ตอนที่ 1 เริ่มต้นการเดินทางของแบ็คซีโร่ ครึ่งหลัง

หลังจากหลบหนีจากการไล่ล่าของ AI แบ็คซีโร่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ เส้นทางในป่าเริ่มร้างผู้คนและเต็มไปด้วยความเงียบสงบ แสงจันทร์ที่เคยส่องสว่างเริ่มลดลงเมื่อหมู่เมฆเคลื่อนตัวมาบดบัง แบ็คซีโร่ตัดสินใจหาสถานที่ปลอดภัยสำหรับพักผ่อนและรวบรวมสติปัญญาก่อนที่จะเดินทางต่อ

เขาเดินลึกเข้าไปในป่า สังเกตเห็นลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลเบา ๆ ผ่านพื้นดิน มีต้นไม้ใหญ่และโขดหินที่สามารถใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวจากสายตาของศัตรูได้ดี แบ็คซีโร่ตัดสินใจนั่งลงข้างลำธาร ขณะที่ลมเย็นพัดผ่านใบหน้าของเขา มันทำให้เขารู้สึกสงบลงบ้าง หลังจากการต่อสู้ที่เหน็ดเหนื่อย

แบ็คซีโร่วางดาบข้างตัว หางของเขาพันรอบตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่เขามองลงไปในน้ำที่ใสสะอาด สะท้อนแสงจันทร์อ่อน ๆ ความเหนื่อยล้าทำให้เขาเอนหลังพิงโขดหิน มือข้างหนึ่งลูบไล้ขนที่นุ่มฟูของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ขณะที่พยายามปลอบใจตัวเองจากความกังวลที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ภายในจิตใจ

“ข้าจะต้องทำให้สำเร็จ...” แบ็คซีโร่คิดในใจขณะพยายามขจัดความกังวลที่คุกคามอยู่ในใจ เขารู้ว่าหนทางข้างหน้านั้นเต็มไปด้วยอันตราย แต่เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน เพราะการปกป้องโลกและผู้คนที่เขารักเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ขณะที่เขาหลับตาลงเพื่อพักผ่อน เสียงกรอบแกรบจากพุ่มไม้ใกล้ ๆ ทำให้เขาหูตั้งขึ้นทันที แบ็คซีโร่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบ ๆ แต่เมื่อเสียงนั้นเงียบลง หางของเขาจึงค่อย ๆ คลายตัวและโบกเบา ๆ อย่างผ่อนคลาย

เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอันตราย แบ็คซีโร่จึงค่อย ๆ ปล่อยให้ตัวเองพักผ่อนอีกครั้ง แม้จะมีความกังวลในใจ แต่เขารู้ดีว่าการพักผ่อนมีความสำคัญเพื่อให้ร่างกายและจิตใจของเขาพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าต่อไป

เขานึกถึงหมู่บ้านยามาคาวะ ที่เขาทิ้งไว้ข้างหลัง ชีวิตที่เรียบง่ายและสงบสุขที่เขาเคยมี ความรู้สึกของความสูญเสียและภาระหน้าที่ที่หนักอึ้งทำให้เขาต้องผลักดันตัวเองให้เดินต่อไป

ขณะที่เขานอนฟังเสียงลำธารไหลและสายลมพัดผ่าน หางของเขายังคงโบกเบา ๆ ขนที่นุ่มฟูสัมผัสกับพื้นหญ้าเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย เขารู้ดีว่าความสงบในคืนนี้อาจเป็นเพียงชั่วคราว แต่เขาก็ต้องการใช้ช่วงเวลานี้ในการฟื้นฟูพลังของตัวเอง

“ข้าจะต้องกลับไปที่หมู่บ้าน… ข้าสัญญา” แบ็คซีโร่คิดในใจ ขณะที่เขาค่อย ๆ ปล่อยให้ตัวเองหลับไปท่ามกลางความสงบของธรรมชาติ

