เรื่องของที่รักก็จบลงแค่นั้นที่เราคุยกัน
ผมก็เรียนจนตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านแล้ว เพราะมันเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
ผมก็เดินตรงมาที่รถที่ผมจอดเอาไว้ ก็จอดเรียงๆกับเพื่อนๆผมนั่นแหละ
แต่ผมแค่ออกมาก่อนไม่ได้รอพวกมันแค่นั้นแหละ แต่พอมาถึงรถ รถของที่รักที่จอดอยู่ตรงหน้า
มีคนยืนล้อมอยู่ตรงนั้น
"หึ! นี่สินะ กูรู้ละว่าทำไมรถแฟนกูถึงมาจอดที่นี่" ผมก็ทำได้แค่ยืนเฉยๆ จะให้ขึ้นรถยังไง
ในเมื่อไอ้นั้น มันพิงรถอยู่
"มึงเป็นใครกันแน่ กูก็พึ่งจะเคยเห็นหน้ามึงนี่แหละ โผล่มาจากไหนวะ
แล้วเข้ามาวุ่นวายกับรดาทำไมวะ!!" คำพูดอาจจะดูธรรมดา แต่หน้าตาแม่ง กวนตีนผมสุดๆละตอนนี้
ผมก็ยังคงนิ่ง ก็อยากจะรู้มันจะเอายังไง
"เงียบทำเหี้ยอะไรวะ กวนตีนหรอ!!"
"หึ!!" ผมแสยะยิ้มไปทีนึง
ไม่ได้กวนตีน แต่มันยิ้มออกมาเอง
"มึงจะเอาให้ได้!!" มันเดินตรงมาทางผม
ก็เอาดิ ผมก็สู้คนหนิ ใครมันจะปล่อยให้โดนต่อยฟรีๆกัน
"เห้ย ไรวะ!" เสียงมาจากข้างหลัง
รู้แค่ว่ามันเป็นเสียงของเพื่อนผม แต่ก็ไม่ได้หันไปดูหรอก
เพราะตอนนี้ผมจ้องหน้าไอ้นี่อยู่
"อย่าเสือก ไม่ใช่เรื่องของพวกมึง!" ไอ้คนตรงหน้าผมมันชี้ไปข้างหลังผม
"แน่จริงอย่าหมาหมู่ หมาหมู่มากูก็จัด!" เหมือนจะเป็นเสียงของไอ้ขุน ที่มันพูดอยู่ เหมือนเพื่อนของไอ้เหี้ยนี่มันเข้ามากระซิบอะไรซักอย่าง
พวกมันก็มองไปทางข้างหลังของผม ผมเลยหันไปดูว่าใคร มันอยู่ข้างหลังผมบ้าง
"เหี้ย!!" มันเป็นจังหวะที่ผมหันหลัง
แล้วก็รู้สึกว่าโดนถีบเข้ามาที่กลางหลังเหมือนกัน
จนผมพุ่งเข้าไปหาเพื่อนผมที่มันยืนเรียงกันอยู่ตรงหน้า
"หยุด! กูจัดการเอง" ผมดึงไอ้ขุนไว้
เพราะตอนนี้มันกำลังจะพุ่งใส่ไอ้นั่น พอผมหันหลังกลับไป ก็คงไมรอช้าอะไรใส่มันกลับทันทีเหมือนกัน
มันทำผมตอนไม่ทันตั้งตัวได้ ผมก็ทำได้เหมือนกัน
"ไอ้สัส!!" ผมต่อยเข้าที่หน้ามันก่อนหนึ่งที
และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครห้ามอะไรใครทั้งนั้น
ผมกับไอ้เหี้ยนี่ก็ใส่กันนัวอยู่ตรงนี้ ตอนนี้มันก็คงจะเป็นผมที่เป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่
ก็ผมค่อมมันอยู่ ส่วนมันก็คงได้แค่ยกแขนขึ้นมากัน และคิดว่าผมจะพอแค่นี้หรอ คงไม่
"พอไอ้สัสพอ อาจารย์มา เดี๋ยวก็ได้โดนกันหมด" เสียงเพื่อนผมดังขึ้น เพื่อนผมกับเพื่อนมันต่างก็จับเราแยกกัน
อาการมันก็ดูหนักเอาการเหมือนกัน เพื่อนมันถึงขั้นพยุงมันเอาไว้ ส่วนผมกับมัน
ก็ยังคงจ้องหน้าเอาเรื่องกันอยู่
"ว่าไง..ที่รัก" มือถือของผมมันสั่นนานแล้ว
เพราะผมใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงมันเลยรู้สึก ผมเลยล้วงออกมา พอดูเบอร์ มันก็โชว์ชื่อของที่รักขึ้นมาหน้าจอ
โทรมาได้จังหวะจริงๆ
"เลิกเรียนรึยัง?" ทำไมน้ำเสียงของเธอดูแปลกไปกว่าวันอื่นๆ
"อืม.. มีไรรึเปล่า?" ผมก็ยืนคุยต่อหน้าไอ้เหี้ยนี่แหละ คุยไป
ก็ยังคงมองหน้ามันอยู่
"จะกลับบ้านเมื่อไหร่ แม่ถาม"
"แม่?" ผมถึงกับถามย้ำไป ว่าสิ่งที่ได้ยินมันไม่ผิด
"ก็แม่ไง แม่นายอ่ะ"
"อืม.. บอกแม่ด้วย จะกลับเดี๋ยวนี้แหละ"
"อืม.. งั้นแค่นี้นะ"
"เดี๋ยว..ที่รัก" เวลาผมเรียกชื่อของที่รัก
ทำไมผมรู้สึกว่าผมทำหน้ากวนๆไปทางนั้นอยู่เรื่อยเลย
"อะไร?"
"อ๋อ.. เปล่า ก็แค่อยากเรียก" ใช่..มันก็แค่อยากเรียก ให้ใครได้ยินก็แค่นั้นแหละ
"บ้าป่ะเนี้ย แค่นี้นะ" ก็แค่อยากเรียก
ยั่วโมโหคนแถวนี้ ที่รักก็กดตัดสายไป ผมก็เก็บมือถือไว้ที่เดิม
"กูกลับนะ ที่รักโทรตามให้กลับบ้านแล้วอ่ะ" ผมเดินเลี่ยงมาขึ้นรถ
แต่ก่อนจะเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งในรถผมก็ยังคงหันไปกวนมันซักหน่อย
ก็แค่แสยะยิ้มไปให้แค่นั้น ก่อนจะขับออกมา
กลับมาถึงบ้าน ผมก็ไม่ได้ลงจากรถทันทีหรอก อย่างแรก ผมต้องหันไปมองกระจกหลังก่อน
ก็ต้องดูสภาพหน้าตัวเองว่ามันเละมากแค่ไหน แต่ผมไม่ได้โดนหนักอะไรขนาดนั้น
แต่มันก็มีแผลที่อยู่มุมปาก ปากแตกสินะ ผมก็แค่ทำการเช็ดคราบเลือดออก
แล้วก็ลงจากรถก็เดินตรงเข้าบ้านมา แต่เสียงที่ได้ยิน มันทำให้ผมแปลกใจ
เสียงหัวเราะร่าเริงมันดังออกมาจากในบ้าน ผมเลยค่อยๆเดินเข้าไป ก็เห็นแม่
ทำอะไรซักอย่างอยู่ในครัว กับ..ที่รัก?
เสียงหัวเราะที่ได้ยิน ก็ที่รัก? ถึงว่าหล่ะ
ตอนที่เธอโทรไปหาผมน้ำเสียงของเธอถึงเป็นแบบนั้น
แต่อยู่ๆเสียงพวกนั้นก็เงียบไปเมื่อที่รักเธอหันมาเจอผม..
"ดูสภาพ! ไปทำอะไรมาห้ะ!!" เป็นเสียงของแม่ผมเองแหละที่เอ็ดผมอยู่
"อุบัติเหตุนิดหน่อย" ผมก็ไม่ใช่เด็กดีอะไร
เรื่องแบบนี้มันก็เคยเกิดขึ้นกับผมมาบ้าง และแม่ก็รับรู้ทุกอย่างดี
"ไปเรียนยังไม่ถึงอาทิตย์ มีเรื่องจนได้ ไอ้หน้านิ่งๆหยิ่งๆนี่นะ
เมื่อไหร่จะเปลี่ยนมันซักที" แม่ของผมก็ยังคงบ่น
"ก็ปกติมั้ยแม่ จะให้เปลี่ยนยังไง ก็หน้ามันเป็นแบบนี้เอง" ก็จริง ผมก็หน้าแบบนี้มาตลอดมั้ย
จะให้มานั่งยิ้มทั้งวันก็คงบ้าแล้วหล่ะ
"ใครทำ?" ที่รักเธอเอ่ยถามและทำหน้าที่มันโคตรจะจริงจังมาทางผม
"ไม่มีไรหรอก มันก็แต่เรื่องไร้สาระ ขึ้นห้องก่อนนะแม่" ผมตอบเธอเสร็จ ผมก็หันไปบอกกับแม่ของผม
แล้วก็เดินขึ้นห้องของผมมาทันที
พอเข้ามาถึงในห้องผมก็ต้องมาดูสภาพของตัวเองอีกครั้ง
มันก็เลอะแหละ ก็คลุกฝุ่นมา ก็อย่างที่บอกผมไม่ได้เจ็บอะไรมากมายซะหน่อย
ผมเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้วก็ทำการถอดเสื้อผ้าที่มันเปื้อนลงตะกร้า คงต้องอาบน้ำ
มือกำลังจะเอื้อมไปเปิดฝักบัวอยู่แล้ว
แต่ผมกลับได้ยินเสียงเหมือนใครมาเคาะอยู่หน้าห้อง เลยหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาใส่
แล้วก็ต้องเดินออกมาเปิดประตู
"จะ..อาบน้ำหรอ?" เป็นที่รัก ที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู
ในมือของเธอมีอุปกรณ์ทำแผล ก็คงเอามาให้หล่ะมั้ง
"เข้าไปได้มั้ย?"
"ห้ะ?" ผมก็ตกใจนิดๆแหละ
เห็นสภาพผมแบบนี้ยังจะเข้ามาอีกหรอ?
"หลีกๆ" คงไม่รอคำตอบ
เพราะเธอดันตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องของผมแล้ว
"นั่ง" อยู่ๆก็ออกคำสั่ง
แล้วทำไมร่างกายของผมมันต้องทำตามด้วยก็ไม่รู้ที่รักก็ทำแผลที่มุมปากให้ผม เพราะมันก็คงมีแค่นั้นที่ผมโดน
"ไอ้พี่คิน มันไม่ใช่เล่นๆเลยนะ ทำไมต้องไปสู้กับมันด้วย" มือก็ทำไป ปากก็พูดไปด้วย
"จะปล่อยให้มันทำอยู่ฝ่ายเดียว?" ผมก็ตั้งคำถามไป
มันไม่มีใครยอมหรอก ไม่ได้ทำอะไรผิดซักนิดแต่กลับมาโดนทำก่อน ยังไงก็ต้องสู้
"ช่างเถอะ พ่อเค้าเป็นถึงตำรวจถ้าเค้าเล่นนายไม่รอดแน่ๆ"
"เป็นตำรวจแล้วจะจับใครก็ได้รึไง คนมันไม่ผิดจะมาจับก็ได้งี้หรอ
ไอ้เหี้ยนั่นมันเริ่มก่อน จะปล่อยให้มันซ้อมจมกองตีนมันแบบนั้นหรอ คิดอะไร? กฎหมายมีไว้คุ้มครองแค่ลูกตำรวจรึไงวะ!" ผมคงไม่ยอมจริงๆ ถ้ามันจะเป็นแบบนั้น
มันโคตรจะไม่แฟร์
"โอ้ย!! ที่รัก!! เจ็บนะเว้ย!" เธอกดเข้ามาที่มุมปากของผมอย่างแรง
