สู่ขอบฟ้าแห่งบูรพา

สู่ขอบฟ้าแห่งบูรพา

สายลมประกายน้ำแข็ง ก้าวที่ ๑ เถ้าถ่านของหิมะ

*นิยายเรื่องนี้มีความรุนแรง การบรรยายฉากการต่อสู้ การฆ่าคน ฆ่าสัตว์ เลือด

*ในบางตอนหากมีฉากที่ผู้อ่านที่เป็นโรคกลัวทะเล กลัวที่แคบ กลัวรู กลัวผี ฯลฯ จะมีคำเตือนเขียนกำกับเอาไว้ในย่อหน้าที่จะถึง และจะมีสรุปเนื้อหาในช่วงท้าย

ท่ามกลางพายุหิมะที่พัดโหมกระหน่ำยามดึก มีปราสาททรงญี่ปุ่นสูงหลายสิบเมตรแห่งหนึ่งชื่อ "ฟุยุมิ" ที่กำลังถูกเผาอยู่ เปลวไฟสีแดงฉานที่ลุกโชนจนสูงกว่าปราสาททำให้ในคืนนั้นปราสาทดูสว่างไสวราวกับว่าตะวันยังไม่ตกดิน เสียงโหยหวนจากความเจ็บปวดของเหล่าทหารในปราสาทที่ถูกฆ่าและถูกเผาทั้งเป็น ซามูไรแห่งฟุยุมินายหนึ่งรีบออกจากห้องห้องหนึ่งของปราสาทพร้อมกับสวมหน้ากากเหล็กสีดำเสริมด้วยสีทอง ริมฝีปากของหน้ากากแยกจากกันให้เห็นขบฟันสีเลือดและเขี้ยวสองคู่ที่โค้งยาวสีขาวสะอาด จมูกโด่งกว้าง ดวงตาของหน้ากากนั้นกลวงโบ๋ ผมของเขาสีดำยาวถึงกลางสะบักมัดรวบไว้เป็นทรงหางม้าสูง สวมผ้าคลุมสีน้ำเงินหม่นยาวถึงเข่า ด้านขวาถูกไฟไหม้เสียหายจนแหว่ง สูงเพียงร้อยเจ็ดสิบ กางเกงเป็นสีดำ สวมถุงมือเหล็กสีดำ เสื้อแขนยาวสีขาวทับด้วยเกราะที่ทำมาจากแผ่นเหล็กมีสีน้ำเงินเข้มสลับกับดำ รองเท้าเหล็กฐานหนาหุ้มข้อถึงต้นขา เขาวิ่งออกไปจากปราสาททางประตูหน้า ทางบริเวณนั้นเต็มไปด้วยศพของเหล่าซามูไรของทั้งสองฝ่าย เลือดสาดกระจายจนมองไปทางไหนก็เห็นเพียงแต่ของเหลวสีแดงชาดที่กลิ่นคาวโชยออกมาจนแทบจะอาเจียน มือซ้ายของเขานั้นอุ้มบางสิ่งบางอย่างไว้แนบอกพร้อมกับนำผ้าคลุมของเขาห่มมันไว้อย่างดี

แคว้นที่กำลังล่มสลายถูกไฟลุกลามเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ ข้างทางที่เขาวิ่งผ่านมีเพียงบ้านเรือนที่ถูกเปลวไฟท่วมจนมองไม่เห็นหลังคา เสียงร้องไห้ของเด็ก เสียงคร่ำครวญของชาวบ้านที่แสนวุ่นวายจนจับใจความไม่ได้ ภาพที่เพื่อนมนุษย์ฆ่ากันอย่างโหดร้ายทารุณ ไม่ว่าจะเป็นการจามขวานลงที่ใบหน้า สมองที่ไหลออกมาราวกับเนื้อบด ร่องรอยของการแทงกันจนเครื่องในหลุดกระจาย ลำไส้ที่ทะลักออกมาพันกันเป็นปมแสนน่าเวทนา การรุมทำร้ายเด็กตาดำ ๆ ที่อ่อนแอไร้ทางสู้ ถึงแม้ว่าภายในจิตใจของเขาจะอยากช่วยมากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงวิ่งหนีเท่านั้น.....