แต่แม้ในความฝัน เขาก็ไม่สามารถหนีจากภาพของสงครามและการต่อสู้ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในใจเขาได้ แบ็คซีโร่รู้ดีว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัว และเขาจะต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อเอาชนะพวกมัน

ท่ามกลางความเงียบสงบของป่า แบ็คซีโร่หลับไปด้วยความมุ่งมั่นและความกลัวที่ผสมผสานกัน เมื่อเช้ามาถึง เขาจะต้องลุกขึ้นมาและเริ่มต้นการเดินทางใหม่ แต่ในคืนนี้ เขาจะพักผ่อน เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ที่ยังไม่สิ้นสุด

แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าส่องผ่านใบไม้ที่ปกคลุมผืนป่า แบ็คซีโร่ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ หลังจากการพักผ่อนที่จำเป็น ร่างกายของเขารู้สึกสดชื่นขึ้น แต่ความมุ่งมั่นในการเดินทางยังคงหนักอึ้งอยู่ในใจ

หลังจากเตรียมตัวพร้อม แบ็คซีโร่หยิบดาบขึ้นมาและเก็บสัมภาระของเขา จากนั้นจึงเริ่มออกเดินทางต่อไปยังเมืองไซเบอร์ แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากบริเวณนั้น เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นจากระยะไกล มันเป็นเสียงของการต่อสู้ เสียงโลหะกระทบกันและเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แบ็คซีโร่ชะงัก หูของเขาตั้งตรงเพื่อฟังเสียงนั้นอย่างระมัดระวัง

“เสียงการต่อสู้อยู่ไม่ไกล” เขาคิดในใจ ขณะที่ตัดสินใจเดินไปตามเสียงนั้น ความรู้สึกระแวดระวังทำให้เขาจับดาบในมือแน่นขึ้น ขณะที่เขาเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบผ่านป่า เพื่อตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อแบ็คซีโร่เข้าไปใกล้ เขาพบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังต่อสู้กับหุ่นยนต์หลายตัวที่มีลักษณะคล้ายกับพวกที่เขาเคยต่อสู้เมื่อคืน ชายหนุ่มนั้นสวมชุดเกราะที่ดูเหมือนนักรบ แต่ท่าทางและการเคลื่อนไหวของเขายังไม่คล่องแคล่วมากนัก

ชายหนุ่มใช้ดาบต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่ล้อมรอบตัวเขา แม้ว่าเขาจะสามารถป้องกันและโจมตีได้บ้าง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มเหนื่อยล้าและถูกกดดันอย่างหนัก

แบ็คซีโร่ยืนมองอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจเข้าช่วย เขาพุ่งตัวออกมาจากเงามืดและเข้าจู่โจมหุ่นยนต์ตัวหนึ่งจากด้านหลัง การโจมตีของเขารวดเร็วและแม่นยำ ใบดาบของเขาฟาดฟันจนเกราะของหุ่นยนต์แตกกระจายออกเป็นชิ้น ๆ

ชายหนุ่มหันไปมองด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าแบ็คซีโร่เข้ามาช่วยเหลือ แต่เขาก็รีบกลับมามีสมาธิและต่อสู้ต่อไป แบ็คซีโร่และชายหนุ่มนั้นร่วมมือกันโจมตีหุ่นยนต์ที่เหลืออยู่ จนในที่สุดพวกมันก็ถูกทำลายหมดสิ้น

เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ทั้งสองยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า แบ็คซีโร่เก็บดาบเข้าฝักแล้วหันไปมองชายหนุ่มคนนั้นอย่างละเอียด เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูง มีกล้ามเนื้อที่บ่งบอกว่าได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ดวงตาของเขามีแววของความตั้งใจ แต่ก็เต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน

“ขอบคุณที่ช่วย” ชายหนุ่มพูดเสียงหอบ พลางยืนตัวตรง “ข้าคงเอาตัวไม่รอดถ้าไม่ได้ท่านช่วย”

“ไม่เป็นไร” แบ็คซีโร่ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ “ข้าแค่ผ่านมาและเห็นเจ้าอยู่ในอันตราย”

ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นทักทายอย่างเป็นมิตร “ข้าชื่อฮิโรโตะ เป็นนักรบจากเมืองใกล้เคียง ข้าออกเดินทางเพื่อตามหาคนที่สามารถช่วยปกป้องเมืองไซเบอร์จากพวก AI ที่กำลังบุกเข้ามา”

แบ็คซีโร่ฟังคำพูดของฮิโรโตะด้วยความสนใจ เขาเริ่มเข้าใจว่าชายหนุ่มคนนี้มีเป้าหมายที่คล้ายคลึงกับเขา

“ข้าชื่อแบ็คซีโร่” เขาแนะนำตัวสั้น ๆ “ข้ากำลังเดินทางไปยังเมืองไซเบอร์เช่นกัน แต่เจ้าออกเดินทางคนเดียวหรือ?”

ฮิโรโตะถอนหายใจ “ใช่ ข้าออกเดินทางคนเดียว ตอนแรกข้ามีสหายร่วมทาง แต่พวกเขาถูกสังหารระหว่างทาง เหลือข้าเพียงคนเดียว ข้ารู้ว่ามันอันตราย แต่ข้าไม่มีทางเลือก ข้าต้องทำสิ่งที่ข้าสามารถทำได้เพื่อปกป้องคนที่ข้ารัก”

แบ็คซีโร่รู้สึกถึงความมุ่งมั่นในคำพูดของฮิโรโตะ เขาจึงพิจารณาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง

“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ เราสามารถร่วมทางกันได้” แบ็คซีโร่เสนอ “การเดินทางไปยังเมืองไซเบอร์เต็มไปด้วยอันตราย การมีเพื่อนร่วมทางอาจทำให้เรามีโอกาสรอดสูงขึ้น”

ฮิโรโตะยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ “ขอบคุณมาก แบ็คซีโร่ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมทางกับท่าน ข้าอาจจะไม่ได้เก่งกาจเหมือนท่าน แต่ข้าจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือ”

“ไม่ต้องกังวล” แบ็คซีโร่ตอบ “ข้าเชื่อว่าทุกคนมีบทบาทของตนเองในสงครามนี้”

ทั้งสองเริ่มออกเดินทางร่วมกัน แบ็คซีโร่รู้สึกได้ว่าฮิโรโตะมีความตั้งใจที่ดี และถึงแม้เขาอาจจะยังไม่มีประสบการณ์มากนัก แต่ก็มีจิตใจที่แข็งแกร่ง ทั้งสองจึงกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและอันตรายที่ยังรออยู่ข้างหน้า

ท่ามกลางความเงียบสงบของป่า ทั้งสองเริ่มต้นการเดินทางใหม่ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับ AI และปกป้องโลกจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น

แบ็คซีโร่และฮิโรโตะเดินทางร่วมกันไปตามเส้นทางที่นำไปสู่เมืองไซเบอร์ ทั้งสองคุยกันบ้างเป็นระยะ แบ็คซีโร่สังเกตได้ว่าแม้ฮิโรโตะจะมีจิตใจที่มุ่งมั่น แต่ก็ยังมีความอ่อนประสบการณ์ในการต่อสู้ ซึ่งเขาเองก็พร้อมที่จะช่วยแนะนำและสอนวิธีการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นให้กับเพื่อนร่วมทางคนใหม่ของเขา

หลังจากเดินทางมาหลายชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงเส้นทางที่แคบและลึกลับขึ้นเรื่อย ๆ ป่าโดยรอบเริ่มหนาทึบจนแสงแดดแทบไม่สามารถส่องผ่านได้ บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ทั้งสองเดินไปเงียบ ๆ โดยต่างก็ตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นจากเบื้องหน้า ทั้งสองหยุดเดินและตั้งท่าเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ใบดาบในมือของแบ็คซีโร่เปล่งประกายแสงสีเงินในขณะที่เขาจับมันแน่น พร้อมจะโจมตีเมื่อจำเป็น

จากเงามืดเบื้องหน้า ร่างของชายร่างใหญ่คนหนึ่งค่อย ๆ ปรากฏขึ้น เขาสวมเกราะที่ดูเก่าแก่และเสียหายจากการต่อสู้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แววตาของเขาดูดุดันและเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อเขาเข้ามาใกล้ แบ็คซีโร่ก็ตระหนักได้ทันทีว่าเขารู้จักชายคนนี้ดี

“ไดโกะ...” แบ็คซีโร่พึมพำเบา ๆ ขณะที่ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังชายคนนั้น

ฮิโรโตะหันมามองแบ็คซีโร่ด้วยความสงสัย “ท่านรู้จักเขาหรือ?”

