ลิขิตรักคุณชายสกุลถัง
พรึ่บ !!! พรึ่บ !!!
เสียงสั่นไหวของกิ่งไม้และพุ่มไม้ดังขึ้นจากอีกต้นไปยังอีกต้น สายลมพัดผ่านต้นไม้ใหญ่ ใบไม้ใบเล็กล่องลอยกลางอากาศพริ้วไหวตามสายลม พัดผ่านผ้าคลุมสีน้ำเงินคล้ายท้องฟ้ายามค่ำคืน เส้นผมสีเทาหม่นประกายเงินกระทบกับแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมายังด้านข้างต้นไม้ต้นใหญ่ ดวงตาสีฟ้าครามทอดสายตามองไปยังบ้านหลังใหญ่ แสงไฟสีขาวถูกเปิดทิ้งไว้ในยามค่ำคืน
วูบบบบ วูบบบบบ
สิ้นสายลมพัดผ่านราตรีกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ชายวัยกลางคนร่างสูงเจ้าของกลุ่มผมสีดำนัยน์ตาสีนิลสุขุมเยือกเย็นยืนซ้อนร่างเด็กชายตัวเล็กที่กำลังมองบ้านหลังใหญ่ชานหมู่บ้าน ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
“ ข้าว่าเจ้าค่อยหาทางพบเขาด้วยวิธีอื่นไม่ดีกว่างั้นหรอ ”
“ ดึกขนาดนี้แล้ว ถ้าเจ้าเข้าไปจะไม่ผิดสังเกตุ… ” ไม่ทันที่ชายวัยกลางคนจะพูดจบ ร่างของเด็กชายตัวเล็กเจ้าของผ้าคลุมสีน้ำเงินเดินออกมาจากหลังต้นไม้ เด็กชายตัวเล็กหันกลับมามองชายวัยกลางคนที่กำลังยืนบ่นตนเองก่อนจะเอ่ยกับชายวัยกลางคนตรงหน้า
“ ท่านรอข้าอยู่ตรงนั้นแหละ ” เด็กชายตัวเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา นิ้วเรียวเล็กถูกยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากอมชมพูเบาๆ ก่อนที่เท้าเล็กจะก้าวเดินไปยังประตูหน้าบ้านหลังใหญ่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก
“ ใครครับ…? ” เจ้าของเส้นผมสีน้ำเงินเข้ม นัยน์ตาสีน้ำเงินประกายม่วงมองมายังคนตัวเล็ก ที่กำลังยกมือขึ้นมาถอดฮูดลง ใบหน้าเล็กเงยมองเด็กชายที่มีขนาดตัวสูงกว่าตนด้วยสายตาที่ออดอ้อน
“ ข้า...ชื่อหนิงเหอ.. ” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับก้มหน้าลงก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อ
“ ท่านจะช่วยข้าได้หรือไม่ ” ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยมองเด็กชายตรงหน้าด้วยใบหน้าที่คล้ายกับจะร้องไห้
“ เจ้าใจเย็นก่อน...มีอะไรค่อยๆพูดใครทำร้ายเจ้าหรือเปล่า ” เด็กชายเจ้าของเส้นผมสีน้ำเงินเข้มเงยหน้ามองรอบๆหน้าบ้านของตน
“ เจ้าเข้ามาพักด้านในบ้านข้าก่อน ข้าไม่ทำร้ายเจ้าแน่นอนวางใจได้ ” มือหนาสัมผัสลงบนไหล่ของคนตัวเล็กก่อนจะออกแรงดันเบาๆให้อีกฝ่ายเดินเข้าไปด้านในบ้าน
ด้านในบ้านหลังใหญ่
“ เจ้าชื่อ หนิงเหอ ใช่ไหม ” เด็กชายเจ้าของกลุ่มผมสีน้ำเงินเอ่ยถามหลังจากปิดประตูบ้านเสร็จ สองเท้าของเขาเดินเข้าครัว เพื่อไปหยิบน้ำให้แก่แขกตัวน้อยผู้มาเยือน
“ ใช่ ข้าชื่อหนิงเหอ ” แขกตัวน้อยเอ่ยตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่สดใส กระฉับกระเฉง
“ สายน้ำที่เงียบสงบ.. เหมาะกับเจ้าดีนะ ” เด็กชายผู้มีผมสีน้ำเงิน หยิบแก้วน้ำเดินออกมาจากห้องครัวสองเท้าก้าวยาวเดินมายังโต๊ะกลางบ้านที่แขกตัวน้อยกำลังนั่งรอตน คิ้วทั้งสองข้างของคนตัวเล็กขมวดเข้าหากัน ดวงตาสีฟ้าครามสดใสมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัยเล็กน้อย เส้นผมสีเทาหม่นประกายเงินดูสะดุดตาราวต้องมนต์สะกด
“ ขอบคุณท่านมาก หากไม่เป็นการรบกวนข้าอยากที่จะรู้จักท่าน... ” ดวงตาสีฟ้าครามสดใสสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินประกายม่วงที่กำลังมองมาที่ตนเองตั้งแต่เเรกเริ่ม ทั้งสองสบตากันสักพักจนกระทั่งคนตัวเล็กเริ่มเอ่ยเรียกคนตรงหน้าอีกครั้ง " ท่าน..ท่าน... หากท่านไม่เอ่ยนามข้าคงมิกล้ารบกวนเวลาอันมีค่าของท่าน "
หมับ !
