ออกเดินทาง (1)

หลังจาก Dilma เข้าร่วมกลุ่มแล้วทั้งสามคนจึงออกเดินทางจาก Obendoore เพื่อข้ามภูเขา Hinnora แล้วไปยัง Clacton ที่เป็นจุดหมายของพวกเขา

“ถ้าพวกเราข้ามภูเขาลูกนี้ไปแล้วก็จะถึงที่ Clacton ใช่มั้ย”

Julien ถามออกมา

“ก็ถ้าข้ามภูเขาลูกนี้ไปแล้วเดินไปอีกสักหน่อยก็ถึงแล้วล่ะ”

Dilma ตอบ

“จริงเหรอ”

Mabel ถาม

“ฉันพูดจริงอยู่แล้ว”

Dilma ตอบก่อนจะนึกอะไรได้

“…ว่าแต่พวกนายไม่รู้จักเมือง Clacton สักนิดกันเลยเหรอ”

Dilma ถาม Julien กับ Mabel ด้วยความสงสัย

“คิดว่าไม่นะ”

Julien ตอบไปตามตรง

“งั้นฉันจะเล่าให้ฟังคร่าวๆก็แล้วกันว่าเมืองนั่นเป็นยังไง”

Dilma กล่าวก่อนตัดสินใจที่จะเริ่มเล่าเกี่ยวกับ Clacton ให้ฟังด้วยความมั่นใจ

“Clacton เป็นเมืองท่าเรือและเมืองหลวงของทวีป Sylvani ซึ่งเป็นเมืองที่สามารถเห็นมหาสมุทรสีน้ำเงินสวยงามได้ทั่วไปและมีอาหารทะเลขายตลอดปี ที่นั่นเป็นที่อยู่อาศัยของพวกชาวประมงส่วนใหญ่เลยล่ะ และก็ที่นั่นน่ะนะเป็นเมืองหลวงของทวีปนี้อีกด้วย!”

“ฉันคิดว่าฉันพอจะนึกภาพออกแล้วว่า Clacton เป็นยังไง”

Mabel กล่าวพลางนึกภาพตาม

“เอ่อ นี่นายพูดเกินจริงรึเปล่าเนี่ย”

Julien ถามเมื่อเห็นหน้าของ Dilma ที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“ก็ต้องพูดไม่เกินจริงอยู่แล้วสิ”

“อย่ามัวเสียเวลาเลย พวกเรารีบไปยัง Clacton กันเถอะ”

ไม่รอช้า Dilma จึงเดินนำกลุ่มของเขาไปอย่างรวดเร็ว

“ในเมื่อ Dilma เล่ามาขนาดนั้นแล้ว จะไม่ไปยัง Clacton ก็คงไม่ได้แล้วล่ะนะ พวกเราเองก็ไปรับงานจาก Obendoore มาแล้วด้วย”

Julien กล่าว

“ฉันเองก็อยากรู้แล้วว่า Clacton จะเป็นเหมือนที่เขาว่ารึเปล่า ไปกันเถอะ”

Mabel กล่าวจบทั้งสองคนจึงเดินตาม Dilma ไปตามทางภูเขา Hinnora

---

Skit 10: ทวีป Sylvani

“จะว่าไปแล้วฉันได้ยิน Dilma พูดว่าทวีป Sylvani มาอยู่รอบนึงน่ะ”

“ทวีปที่ว่านั่นอยู่ที่ไหนเหรอ”

Mabel ถาม Julien กับ Dilma

“Sylvani ที่เธอพูดถึงก็คือที่นี่ไงล่ะ”

Julien ตอบ

“ที่ที่พวกเรายืนอยู่ตอนนี้น่ะเหรอ?!”

Mabel ประหลาดใจ

“ใช่แล้วล่ะ พูดง่ายๆเลยคือ Sylvani เป็นหนึ่งใน 7 ทวีปของ Lithone น่ะ”

Julien อธิบาย

“คนเขากล่าวกันว่าที่ Sylvani มีป่าไม้ทุ่งหญ้าอุดมสมบูรณ์ทั่วแดนอีกด้วยล่ะ”

Dilma เสริม

“นั่ันคงอธิบายได้ว่าทำไมภูเขา Hinnora ถึงมีหญ้าขึ้นทั่วภูเขาสินะ”

Mabel พูดพลางมองหญ้าที่ขึ้นตามแนวภูเขาก่อนพูดกับตัวเอง

“ฉันล่ะอิจฉาดาวเคราะห์ที่ยังไม่พัฒนาไปก้าวไกลแบบนี้จัง มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แบบนี้เนี่ย”

“เธอพูดอะไรรึเปล่า”

Dilma ถาม Mabel

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”

Mabel ตอบกลบเกลื่อน

---

ทั้งสามคนเดินไปตามทางของภูเขาจนกระทั่งพบกับ Locustworm กลุ่มหนึ่งที่มากับแมลงขนาดใหญ่สีแดงลายเหลืองกลุ่มหนึ่ง

“พวกนั้นที่อยู่กับ Locustworm มันตัวอะไรน่ะ”

Mabel ถาม Dilma

“พวกนั้นมัน Stingbee นี่นา ระวังด้วย พวกมันมาแล้ว!”