แบ็คซีโร่พยักหน้าเบา ๆ “ไดโกะเคยเป็นพันธมิตรของข้า... แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นศัตรูที่ข้าไม่คาดคิดว่าจะได้เจออีกครั้ง”

ชายที่ชื่อไดโกะหยุดยืนห่างจากทั้งสองไม่มากนัก ใบหน้าของเขามีรอยแผลเป็นและความเย้ยหยัน เขามองแบ็คซีโร่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าอีก แบ็คซีโร่ แต่คราวนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดไปได้”

“เจ้าต้องการอะไร ไดโกะ?” แบ็คซีโร่ถามเสียงเรียบ แต่ภายในใจของเขารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น

ไดโกะหัวเราะเยาะ “เจ้าถามข้าว่าข้าต้องการอะไร? ข้าต้องการชำระหนี้ที่เจ้าทิ้งไว้เมื่อคราวก่อน เจ้าทรยศต่อพวกเราและทิ้งข้าให้ตายอยู่ในสนามรบ ข้าไม่เคยลืมความเจ็บปวดนั้น และข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกต่อไป”

แบ็คซีโร่รู้ดีว่าไม่มีทางหนีจากการเผชิญหน้าครั้งนี้ เขาเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับไดโกะในสงครามครั้งหนึ่ง แต่เหตุการณ์บางอย่างทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกัน และไดโกะกลับกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ไดโกะ ข้าไม่ได้ทิ้งเจ้า ข้าทำทุกอย่างที่ข้าทำได้ในเวลานั้น แต่สงครามทำให้เราต้องแยกจากกัน” แบ็คซีโร่พยายามอธิบาย แต่ไดโกะกลับไม่ฟัง

“ไม่ต้องพูดอะไรอีก! ข้าจะสู้กับเจ้า และข้าจะลบเจ้าออกจากโลกนี้!” ไดโกะตะโกนด้วยความโกรธ ก่อนจะชักดาบออกมาและพุ่งเข้าหาแบ็คซีโร่ด้วยความรวดเร็ว

แบ็คซีโร่ไม่มีทางเลือก เขาต้องยกดาบขึ้นมาป้องกันตัว ดาบทั้งสองเล่มปะทะกันด้วยเสียงดังก้อง ก่อให้เกิดประกายไฟกลางอากาศ แบ็คซีโร่รับรู้ได้ทันทีว่าไดโกะมีความแข็งแกร่งที่ไม่ได้ลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย และการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการทดสอบที่หนักหนาสาหัส

การต่อสู้ระหว่างทั้งสองเต็มไปด้วยความตึงเครียด ดาบปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงโลหะกระทบกันดังก้องไปทั่วป่า ไดโกะโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยความโกรธและความแค้นที่สะสมมานานหลายปี แบ็คซีโร่เองก็พยายามป้องกันและสวนกลับด้วยทักษะที่เขามี

“เจ้าจะต้องชดใช้กับสิ่งที่เจ้าทำ!” ไดโกะคำรามขณะพยายามฟันแบ็คซีโร่ด้วยดาบของเขา

แต่แบ็คซีโร่กลับหลบหลีกและตอบโต้ด้วยการโจมตีที่แม่นยำ ทำให้ไดโกะต้องถอยหลัง “ข้าไม่เคยต้องการให้เจ้ามาเป็นแบบนี้ ไดโกะ แต่ถ้าเจ้าต้องการการต่อสู้ ข้าจะไม่ออมมือ”

