แสนคุ้นเคย

...แสนคุ้นเคย...

...WARNING...

...มีคำบรรยายเกี่ยวกับ พิธีกรรมและความเชื่อ ตลอดจนบทสวดคาถาอาคม เป็นเรื่องสมมติทั้งสิ้น ผู้แต่งไม่มีเจตนาลบลู่ หรือบิดเบือนใดๆทั้งสิ้น ขอจงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน...

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 5 ทุ่ม ผมยังคงนั่งอยู่บริเวณม้าหินอ่อนหน้าหอพักของซันเช่นเดิม มีแวะเวียนเดินไปแถวหอปิ่นบ้างเป็นพักๆ และก็มีเดินสำรวจบริเวณรอบๆหอพักอยู่บ้างเพื่อหาตำแหน่งในการปักธูปที่ซื้อมา ถึงแม้ว่าในใจก็ยังมีความลังเลอยู่ตลอดว่าควรจะลองทำดีหรือไม่ควรทำดี ควรจะเก็บธูปที่ซื้อมาเอาไปไหว้พระขอพรแบบปกติดีกว่าหรือเปล่า หรือควรลองทำตามที่แฟนเพื่อนบอกมาเพื่อความสบายใจไปก่อนดี ว่าก็ว่าเถอะครับผมรู้สึกว่าตอนนี้ผมเหมือนคนป่วยเป็นโรคร้ายสักโรคหนึ่ง แล้วอยู่ๆก็มีคนมาบอกว่าให้ลองต้มใบมะละกอกินดูสิ พร้อมกับหาเหตุผลมาซัพพอร์ตให้มันดูมีน้ำหนักขึ้นอย่างการบอกว่ามันช่วยรักษาให้หายได้นะ ขนาดคนที่รู้จักเขาป่วยเป็นมะเร็งแต่พอกินใบมะระกอต้มแล้วอาการดีขึ้นอะไรทำนองนั้นเลย มันดูเป็นการสร้างความหวัง ดูมีหนทางการหายป่วยได้ ซึ่งพอผู้ป่วยได้ยินแบบนั้นส่วนใหญ่ก็มีความคิดที่จะลองทำตามที่ได้ยินมา แม้ว่าจะมีความชั่งใจอยู่บ้างว่าจะหายจริงหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็จบด้วยประโยคที่ว่า ไม่ลองก็ไม่รู้ อยู่ดี ซึ่งตัวผมเองก็คงไม่ต่างกัน

" เอาวะ ลองดูมันคงไม่เสียหายอะไรหรอก "

ผมบอกตัวเองแบบนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปบริเวณด้านหลังหอพักของซัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมเลือกเอาไว้ว่าจะทำการปักธูป ตอนแรกผมว่าจะหาที่ปักแถวด้านหน้าหอ แต่ก็กังวลว่ามันจะเด่นชัดเกินไปเสียหน่อย ดีไม่ดีอาจจะโดนคุณลุงรปภ.ว่าเอาเสียด้วย เลยเลือกเป็นด้านหลังหอแทน บริเวณด้านหลังที่ติดอยู่กับหอพักเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับผู้มาเช่าอาศัยหอ ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นที่จอดรถเสริมจากลานจอดรถด้านหน้าหอ ด้วยความที่มีรถเพียงไม่กี่คันเท่านั้นที่จอดอยู่ บริเวณที่จอดจะมีหลังคาที่ต่อเติมออกมาจากตัวหอพักเล็กน้อยเผื่อบังแดดบังฝนให้กับเหล่ายานพาหนะ ถัดออกจากบริเวณที่จอดรถไปนิดหน่อยจะเป็นต้นไม้ที่พอเป็นร่มเงาอยู่สัก 4-5 ต้น ส่วนบริเวณตรงข้ามกับที่จอดรถจะมีพวกหญ้าขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเป็นรั่วลวดหนามกั้นพื้นที่ก่อสร้าง ผมเดินวนไปวนมาอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะหยุดอยู่บริเวณที่คิดว่าห่างจากต้นไม้และบริเวณรถจอดอยู่พอควร เรียกว่าค่อนข้างชิดไปทางพงหญ้ามากกว่าด้วยซ้ำ เลยต้องออกแรงถอนหญ้าบางต้นออกก่อนเพื่อให้บริเวณรอบข้างที่จะปักธูปมันโล่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกอย่างคือป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอย่างการเกิดไฟไหม้ด้วย

' ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด '

เสียงเตือนพร้อมกับแรงสั่นเล็กๆจากอุปกรณ์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของผมเป็นสัญญาณเตือนว่าตอนนี้เป็นเวลา 23:45 แล้ว ผมหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่ม 45 นาทีจริงหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าเวลาที่ขึ้นอยู่ตรงกับเวลาที่ผมตั้งการแจ้งเตือนไว้แล้วก็เลื่อนนิ้วไปกดปุ่มเพื่อให้มันหยุดร้องและสั่นลงทันที เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าผมได้ทำการตั้งการแจ้งเตือนไว้กับโทรศัพท์ด้วยกันทั้งหมด 3 รอบ โดยรอบแรกผมให้มันแจ้งเตือนตอน 5 ทุ่ม 45 นาที เพื่อที่จะได้เตรียมตัว ทบทวนวิธีการที่เขียนอยู่ในกระดาษ แล้วก็อ่านบทสวดที่มีอยู่ให้ถูกต้องด้วย รวมถึงการเตรียมอุปกรณ์อย่างธูป 9 ดอกและไฟแช็คที่จะใช้จุดด้วย ส่วนการแจ้งเตือนรอบที่สอง ผมตั้งเอาไว้ตอน 5 ทุ่ม 57 นาที เพื่อเอาไว้เป็นเวลาเริ่มพิธีกรรม เริ่มจุดธุป เริ่มท่องบทสวดอะไรต่างๆ ส่วนครั้งสุดท้ายเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี เอาไว้เป็นสัญญาณว่าควรปักธูปลงดินเวลานี้ 

ผมหยิบกระดาษแผ่นเดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง เพื่อเป็นการทบทวนถึงคาถาอะไรสักอย่างที่ต้องท่อง และสิ่งที่ต้องทำหลังจากการท่องบทสวดและปักธูปลงดินไปแล้ว แม้ว่าแสงสว่างที่มีในตอนนี้อาจจะไม่ได้มีมากเท่ากับตอนที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อน แต่ก็ยังพอมีแสงหม่นๆจากหลอดไฟบริเวณที่จอดรถส่องให้เห็นถึงข้อความในกระดาษอยู่บ้าง สายตาของผมยังคงจ้องข้อความที่อยู่ในกระดาษเพื่อจดจำรายละเอียดต่างๆให้ได้ครบถ้วนมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะอ่านมันมาไม่รู้กี่รอบแล้วก็ตาม แต่ยังไงผมก็ยังอยากจำมันให้ได้แบบทุกบรรทัดอยู่ดี หลังจากที่อ่านซ้ำแล้วไม่รู้กี่รอบ พร้อมกับลองท่องบทสวดในใจดูด้วยว่าสามารถพูดมันได้คล่องมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งผมก็ไม่ลืมที่เตรียมธูปทั้ง 9 ดอก พร้อมกับล้วงมือไปหยิบไฟแช็คในกระเป๋าเสื้อที่พกติดตัวตลอดออกมาเตรียมไว้  ผมไม่ได้สูบบุหรี่หรอกนะครับถึงแม้ว่าจะมีไฟแช็คติดตัวตลอดก็เถอะ ที่ผมพกเพราะเจ้าตัวแสบของผมชอบต่างหาก ถึงผมจะไม่รู้ที่มาว่าทำไมซันถึงชอบไฟแช็คก็ตาม ซันชอบไฟแช็คมากจนมีไม่รู้กี่สิบอันในห้อง ตอนแรกผมนึกว่าซันสูบบุหรี่เลยมีไฟแช็ค แต่พอถามออกไปเจ้าตัวแสบดันหัวเราะออกมาตัวโยก กว่าจะให้เหตุผลได้ก็เล่นพักหายใจหอบไปนานสองนานเลย ซันบอกผมว่าเขาไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่ได้สะสมไฟแช็คด้วย แต่ที่เขาชอบคือเสียงเวลาจุดไฟแช็ค ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าไอ้เสียง แชด แชด เวลาจุดมันน่าชื่นชอบตรงไหน แต่ถ้าเจ้าตัวแสบชอบผมก็ไม่ได้รู้สึกขัดอะไรด้วย นั้นเลยเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมพกไฟแช็คติดตัว นอกจากนี้ซันยังเคยบอกว่าเวลาได้ยินเสียงจุดไฟแช็คแล้วมันทำให้เขารู้สึกดีใจด้วย ถึงผมจะไม่เข้าใจก็เถอะว่าดีใจเรื่องอะไร

' ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊.. '

เสียงเตือนพร้อมกับแรงสั่นเล็กๆดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่าเวลาตอนนี้คือ 23:57 แล้ว ผมเลื่อนมือไปกดหยุดการเตือนลงทันที ก่อนจะเปลี่ยนมือไปหยิบธูปทั้ง 9 ดอกที่เตรียมไว้พร้อมกับไฟแช็คขึ้นมาจุด บรรยากาศรอบตัวต่างพากันเงียบเสียงไป ผมไม่รู้ว่าเพราะมันเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วหรือว่าผมไม่สนใจสิ่งรอบข้างกันแน่เลยทำให้ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันค่อนข้างเงียบสงัด 

' แชด แชด '

เปลวไฟถูกจุดขึ้นพร้อมกับปลายธูปบางดอกที่เริ่มมีประกายสีแดงเล็กๆ ไม่นานนักธูปทั้ง 9 ดอกก็มีเริ่มปลายสีแดงสดประดับ เป็นสัญญาณแห่งการเริ่มพิธีกรรม แม้ว่าในใจจะกังวลและยังมีความไม่แน่ใจอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็จบด้วยประโยคเดิมๆคือ

ถ้าเขาไม่ลองทำดู แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะได้ผลหรือไม่ได้ผล  

ผมจัดแจงเปลี่ยนท่านั่งจากตอนแรกที่นั่งชัดเข่า ก้นจ้ำเบ้าเพราะเหนื่อยจากการก้มๆเงยๆตอนถอนหญ้าเป็นท่าคุกเข่าปลายเท้าตั้ง ตัวตรง ทิ้งน้ำหนักนั่งลงบนส้นเท้าในมือทั้งสองข้างยกขึ้นพนมประกบคู่โดยมีธูปทั้ง 9 ดอกอยู่ระหว่างมือ ก่อนจะเปล่งเสียงกล่าวคาถาที่อยู่ในกระดาษ อย่างชัดเจนที่ละคำที่ละคำ

..." โอมัน ญะ ปัญละ หะวะ สัจมัย ระ นันหะ มะลา ...

...สิหัญ ปะ นะ อัตตะ ญัญสะ วะ รามะ สะ อัฐติ "...

' ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด '

เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากเอ่ยคำสุดท้ายของคาถาเสร็จ เสียงร้องตื่นจากโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นการบอกว่าได้เวลาที่เขาจะต้องปักธูป

' ฉึบ '

ณ ตอนนี้ผมไม่อาจละมือจากที่ทำอยู่ได้ ทำให้ยังมีเสียงเตือนจากโทรศัพท์ดังอยู่เป็นระลอก ถึงแม้จะมีเสียงรบกวนจากอุปกรณ์ที่อยู่ในกระเป๋า หรือจะเป็นควันของธูปที่ตอนนี้เริ่มมีปริมาณที่มากขึ้น ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับผมเท่าไหร่นัก ผมออกแรงกดเพียงเล็กน้อยทำให้ก้านธูปทะลุผ่านผิวดินและถูกปักลงอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นว่าธูปทั้ง 9 ดอกตั้งตรงและมั่นคงเรียบร้อยแล้ว มือสองข้างของผมก็ขยับเลื่อนออกไปเล็กน้อยก่อนจะวางแนบลงกับผิวดินบริเวณข้างๆ กับก้านธูปที่ปักเมื่อครู่ ผมหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อหวังหลบเลี่ยงควันธูปที่กำลังลอยฟุ้งกระจายอยู่ในตอนนี้ ก่อนที่ปากจะขยับเอ่ยสิ่งที่ต้องพูดถัดไปเพื่อให้พิธีกรรมทั้งหมดเสร็จสิ้น

..." อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์ ...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์ ...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์ ...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์...

...อัษฎางค์ ชีวภิวัฒน์ "...

..." มาเถิดมา กลับมาเถิด แม้นไร้กายา แลเป็นธุลี อย่าได้หลีกหนี ขอจงกลับมา "...

เมื่อสิ้นสุดคำสุดท้ายที่ต้องพูด ผมค่อยๆเลื่อนมือออกห่างจากธูปที่ปักอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะยันตัวเองลุกขึ้นยืนมือก็ล้วงไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อกดหยุดเสียงการแจ้งเตือนที่ดังมาตลอดตั้งแต่เริ่มปักธูป ทำให้บรรยากาศตอนนี้เงียบสงัด ไร้เสียงใดๆเช่นเดิม

ใช่ครับ

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แสงไฟสีหม่นจากบริเวณที่จอดรถยังคงส่องแสงมาเช่นเดิม ไม่ได้มีการกระพริบ หรือดับลงแบบในหนังสยองขวัญใดๆ ทุกอย่างไม่ได้ต่างไปจากก่อนผมทำพิธีเลยสักนิด ผมมองซ้ายมองขวาเพื่อสังเกตรอบข้างว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ แต่เมื่อตรวจดูแล้วก็พบว่าทุกอย่างยังคงปกติเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่ต่างไปสักนิด เมื่อเห็นแบบนั้นผมเลยก้มลงมองธูปที่ตัวเองปักอีกครั้ง ในใจยังคงนึกถึงใบหน้าของคนรักที่หายไป พร้อมกับคาดหวังว่าให้สิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นจะได้ผลสักนิด

ผมมองธูปที่กำลังไหม้อย่างช้าๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจหันหลังเพื่อจะเดินกลับไปยังม้าหินอ่อนด้านหน้า ขาสองข้างก้าวเดินออกไปอย่างไม่เร่งรีบ ทุกครั้งที่ก้าวเดินจะมีเพียงเสียงฝีเท้าของตัวเองเท่านั้น ทุกอย่างเงียบสงัด ไร้เสียงใดๆทั้งสิ้น ผมเดินกลับมาจนเห็นบริเวณป้อมรปภ. ที่ตอนนี้มีเพียงแสงไฟเปิดอยู่แต่กลับไม่เห็นคนเฝ้า ผมไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรที่ไม่เห็นลุงรปภ.ในเวลานี้ เพราะบางทีแกก็แอบหลับตอนดึกๆแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง เลยไม่ได้เป็นที่น่าสงสัยอะไรสำหรับผมนัก ผมยังคงเดินมุ่งตรงไปยังบริเวณเดิมที่เคยนั่ง

' กึก '

ขาทั้งสองข้างที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงักลง พร้อมกับสายตาที่หยุดมองไปยังบริเวณม้านั่งประจำของตน ภาพที่เขาเห็นคือบุคคลคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บริเวณม้าหินอ่อนที่ตนเองเคยนั่งประจำ แม้ความสว่างของหลอดไฟจะไม่ได้ส่องมาถึงบริเวณที่นั่งมากนัก แต่มันเพียงพอที่จะเห็นว่าคนที่นั่งอยู่มีหน้าตาเช่นใด และแน่นอนว่าสำหรับตัวเขาแล้วแล้วมันก็มากพอที่จะรู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร 

คนที่ผมตามหามาตลอดหลายวัน

คนที่ผมคิดถึงและโหยหา

คนที่ทำให้ผมยอมทำพิธีกรรมแปลกๆเพื่อให้ได้พบกับเขา

คนที่ผมคุ้นเคยมากที่สุด

" ซัน "

...\~ คุณเทียนหยด \~...

...กดหัวใจ หรือ comment ให้กำลังใจและติชมกันได้นะคะ จะได้มีแรงเขียนตอนต่อไปค่าาาา...

...\~ to be continued \~...

ฮอต

Comments

Bonsai Boy

Bonsai Boy

แอด ไม่ว่าขึ้นตอนใหม่ๆ จะออกมาแบบไหนเรายังคอยอ่านอยู่นะ 😊

2024-08-04

0

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!