Dilma กล่าวเตือนก่อนที่เหล่าแมลงจะจู่โจม พวกเขาจึงเตรียมอาวุธออกมาก่อนเข้าสู่การต่อสู้

---

BATTLE START

การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นโดยมี Locustworm อยู่ 2 ตัวและ Stingbee อีก 2 ตััว

“พวกแมลงนี่นา น่าขยะแขยง”

Mabel กล่าว

“ระวังด้วยนะทุกคน!”

Julien กล่าวเตือน

“ฉันจะซัดพวกแกเดี๋ยวนี้ละ!”

Dilma กล่าวยั่วก่อนเขาจะวิ่งไปหา Stingbee โดย Julien กับ Mabel เล็งที่จะจัดการพวก Locustworm ก่อน

“ฮึบ! เอานี่ไป!”

Dilma กระโดดไปหา Stingbee ก่อนจะหมุนตัวเตะมันเพื่อทำ DMG และให้มันตกลงมาจากกลางอากาศ

“Energy Blast!!”

ในจังหวะที่มอนสเตอร์ร่วงลงพื้นนั้นเอง Dilma ใช้ HP ส่วนหนึ่งเพื่อกำมือขวาแล้วชักไปด้านหลังก่อนผลักไปข้างหน้าซึ่งสร้างคลื่นพลังงานโจมตีอย่างต่อเนื่องพร้อมค่อยๆผลักศัตรูออกไปเล็กน้อย โดยการโจมตีนั้นได้รับ Chain Bonus 25% อีกด้วย

“เอาไปอีก! Fang Bolt!!”

Dilma ใช้ HP ส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีต่อโดยชุดการโจมตีที่ว่องไวด้วยการต่อยสองครั้ง เตะเฉียงขึ้นลงและเตะหมุนตัวสองครั้งตามลำดับและการโจมตีนั้นได้รับ Chain Bonus 50% อีกจึงสามารถสังหารศััตรูได้ทันที

“ไอ้โง่!”

Dilma กล่าวหลังกำจัดศัตรูได้ก่อนจะวิ่งไปหา Stingbee อีกตัว

ในขณะเดียวกัน Julien ป้องกันการโจมตีอย่างต่อเนื่องของ Locustworm จนการป้องกันของเขาถูกทำลาย

“บ้าเอ๊ย!”

Julien พูดเมื่อการป้องกันของเขาถูกทำลายก่อนตอบโต้ด้วยการโจมตีปกติแล้วตามด้วยแอ็กชั่นของเขา

“Shockwave Rush!!”

Julien แกว่งดาบทำมุม 180 องศาเพื่อสร้างคลื่นกระแทกโจมตีมอนสเตอร์ และ DMG ที่ทำก็เพิ่มขึ้นด้วยผลของ Chain Bonus ที่ได้รับจากการใช้แอ็กชั่นต่อจากโจมตีปกติ

จากนั้นเขาจึงใช้การโจมตีปกติต่อจากแอ็กชั่นเพื่อสะสม Chain Bonus เพิ่มก่อนใช้ Shockwave Rush เพื่อโจมตีมอนสเตอร์ และด้วยความแรงที่ได้เพิ่มจาก Chain Bonus จึงทำให้การโจมตีนั้นสังหารมันทันที

ส่วน Mabel ที่กำลังต่อสู้กับ Locustworm อีกตัวนั้นจึงใช้การโจมตีปกติใส่ในจังหวะที่ศัตรูโจมตีเธอพอดี จังหวะนั้นเองการโจมตีของทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกันจนผลักทัั้งคู่ออกไป

“อะไรกัน?!”

Mabel ตกใจเมื่อการโจมตีของตัวเองปะทะกับการโจมตีของศัตรู แต่เธอกลับวิ่งไปหาศัตรูและใช้การโจมตีปกติอย่างงรวดเร็วก่อนตามด้วยแอ็กชั่น

“Crushing Fist!!”

Mabel ใช้ HP ส่วนหนึ่งแล้วใช้หมัดขวาต่อยศัตรูด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อสร้าง DMG ใส่มันด้วยความแรงที่เพิ่มจาก Chain Bonus ก่อนตามด้วยการโจมตีปกติก่อนปิดท้ายด้วยแอ็กชั่นเดิม โดยเธอสามารถสังหารมันได้อย่างง่ายดาย

ส่วน Dilma ที่กำลังวิ่งไปหา Stingbee อีกตัวนั้น มอนสเตอร์จึงทำการระดมยิงเหล็กในใส่เขาเป็นจำนวน 5 ครั้ง เขาจึงป้องกันการโจมตีของมันไว้

“อ่อนหัด!”

Dilma กล่าวเมื่อป้องกันการโจมตีก่อนจะวิ่งไปหามอนสเตอร์แล้วกระโดดขึ้นกลางอากาศเพื่อเตะเสยคางมันให้ลงมาจากกลางอากาศ เมื่อเขาลงมาถึงพื้นแล้วเขาจึงใช้ท่าโจมตีพิเศษของเขา

“Fang Bolt!!”

Dilma ระดมหมัดกับลูกเตะโจมตีใส่ศัตรูอย่างรวดเร็วกับปิดท้ายด้วยท่าโจมตีอีกท่า

“เอาไปกินซะ! Energy Blast!!”

Dilma กำมือขวาแล้วชักไปด้านหลังก่อนปล่อยมือไปด้านหน้าเพื่อสร้างคลื่นพลังงานโจมตีมอนสเตอร์อย่างต่อเนื่อง ด้วยความแรงที่เพิ่มจาก Chain Bonus จึงทำให้ท่าโจมตีกำจัดศัตรูได้ทันที และการต่อสู้ก็ได้จบลง

BATTLE END

RESULTS

EXPERIENCE: 48

COIN: 8

ACQUIRED ITEMS: Nothing

“ทำดีแบบนี้ต้องได้ 10 เต็ม 10 แล้วล่ะ!”

Mabel กล่าว

“ไม่ๆๆ ต้อง 100 เต็ม 10 เลยต่างหาก!!”

Dilma กล่าว

“10 เต็ม 10 ก็พอละมั้ง”

Julien กล่าว

Level ของ Julien เพิ่มขึ้นเป็น Level 4 แล้ว ได้รับ 60 SP, 12 T.SP, 1 TP และ 1 AP

Level ของ Mabel เพิ่มขึ้นเป็น Level 4 แล้ว ได้รับ 60 SP, 12 T.SP, 1 TP และ 1 AP, Mabel ได้เรียนรู้ Excruciating Palm แล้ว

---

“อะไรกันเนี่ย ทำไมที่ภูเขาถึงมี Stingbee อยู่ได้ล่ะ?!”

Dilma พูดทั้งโกรธทั้งตกใจ

“ฉันจำได้ว่าพวกมันอยู่แต่ในป่าทึบนะ”

Julien สงสัย

“ถ้าให้ลองคาดเดาแล้ว ภูเขา Hinnora อาจจะเคยเป็นที่อยู่อาศัยของพวก Stingbee ส่วนหนึ่งที่อพยพมาจากถิ่นฐานต้นกำเนิดมาก็ได้”

Mabel สันนิษฐาน

“ย้ายถิ่นฐานเหรอ”

Dilma ถามอย่างงุนงง

“อืม โดยปกติแล้วการอพยพถิ่นฐานของแมลงจะเกิดขึ้นโดยบางปัจจัย และแน่นอนว่าการอพยพของแมลงจะเป็นการเคลื่อนไหวของแมลงจำพวกแมลงปอ ผีเสื้อ ด้วงหรือผีเสื้อกลางคืนโดยเฉพาะมากกว่า”

“แต่มันก็มีกรณีที่ว่าแมลงจะอพยพไปยังพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การดำรงชีวิตของพวกมัน ถ้าพูดตามตรงเลยแมลงเป็นสัตว์เลือดเย็นนั่นแหละนะ”

“ซึ่งถ้ากล่าวสรุปคือพวก Stingbee อพยพจากสักที่ในทวีป Sylvani และมายังภูเขาลูกนี้เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่นั่นเอง”

Mabel อธิบาย

“……ไม่เข้าใจเลยว่ะ!”

Dilma นึกไม่ออกกับสิ่งที่ Mabel กล่าว

“เอ่อ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจนะ แต่พูดถึงอุณหภูมิแล้วภูเขา Hinnora ก็อากาศเย็นเหมือนที่เธอว่าจริงๆนั่นแหละ เพราะงั้นพวก Stingbee เลยอพยพมายังที่นี่สินะ”

Julien ตอบ

“ใช่แล้วล่ะ ยิ่งอยู่ที่สูงเท่าไหร่อุณหภูมิอากาศก็ยิ่งต่ำลงไปด้วย”

Mabel กล่าว

“พวกนายสองคนจะบอกว่าพวก Stingbee มาอยู่ที่นี่เพราะอากาศเย็นเหรอ”

Dilma ถาม

“ถ้าจะบอกอย่างนั้นก็ถูกล่ะ”

Mabel ตอบ

“ให้ตายสิ ฉันกะว่าวันนี้จะรับงานแล้วออกเดินทางสบายๆแท้ๆ แต่ไหงกลับต้องเป็นช่วงที่เจ้าพวกแมลงบ้านั่นอยู่ด้วยฟะ?!”

Dilma พูดพร้อมกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิด

“ช่วยไม่ได้นี่นา ใครจะไปรู้ล่ะว่าพวกมันจะอพยพมาที่นี่น่ะ”

Julien กล่าว

“…เฮ้อ ช่างมันเถอะ พวกเรารีบไปยัง Clacton ก่อนที่พวก Stingbee จะมาเพิ่มกันดีกว่า”

Dilma กล่าว

“เห็นด้วยเลย ฉันสงสัยอยู่ว่าทำไมภูเขาลูกนี้ถึง พวกเรารีบเดินทางลงจากภูเขา Hinnora ก่อนที่จะพวกแมลงจะอพยพมาเพิ่มกันเถอะ”

Mabel กล่าวก่อนที่กลุ่มของเธอจะเดินทางขึ้นไปยังยอดภูเขา Hinnora อีกพร้อมทั้งต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ที่เข้ามาจู่โจมพวกเขาในระหว่างการเดินทาง

Level ของ Julien เพิ่มขึ้นเป็น Level 5 แล้ว ได้รับ 60 SP, 12 T.SP, 1 TP, 1 AP และ 5 BP, Julien ได้เรียนรู้ Impact Strike แล้ว

Level ของ Mabel เพิ่มขึ้นเป็น Level 5 แล้ว ได้รับ 60 SP, 12 T.SP, 1 TP, 1 AP และ 5 BP

เมื่อกลุ่มของ Julien เดินทางมาถึงยังยอดของภูเขา Hinnora แล้วพวกเขาจงยืนดูทิวทัศน์ของทวีป Sylvani จากบนยอดเขา

“พอยืนอยู่ตรงนี้แล้วเห็นอะไรหลายอย่างเลยแฮะ”

Mabel พูดพลางมองป่าไม้ทุ่งหญ้าด้านล่างภูเขา

“ใช่ แถมที่นี่ลมเย็นสบายสุดๆเลยด้วย”

Julien เห็นด้วย แต่กลับเห็น Dilma กำลังหาอะไรบางอย่างจึงถามเขา

“มีอะไรเหรอ Dilma”

“พวกนายไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ บนยอดเขาไม่มีพวก Stingbee หรือ Locustworm อยู่สักตัวเลยนะ”

Dilma กล่าว

“จริงตาม Dilma พูดเลย Mabel เธอพอรู้อะไรบ้างรึเปล่า”

Julien ถามพลางมองรอบๆ

“…ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้พวกแมลงหลีกเลี่ยงยอดเขาเลย”

“แต่ยังไงก็ตามพวกเราจะพักก่อนมั้ย หรือจะเดินทางลงจากภูเขาตอนนี้เลยล่ะ”

Mabel ถาม Julien และ Dilma

“เอาไงดีล่ะ Julien”

Dilma ถาม Julien

“พวกเรารีบลงจากภูเขาก่อนที่พวกแมลงจะอพยพมาเยอะกว่านี้กันเถอะ”

Julien เสนอ

“ถูกของเขานะ ถ้าพวกแมลงมากันเยอะละก็ตอนลงภูเขาคงอันตรายแน่”

Mabel เห็นด้วย

“โอเคตามนั้น พวกเราไปกันเลย”

Dilma กล่าวก่อนที่กลุ่มของเขามุ่งหน้าเดินทางลงจากยอดเขาด้วยอีกเส้นทาง

---

Skit 11: ความรู้เยอะ

“ทั้งที่ฉันอยู่ที่ Sylvani เป็นบ้านเกิดของฉัน ฉันยังไม่รู้เยอะเท่านายเลย”

Julien บอก Dilma

“ฉันศึกษามาดีน่ะ เพราะฉันอยากตัั้งบ้านมาอยู่ที่นี่นานแล้วน่ะสิ”

“ป่าไม้อุดมสมบูรณ์แบบนี้ แหล่งน้ำใสสะอาด ทวีป Sylvani น่ะเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตสบายๆเลยล่ะ”

Dilma กล่าว

“ท่าทางนายศึกษามาดีจริงๆแหละ ฉันอยู่แต่ในหมู่บ้านเลยไม่ค่อยรู้อะไรเยอะสักเท่าไหร่”

Julien กล่าว

“หว่า แบบนั้นเป็นฉันคงเบื่อตายแย่เลย”

“ถ้าไปถึง Clacton แล้วละก็นายจะได้เห็นสิ่งที่ชวนว้าวแน่นอน ฉันรู้มาว่าที่นั่นมีของดีเพียบ”

Dilma บอก Julien

“เหมือนนายจะทำเป็นรู้ไปหมดแล้วพูดไปเรื่อยยังไงไม่รู้แฮะ”

Julien พูดพลางเหงื่อตกนิดหน่อย

“ฉันพูดจริงว่าฉันรู้จริงนะเฟ้ย!”

Dilma เถียง Julien

---

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังเดินทางลงจากภูเขา Hinnora นั้นเอง พวกเขาก็ยังคงพบกับเหล่า Locustworm และ Stingbee ที่เตร็ตเตร่ไปทั่วเช่นเคย

“พวก Stingbee อพยพมากันเยอะกว่าเดิมอีกแฮะ”

Dilma บ่นออกมาอย่างไม่พอใจ

“ดีแล้วที่ Julien บอกให้เดินทางต่อเลย ไม่งั้นพวกเราเจอพวกมันเยอะกว่านี้แน่”

Mabel กล่าว

“ไว้ขอบคุณฉันทีหลังนะ Mabel”

Julien บอก Mabel

“ยังไงซะ งานก็งาน กระทืบพวกแม่งให้หมดระหว่างทางเลยเถอะ!”

Dilma กล่าวก่อนที่ทั้งสามคนจะไล่กำจัดพวกมอนสเตอร์ตามทางขณะเดินทางลงจากภูเขา Hinnora เพื่อเก็บสะสม EXP และ Coin จากพวกมัน

Level ของ Julien เพิ่มขึ้นเป็น Level 6 แล้ว ได้รับ 60 SP, 12 T.SP, 1 TP และ 1 AP, Julien ได้เรียนรู้ Air Slice แล้ว

Level ของ Mabel เพิ่มขึ้นเป็น Level 6 แล้ว ได้รับ 60 SP, 12 T.SP, 1 TP และ 1 AP, Mabel ได้เรียนรู้ Wind Kick แล้ว

Level ของ Dilma เพิ่มขึ้นเป็น Level 6 แล้ว ได้รับ 60 SP, 12 T.SP, 1 TP และ 1 AP, Dilma ได้เรียนรู้ Quake Impact แล้ว

และในระหว่างทางนั้นเองที่พวกเขากำลังเดินทางลงไปจากภูเขา Dilma ก็หยุดเดินก่อนจะถาม Julien กับ Mabel อะไรบางอย่าง

“จะว่าไปแล้วที่พวกนายสองคนออกเดินทางกันเนี่ยไปทำอะไรกันเหรอ”

“พวกเรากำลังออกตามหาเพื่อนๆของพวกเราน่ะ”

Julien ตอบ

“ตามหาเพื่อนกันอยู่เหรอ เป็นแบบนั้นคงลำบากแย่เลยแฮะ”

Dilma แสดงความคิดเห็น

“ก็ใช่แหละ พวกเรายังไม่รู้เลยว่าสองคนนั้นอยู่ที่ไหน”

Julien พูดพลางเกาหัว

“แล้วทางของนายล่ะ ที่นายออกเดินทางนี่มาทำอะไรเหรอ”

Mabel ถาม Dilma ซึ่งเขานึกคำตอบอยู่พักหนึ่ง

“เอ่อ……”

“เพื่อที่จะฝึกวิชาหมัดมวยให้แกร่งขึ้นอีกไงล่ะ”

Dilma ตอบ

“จริงเหรอ สภาพของนายก็ดูแข็งแกร่งกำยำเอาเรื่องอยู่แล้วนะ”

Mabel สงสัย

“พูดอะไรของเธอน่ะ การมองว่าตัวเองแข็งแกร่งแล้วเป็นเพียงแค่การจำกัดตัวเองเท่านั้น คนเราต้องทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วไว้เสมอเพื่อเรียนรู้และฝึกฝนสิ่งใหม่ๆตลอดเวลาไง”

“โลกนี้กว้างใหญ่มากกว่าที่พวกนายคิดอีกรู้มั้ย”

Dilma กล่าว

“จะว่าไปก็ถูกของเขาแหละนะ”

Julien ออกความเห็น

“ฉันเข้าใจจุดหมายของเขาอยู่ล่ะ แถมยังมีปรัชญาชีวิตดีๆอีก ฉันไม่มีอะไรจะถามแล้วล่ะ”

Mabel บอก Dilma

“ฉันเองก็ไม่มีอะไรจะถามแล้วเหมือนกัน รีบลงจากภูเขานี้กันดีกว่า ฉันสู้กับพวกแมลงจนเบื่อแล้ว”

Dilma กล่าว

“พวกเราใกล้จะถึงตีนเขาแล้วล่ะ ไปกันเถอะ พวกเราใกล้จะเดินทางถึง Clacton แล้ว”

Julien พูดจบทั้งสามคนจึงเดินทางลงจากภูเขา Hinnora ต่อไปเรื่อยๆจนมาถึงตีนเขาซึ่งพวกเขาพบนักเดินทางบางส่วนอยู่แถวนั้น นักเดินทางคนหนึ่งที่พวกเขาจึงทักพวกเขา

“นี่พวกนายสามคน! พวกนายไม่เป็นไรใช่มั้ย?!”

“……?”

Julien หันไปมองนักเดินทางคนหนึ่งที่เรียกพวกเขาจึงเดินไปหาก่อนถาม

“มีอะไรเหรอ”

“พวกนายเดินทางผ่านภูเขา Hinnora ในช่วงที่ Stingbee อพยพมายังที่นั่นงั้นเหรอ?!”

นักเดินทางคนนั้นถามด้วยความประหลาดใจ

“ใช่แล้วล่ะ พวกเราต้องไปยังเมือง Clacton น่ะ”

Mabel ตอบ

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีคนต่อสู้กับพวก Stingbee ได้ พวกนั้นมันอันตรายเอาเรื่องเลยนะ”

นักเดินทางกล่าว

“อันตรายเหรอ เฮอะ พวกนั้นมันอ่อนแอจะตายไป!”

Dilma กล่าวอย่างมั่นใจ

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่ว่าพวกนายควรหลีกเลี่ยงภูเขา Hinnora ไว้หน่อยจะดีกว่านะ เพราะพวก Stingbee ชุหชุมอยู่ที่นั่นเยอะเลยล่ะ”

“และถ้าจะถามว่าพวกมันจะอพยพกลับถิ่นเดิมเมื่อไหร่ ฉันบอกเลยว่าฉันไม่รู้หรอก”

“ส่วนเมือง Clacton เดินทางไปทิศเหนืออีกสักหน่อยก็ถึงแล้วล่ะ”

นักเดินทางกล่าว

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากเลยนะที่บอกทางให้”

Julien กล่าวขอบคุณนักเดินทางก่อนที่กลุ่มของเขาจะเดินทางออกจากพื้นที่่ของภูเขา Hinnora

---

WORLD MAP: Lithone

กลุ่มของ Julien จึงออกเดินทางจากภูเขา Hinnora ไปตามถนนทางเหนือเพื่อไปยังเมือง Clacton ระหว่างเดินทางพวกเขาก็คุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า

“เฮ้อ พวกแมลงนั่นน่ารำคาญเอาเรื่องเลยว่ะ”

Dilma พูดขึ้น

“ยังไงก็เถอะ พวกมันคงไม่ตามพวกเรามาถึงที่นี่หรอก”

Julien กล่าว

“ว่าแต่พวกนายได้สังเกตแมลงพวกนั้นมั้ย พวกมันไม่บินขึ้นมายังยอดเขาสักตัวเลยตั้งแต่พวกเราลงไปน่ะ”