ในขณะที่ทั้งสองยังคงต่อสู้ ฮิโรโตะมองดูด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นการต่อสู้ที่เข้มข้นและดุเดือดเช่นนี้มาก่อน และเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความขัดแย้งที่ซ่อนอยู่ในแต่ละการโจมตี

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยาวนานจนทั้งสองฝ่ายเริ่มหมดแรง แต่ไม่มีใครยอมแพ้ แบ็คซีโร่รู้ดีว่าต้องทำให้ไดโกะหยุดการโจมตีนี้ไม่เช่นนั้นจะมีแต่ความสูญเสียทั้งสองฝ่าย

ในที่สุด แบ็คซีโร่สามารถหาช่องโหว่ในการป้องกันของไดโกะและโจมตีเข้าไปที่แขนของเขา ทำให้ดาบของไดโกะหลุดจากมือและตกลงบนพื้น ไดโกะล้มลงกับพื้นหายใจหอบหนัก ความโกรธและความแค้นในสายตาของเขายังคงไม่จางหาย

แบ็คซีโร่ยืนมองเขาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเก็บดาบเข้าฝัก “ข้าไม่ต้องการฆ่าเจ้า ไดโกะ ข้ายังเห็นเจ้าเป็นเพื่อนอยู่ ถ้าเจ้าต้องการชำระหนี้ ข้าพร้อมที่จะช่วยเหลือ แต่การสู้กันเองจะไม่ช่วยอะไร”

ไดโกะหันหน้าหนีด้วยความโกรธ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน แม้จะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เขาก็ยังคงแสดงความดื้อรั้น “ข้าจะไม่มีวันยอมรับเจ้าหรือคำพูดของเจ้า แบ็คซีโร่ สักวันหนึ่ง ข้าจะกลับมาและข้าจะเอาชนะเจ้า”

แบ็คซีโร่ไม่ได้ตอบอะไร เขามองดูไดโกะเดินจากไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับความรู้สึกที่หลากหลายในใจ การเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงความเจ็บปวดจากอดีตที่เขาพยายามหลีกหนีมาโดยตลอด แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ย้ำเตือนเขาถึงเหตุผลที่เขาต้องเดินหน้าต่อไป

ฮิโรโตะเดินเข้ามาหาแบ็คซีโร่ด้วยความสงสัยและความเคารพ “ท่านปล่อยให้เขาไปทำไม? เขาอาจจะกลับมาเป็นภัยต่อท่านอีกครั้ง”

“บางครั้ง การต่อสู้ที่แท้จริงคือการไม่ใช้ดาบ” แบ็คซีโร่ตอบอย่างสงบนิ่ง “ไดโกะคือเพื่อนเก่าของข้า ข้าไม่อยากให้ความแค้นของเขากลายเป็นสิ่งที่ทำลายทั้งตัวเขาและข้า”

ฮิโรโตะพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่แบ็คซีโร่พูด ทั้งสองหันกลับไปมองเส้นทางที่ยังคงทอดยาวไปสู่เมืองไซเบอร์ ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางต่อ

ท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยเงามืด แบ็คซีโร่รู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การต่อสู้กับ AI เท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อสู้กับอดีตและความเจ็บปวดที่ยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่

หลังจากการเผชิญหน้ากับไดโกะ ทั้งแบ็คซีโร่และฮิโรโตะยังคงเดินทางต่อไปในความเงียบ แสงอาทิตย์ยามบ่ายส่องผ่านต้นไม้สูงในป่า เส้นทางที่พวกเขาเดินยังคงดูเงียบสงบ แต่ทั้งสองรู้ดีว่าความสงบนั้นอาจเป็นเพียงภาพลวงตา

ฮิโรโตะหันไปมองแบ็คซีโร่อยู่เป็นระยะ เขารู้สึกประทับใจในความสงบนิ่งของแบ็คซีโร่และทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีคำถามในใจที่เขาไม่กล้าถามออกมา

หลังจากเดินทางผ่านป่าทึบมาเป็นเวลานาน ทั้งสองก็มาถึงพื้นที่เปิดโล่งที่ทอดยาวไปยังเขตแดนของเมืองไซเบอร์ ท้องฟ้าเริ่มมืดลง และเมฆหนาทึบก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะ ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเงียบขรึมและกดดัน

“เราอาจจะต้องหาที่พักค้างคืนที่นี่ก่อนที่จะเข้าสู่เมืองไซเบอร์ในวันพรุ่งนี้” แบ็คซีโร่กล่าวขณะสอดส่องหาสถานที่ปลอดภัยสำหรับการพักผ่อน

ฮิโรโตะพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสองเริ่มมองหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งค่ายพัก แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้หยุดพัก ความเงียบสงบก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงกลไกที่ดังขึ้นรอบตัว

“ระวังตัว!” แบ็คซีโร่ตะโกนขณะที่เขาดึงดาบออกมาจากฝัก สายตาของเขากวาดมองไปรอบ ๆ และทันใดนั้น หุ่นยนต์ AI หลายตัวก็ปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังพุ่มไม้และโขดหิน พวกมันดูเหมือนจะซุ่มโจมตีและรอเวลาที่เหมาะสมในการโจมตี

ฮิโรโตะชักดาบของเขาออกมาเช่นกัน แม้จะรู้สึกตึงเครียด แต่เขาก็ยืนหยัดข้างแบ็คซีโร่ด้วยความมุ่งมั่น “พวกมันตามมาจนเจอเราอีกแล้ว! เราจะต้องสู้!”

“ระวังตัวให้ดี พวกมันฉลาดและวางแผนมาอย่างดี” แบ็คซีโร่เตือน ขณะมองดูหุ่นยนต์ที่เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ พวกมันมีอาวุธครบมือและมีจำนวนมากเกินกว่าที่ทั้งสองจะรับมือได้ง่าย ๆ

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด หุ่นยนต์ AI พุ่งเข้าหาทั้งสองฝ่ายด้วยความเร็วและความแม่นยำในการโจมตีที่น่ากลัว แบ็คซีโร่ใช้ทักษะการต่อสู้ที่เขาฝึกฝนมาตลอดชีวิตในการฟาดฟันและหลบหลีกการโจมตี เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและแน่นอน แต่ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้อย่างต่อเนื่องเริ่มส่งผลกระทบต่อเขา

ฮิโรโตะพยายามป้องกันตัวเองและต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่เข้ามาใกล้ แม้ว่าเขาจะยังไม่เชี่ยวชาญในการต่อสู้เท่ากับแบ็คซีโร่ แต่ความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของเขาก็ช่วยให้เขาสามารถยืนหยัดต่อสู้ได้

“อย่ายอมแพ้ ฮิโรโตะ!” แบ็คซีโร่ตะโกนขณะฟาดดาบใส่หุ่นยนต์ตัวหนึ่งจนมันล้มลง “เราต้องหาทางฝ่าพวกมันไป!”

แต่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หุ่นยนต์ AI มีการวางแผนมาอย่างดีและโจมตีด้วยความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันเริ่มใช้กลยุทธ์ในการล้อมและโจมตีพร้อมกันจากทุกทิศทาง ทำให้ทั้งสองต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อเอาชีวิตรอด

ในขณะที่แบ็คซีโร่และฮิโรโตะพยายามฝ่าฟันหุ่นยนต์เหล่านั้น เสียงการระเบิดดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา แบ็คซีโร่หันไปมองและเห็นว่าหุ่นยนต์ตัวหนึ่งได้ใช้อาวุธหนักเพื่อทำลายพื้นที่รอบตัวเพื่อปิดเส้นทางหลบหนีของพวกเขา

“เราถูกล้อมแล้ว!” ฮิโรโตะตะโกนด้วยความกังวล ขณะที่เขาพยายามต่อสู้กับหุ่นยนต์อีกตัวที่เข้ามาใกล้

แบ็คซีโร่รู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะหุ่นยนต์ทั้งหมดได้ด้วยกำลังเพียงอย่างเดียว เขาจึงมองหาวิธีอื่นเพื่อที่จะรอดออกไปจากสถานการณ์นี้

เขาหันไปทางฮิโรโตะและสั่งการ “ฟังนะ ฮิโรโตะ เราต้องถอยและหาทางไปยังที่สูง ถ้าเรายังอยู่ตรงนี้ พวกมันจะฆ่าเราได้แน่นอน!”

ฮิโรโตะพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ทั้งสองเริ่มถอยกลับขณะที่พยายามป้องกันตัวเองจากการโจมตีของหุ่นยนต์ แบ็คซีโร่ใช้ทักษะการต่อสู้ของเขาในการเบี่ยงเบนความสนใจของหุ่นยนต์ ขณะที่ฮิโรโตะพยายามหาทางหลบหนีไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า

ในที่สุด ทั้งสองก็สามารถถอยไปถึงพื้นที่ที่สูงขึ้นและได้เปรียบในการต่อสู้ แม้ว่าหุ่นยนต์จะยังคงตามไล่ล่า แต่แบ็คซีโร่และฮิโรโตะก็ใช้ภูมิประเทศในการสร้างข้อได้เปรียบ พวกเขาสามารถโจมตีจากที่สูงและใช้สภาพแวดล้อมในการป้องกันตัวเอง

การต่อสู้ที่ยืดเยื้อมาหลายชั่วโมงในที่สุดก็สิ้นสุดลงเมื่อหุ่นยนต์ตัวสุดท้ายถูกทำลาย แบ็คซีโร่และฮิโรโตะยืนหอบหายใจหนัก ความเหนื่อยล้าและความตึงเครียดของการต่อสู้ทำให้ทั้งสองรู้สึกได้ถึงความสูญเสียทางพลังงาน แต่พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้

“เราทำได้” ฮิโรโตะพูดพร้อมกับพยายามเก็บแรงขึ้นมาใหม่

“ใช่ แต่เราต้องไม่ประมาท พวกมันอาจจะมีมากกว่านี้” แบ็คซีโร่กล่าวเตือน ขณะที่เขามองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอันตรายเพิ่มเติม

ทั้งสองพักหายใจและตรวจสอบสภาพร่างกายของตัวเอง ขณะที่แบ็คซีโร่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าในร่างกาย เขาก็รับรู้ได้ว่าการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความยากลำบากและอันตรายที่ไม่มีวันสิ้นสุด

“เราต้องพักฟื้นและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางต่อไป” แบ็คซีโร่กล่าวขณะหันไปมองฮิโรโตะ “การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และเรายังมีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ”

ฮิโรโตะพยักหน้าและยิ้มออกมาด้วยความมุ่งมั่น “ข้าพร้อมจะสู้ไปกับท่าน แบ็คซีโร่ ข้าเชื่อว่าเราสามารถทำได้”

ทั้งสองตัดสินใจหาที่พักพิงและพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลังงานสำหรับการเดินทางต่อไป แบ็คซีโร่รู้ดีว่าอันตรายยังคงรอพวกเขาอยู่ แต่ความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเองทำให้เขายังคงเดินหน้าต่อไป

หลังจากการต่อสู้ที่เหน็ดเหนื่อย แบ็คซีโร่และฮิโรโตะได้พักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลังงานในที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโพรงในหน้าผาขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า เสียงน้ำไหลเบา ๆ จากลำธารใกล้เคียงช่วยทำให้บรรยากาศสงบลงได้บ้าง ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวที่ระยิบระยับ แต่ท่ามกลางความสงบนั้น ทั้งสองยังคงรู้สึกถึงความตึงเครียดจากการต่อสู้ที่ผ่านมา

แบ็คซีโร่จุดไฟเล็ก ๆ ขึ้นเพื่อให้ความอบอุ่นและป้องกันสัตว์ป่า เขานั่งลงข้างกองไฟพร้อมกับหยิบอาหารแห้งออกมาแบ่งให้ฮิโรโตะ ทั้งสองกินอาหารเงียบ ๆ โดยต่างคนต่างใช้เวลานี้เพื่อครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ฮิโรโตะมองดูไฟที่ส่องสว่างระยิบระยับ เขานึกถึงการต่อสู้ที่เพิ่งเกิดขึ้นและความยากลำบากที่พวกเขาต้องเผชิญ เขารู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้า แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกมีแรงบันดาลใจจากการได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับแบ็คซีโร่

“ท่านแบ็คซีโร่...” ฮิโรโตะพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน “ข้าอยากรู้ว่า...ทำไมท่านถึงเลือกที่จะต่อสู้ในสงครามครั้งนี้ ท่านมีทางเลือกที่จะหนีไปใช้ชีวิตที่สงบสุขได้ แต่ท่านกลับเลือกเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย”

แบ็คซีโร่หยุดกินและเงยหน้ามองฮิโรโตะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคิดลึกซึ้งและความมุ่งมั่น

“ข้าคิดว่าคงไม่มีคำตอบที่ง่าย ๆ สำหรับคำถามนี้ ฮิโรโตะ” แบ็คซีโร่เริ่มพูด “ข้าเองก็เคยคิดหนีจากทุกสิ่ง ข้าเคยคิดที่จะทิ้งดาบและหาที่สงบสุขเพื่อใช้ชีวิตที่เหลือ แต่โลกนี้ไม่ได้ให้เรามีทางเลือกเสมอไป”

ฮิโรโตะฟังอย่างตั้งใจ ขณะที่แบ็คซีโร่พูดต่อ

“เมื่อความชั่วร้ายเริ่มก่อตัวขึ้นและคุกคามทุกสิ่งที่เรารัก ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถหลบหนีได้อีกต่อไป ข้าต้องทำบางสิ่งเพื่อปกป้องโลกและผู้คนที่ข้าห่วงใย แม้ข้าจะไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่ข้าไม่สามารถปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลย”

ฮิโรโตะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ท่านแบ็คซีโร่ ข้าเคารพในความตั้งใจของท่าน ข้าเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ข้าอาจจะยังไม่เก่งกาจเท่าท่าน แต่ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยปกป้องโลกนี้ ข้าอยากเป็นนักรบที่สามารถยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ข้าเชื่อมั่น”

แบ็คซีโร่ยิ้มเล็กน้อยกับคำพูดของฮิโรโตะ “เจ้ามีหัวใจของนักรบ ฮิโรโตะ ความมุ่งมั่นของเจ้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ได้ในวันหนึ่ง”

ทั้งสองนั่งเงียบอีกครั้งขณะที่ไฟในกองเริ่มมอดลง ฮิโรโตะเอนหลังพิงผนังหินและหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ส่วนแบ็คซีโร่ยังคงนั่งเฝ้ากองไฟ เขายังไม่รู้สึกอยากพักผ่อนแม้ว่าร่างกายของเขาจะบอกให้เขาทำเช่นนั้น

ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน ความคิดของเขายังวนเวียนอยู่กับอนาคตที่ไม่แน่นอนและการต่อสู้ที่ยังคงรออยู่ข้างหน้า

“เมืองไซเบอร์...” แบ็คซีโร่พึมพำกับตัวเองเบา ๆ เขารู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้เพิ่งเริ่มต้น และสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคือศัตรูที่น่ากลัวและท้าทายที่สุดที่เขาเคยเผชิญ แต่เขาก็รู้ดีเช่นกันว่าการหยุดยั้ง AI และปกป้องโลกนี้คือสิ่งที่เขาต้องทำ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร

เมื่อเวลาผ่านไป แบ็คซีโร่จึงตัดสินใจหลับตาลงบ้าง เขารู้ว่าความสงบในคืนนี้อาจเป็นเพียงชั่วคราว แต่ในชั่วขณะนี้ เขาต้องการพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้

การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป และแบ็คซีโร่ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า ไม่ว่ามันจะยากเย็นเพียงใด

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!