เช้ามืด พายุสงบ ท้องฟ้าแจ่มใสพร้อมกับหิมะขาวโพลนที่ทับถมกันเต็มผืนป่า ซามูไรตื่นขึ้นมาในกระท่อมที่เงียบสงัด แม้ว่าเขาจะไม่ได้สวมหน้ากากอยู่ก็ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้เนื่องจากความมืด เห็นได้เพียงเงาราง ๆ เท่านั้น เขาใช้มือทั้งสองข้างดันพื้นขึ้นมาอย่างช้า ๆ แล้วมองไปทั่วห้องที่ทำจากไม้สนแก่ ๆ เพดานสูงราวสามเมตร มีเครื่องไม้เครื่องมือทำครัวและตัดไม้วางอยู่บนชั้นริมห้อง บาดแผลจากการต่อสู้เมื่อคืนได้หายไปเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าฉงน ผ้าคลุม อุปกรณ์และอาวุธถูกวางไว้ที่มุมของห้องอย่างเป็นระเบียบ แต่ไม่มีทารกอยู่ เขารีบดันตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สวมใส่หน้ากากและอุปกรณ์ เมื่อเปิดประตูออกมาก็ได้พบกับชายชราท่านหนึ่ง ดูภายนอกอายุราวแปดสิบปลาย ๆ ผิวของเขาเป็นสีน้ำผึ้ง ศีรษะของเขาโล่งเตียน ใบหน้าของเขาเหี่ยวย่น ดวงตาบอดสนิท แต่ยังคงมีฟันที่แทบจะสมบูรณ์อยู่ เขาสวมกิโมโนสีดำยาวทับกับชุดข้างในที่มีสีดำเหมือนกัน
ชายชรา : “อ้าวตื่นแล้วเหรอเจ้าหนู”
??? : “...”
เขาไม่ตอบและตั้งท่าเตรียมชักดาบในฝักทันที
??? : “ท่านคือใคร ?”
ชายชรา : “ข้าก็แค่หมอแก่ ๆ คนหนึ่งที่มาใช้ชีวิตบั้นปลายในป่าเท่านั้นแหละ”
??? : (“เขากำลังโกหกอยู่...”)
??? : “ท่านเป็นคนที่รักษาข้าหรือ แล้วเหตุใดจึงช่วยรักษาข้า ?”
เขาถามชายชราด้วยเสียงที่ไม่ว่าใครฟังก็รู้ว่า นี่คือเสียงที่มีเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน
ชายชรา : “ข้ารักษาเจ้าก็เพราะว่าเจ้ากำลังจะ ตายไง ฮ่า ๆ ...แต่การลากเจ้ามาที่นี่ก็เหนื่อยเอา เรื่องเหมือนกันแม้ว่าเจ้าจะอยู่ห่างจากบ้านข้าแค่นิดเดียวก็เถอะ”
ชายชราพูดออกมาด้วยเสียงที่ราวกับว่าไม่รู้ ร้อนรู้หนาวใด ๆ เลย
??? : “ดูเหมือนท่านจะลืมบางอย่างไปนะ..เด็ก ทารกที่ข้าพามาอยู่ไหน...”
บรรยากาศเริ่มตึงเครียด ภายในกระท่อมเงียบสงัด แต่ชายชราก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าออกมาให้เห็น
ชายชรา : “พูดอะไรของเจ้าน่ะ ข้าก็ใช้พลังฟื้นฟูให้เจ้าถูกจุดนะ ?”
??? : “ข้าสัมผัสถึงลมที่พัดออกมาจากใต้กิโมโนของท่าน เป็นลมหายใจของมนุษย์ที่แผ่วเบามาก นั่นเป็นลมหายใจของทารกใช่หรือไม่ ?”
ชายชรา : “เหอะ ๆๆ ...สัมผัสไม่เลวเลยนะเจ้าหนู”
ไม่ถึงพริบตา ชายชราก็ทุบพื้นกระท่อมที่ทำ จากไม้แล้วหยิบดาบของเขาออกมาจากใต้ถุน ดาบของเขาเป็นดาบประเภทเดียวกับที่ซามูไรหนุ่มมี แต่ไม่มีส่วนโค้งและตรงมาก พร้อมทั้งยังชักดาบออกมาจ่อที่คอของทารกที่ซ่อนอยู่ใต้กิโมโนของเขา
ชายชรา : "เจ้าหนู...ถ้าต้องการปกป้องเด็กคนนี้ก็จงมาดวลดาบกับข้าเสีย”
??? : “คำก็เจ้าหนูสองคำก็เจ้าหนูแล้วทำไมท่านถึงอยากสู้กับข้าจนขนาดที่นำเด็กมาเป็นตัวประกันด้วย”
เขาชักดาบออกมาแล้วชี้ดาบไปข้างหน้า เพื่อเป็นการเตือนว่าเขาตั้งใจจะฆ่าชายชราจริงๆ
ชายชรา : “หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ข้าจะบอก เหตุผลพร้อมกับคืนเด็กให้ก็แล้วกัน”
ชายชราได้นําทารกไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าวเพื่อไม่ให้โดนลูกหลงไปด้วย
ชายชรา : “ข้าว่าเราย้ายที่ไปด้านนอกก่อนเถอะ เด็กจะได้ไม่ต้องตื่นแล้วร้องไห้ด้วย”
ทั้งสองย้ายที่มาดวลข้างนอกกระท่อม เวลายังคงเป็นช่วงเช้ามืดที่แสงอาทิตย์ยังส่องมาไม่ถึง ชายชราชักดาบออกมาแล้วนําไปพาดไว้บนบ่าขวา ส่วนทางซามูไรหนุ่มก็ยืนจับดาบในฝักอย่างใจเย็น
ชายชรา : “น่าแปลกใจนะที่เจ้าไม่แย่งเด็กไป หลังจากที่ข้าวางลงบนโต๊ะ ทั้ง ๆ ที่เจ้าจะพาเด็กหนีไปเดี๋ยวนั้นเลยก็ได้”
??? : “ข้าเองก็แปลกใจเช่นกันที่ท่านไม่เอาชีวิตของข้าและเด็กไปตั้งแต่ครั้งแรก”
หลังจากที่พูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ กันจบ ทั้งคู่ก็เริ่มตั้งท่าย่อเข่าลงและตั้งดาบไว้ด้านหน้าพร้อมต่อสู้
ชายชรา : “ข้าให้เจ้าเข้ามาก่อนเลย”
??? : “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
เขาได้พุ่งไปหาชายชราพร้อมกับชักดาบออกมาตัดศรีษะของอีกฝ่าย ขาซ้ายชายชราได้ถอยหลังหลบหนึ่งก้าว จากนั้นถอยเท้าขวากวาดไปทางซ้ายพร้อมหมุนตัวฟันสวนกลับอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกรับไว้ได้ ทั้งสองได้กระโดดถอยหลังทิ้งระยะออกมาเล็กน้อยแล้วพุ่งเข้าหากันอีกครั้งพร้อมกับรัวดาบใส่กันอย่างรุนแรงจนเสียงเหล็กกระทบกันกังวานป่า ประกายไฟจากการเสียดสีและกาะแทกกันของดาบกระจายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดาบที่ปะทะกันนั้นเร็วมากจนคนธรรมดามองตามแทบไม่ทัน
ชายชราได้งัดดาบขึ้น ทําลายกระบวนท่าของ อีกฝ่าย และฟาดดาบลงมาอย่างรุนแรง ซามูไรหนุ่มใช้ดาบรับการโจมตีที่ฟาดลงมาจนแทบคุกเข่าลงกับพื้น เมื่อชายชราเห็นว่าเขาเปิดเผยช่องโหว่ก็ได้เตะเขาที่ซี่โครงของคู่ต่อสู้อย่างจังจนกระเด็นถอยหลังกลิ้งไปกับพื้น ทำให้หิมะบนพื้นฟุ้งกระจายออกมาในอากาศราวกับหมอก บดบังทัศนวิสัย เมื่อตั้งตัวได้ก็รีบลุกขึ้นแล้วตั้งท่าเตรียมรับการโจมตี
ชายชรา : “ลองฟันข้าให้ถูกสิ...ถ้าหากทำได้น่ะนะ..เจ้าหนู..”
หลังจากชายชราพูดจบ อีกฝ่ายก็ได้เห็นเงา ภายในหมอกหิมะ เขาพุ่งไปแทงแต่เงาก็หายไป พร้อมกับเงาอีกหลาย ๆ ร่างที่ปรากฏออกมาอยูาล้อมรอบตัว ทำให้งุนงงอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะไล่โจมตีที่เป้าหมายเงาแล้ว เงาเล่า และอยู่ ๆ เงาเหล่านั้นก็ได้หายไปหมดพร้อมกับชายชราที่โผล่มายังด้านหลังของอีกฝ่ายและแทงดาบเข้าที่สีข้างด้านขวาจนทะลุออกมา ซามูไรรีบปักดาบลงพื้น ใช้มือขวาจับที่แขนของชายชราแล้วดึงตัวของชายชรามาทางด้านหน้า ใช้มือซ้ายจับดาบที่ปักอยู่บนพื้น ดึงขึ้นมาแล้วแทงเข้าไปที่กลางท้องของชายชราอย่างจัง
ทั้งคู่ได้ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ ซามูไรหนุ่มรีบควานหายาห้ามเลือดที่อยู่ในชุดของเขา ระหว่างนั้นชายชราคลานมาดึงดาบของเขาที่ปักออกแล้วสัมผัสที่แผลของอีกฝ่าย แล้วแผลนั้นก็ได้หายเป็นปลิดทิ้ง
??? : “นี่ท่าน...เป็นคนที่รักษาข้าจริง ๆ หรือ ? ที่ผ่านมาข้าไม่คิดเลยแม้แต่น้อยว่าท่านจะพูดสัตย์จริง ข้านึกว่าท่านเป็นคนที่ฆ่าหมอไปด้วยซ้ำ แล้วท่านมีเหตุผลอันใดถึงต้องมาต่อสู้กับข้าด้วย....”
ชายชรากระอักเลือดออกมาพร้อมกับยื่นดาบของเขาที่แทงท้องของชายชราให้
ชายชรา : “เหอะ....ๆ ข้าก็แค่ทหารฟุยุมิ...ที่ เกษียณตัวเองมา....แล้วใช้ชีวิตในป่าก็แค่นั้น...พลัง-ข้า...ยิ่งใช้..ก็จะยิ่ง..ลดอายุขัยของข้า....เจ้าเห็นข้าแก่ๆ แบบนี้ ข้าเพิ่งย่างเข้าสี่สิบเองนะ...ส่วนที่ท้าก็เพราะว่าข้า....ไม่ชอบคนผมยาว แต่เพราะความเป็นหมอ จะไม่รักษา..ก็ไม่ได้...ดาบของเจ้า.... และ ดาบนั่น (ชายชราชี้ไปที่ดาบของเขา) ข้ามอบมันให้เจ้าก็แล้วกัน..”
??? : “("ท่านหัวล้านเองนะ") เหตุใดท่านถึงไม่รักษาตัวเองล่ะ ท่านกำลังจะตายแล้วนะ...”
ชายชรา : “...พลังของข้า...คือการมอบชีวิต...ข้า ไม่สามารถมอบให้ตัวข้าเองได้...”
ชายชรา : “..ก่อนที่ข้าจะตาย...ข้าอยากจะถาม อย่างหนึ่ง...เจ้ามีนามว่าอะไร.....?”
??? : “...ข้า...นามของข้า...ไดอิจิมารุ แต่หลายคนมักจะเรียกข้าว่าไดอิจิ”
ชายชรา : “...ไดจิ....เสียง...ไม่ค่อยชัดเลย...ไดจิที่หมายความว่า..ลูกชายคนแรกน่ะหรือ ?”
ไดอิจิมารุ : “... ไม่ใช่ไดจิ..ได-อิ-จิ...ที่หมายความว่าแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ต่างหาก...”
หลังจากที่ชายชราจากไป ไดอิจิมารุก็ฝังศพของชายชราและนำดาบที่ชายชรามอบให้เก็บไปด้วย
ระหว่างที่ไดอิจิกลับกระท่อมไปรับทารกคืน ก็พบกับผ้าคลุมสีดำที่มีลวดลายของควันวิญญาณสีขาวปักอยู่บนผ้า เขานำมันมาดูแล้วนำมาเปลี่ยนกับผ้าคลุมสีน้ำเงินหม่นของเขาที่ถูกไฟไหม้ไปแล้วนำไปใช้เป็นผ้าพันคอแทน และได้พบกับงอบทรงกระโจมคว่ำยอดแหลมที่สานจากไผ่ของชายชราที่วางทิ้งไว้บนชั้นไม้ผุ ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยได้ใช้มันเลย ดูจากฝุ่นที่เกาะจนหนาเตอะ ไดอิจิใช้มือซ้ายหยิบมันขึ้นมาปัดแล้วนำไปเคาะเบา ๆ ที่กำแพงเพื่อนำฝุ่นออก
ไดอิจิมารุ : “งอบนี้ ข้าขอด้วยก็แล้วกันนะ”
ไดอิจินำงอบมาสวมบนหัว
ไดอิจิมารุ : “...”
ไดอิจิมารุ : “ใส่ไม่ได้แฮะ…”
ทรงผมของไดอิจิเป็นทรงหางม้าสูง ไม่แปลกใจเลยที่จะใส่งอบไม่ได้
...หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนทรงผมโดยการมัดตรงปลายผมแทนเพื่อที่จะได้ใส่งอบ...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments