อัษฎางค์

อัษฎางค์

สูญหายหรือตายจาก

...สูญหาย หรือ ตายจาก...

“ขอโทษนะม่าน เราก็ติดต่อซันไม่ได้เหมือนกัน ถ้าได้ยังไงเดี๋ยวจะบอกนะ ตอนนี้เราขอตัวก่อน”

เพื่อนร่วมคลาสเรียนเดียวกันกับ ซัน พูดกับผมเพียงเท่านั้นก่อนที่จะเดินจากไป มันยิ่งทำให้ตอนนี้ผมจมอยู่กับคำถามในหัวที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ คำถามที่วกไปวนมาตลอดหลายวันนี้

ซันหายไปไหน

ซัน บุคคลที่ตอนนี้ผมกำลังตามหาอยู่เป็นแฟนของผมเอง ผมติดต่อซันไม่ได้มาตลอดหลายวัน พยายามเดินมาดูแถวคลาสเรียนที่ปกติแฟนตัวเองต้องเข้าเรียนก็ยังไม่เห็น ลองถามเพื่อนร่วมคลาสก็ได้คำตอบว่าไม่มีใครติดต่อซันได้เลยสักคน ลองไปตามสถานที่ที่แฟนตัวดีของเขาชอบไป ก็ไม่เจอร่องรอยสักนิด

“ มึงไม่ลองติดต่อบ้านแฟนมึงล่ะ พ่อแม่ พี่น้องเขาสักคนอะ ”

“ กูไม่มีเบอร์พ่อแม่ พี่น้องเขาอะดิ แล้วกูก็ไม่รู้จักด้วย ไม่รู้จักเลยสักคนนึง ”

“ ห่ะ มึงไม่รู้จักครอบครัวแฟนมึงเลยสักคน? ”

“ เออ ไม่รู้จักสักคน ”

ใช่แล้วครับ ผมไม่รู้จักครอบครัวของซันเลยสักคน ถึงเราจะคบกันมาเกือบจะ1ปีแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยเจอหรือได้ยินคนรักของตัวเองพูดถึงครอบครัวตนเท่าไหร่ ตัวผมก็ไม่ใช่คนที่เซ้าซี้ด้วย เลยไม่เคยถามถึงเรื่องพวกนี้จากซันเลย นั้นเลยทำให้ผมไม่รู้จักและก็ไม่มีช่องทางติดต่อกับทางครอบครัวของแฟนตัวเองเลยสักนิด

" มึงติดต่อแฟนมึงไม่ได้มากี่วันแล้วนะ "

" วันนี้เข้าวันที่ 4 "

" กูว่าเดี๋ยวกูไปบอกให้ลุงกูช่วยสืบดีกว่าว่ะ แม่งหลายวันแล้วนะ "

" อย่าเลยว่ะ กูเกรงใจ ซันอาจจะไม่ได้เป็นไรก็ได้ "

" แล้วถ้าเป็น? "

อิฐ เพื่อนสนิทคนเดิมของผมยังคงถามต่อ ซึ่งมันเป็นคำถามที่ผมไม่สามารถตอบกลับได้เลย ผมยอมรับว่าผมกลัวว่าซันจะเป็นอะไรไป กลัวว่าซันจะเกิดอุบัติเหตุ หรือล้มป่วยกะทันหัน หรืออาจจะเป็นอะไรที่มันมากไปกว่านั้น ผมกลัวมาก กังวลไปหมด กลัวที่จะเสียเขาไป ใจก็อยากจะไปแจ้งความคนหายให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปว่าผมติดต่อครอบครัวซันไม่ได้เลย จะไปแจ้งความโดยที่ครอบครัวเขาไม่รับรู้ ไม่รับทราบมันก็ยังไงอยู่ จะขอให้ลุงของไอ้อิฐที่เป็นตำรวจช่วยตามหาก็เกรงใจ อีกอย่างมันก็เป็นคนช่วยผมออกตามหาซันตั้งแต่วันแรกที่ผมติดต่อซันไม่ได้ด้วย แค่นี้ผมก็ไม่รู้จะขอบคุณมันยังไงแล้ว

" ให้กูช่วยเหอะม่าน อย่างน้อยก็ให้กูเกริ่นๆให้ลุงกูฟังไว้ก่อนก็ยังดี "

" กูเกรงใจว่ะ "

" กูเป็นเพื่อนมึงมาตั้งแต่เยี่ยวรดที่นอน จะเกรงใจทำห่าอะไรอีก กูว่าตอนนี้มึงกลับไปรอแฟนมึงแถวหอเขาเถอะ ถ้าคนมันกลับมาก็น่าจะไปหอก่อนที่แรกอะ เดี๋ยวกูอยู่ดูแถวนี้ให้ ส่วนเรื่องลุงเดี๋ยวลองถามแกดูว่ามึงสามารถทำไรได้บ้างเปล่า อะ เอานี้ไปแดกส่ะด้วย "

อิฐพูดขึ้นพร้อมยัดถุงข้าวกล่องใส่มือผมก่อนที่จะยกมือทำท่าทางไล่ผมให้ไปทำตามที่มันบอก ถึงจะเกรงใจมันอยู่มากแต่สุดท้ายผมก็เลือกจะพูดขอบคุณมันก่อนที่จะมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ที่ผมคุ้นเคย ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็พบตึกสูง5ชั้นสีขาวเขียวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาลัยที่ผมเรียนนัก ผมมาที่นี่บ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วน บ่อยจนเพื่อนผมแซวว่าผมจำทางกลับห้องกลับหอตัวเองไม่ได้แล้วมั้ง ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ค่อนข้างที่ชอบเวลาพวกมันแซวด้วย ก็ผมมีความสุขนิ การที่ผมมาหาซัน มาเจอซัน มันทำให้ผมมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมานาน แต่ตอนนี้เจ้าของความสุขคนนั้นได้หายไปแล้ว

ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ ทำไมซันหายไป แล้วซันหายไปไหน ครั้งสุดท้ายที่เราคุยกันคือคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา วันนั้นผมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลยไม่ได้อยู่กับเจ้าตัวแสบ พอเช้าวันอาทิตย์ผมทักไปหาก็ไม่อ่าน โทรหาก็ไม่รับสาย ทำเอาผมกระวนกระวายรีบขับรถกลับมาหา ตอนนั้นผมตรงเข้าไปขออนุญาตคนดูแลหอพักให้เปิดประตูห้องของซันทันที  ตอนแรกแกก็ไม่ยอมหรอกครับ บอกว่าแบบนี้มันบุกรุกบ้าง จะแจ้งความจับผมบ้าง แต่ผมก็พยายามอธิบายเหตุผลให้แกฟังไปว่า ติดต่อซันไม่ได้เลย กลัวว่าจะประสบอุบัติเหตุอยู่ภายในห้องแล้วไม่มีคนรู้ แกฟังแล้วก็นิ่งไปสักพักก่อนจะยอมไปไขประตูห้องให้ ภายในห้องของซันนั้นยังคงเหมือนเดิม ข้าวของยังวางอยู่ตำแหน่งเดิม ไม่มีร่องรอยของการรื้อหรือทำลายข้าวของเลยแม้แต่น้อย มีเพียงเจ้าของห้องเท่านั้นที่หายไป  ตอนนั้นผมทำได้แค่ขอร้องคนดูแลหอพักเพื่อจะขอดูกล้องวงจรปิดที่แกติดอยู่ ตอนแรกแกก็ดูจะลังเลว่าจะให้ผมดูดีไหมแต่สุดท้ายแกก็พาผมไปดู และผมก็ได้เห็นซันในภาพของกล้องวงจรปิดจริงๆ ซันเดินออกจากหอพักไปข้างนอกเวลาประมาณ ตี 01:16 นาที และก็ไม่ได้กลับเข้ามาภายในหอพักอีกเลย ซันออกจากหอพักไปหลังจากที่วางสายจากผมได้ไม่ถึง 20 นาทีด้วยซ้ำ แถมตอนคุยกันซันก็ไม่ได้บอกว่าจะออกไปข้างนอกเวลานี้เลยด้วย 

ซันออกไปไหน?

" วันนี้ลุงก็ยังไม่เห็นนะพ่อหนุ่ม " 

เสียงของลุงรปภ.ที่เฝ้าตึกเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาบริเวณหอพัก ได้ยินแบบนั้นผมเลยหันไปพยักหน้าพร้อมส่งยิ้มให้แกเป็นการขอบคุณที่บอกความคืบหน้าของซันให้เขาฟัง แม้ว่าคำพูดจะเหมือนเดิมมาตลอดหลายวันนี้ก็ตาม ผมยังคงเดินไปนั่งรอบริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำของตัวเองทุกครั้งที่มาคอยเจ้าตัวแสบ มือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปพลิเคชันที่คุ้นเคย สายตาก็ยังมองข้อความที่เคยส่งหาคนรัก ถึงแม้ว่าระยะเวลา 3-4 วันนี้จะไม่มีการตอบกลับมาเลยก็ตามที และก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ปลายนิ้วผมเลื่อนไปยังสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์พรางออกแรงเล็กน้อยในการสัมผัสมัน ก่อนที่หน้าจอจะแสดงผลเป็นการโทรออก ภายในใจยังคงคาดหวังให้ได้ยินเสียงคนปลายสายสักนิดก็ยังดี แต่ความเป็นจริงมันมักไม่เคยเป็นดั่งใจหวัง ภาพหน้าจอยังคงแสดงถึงการโทรออกและรอคนรับสาย ตัวเลขเวลาการสนทนายังคงไม่ถูกนับ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ยังว่างเปล่าเช่นเดิม

" เออจริงสิ นึกขึ้นได้ เมื่อเช้าเห็นไอ้ชัยมันบอกว่าเห็นคนหน้าตาคับคล้ายคับคลาเจ้าซันมายืนอยู่แถวนี้ด้วย "

คำพูดของลุงรปภ. ส่งผลให้เจ้าก้อนเนื้อในอกของผมกระตุกวาบ เร่งจังหวะการเต้นของมันให้มีมากขึ้นมากขึ้น อีกทั้งสองขารีบรุดก้าวเดินไปยังป้อมรปภ. ที่ลุงแกอยู่อย่างไม่ทันตั้งตัว ปากก็พยายามจะถามถึงสิ่งที่ลุงแกได้พูดออกมากเมื่อกี้ 

" เมื่อกี้ลุงพูดว่ายังไงนะ เจอซันหรอ ที่ไหนครับ เมื่อไหร่ครับ แล้วซันเป็นยังไงบ้าง ลุงเห็นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ล.แล้ว แล้ว แล้ว "

" เฮ้ยๆ ใจเย็นพ่อหนุ่ม ค่อยๆนะ ใจเย็นก่อนๆ "  ลุงแกพูดปลอมพรางแตะไหล่ผมเบาๆ

" แล้วเมื่อกี้ลุงบอกว่าลุงเจอซันใช่ไหม ลุงเจอที่ไหน แล้ว แล้วลุงเจอตั้งแต่เมื่อไหร่ "

" ใจเย็นๆ ฟังก่อนๆ ลุงไม่ได้เจอเอง ไอ้ชัยที่ขายน้ำอยู่หน้าซอย3นู่นที่เจอ " ลุงแกพูด มือก็ยกชี้มุ่งตรงไปทางซอยที่แกพูดถึงก่อนที่จะปรับระดับความดังของเสียงให้น้อยลงจนกลายเป็นระดับกระซิบแทน

" มันบอกว่าเจอคนหน้าตาคล้ายๆเจ้าซันมาเดินไปเดินมาอยู่แถวหอปิ่นซอย3เมื่อคืนนี้ น่าจะสักตี2 กว่าๆ มันบอกว่ามันออกมาซื้อยาให้เมีย แล้วเห็นคนเดินไปเดินมา แต่มันก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าใช่เจ้าซันหรือเปล่า ตรงนั้นก็ไม่ค่อยมีไฟส่องเท่าไหร่ด้วย อีกอย่างมันก็ใช่ว่าจะจำหน้าเจ้าซันได้ที่ไหนล่ะ ลุงว่ามันทึกทักไปเองว่าน่าจะเป็นเจ้าซัน จริงๆอาจจะเป็นเด็กแถวน..นั้ เฮ้ยๆ นั่นเอ็งจะวิ่งไปไหน "

" ขอบคุณนะลุง ขอบคุณครับ "

ขาทั้งสองข้างออกแรงวิ่งสุดกำลัง ปากก็ตะโกนขอบคุณลุงรปภ. ที่บอกเรื่องเกี่ยวกับซันให้ผมรู้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง อาจจะเป็นการเข้าใจผิด หรือจะเป็นเรื่องหลอกกันเล่นหรืออะไรก็ได้ แต่ว่ามันคงไม่ผิดใช่ไหมครับที่ผมอยากคาดหวังว่ามันเป็นเรื่องจริง 

ไม่นานนักผมก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าหอพักสีฟ้าจางๆที่เกือบจะเป็นสีขาว แต่ป้ายหน้าหอแสดงชื่อของหอพักได้อย่างชัดเจน หอพักปิ่นปักษ์ หรือที่คนแถวนี้เรียกกันว่าหอปิ่น จริงๆผมกับซันเคยมาดูห้องพักที่นี่ด้วยกันแล้วครั้งนึงแล้ว เราก็เคยคุยและสัญญากันไว้ว่าจะออกมาอยู่ด้วยกันที่หอนี้หลังจากที่ผมหมดสัญญาหอพักที่พักอยู่ปัจจุบัน ซึ่งความจริงแล้วมันเหลือเวลาอีกแค่สองเดือนเดียวเท่านั้นก็จะหมดสัญญา แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกผิดที่ไม่ย้ายออกมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่ตอนนั้น ผมไม่น่ารอให้หมดสัญญาหอ ถ้าผมย้ายมาอยู่ที่นี่กับเขาตั้งแต่แรก ซันคงไม่หายไป

" พี่ชายๆ ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ อ่ะ หนูให้อมยิ้มสะตอเบอยี่นะ ไม่ร้องนะคะ "

เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียกผมออกจากภวังค์ความคิด ผมหันซ้ายทีขวาทีถึงสังเกตุเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธออยู่ในชุดกระโปรงสีฟ้าสดใส คาดเดาจากสายตาผมว่าเธอน่าจะอายุราวๆ 4-5 ขวบ ซึ่งเธอมายืนอยู่ข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ในมือก็ถืออมยิ้มรสสตอเบอร์รี่เอาไว้พร้อมกับทำท่าทางจะยื่นมาให้ผม

" ให้พี่หรอครับ? "  

ผมถามออกไปพร้อมกับยกนิ้วขึ้นชี้เข้าหาตัวเองเพื่อเป็นการย้ำให้แน่ใจว่าน้องผู้หญิงหมายถึงผมหรือใคร ถึงแม้ว่าจะมีแค่ผมยืนอยู่กับน้องแค่สองคนก็เถอะ 

" ไม่ใช่พี่ชายค่ะ พี่ชายไม่ใช่คนที่ร้องไห้นิคะ หนูหมายถึงพี่ชายที่กำลังร้องไห้อยู่ข้างหลังพี่ชายต่างหาก " 

" …… "

" อ่ะ งั้นหนูฝากให้พี่ชายเขาด้วยนะคะ หนูต้องไปแล้ว เดี๋ยวแม่ตีค่ะ "

เด็กผู้หญิงในชุดสีฟ้าสดใสวิ่งลับหายไป ก่อนที่เธอจะไปก็ยัดลูกอมรสสตอเบอร์รี่ที่เธอหมายมั่นจะให้เป็นของปลอบใจเอาไว้กับมือของผม ผมก้มลงมองลูกอมในฝ่ามือตัวเองแล้วมีแต่ความสงสัย ในใจมีแต่คำถาม ซึ่งหนึ่งในคำถามที่มันเด่นชัดมากที่สุดเลยคงจะหนีไม่พ้นคำถามที่ว่า

ผู้ชายที่ร้องไห้อยู่หลังเขาคือใคร?

...\~ คุณเทียนหยด \~...

...comment เป็นกำลังใจและติชมกันได้นะคะ ช่วยเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ เราเขียนเรื่องแรกเลย...

...\~ to be continued \~...

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!