"พูดมาก จะเสร็จมั้ยวันนี้ จิ๊!!" ผมคงต้องเงียบ..และปล่อยให้เธอทำจนเสร็จ
"เสร็จแล้วก็ลงไปข้างล่างด้วย แม่รอเฉ่งนายอยู่!" ก็คงจะหมายถึงถ้าผมอาบน้ำเสร็จสินะ
"อืม.." มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อยที่ผมโดนแม่ดุ
ที่รักเดินออกจากห้องของผมไป
ส่วนผมก็ต้องมาทำสิ่งที่ค้างไว้ให้เสร็จ
จัดดารตัวเองเสร็จผมก็ต้องลงไปหาแม่ข้างล่าง เพราะได้คำสั่งแบบนั้น
"มานี่เลยนะตัวดี!" เสียงที่คุ้นเคย
ที่ผมได้ยินอยู่บ่อยๆตอนผมเกเร
"แม่ เบา" ก็ตอนนี้แม่เอ็ดผมซะดังเลย
"เกิดอะไรขึ้น?" ตอนนี้ทุกคนอยู่โต๊ะอาหาร รวมถึงพ่อของที่รักด้วย คงจะกลับมาจากทำงานแล้ว
"เรื่องชกต่อยหน่ะสิ!" แม่ก็หันไปตอบคำถามพ่อของที่รักที่ถามออกมา
"อืม..มันก็เรื่องปกติของเด็กผู้ชาย" มันก็เป็นแบบนั้น
"ใช่ครับ..แม่คิดมาก" ใช่แหละ
มันเรื่องปกติ แม่คิดมากไปจริงๆ
"เดี๋ยวเถอะ ย้ายมาเรียนได้ไม่กี่วันก็ไปมีเรื่องกับเค้าแล้ว
มันใช้ได้ยังไงนะ ห้ะเคมี!"
"ผมอยู่เฉยๆแล้วแม่ มันมาหาเรื่องเอง"
ผมก็คงต้องเถียงเพราะแม่ไม่เข้าใจ
"อืม..ช่างเถอะๆกินข้าวกันดีกว่า ยังไงมันก็จบไปแล้ว" แฟนใหม่ของแม่ก็หันไผบอกกับแม่
"กลัวจะไม่จบหน่ะสิ บอกไปแล้วเค้าเป็นลูกตำรวจ" พ่อของที่รักก็หันไปมองหน้าเธอ
"ลูกตำรวจ? แล้วไปรู้เรื่องของเค้าได้ยังไง" ที่รักก็เงียบไป ไม่ได้ตอบอะไร
"ผมเล่าให้ฟังเองครับ" ก็ดูท่าแล้ว
เหมือนเธอจะโดนดุอีก ผมเลยตัดบทไป
"อืม เอาเถอะ ถ้ามีเรื่องค่อยว่ากันละกัน กินข้าวกันดีกว่า" เรื่องก็จบลงแค่นั้น
ทุกคนก็มาสนใจกับข้าวตรงหน้าต่อ
"วันนี้มีแกงมัสมั่นไก่ที่คุณชอบด้วยนะคะ
นี่และก็มีไก่ผัดขิงของชอบของเคมีด้วยเหมือนกัน" แม่ก็จัดแจงบอกเมนูอาหารให้ฟัง แล้วก็ตักให้พ่อของที่รักกับผมด้วย
"อืม.. ฝีมือคุณหรอ" พอพ่อของที่รักกินเข้าไปก็หันไปถามแม่
มันก็อร่อยแหละเพราะผมก็กินของผมแล้ว แม่ผมทำกับข้าวอร่อย
"วันนี้หนูรดาเข้าครัวเองค่ะ ทั้งสองอย่าง หนูรดาทำ" แม่ก็ตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
"แค้กๆๆ" ผมถึงกับสำลัก
"อ่าว กินยังไงให้สำลัก กินน้ำเข้าไป" แม่ก็หันมาเอ็ดนิดนึง
"ครับ" ไม่น่าเชื่อ
ว่าฝีมือทำกับข้าวของยัยที่รักรสชาติออกมาเหมือนแม่ของผมทำเลย มันเลยทำให้ผมแปลกใจ
"เก่ง" พ่อของเธอก็ชมเธอแค่นั้น คงเป็นครั้งแรกมั้ง ที่ผมไม่เห็นเธอทะเลาะกับพ่อของเธอ
แล้วตอนนี้เธอก็แอบยิ้มอยู่ด้วย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 44
Comments