่ชุดประจำหน่วยดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมากดูดุดัน

ไปเตรียมตัวครั้งสุดท้ายในอีก 1 ชั่วโมงเราจะออกเดินทาง

ขณะที่รักชาติออกคำสั่งตลอดระยะเวลาตั้งแต่เลือกจุดรวมพล มีสายตาคู่หนึ่งที่คอยจับจ้องรักชาติตลอดเวลา นั่นคือ โสภา นั่นเอง

ตอนนี้โสภารู้สึกแปลกใจจากการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้วของรัดชาติที่ดูมีออร่าและแสดงพลังอย่างน่าเกรงขามรวมถึงความเด็ดขาดในการออกปฏิบัติการไม่เหมือนรักชาติที่ตนเองเคยรู้จักและมีความประทับใจอยู่ในใจ

ตอนนี้เองรถถัง Leopard และปืนใหญ่อัตตาจร m777 กำลังถูกลำเลียงขึ้นไปบนเครื่องบินลำเลียง C-5. อาวุธยุทโธปกรณ์เสบียงเครื่องกระสุนหัวรบ มิสไซล์ ถูกลำเลียงขึ้นไปกันเต็มลำ

เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงเริ่มออกเดินทาง

F35 ได้บินขึ้นจากฐาน ตามด้วยเครื่องบินพิฆาต A-10 และปิดท้ายด้วยเครื่องบินลำเลียง C-5

เจ้าหน้าที่รวมรักชาติจำนวน 90 คนได้ออกปฏิบัติการโดยเดินทางไปที่ประเทศโปเลียน

ระยะทางจากสยามไปโปเลียน คือ 9,500 กิโลเมตร

จะใช้เวลาเดิมทาง 10 ชั่วโมง

นำขบวนโดย F35 A-10 ประกบข้าง ตรงกลางคือ C-5

รักชาติอยู่ในเครื่องบิน C-5

หลังจากขึ้นบินมาและลูกขบวนจัดเป็นเข้าที่เข้าทางรักชาติก็ได้ติดต่อกลับไปที่ศูนย์บัญชาการโดยมีโสภาเป็นหัวหน้าหน่วยอยู่ที่ฐานกับเจ้าหน้าที่อีก 9 คน

คุณโสภา ติดต่อประธานาธิบดีประเทศโปเลียน ให้ผมหน่อยแปลว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม

ได้สิคอยดูฝีมือฉัน

สมแล้วสำหรับตำแหน่ง เพียงครึ่งชั่วโมง โสภาก็ได้ติดต่อมา

นี่รักชาติประธานาธิบดีอยู่ในสายแล้วคุณแน่ใจนะว่าคุณสามารถคุยสื่อสารกับท่านประธานาธิบดีรู้เรื่อง กว่าฉันจะติดต่อได้เนื่องจากตอนนี้นาซีกำลังเคลื่อนพลเข้าชายแดนทำให้ท่านประธานาธิบดีกระวนกระวายเป็นอย่างมากกำลังติดต่อหาประเทศพันธมิตร ทั้งประเทศอิงแลนด์และประเทศฟ้าน เนื่องจากนาซีได้เคลื่อนทัพเข้าประชิดและบุกกระทันหัน โปเลียน รับมือไม่ทันกำลังถอยร่นและเสียดินแดน แต่ต้องรู้สึกเหมือนโชคร้ายซ้ำ2 กองกำลังโซเวียต ก็ได้เข้าประชิดชาตแดนและบุกเข้ามา

ด้านหน้านาซี ด้านหลังโซเวียต

ทั้งด้วยอาวุธและกำลังพลเป็นรองยังไม่สามารถเปรียบเทียบได้แล้วยังถูกขนาบหน้าและหลัง แนวป้องกันแตะพ่าย ท่านประธานาธิบดีจึงติดต่อขอความช่วยเหลือและมี 2 ประเทศที่ได้ประกาศสงครามกับ นาซี

จากการเตรียมตัวคิดว่าไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทัน ขณะที่กำลังคิดไม่ตกก็ได้มีสายโทรศัพย์ติดต่อเข้ามาแล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษ ว่าสามารถช่วยเหลือพลเรือนให้รอดพ้นการสูญเสียได้

เมื่อท่านประธานาธิบดีได้ยินดังนั้นความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากและรอที่จะได้คุยกับรักชาติอย่างกังวล

เมื่อรักชาติรับสายก็พูดเป็นภาษาอังกฤษ

สวัสดีครับท่านประธานาธิบดี

คุณคือใคร ใครส่งคุณมา

ไม่มีใครส่งผมมาครับท่านประธานาธิบดีผมเป็นหน่วยงานอิสระ หน่วยงานของเราชื่อว่ากองพันเหยี่ยว เรารู้ว่าคุณกำลังประสบปัญหาใหญ่และผมสามารถช่วยคุณได้

คุณกำลังพบเจอเรื่องเลวร้ายเกินกว่าที่คุณคิด จากข้อมูลข่าวกรองของหน่วยงานเราคุณกำลังเผชิญกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประชากรของคุณจะถูกสังหารมากกว่า 6 ล้านคน

เมื่อท่านประธานาธิบดีได้ยินก็ทรุดตัวเขากระแทกพื้นแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ตัวเองได้ยินแต่เมื่อนึกถึงผู้นำนาซี และจากข้อมูลเบื้องต้นที่เขาได้รับ ตอนนี้ขณะที่นาซีกำลังบุกเข้ามาผ่านบ้านเรือนได้สังหารพลเรือนอย่างเลือดเย็น คิดอย่างอื่นไม่ได้ด้านเลวร้ายที่สุดคือต้องเชื่อสิ่งที่รักชาติพูด

ท่านประธานาธิบดีผมสามารถช่วยพลเรือนของท่านได้

คุณบอกไม่ได้เลยให้ผมทำอะไรผมจะให้ทุกอย่างที่ผมมีทำทุกอย่างที่คุณขอเพื่อให้พลเรือนของผมรอดชีวิต

ท่านประธานาธิบดีหน่วยข่าวกรองของผมสืบข้อมูลมาได้ว่านาซีร่วมมือกับโซเวียต เป้าหมายคือยึดกรุงวอซอ โดยมีแผนจะแบ่งประเทศโปเลียนออกเป็น 2 ส่วน

โดยมีนาซีและโซเวียตปกครอง

ถ้าพวกเขาทำสำเร็จ คนละเรื่องเชื้อสายยิวจะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ครึ่งประเทศจะเป็นของนาซี อีกครึ่งประเทศเป็นของโซเวียต

ท่านประธานาธิบดีหน้าซีด คุณต้องการอะไรรีบผมออกผมไม่ได้เลย

แผนการเป็นอย่างนี้ท่านประธานาธิบดี ท่านต้องอพยพคนอย่างเร่งด่วนข้ามชายแดนไปประเทศลิทัวเนียเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ทันที

ท่านประธานาธิบดีตอบ ตอนนี้กำลังอพยพอยู่แต่จะต้องใช้เวลาถึง 2 วันเนื่องจากประสบปัญหาเรื่องยานพาหนะ จากการรุกคืบขอบนาซี น่าจะไม่ทันการแล้วในตอนนี้ ขณะที่กำลังสิ้นหวัง

ท่านประธานาธิบดี กองพันเหยี่ยวสามารถต้านการบุกของนาซีและโซเวียต จะคุ้มครองกรุงวอซอ ตลอดแนวการอพยพไปถึงประเทศลิทัวเนีย

คุณทำได้หรอคุณรู้หรือไม่ จากจุดการปะทะได้รายงานกำลังพลของนาซีที่กำลังบุกมาที่กรุงวอซอ

กองทัพนาซี

ทหาร 1,800,000 นาย

ปืนใหญ่ 9,000 กระบอก

รถถัง 2,700 คัน

เครืองบิน 2,000ลำ

ส่วนฝั่งโซเวียต

ทหาร 1,000,000 นาย

ปืนใหญ่ 4,000 กระบอก

รถถัง 4,700 คัน

เครื่องบิน 3,000 ลำ

คุณสามารถต่านพวกเขาได้จริงหรือ กำลังพลคุฌมีเท่าไหร่

แล้วคุณอยู่ที่ไหน คุณจะมาช่วยทันหรือไม่

ตอนนี้ไม่ว่าใครจะช่วยกำลังพลเท่าไหร่ท่านประธานาธิบดียินดีต้อนรับทั้งหมดถึงแม้มีความหวังเพียง 1%

เรียนท่านประธานาธิบดี กองพันเหยี่ยวของเราณเวลานี้อีก 8 ชั่วโมงจะไปถึงคุณ

เร็วแบบนั้นเลยหรอคุณกำลังปฏิบัติการอยู่ใกล้ๆนี้ใช่หรือไม่ กำลังพลคนมีเท่าไหร่

ตอนนี้ผมยังอยู่ห่างจากกรุงวอซอ 7,000 กิโลเมตร

อะไรนะ 7,000 กิโลเมตร!!!! ไกลขนาดนั้นจะเป็นไปได้ยังไงคุณจะเคลื่อนพลเข้ามาทางไหนระยะทางขนาดนี้อาจต้องใช้เวลาเป็น 10วันเพื่อเดินทัพ แต่หน่อยควรจะใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมง มันจะเป็นไปได้ยังไงมีคุณกำลังปลอบใจผมอยู่ใช่ไหมถ้าคุณไม่สามารถช่วยได้ผมก็ไม่ว่าคุณหรอก

ท่านประธานาธิบดีท่านเข้าใจผิดแล้ว เอาแบบนี้ครับท่าน ไม่กี่วันที่ผ่านมาท่านท่านได้รับข่าวสารเรื่องกองทัพ เจแปน 20,000 นายถูกทำลายภายใน 1 ชั่วโมงหรือไม่

เมื่อท่านประธานาธิบดีได้ยินดังนั้น จึงฉุกคิดขึ้นมาได้ท่านประธานาธิบดีเองก็ได้รับข่าวสารนี้ด้วยเช่นกัน หลังจากได้ยินสิ่งที่รักชาติพูดท่านประธานาธิบดีก็มีความหวังขึ้นมาทันที

ติดตามชมตอนต่อไป

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***