มือหนาของเด็กชายผมสีน้ำเงินเข้มจับข้อมือของเด็กชายตัวเล็กเอาไว้ ริมฝีปากหนาเอ่ยตอบคำถามของคนตรงหน้า " ข้าชื่อ ถังซาน " เด็กชายตัวเล็กมองคนตรงหน้าพร้อมกับก้มลงมองข้อมือของตนที่อีกฝ่ายจับไว้
“ ข้าขอโทษ..ว่าแต่เจ้าทำไมถึงอยู่คนเดียวในเวลามืดค่ำแบบนี้ ” ถังซานปล่อยข้อมือของคนตรงหน้า ดวงตาสีน้ำเงินเข้มลอบสังเกตการกระทำของคนข้างๆ
" ข้าพัดหลงกับพ่อแม่ บังเอิญมาเจอบ้านของเจ้า " หนิงเหอนั่งลงข้างๆถังซาน มือเรียวเล็กยกขึ้นมากุมที่หน้าอกของตนเอง
“ เจ้าอายุเท่าไหร่ แล้วหน้าตาพ่อแม่เจ้าเป็นยังไง ” ถังซานเอ่ยถามอีกครั้ง เขามองคนตรงหน้าที่กำลังมีท่าทีที่หวาดกลัว
“ ข้าอายุ 8 ขวบ พ่อของข้าเขามีผมสีดำ ท่านแม่ขามีผมสีเดียวกันกับข้า ” หนิงเหอมองถังซานที่มองมาทางตนเองอยู่ตั้งแต่แรก ถังซานยกมือขึ้นลูบเส้นผมสีเทาหม่นของหนิงเหอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“ ขอโทษเจ้าด้วยที่ข้าเผลอสัมผัสเจ้า ” มือหนารีบเลื่อนมือออกทันทีที่ได้สติ
“ ไม่เป็นไร..ข้าไม่ได้ว่าอะไรเจ้าสักหน่อย ว่าแต่เจ้าเถอะอายุเท่าไหร่ ” ดวงตาสีฟ้าครามสบตากับคนตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะรีบก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกแปลกๆ
“ ข้าอายุมากกว่าเจ้า... หากว่าเจ้าไม่รังเกียจเจ้าจะเรียกข้าว่าพี่ซานก็ได้.. ” ถังซานเลื่อนมือมาวางบนไหล่ของหนิงเหอ คนตัวเล็กเงยมองคนตรงหน้าที่กำลงส่งรอยยิ้มมาให้ตนเอง
ตึกตัก ตึกตัก
“ ตกลง ข้าจะเรียกเจ้าว่าพี่ซาน ” สิ้นเสียงหนิงเหอ ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนด้วยรอยยิ้ม ในใจของหนิงเหอกำลังก่อความรู้สึกบางอย่าง
“ !! ”
ดวงตาสีน้ำเงินประกายม่วงมองเด็กชายตรงหน้าได้ไม่นานก็ต้องรีบหันหน้าหนีอีกฝ่าย ถังซานรีบยกมือขึ้นมากุมหน้าอกของตน ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เขาเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ ก่อนจะค่อยๆแอบหันกลับไปมองอีกฝ่ายที่กำลังหันหน้าไปอีกทาง
"เจ้า....พี่ซานบ้านท่านทำอาชีพตีเหล็กหรอ.. ” หนิงเหอเอ่ยถามพรางหันมามองถังซาน ถังซานที่เห็นว่าอีกฝ่ายหันมามองตนก็รีบกระแอมเบาๆ
“ ฮ่ะแฮ่ม ใช่ ท่านพ่อของข้ามีอาชีพเป็นช่างตีเหล็กในหมู่บ้าน ” สิ้นเสียงใบหน้าคมสันมองไปยังคนตรงหน้าที่กำลังยืนมอง
“ ถ้าเช่นนั้นเจ้าช่วยอะไรข้าหน่อยจะได้หรือป่าว ”
“ ได้ จะให้ข้าช่วยทำอะไรเจ้าบอกมาได้เลย ”
“ ครอบครัวของข้าเป็นรับอาวุธมาค้าขายจากต่างแดน หลายวันมานี้พ่อข้าหาช่างตีเหล็กผลิตอาวุธให้ไม่ได้หากพี่ซานยินดีช่วยเหลือเรื่องส่วนแบ่งข้าจะยกให้ท่าน 80 เปอร์เซ็นต์ ของที่ข้าและครอบครัวขายได้ทั้งหมด ”
