บทที่ 2 'CEO'

นั่น..เขานี่

"สวัสดีครับคุณคลื่น นี่น้องสรัลนุช เด็กที่ขอมาฝึกงานที่นี่เป็นเวลา 3 เดือนครับ" 

"อืม"

"สวัสดีค่ะ"

ฉันยกมือไหว้เขาที่ดูจะไม่ค่อยสนใจอะไรสักเท่าไหร่

"คุณไปทำงานคุณเลย เดี๋ยวผมจัดการเอง" 

"ครับ"

คุณเจษหันมายิ้มให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ฉันยืนงงว่าต้องทำอะไรต่อ

"นั่งลงสิ"

"ขอบคุณค่ะ" 

"ทำไมถึงอยากมาฝึกงานที่นี่"

"เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องประดับแล้วก็ยังมีเหมืองอัญมณีเป็นของตัวเองด้วยค่ะ หนูชอบเครื่องประดับมากๆ ถ้าได้ลองเข้าใกล้เรื่องพวกนี้ หนูก็คงจะได้รู้อะไรอีกเยอะเลยค่ะ"

"หึ แล้วรู้มั้ยว่าที่นี่ไม่เคยรับเด็กฝึกงาน"

"หะ..ห้ะ?"

ฉันหน้าเหวอไปเล็กน้อยกับสิ่งที่เขาพูดออกมาเพราะตอนแรกที่สมัครมามีการยืนยันทางอีเมลแล้วว่าสามารถมาฝึกงานที่นี่ได้ แต่ไหงเขากลับพูดแบบนั้นออกมาล่ะ

"แต่เธอแค่เป็นคนแรก"

"ดีจังเลยค่ะ ได้เป็นคนแรกด้วย" ฉันยิ้มแป้นออกมาทันที

"เปลี่ยนสีหน้าไวเหมือนกันนี่"

"ก็คุณพูดเหมือนจะไม่รับหนูงั้นแหละ ใครได้ยินแบบนั้นก็ต้องใจเสียกันทั้งนั้น หนูอุตส่าห์ตั้งใจมาที่นี่ ถ้าโดนปฏิเสธตอนนี้มีหวังได้เรียนซ้ำกับรุ่นน้องแน่"

"งั้นก็ตั้งใจฝึกงานล่ะ เพราะถ้าเธอก่อเรื่องฉันไม่เอาเธอไว้แน่!"

"ทำไมถึงดุจังเลยล่ะคะ หนูแค่มาฝึกงานนะ แรกๆก็ต้องเรียนรู้ก่อนสิคะ"

"ไม่ได้ดุ แต่ถ้าแค่นี้รับไม่ได้ก็รีบทำเรื่องย้ายไปฝึกที่อื่นเถอะ เพราะเธอยังต้องเจออะไรอีกเยอะ"

เสียงเรียบแต่เย็นชาของเขาทำฉันแทบจะพูดไม่ออก สีหน้าเขาตอนนี้ดูน่ากลัวชะมัด

หลังจากที่ฉันโดนเขาสัมภาษณ์ไปหลายๆอย่างจนในที่สุดฉันก็ได้ลงมาประจำตำแหน่งของตัวเองสักที

"โต๊ะทำงานเราอยู่ตรงนี้นะ มีอะไรก็ไปถามพี่ได้" คุณเจษพูด

"ขอบคุณค่ะ"

"อันนี้รายละเอียดงานคร่าวๆ ลองอ่านไปก่อน วันนี้วันแรกยังไม่ต้องเครียดอะไรมาก"

"ขอบคุณนะคะ แล้วที่นี่มีกฎอะไรที่ห้ามทำเลยมั้ยคะ"

"ก็มีนะส่วนใหญ่จะประชุมบ่อยเพราะที่นี่จะมีงานเปิดตัวคอลแลคชันใหม่เป็นช่วงๆ แทบจะทุก 3-6 เดือน ส่วนมากก็คือห้ามขาดประชุม ห้ามสาย งานต้องเรียบร้อย ตามพื้นฐานเลย"

"แล้วคุณคลื่นเขา..มีแฟนมั้ยคะ"

"หึ ทำไม สนใจเหรอ?"

"ปะ..ปะเปล่าค่ะ ก็แค่สงสัยว่าคนที่ดูเข้าถึงยากแบบนั้นเขามีแฟนมั้ยน่ะค่ะ"

"ไม่มีหรอก รายนั้นเขาเข้าถึงยาก ตั้งแต่พี่มาทำงานที่นี่ยังไม่มีใครแตะตัวเขาได้สักคนเลย"

"แสดงว่าเขาน่ากลัวมากใช่มั้ยคะ"

"ใช่ แถมยังเข้มงวดมาก อะไรเล็กน้อยไม่ได้เลย แต่เพราะแบบนั้นแหละ บริษัทถึงได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุณคลื่นจริงจังกับงานมาก"

พอได้พูดคุยกับพี่เจษฉันเลยพอมองออกว่าพี่แกเป็นสาวสองแถมยังขาเมาส์สุดๆ งานนี้ฉันเลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่

"จริงสิ มีคนขอมาฝึกงานที่นี่ด้วยนะ เหมือนจะมาที่เดียวกับเธอเลย" พี่เจษพูด

"จริงเหรอคะ แต่เท่าที่หนูสมัครมาไม่มีใครมานะคะนอกจากหนู"

"รายชื่อตามมาทีหลังน่ะ เป็นผู้ชาย นี่นัดเข้ามาตอนเย็นเราจะอยู่รอเจอด้วยมั้ยล่ะ"

"ได้นะคะ หนูไม่รีบกลับค่ะ"

"งั้นพี่ไปทำงานล่ะ"

"ค่ะ"

ฉันนั่งอ่านเอกสารมาเกือบครึ่งค่อนวัน หลักๆเนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับบริษัททั้งหมดตั้งแต่การก่อตั้งรวมไปถึงจุดประสงค์ของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมา

นั่งอ่านมาตั้งนานพอง่วงมากๆ เลยต้องเดินลงมาหาอะไรดื่มที่ร้านกาแฟ 

"เอาคาปูชิโน่เย็นเพิ่มหวานค่ะ"

"ได้ค่ะ สักครู่นะคะ"

ฉันเดินถือแก้วกาแฟของตัวเองเลี่ยงออกมาบริเวณโต๊ะมุมของห้อง ที่นี่ดีตรงที่เราสามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ในบริษัท ยกเว้นตอนประชุม

นั่นคุณคลื่นนี่

สายตาของฉันที่ล็อกเป้าหมายเตรียมมุ่งหน้าเดินเข้าไปทักทายเขา 

"มากินกาแฟเหมือนกันเหรอคะ" 

"อืม"

"ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ"

เจ้าของใบหน้าหล่อไม่ได้ตอบเพียงแต่ก้มหน้ามองจอโน้ตบุ๊กตรงหน้าของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ

"พอดีหนูสงสัยเรื่องงานนิดหน่อยน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคลื่นพอจะว่างตอบมั้ยคะ"

"ว่ามา" สายตายังคงจับจ้องกับจอโน้ตบุ๊ก

"ที่นี่จัดอีเวนต์บ่อยแค่ไหนคะ"

"สามเดือนครั้ง"

"แล้วใครจะเป็นคนเซ็นเอกสารฝึกงานให้หนูเหรอคะ"

"ทำไม?" คิ้วเข้มเลิกขึ้นมามองฉัน

"ก็จะได้เอาใจถูกไงคะ"

"ไม่จำเป็น ที่นี่ยึดตามผลงาน ไม่ต้องประจบ"

"ผลงานมีให้แน่นอนค่ะ แต่ประจบก็อีกเรื่อง"

"ทำให้เห็นก่อนเถอะแล้วค่อยพูด"

"นี่คุณไม่เชื่อหนูเหรอคะ"

"จะเชื่ออะไรก็ต้องมีหลักฐานก่อน จริงมั้ย?"

"จริงค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูจะทำให้คุณเห็นเองว่าหนูมีดีแค่ไหน"

ฉันกอดอกยกยิ้มอย่างเชื่อมั่นในตัวเองจนเขาที่มองอยู่เผลอกระตุกยิ้มมุมปากออกมา

"ยิ้มแล้ว!"

"อะไร!"

"เมื่อกี้คุณยิ้มใช่มั้ยคะ เป็นบุญตาจังเลย"

"ไปทำงานเธอได้แล้ว"

"ก็ทำอยู่นี่ไงคะ"

"ทำอะไร"

"ทำงานค่ะ พี่เจษบอกว่าที่นี่ทำงานตรงไหนก็ได้ขอแค่อยู่ในเขตของบริษัท"

"หมอนั่นสอนเธอแบบนั้นเหรอ"

"ค่ะ"

"งั้นฟังใหม่" คุณคลื่นพับจอโน้ตบุ๊กลงก่อนจะจ้องตาฉันนิ่ง "กลับไปทำงานของเธอที่โต๊ะซะ ก่อนที่ฉันจะเขียนรายงานลงบนหน้ากระดาษฝึกงานของเธอ"

คนบ้าอะไรดุชะมัด! อุตส่าห์คุยดีด้วยแท้ๆ แต่ไม่เป็นไรแบบนี้แหละผู้นำครอบครัวที่ดี! 

พอใกล้เวลาเลิกงานก็เป็นเวลาที่พี่เจษนัดเด็กฝึกงานอีกคนเอาไว้ ฉันที่อยากรู้เลยต้องรอดูว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร 

ดืดดด (เสียงโทรศัพท์)

"ค่ะคุณพ่อ"

[จะกลับเลยหรือเปล่าพ่อจะให้คนไปรับ]

"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูนั่งแท็กซี่กลับเองค่ะ"

[มันอันตรายนะกลับเองได้จริงๆเหรอ]

"คุณพ่อคะ หนูโตแล้วนะ กลับเองได้ค่ะ ไม่ต้องห่วง"

[ถ้ามีอะไรรีบโทรมาล่ะ พ่อเป็นห่วง]

"ค่าา รู้แล้วค่ะ"

อ้ะ! นั่นมันคุณคลื่นนี่! 

ฉันยืนมองเขาที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตรงลานจอดรถหน้าบริษัทท่าทางดูจริงจังเอามากๆ 

"คุยอะไรกันนะ"

"ไผ่!"

"ไทป์! นายเองเหรอ!" 

ฉันที่หันไปตามเสียงเรียกก็เจอเข้ากับเพื่อนสนิทคนคุ้นเคยที่เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก 

ไทป์ เป็นคนที่เก่งมากๆ แถมยังนิสัยดีมากอีกด้วย ปกติหมอนั่นอยู่ไทยเพราะเกิดและโตที่นั่น แต่แปลกที่เขาเลือกมาฝึกงานที่นี่

"ตกใจใช่มั้ยล่ะ"

"ทำไมมาที่นี่ล่ะ ไหนบอกจะฝึกที่ไทยไง"

"ก็ฉันกลัวเธอเหงา ฉันเลยแอบสมัครตามเธอมาด้วย"

"แล้วนี่พักอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร"

"ฉันอยู่คอนโดน่ะ"

"นายไปอยู่กับฉันก่อนมั้ย อยู่คอนโดคนเดียวอันตรายนะ"

"ไม่ต้องห่วง ฉันเป็นผู้ชายนะแถมยังเป็นแชมป์มวยไทยด้วย"

"รู้แล้วน่า แต่ที่นี่ไม่เหมือนที่ไทยนะ"

"ฉันพอรู้มาบ้างแล้วล่ะ ไม่เป็นไรหรอก"

"แล้วนี่รายงานตัวกับพี่เจษแล้วเหรอ"

"เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาทำงานพร้อมเธอได้แล้ว"

"ดีเลย แบบนี้ฉันก็ไม่เหงาแล้ว"

"แล้วนี่กลับยังไง ฉันไปส่งมั้ย"

"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเอง"

"ไหนบอกอันตราย ให้ฉันไปส่งเถอะ เด็กน้อยแบบเธอต้องระวังตัวรู้มั้ย"

"รู้แล้วน่า"

"รู้แล้วก็ไป" 

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!