ระหว่างทางมีศัตรูสวมผ้าคลุมแขนยาวสีดำหลายคนเข้ามาขวาง เนื่องจากผ้าคลุมของพวกเขายาวถึงเข่า คลุมหัวและสวมหน้ากากปิดปากทำให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ พวกเขาพยายามที่จะจับตัวซามูไรหนุ่มให้ได้ แต่ก่อนที่จะถึงตัว เขาใช้มือขวาดึงดาบออกมาจากฝักพร้อมกับหมุนตัวเป็นวงกลมราวกับพายุขนานไปกับพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเพียงอึดใจเดียวพวกศัตรูก็กระเด็นออกไปจากบริเวณ เขาไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปและกระโจนเข้าหาฝ่ายศัตรูพร้อมกับท่าดาบเรียบ ๆ ที่ทรงพลังและต่อเนื่อง ระหว่างที่ออกท่าไปเรื่อย ๆ เปลวไฟที่อยู่รอบ ๆ ตัวก็พัดมารวมกันที่ใบดาบแล้วไหลเป็นทางตามทิศทางการโจมตีราวกับสายลม ซามูไรฟันไปที่กลางอก ตัดหัว ตัดแขน แม้กระทั่งตัดลำตัวของศัตรูที่กำลังเสียท่ากันอยู่ ทุกครั้งที่โจมตีไฟก็คลอกตัวคู่ต่อสู้ไปทีละคนสองคนจนสุดท้ายร่างของพวกเขาก็เหลือเพียงเถ้าถ่าน ไฟบนใบดาบที่ลุกไหม้ได้ดับลง เขายกดาบขึ้นมาดูในแนวขนานกับพื้น ใบดาบมีลวดลายของหญิงสาวสวมผ้าคลุมในท่าที่กำลังระบำอยู่สลักบนใบดาบสีเงินเข้มที่โค้งมนสวยงาม คมดาบมีด้านหน้าเพียงด้านเดียวแต่เพียงสัมผัสเบา ๆ ก็เกิดแผลได้ โกร่งดาบสีทองเป็นทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดที่ส่วนขอบหนาแต่ส่วนในเป็นตารางบาง ๆ ด้ามดาบพันด้วยผ้าสีดำและส่วนปลายด้ามห้อยกระดาษสีเหลืองที่มีลวดลายคล้ายกับยันต์และเขียนไว้บนกระดาษว่า “จิตใจ” หิมะที่พัดมาสัมผัสถูกใบดาบก็ได้กลายเป็นไอไปในทันที เขาเก็บดาบเข้าฝักสีดำแล้ววิ่งต่อไป

ระหว่างที่เขากำลังวิ่งอยู่ เขาก็กระซิบออกมาด้วยเสียงของชายหนุ่มที่ทุ้มต่ำและแตกเล็กน้อย

??? : “ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง….”

เมื่อออกจากแคว้นแล้วหนีเข้าป่าสนยักษ์ที่สูง เทียมปราสาทฟุยุมิ เสียงทุกอย่างก็ได้เงียบลง ไปราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น มีเพียงเสียงย่ำพื้นที่ปกคลุมหิมะหนา ๆ และเสียงของพายุหิมะเท่านั้น หลังจากที่วิ่งไปสักพักก็เริ่มมีเสียงข้างหลังที่ค่อยๆ คืบคลานตามมา...

??? : (“เสียงฝีเท้า....มาแล้วหรือ”)

หลังจากที่เขาคิดได้ดังนั้นก็รีบเร่งฝีเท้า ศัตรูก็ตามอย่างไม่ลดละและพยายามจะจับเขา พร้อมกับสิ่งที่อยู่ในมือของเขาให้ได้ พวกเขาพยายามยิงธนู ปามีดสั้นและดาวกระจายใส่ แม้ว่าจะพยายามหลบ แต่ด้วยการโจมตีมีมากเกินกว่าที่ความสามารถของเขาในตอนนี้จะหลบมันได้หมด สุดท้ายก็ถูกมีดสั้นแทงไปที่ขาขวา ทำให้ความเร็วของเขาลดลงกระทันหัน แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีเวลามากพอที่ให้ศัตรูเข้าล้อมไว้ได้ ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงเสียงของพายุหิมะที่ดังอยู่เรื่อย ๆ ต่างฝ่ายต่างหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน

??? : (“ศัตรูที่ล้อม..มีสักหกคนเห็นจะได้...”)

       ศัตรู : “ยอมจำนนแล้วส่ง.... ในมือเจ้ามาเสีย”

       ศัตรู : “พวกข้าจะยอมไว้ชีวิตก็ได้ หากเจ้ามอบมันมาแต่โดยดี”

       ??? : “ขนาดชาวบ้านไร้ทางสู้ที่อ้อนวอนขอชีวิต พวกเจ้าก็ไม่สนใจ..นับประสาอะไรกับข้า”

ทันทีที่พูดจบ เขาก็พุ่งทะยานเข้าไปตัดหัวของศัตรูหนึ่งคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เลือดของอีกฝ่ายพุ่งขึ้นฟ้าเป็นละอองคล้ายน้ำพุและหยดลงมาราวกับสายฝนสีชาด จากนั้นเขาก็กระโจนใส่อีกคนพร้อมกับม้วนตัวเป็นวงกลมแนวดิ่งฟันที่กลางใบหน้าของอีกฝ่ายจนสมองทะลักออกมา หลังจากที่จัดการไปสองคน อีกสามคนที่จะมาโจมตีที่ด้านหลังก็ได้วิ่งเข้าใส่เพื่อฆ่าเป้าหมาย เขากระโดดตีลังกากลางอากาศและปักดาบไปที่กลางหัวศัตรูหนึ่งคนแต่ก็ถูกหนึ่งคนฟันที่กลางหลังและอีกคนแทงที่อกขวาจนทะลุ เขาดึงดาบของตนที่ปักหัวศัตรูไว้ออกมา แล้วแทงไปที่คอของอีกฝ่ายตรงหน้า พร้อมกับจับคนข้างหลังทุ่มลงกับพื้นแล้วเหยียบใบหน้าของอีกฝ่ายจนเละ

ศัตรูอีกหนึ่งคนพุ่งเข้ามาประดาบอย่างแรงเขากระโดดถอยหลังแล้วไปหลบหลังต้นสนต้นหนึ่ง จากนั้นจึงวิ่งผ่านต้นสนใกล้ ๆ นับสิบที่อยู่รอบ ๆ ทำให้ศัตรูนั้นไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของเขาได้ เมื่อเห็นช่องโหว่ เขาก็พุ่งเข้าไปที่ด้านหลังและแทงเข้าไปที่หัวใจของศัตรูจนทะลุ หลังจากที่จัดการคนสุดท้ายได้แล้ว

??? : “..ไม่สิ..ยังเหลืออีกหนึ่ง....”

ถึงจะรู้ตัวแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว คนสุดท้ายได้กระโดดลงมาอยู่เหนือหัวแล้วฟาดดาบลงมาที่ กลางลำตัวของเขา ถึงจะหลบเลี่ยงจุดตายได้ แต่ก็ถูกปลายดาบฟันที่ไหล่ขวาอยู่ดี อยู่ ๆ เขาก็เกิดภาพของคนบริสุทธิ์ที่ถูกฆ่าในแคว้นฟุยุมิ ความโกรธได้ถาโถมเข้ามา ทำให้เขาปล่อยมือที่อุ้มสิ่งนั้นไว้แล้วจับหัวอีกฝ่ายไปฟาดกับต้นสนนับสิบครั้ง ระหว่างนั้นเขาก็เห็นแต่ภาพของแคว้นที่ถูกเผาทำลายและทำให้เขาโกรธยิ่งขึ้นและฟาดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ศัตรูที่ถูกจับฟาดก็ได้ขอร้องให้หยุดและกรีดร้องออกมา ด้วยความทรมาณ จนศีรษะของอีกฝ่ายก็ได้แตก ออกพร้อมกับชิ้นส่วนกระโหลกที่กระจายออกมา เมื่อเขารู้สึกตัว เขาก็ปล่อยมือที่จับศัตรูลงกับพื้น

??? : (“...มัน..ตายแล้ว...”)