“ ข้ารับปากเจ้าแล้วว่าจะทำให้ ส่วนแบ่งข้าขอรับเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เผื่อไว้สำหรับการเดินทางของเจ้า ”
“ ส่วนแบบงานหากเจ้าพกติดตัวมาก็คงจะดี ”
“ ข้าพกมันติดตัวมาด้วย.. ” หนิงเหอกล่าวพร้อมกับหยิบม้วนกระดาษออกมายื่นให้ถังซาน ก่อนจะหันหลังเดินไปยังหน้าเตาผิงไฟ
"อืม..จากแบบที่ข้าเคยเห็นอุปกรณ์ที่ว่าของเจ้านี่แปลกกว่าที่คิดไว้นิดหน่อย ” ถังซานยืนดูแบบวาดของหนิงเหอ มือหนาม้วนแผ่นกระดาษพร้อมกับเก็บมันลงในกระเป๋า
“ ถ้าเจ้าสนใจเรื่องนี้ข้าสามารถสอนให้เจ้าได้ ” ถังซานกล่าว ขาเรียวยาวของเขาก้าวเดินไปหาคนตัวเล็กที่กำลังยืนมองเตาผิงไฟ และอุปกรณ์ตีเหล็ก
“ ไม่ดีกว่า.. ข้าคงมีความสามารถไม่มากพอที่จะให้พี่สอนหรอก อีกอย่างข้าคงมีเวลาไม่มาก ” ถังซานหันมองหน้าหนิงเหอกำลังมองไฟในเตาที่ลุกโชน ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
“ หนิงเหอ..เจ้า.. ” มือหนาของถังซานแตะลงบนไหล่ของคนตัวเล็กเบาๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มหันมาตามแรงสัมผัสทำให้ใบหน้าของทั้งสองใกล้กัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้ทั้งสองขยับตัวแยกออกจากกันด้วยความรวดเร็ว หนิงเหอที่เอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยใบหน้าอมชมพู มือเล็กรีบยกฮูดขึ้นมาคลุมปิดบังซ่อนใบหน้าที่เขินอาย
" เมื่อครู่พี่ซานจะถามอะไรข้าอย่างนั้นหรอ " คนตัวเล็กยืนหันหลังรอฟังคำตอบของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
‘ หนิงเหอ..เป็นอะไรน่ะ... ’
‘ เขาคงไม่ได้โมโหข้าหรอกใช่ไหม ’
ในขณะที่ถังซานกำลังใช้ความคิดเสียงเคาะประตูบ้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ ข้ามีแค่ท่านพ่อที่อยู่กับข้าในตอนนี้ หากเจ้าไม่รังเกียจข้าที่มีอาชีพเป็นเพียงช่างตีเหล็ก เจ้ายินดีที่จะเป็น.. ”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!!
ใบหน้าคมบึ้งตึงเล็กน้อย เท้าทั้งสองข้างของถังซานเดินไปยังประตูหน้าบ้านที่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว มือหนาเอื้อมบิดลูกบิดประตูพร้อมกับใช้แรงดึงประตูให้เปิดออก
“ สวัสดีครับ..ไม่ทราบว่าท่านมาหาใคร.. ” ไม่ทันที่ถังซานจะพูดจบชายร่างสูงปริศนาพุ่งตัวเข้ามายังด้านในบ้านของถังซาน ตรงไปยังหนิงเหอที่กำลังยืนหันหลัง ในขณะที่ใบหน้าจิ้มลิ้มกำลังขยับตัวหันมาทางประตูหน้าบ้าน
‘ เป้าหมายของเขาคือ..หนิงเหอ!! ’
‘ ข้าพึ่งได้พบเขา..จะให้ข้าเสียเขาไปอีกไม่ได้!! ’
“ ปลอกแขนเก้าทัณฑ์ไร้เสียง ”
อาวุธถูกปล่อยออกไปโดยไร้เสียง มีความเร็วเร็วในการพุ่งเข้าโจมตีศัตรู ยิงได้ไกล 30 เมตร พลังทะลุทะลวงแข็งแกร่ง ยิงได้ สี่ ครั้งต่อ 1 รอบ ลูกศรพุ่งตรงไปยังร่างสูงปริศนา ดวงตาสีฟ้าครามเบิกโพรงกว้างด้วยความตกใจ
หมับ!!
