ตำหนักเหมันต์

ตำหนักเหมันต์

สงครามครั้งสุดท่าน1

เมื่อ300กว่าปีก่อน

ยามนั้นบนผืนแผ่นดินมนุษย์มีนักเวทมากมายหลายแสนคน จนกลายเป็นเรื่องปกติที่ชาวเมืองหรือชาวบ้านธรรมดาจะพบเห็นสิ่งวิเศษหรือความอัศจรรย์ ยามเดินไปตามท้องถนนมักจะมีสิ่งสวยงามเกิดขึ้น อาทิ พุไฟเวทย์ หุ่นไม้ข้ารับใช้ ศิลาพยากรณ์ มนตราเสี่ยงรัก และของวิเศษมากมาย สามารถพบเห็นได้ง่ายซื้อขายกันได้อย่างเสรี

นักเวทย์มากฝีมือหรือมีความสามารถโดดเด่นจะถูกชนชั้นผู้ปกครองเชื้อเชิญเข้าร่วมในฐานะทหารคนสนิท เป็นผู้รักษาดินแดนทรงเกียรติ หรือแม้แต่เป็นผู้ทรงอำนาจในแคว้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเก่งกาจของแต่ละคน

ภายในแคว้นใช้เวทย์เพื่อคานอำนาจกันและกัน กลุ่มใดมีนักเวทย์มากมีมือกลุ่มนั้นจะมีอำนาจเหนือผู้คน ได้รับการยอมรับจากประชาชนและแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองแคว้นหรือฮ่องเต้ และหากแคว้นใดมีนักเวทจำนวนมาก แคว้นนั้นจะรุ่งเรืองมากด้วยของวิเศษ อาวุธทรงอานุภาพ และผลผลิตจากการใช้เวทย์สร้างสรรค์มากมาย

แต่แล้ววันหนึ่ง แคว้นมหาอำนาจจากดินแดนทางเหนือต้องการความเป็นใหญ่เหนือแคว้นน้อยใหญ่ จึงออกไล่ล่าอาณานิคม ส่งนักเวทมากฝีมือออกเก็บเกี่ยวพื้นที่ใกล้เคียง ลุกลามขยายอำนาจไปถึงดินแดนอันไกลโพ้น

ดินแดนทางใต้ในขณะนั้นยังไม่มีนักเวทย์หรือรู้จักการใช้เวทย์มากนัก ทำให้ดินแดนทางเหนือเหิมเกริม คิดว่าตนได้เปรียบทางการศึกสงคราม การใช้เวทย์ทำศึกย้อมรับชัย เห็นว่าการรบมีแต่ความสำเร็จ จึงรวมไพร่พลมุ่งหน้าลงทางใต้ กลุ่มชนพื้นเมืองทางเหนือต้องการพื้นที่อุดมสมบูรณ์ร่วมถึงข้าทาสบริวารในการขยายอำนาจ และหากช่วงชิงสิ่งเหล่านี้มาได้พวกเขาจะเป็นหนึ่งเหนือผู้คนทั่วหล้า

เมื่อมีการใช้เวทย์ความเสียหายในสงครามก็เริ่มทวีรุ่นแรงมากยิ่งขึ้น ระหว่างศึกสงครามนักเวทย์ดินแดนใกล้เคียงหรือแคว้นทางเหนือมากมายต่างพากันตกตายจำนวนมาก ทุกเมืองนำของวิเศษออกมาใช้ ห้ำหั่นกันเป็นเวลายาวนาน และแล้วแคว้นชนเผ่าเร่ร่อนทางเหนือก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ หลังจากได้รับชัยพวกเขาก็มุ่งหน้าลงใต้ จนมาจนถึงแม่น้ำฮวงชิ่ว

ในเวลานั้น แคว้นทางใต้ประกอบด้วยแคว้นน้อยใหญ่กว่า7 แคว้น แคว้นฝู่หมิง เป็นแคว้นที่เจริญมั่งคั่งมากที่สุด ในขณะนั้นแคว้นฝู่งหมิงเอาชนะศึกทางหัวเมืองฝั่งเหนือและตะวันออก ทำให้ได้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก ทั้งแร่ดีบุก แร่เหล็ก ทองคำ และพื้นที่ทำการเกษตรมหาศาล

แคว้นฝู่หมิง เป็นแคว้นที่มีนักรบผู้เก่งกาจอยู่เป็นจำนวนมาก นักรบที่มีชื่อเสียง มากด้วยความเชี่ยวชาญและมากฝีมือในขณะนั้น คือผู้นำทัพศึกหรือแม่ทัพหลวง นามว่า จางเหวิ่ยหนิง สงครามคราใดล้วนแต่นำชัยกลับมา จนสร้างชื่อเสียงเลื่องลือไปกว่า 7 แคว้น ไม่มีแคว้นใดกล้าต่อกรกับแคว้นฝู่หมิงเป็นเวลากว่า 10 ปีเต็ม

แม่น้ำฮวงซิ่ว ยามโหย่ว 17.00-18.59 น.

ภายในค่ายทหารครานี้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความตึงเครียด ยากนักที่จะเห็นใบหน้าแม่ทัพหลวงเต็มไปด้วยโลหิตมากมาย โลหิตซึ่งเกิดจากบาดแผลของตนเอง เลือดสีแดงฉาด กำลังไหลผ่านดวงตาทมิฬลงสู่แผนที่จำลอง ไพร่พลกว่าสามหมื่นชีวิตถูกบางสิ่งสังหารสิ้น แม้แต่แม่ทัพใหญ่และทหารคนสนิทเกือบเอาชีวิตไม่รอด เหว่ยหนิง มองชัยภูมิรบอย่างเคียดแค้น ไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้องของนายทหาร มีเพียงเสียงของอาวุธมีคมทิ้งแทงร่างของพวกเขา เพียง 1 ชั่วยาม พวกเขาล้วนสิ้นชีพทั้งหมด

“มันคืออะไรกัน” เหว่ยหนิงเอ่ยเสียงไม่เบาไม่ดัง นายทหารที่หลงรอดชีวิตกว่า 10 คน เนื้อตัวอาบไปด้วยเลือดต่างมองใบหน้ากันและกัน

“เรียนท่านแม่ทัพหลวง ชนเผ่าเร่ร่อนทางเหนือมากด้วยคุณไสย์ ข้าคิดว่าพวกมันกำลังใช้มนต์ดำ” กุนซือ แคว้นซางฉี เอ่ยขึ้น

“เหลวไหล มนต์ดำหาได้มีจริง” จื่อหยวนเอ่ยขัด เขาคือแม่ทัพประจิมแคว้นเห่ยหลาน ไม่เคยเชื่อเรื่องงมงายหากไม่เห็นด้วยตาของตัวเอง

“มีจริง ข้าเคยเห็นมาก่อน หลายปีมานี้เหตุที่หลายแคว้นทางตอนเหนือถูกช่วงชิงไพร่พลและพื้นที่ล้วนเกิดจาก สิ่งที่เราเรียก เวทมนตร์ เห็นทีศึกครั้งนี้ เราจะเป็นฝ่าย เอ่อ”

ฮั่งเก่อ นายทหารมากฝีมือมากแคว้นเล่ย ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองแม่ทัพหลวงเอ่ยขึ้น เขาโชกโชนด้านศึกสงคราม เคยไปเยือนหลายดินแดน รู้จักผู้คนมากมายและเคยพบเห็นสิ่งวิเศษตามท้องถนน เขาเอ่ยขึ้นมาชัดเจนด้วยความมั่นใจ แต่นั่นกำลังทำให้ทุกคนมีสีหน้าอึมครึม ยิ่งกว่าครั้งไหน

“สู้ด้วยเวทย์ คือหนทางเดียวของเรา” นายทหารคนสนิทผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมา

“ข้าจะไม่อยู่ สามเดือน” เหว่ยซิน นำของบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ มันคือของวิเศษที่นางได้มาจากเทพตนหนึ่งบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์เมื่อ 15 ปีก่อน มันจะช่วยยื้อเวลาไปได้3 เดือน

“ท่านแม่ทัพหลวงข้าขอติดตามท่าน” นายทหารคนสนิทสามคนเดินตาม เหว่ยหนิง มายังคอกม้า

“เทียนหยาง ชินหมิง จวินฟ่ง เจ้าทั้งสามต้องอยู่ที่นี่”

“ไม่ พวกข้าจะไปกับท่าน แม้รู้ว่าที่แห่งนั้นข้าจะต้องตาย ข้าก็จะไปกับท่าน ข้าจะไม่มีวันให้ท่านไปผู้เดียว” ทั้งสามกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า ตามเหว่ยหนิงไปยังป่าเร้นกาย

ป่าเร้นกาย

สถานที่ที่ไม่มีผู้ใดกล้ารุกล้ำมากว่าร้อยปี บัดนี้กำลังมีกลุ่มคนขี่ม้าศึกทยานไปยังเบื้องหน้าด้วยความหวัง มันเป็นการเดิมพันด้วยชีวิต ไม่รู้ว่าที่แห่งนั้นจะช่วยนางหรือจะพรากชีวิตนาง แต่มันคือหนทางเดียวที่จะทำให้ชนะศึกใหญ่

กระท่อมร้างใจกลางป่า รายล้อมไปด้วยหมอกสีดำสนิท ที่นี่คือบ้าน หรือสถานที่ลี้ภัยสงครามของแม่เฒ่าซูหนี่ย์ แม่มดดำผู้ที่เหว่ยหนิงเคยช่วยชีวิตและพานางมาอาศัย ณ สถานที่แห่งนี้กว่า3 ปีแล้ว

“หยุด!!” เหว่ยหนิง กระโดดลงมาจากบนหลังม้า คุกเข่าหน้ากระท่อมด้วยความหวัง

“มาไกลนัก โลหิตชโลมกายแห้งกรัง ฮึ อยากได้วิชาเวทย์จากข้าหรือสาวน้อย” นายทหารทั้งสามคือคนสนิทซึ่งอยู่กับนาง หรือเหว่ยหนิงมา 15 ปี พวกเขาทราบดีว่านางคือสตรี แต่สำหรับผู้อื่น มันคือความลับที่ไม่อาจแพร่งพราย

“ใช่ ข้าน้อยเหว่ยหนิง แม่ทัพหลวงแห่งดินแดนทางใต้ ข้าต้องการวิชาเวทย์ทั้งหมด” แม่เฒ่าซูหนี่ย์แสย่ะยิ้มอำมหิตเดินนำทั้งสามไปยังถ้ำอักขระ ถ้ำนี้นางสร้างขึ้นหลังจากที่มาอาศัยที่นี่ สถานที่แห่งนี้จะนำไปยังดินแดนอเวจี แต่จะไม่สามารถกลับมาได้อีก เว้นแต่ เทพแห่งความตายจะเป็นผู้อนุญาต

“ระยะเวลาจำกัดนัก ข้าไม่สามารถสั่งสอนเจ้าได้ทั้งหมด แต่ที่นั่นเจ้าจะได้ทั้งหมดที่เจ้าต้องการ ข้าขอเตือน หากรุกล้ำเข้าไปยากนักจะได้ออกมา” เหว่ยหนิงเดินเข้าไปทันที ตามด้วยบุรุษทั้งสามคน

ไม่มีใครทราบว่าที่แห่งนั้นสอนสั่งเหว่ยหนิงอย่างไรบ้าง นางพบเจอเทพแห่งความตายจริงหรือไม่ บุรุษทั้งสามเหตุใดจึงมีอักขระเต็มกายเช่นเดียวกับนาง หนึ่งสตรี สามบุรุษ ไม่เอ่ยเล่าสิ่งใด ไม่ปริปากแท้กระทั้งที่มาของพลังมหาศาล พลังนี้จะอยู่กับทั้งสี่ตลอดไป กี่พบ กี่ชาติ มันจะคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์

ครบ 3 เดือน เหว่ยหนิงและทหารข้างกาย3 คนมีผิวพรรณ ใบหน้า และรูปกายเปลี่ยนไป ทั้งสี่คล้ายกับอมนุษย์หรือปีศาจ เรือนผมสีเงินยวง ผิวขาวซีด อักขระชัดเจนตามผิวพรรณและซอกเล็บ ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกแปลกใจ แต่ไม่มีผู้ใดกล้าถามหรือปริปากเอ่ย

มีเพียงคำตอบเดียว “ข้าสำเร็จวิชาแล้ว”

ยามอิ๋น 03.00-04.59

ทัพทางใต้เกิดแสงสีทองอร่ามหอบหุ้มผิวกายไปตลอดจวบจนฟ้าสาง แสงนี้สร้างความสะพรึงไปยังทัพแดนเหนือ มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย และมีกองทัพเล็กๆ ถูกส่งมาสอดแนม พยายามเข้ามาหาข่าวในกองทัพ แต่ไม่อาจข้ามแม่น้ำสายนี้ได้

“เรามีเวลาก่อนถึงหน้าแล้ง พวกเจ้าต้องถูกฝึกใช้เวทย์ เมื่อฤดูฝนหมดไป แม่น้ำจะสามารถเดินไปมาได้ง่าย ถึงครานั้นกองทัพข้าต้องมีชัย” สิ้นคำสั่งทหารหลายแสนคนถูกเรียกเข้าฐานทั้งหมด ทุกคนถูกฝึกปรืออย่างหนัก แม้แต่ชาวนาที่ถูกคัดมาก็ต้องร่วมฝึกการใช้เวทย์ พวกเขาถูกเคี้ยวก่ำตลอด6 เดือน เป็น6 เดือนที่แสนทรมารและแสนสาหัส เหว่ยหนิงต้องการที่พวกเขาเก่งกาจไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

ชายผู้หนึ่งถูกแทงครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขาไม่มีสิทธิ์ตาย ทุกครั้งเขาจะถูกปลุกขึ้นมารักษาแผลกายจนหายสนิท และถูกโยนลงไปซ้อมกับอสูรจากนรก เหว่ยหนิงอัญเชิญปีศาจระดับต่ำขึ้นมาไม่กี่ตัวเพื่อใช้ฝึกกองทัพของนาง ตลอดการฝึกฝนนายทหารทั้งหมดเกือบตายไปกว่าคนละหลายร้อยครั้ง ถูกแทง ถูกฉีกร่าง ถูกกระทืบ และเป็นเช่นนี้ตลอด6 เดือนเต็ม นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ถูกนางเรียกเข้าฝึกไม่ต่างจากพลทหารชั้นผู้น้อย การฝึกฝนเข้มข้นกว่า พวกเขาต้องใช้เวทย์เป็น เวทย์โจมตี เวทย์รักษา เวทย์เกราะกำบัง การฝึกฝนรุนแรงและสาหัสยิ่งกว่า

นางต้องการให้ดินแดนทางใต้ชนะ นางแลกทุกอย่างเพื่อดินแดน สงครามจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ได้ แต่เหว่ยหนิงและทหารคนสนิททั้งสามคนรับรู้ดี พวกเขามาไกลมากแล้ว ชีวิตของพวกเขาเหลือเพียงสิ่งนี้ นั่นคือ สงคราม กองทัพ และแผ่นดิน สิ่งที่ทั้งสี่แลกมามากมายเหลือเกิน มากเสียจนตลอดกาลพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์ไปเหยียบดินแดนปรโลกได้อีก

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!