Mabel สงสัย

“หา… อืม จริงด้วย ฉันก็ไม่เห็นพวกมันบนยอดเขาสักตัวเลย”

Julien เห็นด้วย

“เธอสงสัยอะไรเหรอ Mabel”

Dilma ถาม Mabel

“ฉันว่าจะบอกให้ฟังระหว่างเดินทางอยู่ แต่ว่าเอาไว้ตอนถึง Clacton ก็แล้วกัน ฉันคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ”

“จะว่าไป Julien พวกเราสามารถเปลี่ยนมุมมองแผนที่จาก World Map เป็น Field Map ได้ใช่มั้ย”

Mabel ถาม Julien

“ใช่ ฉันว่าจะลองดูน่ะ”

Julien กล่าว

“เอาเลย พวกเราลองเปลี่ยนมุมมองแผนที่ดูกันเถอะ”

Mabel พูดจบ Julien จึงเปลี่ยนมุมมองแผนที่จาก World Map เป็น Field Map ทันที มุมกล้องได้ซูมเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว และมุมกล้องจากมุมสูงได้เปลี่ยนเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ทันที

---

FIELD MAP: Lithone Field 3

“……? นี่มัน…”

Julien มองไปรอบๆ

“มันไม่เห็นจะต่างอะไรตรงไหนเลยอะ”

Dilma กล่าว

“ความแตกต่างของ World Map กับ Field Map คงอาจจะเป็นสภาพแวดล้อมที่พวกเราไม่สามารถพบเจอผ่านมุมมอง World Map”

Mabel ตอบ Dilma

“หมายความว่าไง”

Dilma สงสัยก่อนที่ Mabel จะเดินไปยังหินขนาดใหญ่ที่มีก้อนแร่ทองแดงขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ด้านบน

“อย่างเช่นเจ้าแร่นี่ไงล่ะ พวกเรายังไม่เห็นมันใน World Map เลยใช่มั้ยล่ะ”

Mabel กล่าว

“จริงด้วย! ตั้งแต่พวกฉันเดินทางออกจาก Pearlland ก็ยังไม่เห็นจุดพวกนั้นเลย”

Julien เห็นด้วย

“ไม่ใช่ว่าจุดค้นหา (Search Point) ก่อนหน้านี้พวกนายพลาดไปเหรอ ฉันหมายถึงระหว่างทางก่อนที่พวกนายไปยัง Obendoore น่ะ”

Dilma ถามขึ้นมา

“ฉันไม่รู้เหมือนกัน พวกเราไม่ได้สังเกตเลยตอนนั้นน่ะ”

Julien ตอบ

“ไม่เป็นไรหรอก พวกเราค่อยย้อนกลับมาดูทีหลังก็ได้”

“Julien นายลองทำอะไรสักอย่างกับแร่นั่นดูสิ เผื่อจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้นะ”

Mabel บอก Julien

“ฉันเหรอ เข้าใจแล้ว”

Julien จึงเดินไปยังหินก้อนใหญ่ที่มีแร่ทองแดงก้อนใหญ่อยู่ก่อนที่จะเขาจะใช้มือขวาของเขาแตะมันอย่างเต็มมือ หลังจากแตะแล้วแร่ทองแดงก็ค่อยๆจางหายไปเป็นแสงสว่างเรืองรองก่อนมีข้อความปรากฏขึ้น

คุณได้รับ: แร่ทองแดง x2, หิน x2, 3 FP

“มันบอกว่าฉันได้แร่ทองแดงกับหินมา และก็มี FP ด้วย”

Julien กล่าว

“แร่ทองแดงกับหินน่าจะเอาไปทำอะไรสักอย่างได้นะ แต่ FP น่ะฉันไม่รู้จริงๆ”

Mabel ตอบ Julien

“ฉันพอรู้ว่าแร่ทองแดงยังใช้ทำอาวุธทำเกราะได้ แต่ก้อนหินโง่ๆมันจะใช้ประโยชน์อะไรได้เล่า”

Dilma เอ่ยขึ้นมา

“สิ่งของทุกชิ้นกับคนทุกคนไม่มีคำไร้ประโยชน์หรอก มันมีประโยชน์ทุกอย่าง เพียงแค่พวกเรายังไม่รู้ว่าจะประโยชน์มันยังไงเท่านั้นเอง”

Mabel ตอบ

“เออ จะยังไงก็ช่างเถอะ Julien นายเก็บมันไว้อย่างที่ Mabel พูดก็แล้วกัน พวกเราจะมุมมองแผนที่ก่อนมั้ย หรือจะไปทั้งแบบนี้เลยล่ะ”

Dilma ถาม Julien กับ Mabel

“สำรวจสถานที่แบบ Field Map คงไม่น่าทำอะไรเสียหายหรอก ถ้าเปลี่ยนเป็น World Map แล้วเผลอผลักเมืองตกทะเลก็ว่าไปอย่าง”

Julien กล่าว

“จะบ้าเหรอ พูดอะไรมั่วซั่วน่า”

Dilma บอก Julien

“พวกเราไปยัง Clacton กันเถอะตอนนี้ อย่าให้ช้าไปกว่านี้เลย”

Mabel กล่าวจบจึงเดินนำกลุ่มโดย Julien กับ Dilma เดินตามหลังเธอไป ทั้งสามคนเดินไปตามถนนทางเหนือพร้อมกับต่อสู้เหล่าศัตรูตามท้องถนน และในที่สุดพวกเขาก็ได้เดินทางมาถึงยังเมือง Clacton แล้ว

---

-Clacton-

กลุ่มของ Julien ได้เดินทางมาถึงหน้าประตูเมือง Clacton แต่ก่อนที่จะเข้าพวกเขาก็ถูกทหารยามเฝ้าเมืองสองคนขวางทางเอาไว้

“หยุดก่อน! ถ้าจะเข้าเมืองต้องแสดงใบเข้าเมืองให้ดูก่อน!”

ทหารยามคนแรกกล่าว

“นี่คือใบเข้าเมือง Clacton! ให้พวกเราเข้าไปได้หรือเปล่า”

Julien ถามก่อนจะแสดงใบเข้าเมืองให้ทหารยามสองคนดู

“อืม… เป็นใบเข้าเมืองที่ได้การรับรองจากอาณาจักรสินะ โอเค เชิญเข้าไปได้”

ทหารยามคนที่สองกล่าวดังนั้นแล้ว Julien Mabel กับ Dilma จึงเดินเข้าไปยังตัวเมือง Clacton

---

Skit 12: เมืองริมทะเลสายลมโชย Clacton

“เมือง Clacton เป็นเมืองริมทะเลจริงด้วยสินะ”

Mabel กล่าวพลางมองรอบๆเมือง

“น้ำทะเลก็ใสอีก! ลมทะเลก็เย็นสดชื่นอีกด้วย! ฉันไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย!”

Julien พูดด้วยความตื่นเต้น

“บอกแล้วไงล่ะว่าฉันพูดจริง ทีนี้เชื่อยัง”

Dilma ถาม Julien กับ Mabel

“ฉันเชื่อแล้วว่า Clacton เป็นเมืองหลวงของ Sylvani จริงๆ ไม่เสียแรงที่ออกเดินทางเลยนะเนี่ย”

Julien ตอบ

“เมืองนี้ทำเอาฉันนึกถึงหมู่เกาะมัลดีฟส์ไม่ก็ภูเก็ตเลยแฮะ…”

“…ไม่นึกว่าจะได้เห็นวิวทิวทัศน์แบบนี้อีกนะเนี่ย”

Mabel พูดขณะมองทะเลที่ติดกับ Clacton

“มีอะไรรึเปล่า Mabel”

Dilma ถามขึ้นมา

“ไม่มีอะไรหรอก แค่นึกถึงความหลังเก่าๆของตัวเองน่ะ”

Mabel ตอบ

---

เมื่อเข้ามายังภายในตัวเมืองแล้ว กลุ่มของ Julien จึงปรึกษากันว่าจะต้องทำอะไรเป็นอย่างแรก

“เอาล่ะทีม วางแผนกันดีกว่าว่าพวกเราจะต้องทำอะไรเป็นอย่างแรก”

“ฉันจะบอกก่อนว่าพวกเราไม่ได้มาเที่ยวนะ”

Dilma เอ่ยขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราลองถามคนในเมืองก่อนดีมั้ยว่าพวกเราสามารถไปที่ไหนจากที่นี่ได้บ้างเป็นไง”

Julien เสนอ

“ความคิดดีนะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่า Sylvani มีที่อยู่อาศัยที่อื่นอีกรึเปล่า เพราะงั้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ไปได้ในตอนนี้จะดีที่สุด”

Mabel เห็นด้วยกับ Julien

“งั้นตกลงตามนี้ พวกเราแยกไปถามหาข้อมูลกับคนในเมืองกันเถอะ”

Dilma กล่าวก่อนที่เขากับ Mabel จะแยกกันไปถามคนในเมือง

“คุณได้ออกจากทีมแล้ว”

“ถ้างั้นฉันลองสำรวจแถวตอนเหนือของเมืองก่อนละกัน”

Julien บอกตัวเองก่อนจะเดินสำรวจเมือง Clacton ส่วนเหนือ แต่ยังเดินไปได้ไม่ไกลนักเขาก็เหลือบไปเห็นกระดานไม้อยู่ข้างรั้วเหล็กที่มีใบประกาศแปะอย่างมีระเบียบอยู่จำนวนหนึ่ง เขาจึงเดินไปดูว่ามันคืออะไร

(นี่มันกระดานอะไรน่ะ เหมือนจะเป็นกระดานแปะใบประกาศอะไรสักอย่างนะ)

Julien คิดก่อนจะใช้มือของเขาเปิดดูใบประกาศต่างๆที่ถูกปักหมุดไว้อย่างแน่น

(ใบประกาศพวกนี้คือคำขอความช่วยเหลืองั้นเหรอ เยอะจังแฮะ แต่ทำไมถึงได้มีเยอะแบบนี้ล่ะ บางใบก็ดูเหมือนจะเก่าแล้วด้วย…)

“ไอ้หนู นายเองก็สนใจคำขอพวกนี้เหมือนกันเหรอ”

“……?!”

Julien หันไปมองรอบๆก่อนจะเจอชายวัยกลางคนไว้หนวดเคราสวมหมวกกว้างที่ดูเหมือนเป็นนักเดินทาง ซึ่งเขากำลังดูใบประกาศคำขอความช่วยเหลือบนกระดานไม้เหมือนกันกับตัวเอง

“เอ่อ ก็อาจจะนะครับ แล้วคุณคือ…?”

Julien ถามชายคนนั้น แต่เขากลับส่ายหัวก่อนตอบกลับอย่างประหลาด

“ชื่อฉันมัันไม่สำคัญหรอกเจ้าหนู และฉันเองก็จำชื่อของฉันไม่ได้แล้วด้วย”

“แต่สิ่งสำคัญก็คือใบคำขอความช่วยเหลือพวกนี้ต่างหาก”

ชายคนนั้นกล่าวก่อนเปิดดูใบคำขอช่วยเหลือต่างๆที่ไม่มีแม้แต่คนเหลียวแล

“พูดมาแล้วมันสำคัญยังไงเหรอ”

Julien สงสัย

“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ใบคำขอช่วยเหลือพวกนี้กำลังบ่งบอกนายว่าคนที่ติดใบคำขอพวกนี้ต้องการให้ใครก็ตามที่เห็นใบคำขอพวกนี้ไปช่วยพวกเขาอยู่!”

“นายเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดรึเปล่าเจ้าหนู”

ชายคนนั้นถามหลังอธิบายเสร็จ

“ก็พอจะเข้าใจอยู่ล่ะนะ นี่จะบอกว่าฉันต้องรับงานจากใบคำขอพวกนี้เหรอ”

Julien ตอบก่อนถามกลับ

“ใช่! แต่นั่นเป็นสิ่งที่นายต้องเป็นคนเลือกเองล่ะเจ้าหนู นายจะรับคำขอพวกนั้นแล้วออกไปหาคนที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือจะปล่อยให้คำขอพวกนั้นติดอยู่กระดานไม้แบบนั้นเป็นสิ่งที่นายต้องเลือกเอง”

“การช่วยเหลือคนอื่นน่ะเป็นสิ่งที่ดี แต่การยื่นมือช่วยเหลือคนอื่นเองก็ควรมีขอบเขตจำกัดไว้ด้วย”

“นั่นน่ะคือหัวใจสำคัญของเควสต์เลยล่ะเจ้าหนู”

ชายคนนั้นกล่าว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ Julien ได้ยินแล้วเอะใจขึ้นมาจึงถามขึ้น

“เควสต์เหรอ”

“ใช่แล้วล่ะ นายเริ่มสนใจขึ้นมาแล้วสินะเจ้าหนู”

ชายคนนั้นกล่าว

“ก็… นิดหน่อยน่ะ พูดถึงเควสต์ให้ฟังหน่อยสิ”

เมื่อ Julien พูดขึ้นว่าสนใจ ชายคนนั้นฉีกยิ้มออกมาก่อนจะอธิบายเกี่ยวกับเควสต์

“เควสต์ (Quest) คือสิ่งที่บอกเล่าการเดินทางกับการผจญภัยของพวกนาย และแน่นอนทุกการเดินทางจะต้องมีจุดหมายปลายทางเสมอถูกมั้ย”

ชายคนนั้นถามขึ้น Julien จึงพยักหน้าตอบก่อนที่เขาจะอธิบายต่อ

“เควสต์น่ะมีอยู่ 5 ประเภทด้วยกัน! อย่างแรกเลยคือร่องรอยของทะเลแห่งดวงดาว (Trails of Star Ocean) ซึ่งตอนนี้ที่นายกำลังทำอยู่ก็คือส่วนหนึ่งของตัวนั้นละเจ้าหนู”

“ต่อไปก็คือการสืบสานแสงดารา (Stellar Perpetuation) ตรงนี้ฉันขอบอกเลยว่านายต้องรอจนกว่ามันจะปรากฏขึ้นแล้วลองไล่ตามมันเพื่อที่พวกนายจะได้รับประสบการณ์ตรงๆเลย”

“สามเลยคือย้อนรอยต้นกำเนิด (Origin Recognition) นายจะได้รู้ถึงภูมิหลังต่างๆนานาของเพื่อนๆของนาย และนั่นก็รวมถึงความหลังของตัวนายเองด้วย”

“ต่อจากนั้นก็คือการเดินทางผจญภัย (Adventure Odyssey) ตามชื่อของมันเลย นายจะเจอเควสต์พวกนี้ตามที่ต่างๆ ถือว่ามันคืองานย่อยๆระหว่างผจญภัยก็แล้วกันนะ”

“สุดท้ายคืองานประจำวัน (Daily Commission) ก็อย่างที่นายเจอใบคำขอความช่วยเหลือพวกนี้ พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวันไงล่ะ”

“ทีนี้นายเข้าใจหรือยังเจ้าหนู”

ชายคนนั้นถาม Julien เขาก้มหน้าคิดอยู่สักพักก่อนตอบ

“ฉันว่าฉันเข้าใจแล้วล่ะ”

“ก็ดี จำไว้ว่าการช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องมีขอบเขต ฉันไปละ”

ชายคนนั้นกล่าวก่อนจะหายไปกับสายลมอย่างไร้ร่องรอย

(พิลึกคนจังแฮะ แต่ช่างเถอะ อย่างน้อยก็รู้อะไรเพิ่มเติมแล้ว)

Julien คิดขึ้นมา

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!