หลังจากจบการต่อสู้ เขาก็ยืนมองร่างอีกฝ่าย ไม่สามารถรู้ได้ว่าเขากำลังแสดงสีหน้าอะไร เห็นได้เพียงหน้ากากที่ถูกเลือดสาดกระเซ็นใส่พร้อมกับมือของเขาที่สั่นระรัวราวกับว่าเพิ่งรู้ถึงสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป แต่นี่ไม่ใช่เวลามารู้สึกผิดแล้ว เสียงฝีเท้าอีกนับสิบก็เริ่มไล่ตามมาอีก เขาเก็บดาบเข้าฝักและรีบวิ่งต่อไปแม้ว่าจะบาดเจ็บหนักก็ตาม

(ครึ่งชั่วยามต่อมา)

แม้ว่าจะทิ้งห่างจากพวกนั้นไปแล้วก็ยังประมาทไม่ได้ ณ ตอนนี้ควรหาที่ที่พวกมันตามมาไม่ถึงหรือหาไม่เจอเพื่อพักรักษาตัวก่อน หลังจากนั้นสักพักก็เจอกับโกรกธารที่สองฝั่งขาดจากกันสิบกว่าเมตร ต้องกระโดดข้ามหน้าผาไปให้ได้ เขาวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับกระทืบเท้าขวาลงพื้นพร้อมกับออกแรงดันตัวพุ่งทะยานออกไปข้างหน้า แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บและอ่อนแรง ทำให้ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้

??? : “อีกนิดเดียว..ก็จะถึงแล้ว”

เขายื่นมือขวาไปเกาะที่ขอบของหน้าผา เมื่อมองลงไปก็เห็นเป็นผืนน้ำเชี่ยวที่อยู่ลึกลงไปกว่าสามสิบเมตร แม้จะพยายามดึงตัวเองขึ้นเท่าไร แต่เรี่ยวแรงก็แทบไม่เหลือแล้ว แถมปอดที่ฉีกก็แสนจะเจ็บปวดทรมาณ สุดท้ายก็ถึงขีดจำกัดและตกลงไปกลางผา

ก่อนที่จะถึงพื้นน้ำ เขารีบชู “สิ่งนั้น” ขึ้นเหนือหัวเพื่อไม่ให้ถูกน้ำเย็นจัดกระเด็นใส่ คงจะเป็นของที่สำคัญน่าดู เขาถูกน้ำพัดมาเรื่อย ๆ จนเมื่อถึงที่ที่กระแสน้ำเริ่มอ่อนลง เขาก็ได้คลานขึ้นตลิ่งเตี้ย ๆ แล้วยกเข่าขวานำเท้าดันพื้น พร้อมกับค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเดินต่อไปอย่างโซซัดโซเซ

ข้างทางมีแต่ป่า มีแต่หิมะหนาวเหน็บ ไร้ซึ่งที่พักพิง อาการบาดเจ็บที่มากเกินเยียวยา ปอดขวาถูกแทง ขาอ่อนล้า ตาพร่ามัว สุดท้ายก็ถึงขีดจำกัด เขาล้มลงกลางกองหิมะ แต่มือซ้ายของเขายังคงอุ้มสิ่งที่อยู่บนอกของเขาไว้แน่นแล้วพยายามพลิกตัวนอนตะแคงข้างเพื่อไม่ให้ร่างของเขาทับมัน ระหว่างนั้นผ้าได้แง้มออกมา เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น มันคือเด็กทารกที่นอนหลับอย่างสงบ จากนั้นทุกอย่างก็ได้มืดลงไป...

...ฟุยุมิเป็นชื่อของปราสาทในแคว้นฟุยุมิที่มีชื่อเหมือนกัน...

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!