ร่างสูงปริศนารวบตัวหนิงเหอเข้าอ้อมแขน ชายวัยกลางคนร่างสูงเจ้าของกลุ่มผมสีดำนัยน์ตาสีนิลกระโดดหลบการโจมตีอย่างพริ้วไหว ลูกศรทั้งสี่ถูกปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันไม่เป็นผลให้อีกฝ่ายบาดเจ็บแม้แต่น้อย
“ เจ้าหนูจะสู้กับข้ามันยังไวไป 10 ปี เจ้าน่ะพอแค่นี้แหละ ”
“ ท่านเป็นใครแล้วทำไมจะต้องจับตัวหนิงเหอด้วย!! ปล่อยหนิงเหอลง ” ถังซานมองไปยังหนิงเหอที่กำลังถูกจับหนีบเข้าเอว
“ เขาคือท่านอา...ของข้าเอง... เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอกอาข้าคงแค่จะอยากพาข้ากลับบ้าน ” ให้ตายสิ ข้าบอกกับเขาไปแล้วไม่ใช่หรอว่าให้รอข้างนอก
“ หึ อาวุธที่เจ้าใช้โจมตีข้า เมื่อครู่ไม่เลว เจ้ายินดีจะขายต่อข้าหรือไม่ ” ศอกเล็กกระแทกเข้าสีข้างของชายวัยกลางคน ใบหน้าของคนที่กำลังถูกหนีบบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“ อาวุธชิ้นนี้ข้าคงขายให้กับท่านไม่ได้... ” ถังซานกล่าวมือหนาหยิบชิ้นส่วนอาวุธอีกชุดในกระเป๋าออกมาพร้อมกับขาเรียวยาวทั้งสองข้างที่เดินเข้าหาคนตัวเล็กที่กำลังถูกหิ้วตัวลอย
“ แต่ข้ายินดีที่จะมอบให้กับเจ้า เอาไว้ให้เจ้าป้องกันตัวจากอันตรายที่เข้ามาใกล้ ”
“ แต่ว่าของสิ่งนี้มีค่ามากเกินไปข้าคิดว่าพี่ควรจะเก็บไว้.. ”
“ เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไร... ” ถังซานขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ ข้าเรียกเจ้าว่าพี่..ทำไมงั้นหรอ ” หนิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย พรางรอฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
“ หนิงเหอเจ้าเรียกข้าว่าพี่ เช่นนั้นเจ้าคือน้องข้า พี่อย่างข้ามอบอาวุธป้องกันตัวให้น้อง ไม่ว่าสิ่งที่ข้าทำจะมีค่าทางทรัพย์สินมากน้อยเพียงใด ข้าให้เจ้ารับไว้ เพื่อใช้ป้องกันตัวหากเจ้าไม่รับข้าคง.. ” ถังซานมองไปยังเตาเผาที่ไฟกำลังลุกโชติตลอดเวลา
“ ข้าจะรับไว้ ขอบคุณพี่ซานที่เป็นห่วงความปลอดภัยข้า ” หนิงเหอยื่นมือไปรับอาวุธที่อีกฝ่ายมอบให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
‘ เจ้าเด็กนี่...เจ้าคารมจริงๆ ’
“ ถ้าเจ้าไม่มีอะไรกับหลานข้าแล้ว ข้าคงต้องขอตัวพาเขากลับไปหาพ่อแม่ ” ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ย ขาทั้งสองข้างก้าวเดินออกไปยังหน้าประตูบ้าน
“ พี่ซานไว้ข้าจะติดต่อกลับมา ” หนิงเหอกล่าว ก่อนที่ลมแรงจะพัดผ่านไปพร้อมกับใบไม้พัดผ่านร่างของทั้งสองคนที่กำลังเดินจากไปในยามรุ่งสาง
“ ข้าจะรอ..วันที่เราได้พบกันอีกครั้ง ”
“ ต่อให้น้องจากพี่ร้อยครั้ง พี่ยินดีตามหาเจ้าให้พบ จะคอยเจ้าผู้เป็นดั่งดวงใจ รอคอยวันที่เจ้าหวนคืนสู่อ้อมแขนของพี่ เมื่อถึงวันนั้นเราจะได้อยู่เคียงข้างกัน... ”
แก้ไข 3/10/66 20:57
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments