ตะวันสาดแสง ณ ดินแดนหุบเขา เหล่าชาวบ้านต่างก็ออกมาทำหน้าที่ของตน เมืองแห่งนี้เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน ชั่งมีชีวิตชีวาดีแท้
เป็นเวลากว่า5วันแล้วบัดนี้ ณ ประตูทางเข้าสู่ดินแดนใต้ขุนเขานั้นเหล่าคณะทูตและขุนนางชาวหุบเข้าได้มารวมตัวกัน เจ้าหญิงได้กล่าวอำลาราชาแห่งขุน
“ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้วหม่อมฉันและขณะทูตจากเพนโดเรียขอขอบคุณในความมีเมตตาของพระองค์เป็นอย่างมากเพคะ หวังว่าเราจะได้พบกันอีกในเร็ววัน”
“เช่นกันเจ้าหญิง”
ราชาแห่งขุนเขากล่าวแล้วโบกมือลา ภายหลังคณะทูตออกเดินทางออกจากนครใต้ขุนเขาแล้วนั้น เมื่อเหล่าขุนนางก็ต่างพากันกลับเข้าเมือง ราชินีแห่งขุนเขาเหลียวกลับไปมองยังคณะทูตนั้น ได้ปรากฏบุตรชายของนางโบกมือลาให้กับองค์หญิงของเมืองมนุษย์และองค์หญิงก็โผล่ศีรษะขอเช่นกัน ทั้งสองส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
เฟรดิสนางไม่เคยเห็นลูกชายของนางยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้มานานแล้ว นางได้แต่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ นี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของนางและลูก
และแล้วเวลาได้ล่วงเลยจนพลบค่ำราชาและราชินีได้ปรึกษากันเกี่ยวกับสิ่งที่เครซัสขอกับองค์ราชินี
“เค้าต้องการที่จะออกเดินทางไปยังโลกเบื้องล่างนั้น เจ้าคิดว่าข้าควรอนุญาตให้เค้าไปรึเปล่า”
“โถวๆ …ราชินีของข้า ลูกชายเราโตเป็นแล้วให้เค้าไปเถิด ถึงเวลาที่เค้าจะได้ลิขิตชะตาของตนเองแล้ว”
ราชินีถอนหายใจ นางเป็นกังวลเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ ที่โลกเบื้องล่างนั้นไม่เหมือนกับทีนี้ทั้งวัฒนธรรม และวิถีชีวิต มนุษย์นั้นพร้อมที่จะหักหลังและฆ่ากันเองอยู่เสมอ
และแล้วทั้งคู่ก็ตัดสินใจได้ ทั้งสองเดินไปยังห้องของเครซัส
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเปิดประตูดังขึ้น ราชาและราชินีเดินเข้าไปนั่งในห้องของลูกชายของพวกเค้า ทั้งสองคนมองไปยังเครซัสกำลังรังสรรค์ผลงานของตนอยู่ เค้ากำลังออกแบบและพัฒนาปืนไฟรุ่นใหม่ให้แก่กองทัพ ภายในห้องมีแต่ความเงียบงันและแล้วบาราดินก็ได้เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“ได้ข่าวว่าลูกจะเดินทางไปยังโลกเบื้องล่างใช้มั้ย คิดจะไปที่ไหนหล่ะ”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันท่านพ่อ ข้าแค่อยากออกไปเจอพวกเค้า เวลาอยู่กับพวกเค้าข้ารู้สึก….ไม่แตกแยกข้าเหมือนนพวกเค้าทุกอย่าง และผู้หญิงคนนั้นนางทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆ ที่ท้องของข้า ข้าเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน”
“โอ้วๆ โห่โห้ว…ลูกชายข้ามีความรักรึนี้ คงถึงวันที่จะมีคู่ครองแล้วสินะ ถ้าลูกจะไปจริงๆ ทราก ที่นั่นค่อนข้างเหมือนกับเราพวกเค้านับถือเทพองค์เดียวกับเราบางทีมันอาจจะทำให้เจ้าคุ้นชินกับโลกเบื้องล่างได้เร็วขึ้น”
ชายหนุ่มทำหน้าแปลกใจ ท่านแม่ของเขาที่เคยจุดประเด็นพูดคุยขึ้นมาก่อนทุกครั้งบัดนี้นั่งเงียบสงบและไม่พูดจาอันใด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เหตุใดการที่เขาจะลงไปยังโลกเบื้องล่างนั้นถึงทำให้นางเป็นห่วงเขาถึงขนาดนี้เขาเองก็รู้ดีเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่ชายหนุ่มก็เป็นถึงยอดขุนศึกดินแดนหุบเขาแห่งนี้ เคยร่วมรบมาก็หลายคราผ่านศึกใหญ่ๆ มาก็ไม่ใช่น้อยแม้แต่สงครามทวงคืนป้อมคารัสมูนย์เขาก็ผ่านมาแล้ว
ในขณะที่ชายหนุ่มตกอยู่ภายใต้ห้วงความคิดนั้นเฟรดิสก็ได้เอ่ยขึ้นมา
“เครซัสไปค้นหาตัวตนของลูกเถอะแม่ขอแค่ลูกมีความสุขในสิ่งที่ลูกจะทำพอ”
ชายหนุ่มตกใจ เหตุใดแม่ที่เคยพูดห้วนๆ กับตนถึกได้พูดจาอ่อนโยนขนาดนี้ ทั้งที่แต่เขาจำความได้นางก็สอนเขาในวิถีแห่งนักรบมาตลอดเพราะเหตุใดกัน
หลังจากที่นั่นเฟรดิสกับบาราดินก็ได้เดินออกไปจากห้องแบบเงียบๆ ภายในใจของทั้งสามคนมีเรื่องให้คิดมากมายและยากที่จะหาคำตอบ
ราตรีกาลผ่านพ้นชายหนุ่มเตรียมสัมภาระพร้อมออกเดินทางในช่วงเช้า พร้อมกับขวานศึกคู่ใจเจ้าบุชเชอร์พร้อมกับปืนไฟแบบสั้นและยาวอย่างละ1กระบอก แผนที่ เสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็น บัดนี้เขาพร้อมที่จะเผชิญกับโลกเบื้องล่างแล้ว
และแล้วครอบครัวไออ้อนบลัดก็ได้มารวมตัวอีกครั้งเพื่อบอกลาชายหนุ่ม
“เจ้าจะไปจริงรึไอน้องชาย เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”
“ไม่หล่ะท่านพี่ข้าตัดสินใจดีแล้ว บางทีข้าอาจไปแค่ไม่กี่วันก็กลับแล้วหล่ะ ถ้าหากมันไม่เป็นไปตามที่ข้าคิดหน่ะน่ะ”
“ทั้งสองคนพูดคุยกันต่ออีกเล็กน้อย ก่อนที่เฟรดิสและบาราดินจะกล่าวลา”
“แม่ขอให้เจ้าโชคดีน่ะ แม้หนทางที่เจ้าไปจะยากลำบากเพียงใดขอให้เจ้าอดทนและฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ ถ้าหากเจ้าลำบากจงอย่าลืมพวกเรา พวกเราชาวหุบเขาพร้อมจะช่วยเต้าเสมอ”
“ไปดีมาดีน่ะไอลูกชาย และจงนำพาเกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูลเรา ขอเทพทอร์ทรงคุ้มครองเจ้า”
ชายหนุ่มยิ้มตอบรับ และหันหลังออกเดินทางไปยังทิศตะวันออก เพื่อมุ่งหน้าสู่ดินแดนอาณาจักรทราก นี้เป็นครั้งแรกที่เค้าจะออกไปจากบ้านหลังนี้ที่ๆ เขาเติบโตมา ทั้งสังคมและผู้คนที่เขารู้จักจะต้องจากลากันณบัดนี้แบบมิมีหวนคืน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments