"เราจักไปอยู่ แต่เราขอถามเจ้าก่อน เจ้ารู้จัก นครขีดขินรึไม่"ทำหน้าคาดหวัง ตั้งแต่นางรู้ว่าตัวเองข้ามเวลาหรือเรียกอีกอย่างว่าทะลุมิมา นางอยากรู้ว่าที่นี้ใช่รามเกียรติ์รึป่าว
"นครขีดขินหรือเพคะ หม่อมฉันก็เคยได้ยินนะเพคะ ว่ากันว่าเป็นเมืองของวานร ผู้ปกครองเมื่องนามว่าพาลีเพคะ ถามเช่นนี้..คงมิได้จะไปนะเพคะ"
"อืม~เจ้าเข้าใจมิผิดดอก ข้าอยากเห็นว่า บ้านเมืองของนครขีดขินเป็นเช่นใด จักงดงานรึไม่"สายตานารินทร์ตอนนี้หวานเยิ้ม หลงไหน'ไม่ได้อยากไปดูบ้านเมืองหรอก แค่อยากเห็นพาลีกับสุครีพตัวเป็นๆเเค่นั้น'
"มิได้นะเพคะ โลกข้างล้างนั้นหน้ากลัวนัก แลพระธิดาก็งดงามนัก หาพระองค์ทรงลงไป ท่านเจ้าเหนือหัวคงมิยอมเป็นแน่แท้"กระวนกระวาย
"เพราะเหตุใดได้จักไปมิได้ เราก็อายุมากโขแล้ว ใยมิมีสิทธิได้ประพาสป่า(เที่ยวป่า) เราเบื่อที่จักอยู่แต่ในวัง อยู่ในวังก็ทำได้แค่ร้องรำ ปักผ้าแลเย็บผ้าที่แม่หญิงควรทำ"ถอนหายใจ นารินทร์ทำหน้าเศร้า'ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยแอบหนีเที่ยวตอนกลางคืน ฮิฮิฮิ'
"โถ~พระธิดาของบุหลัน ทรงอย่าโศกา(เศร้า)เลยนะเพคะ ต้องมีซักวันที่พระธิดาได้ประพาสป่าอย่างแน่นอนเพคะ"ลูบขาปลอบ
"งั้นรึ? เจ้าคิดว่าเราจักได้ไปประพาสป่าซักวัน วันนั้นคงจักเป็นวันที่ข้าได้ออกเรือนแล้วกระมัง"บีบน้ำตา'ทำตัวให้หน้าสงสารเข้าไว้'
"พระธิดา..ข้าเจ้าสงสารพระธิดาเหลือเกินเพคะ อย่าได้โศกาเลยนะเพคะ บุหลันขอ"หน้าเศร้า
'เป็นไงละ ฮึๆ ทักษะการแสดงของฉัน หน้าทึงละซี้~'มองหน้าบุหลัน"ฮึก! เราหิวแล้ว เจ้าไปยกสำรับมาเถอะ เรามิเป็นไร"หันหน้ามองไปที่หน้าต่าง
"เพคะ หม่อมฉันจะรีบนำมาถว่ายให้พระธิดาเพลานี้แลเพคะ''คลานออกไป
ส่องมองบ่าวว่าไปแล้วรึยังตรงหน้าประตู มองซ้าย มองขวา"เยี่ยม!ไม่มีคนอยู่ หวานหมูแล้วเรา"ย่องๆ ดุกดิกๆ
"ทำกระไรรึพระขนิษฐา(น้องสาว)นารินทร์"ยืนอยูด้านหลังนารินทร์
สะดุ้ง หันกลับไปมองด้านหลัง"อุ๊ย! พระเชษฐภคินี(พี่สาว)จันทรวิมล"ยืนหลังตรง
"เจ้ากำลังจักทำสิ่งใดรึพระขนิษฐา เจ้ากำลังหนีเที่ยวอีกแล้วรึ?"มองนารินทร์อย่างจับผิด
"น้องป่าวหนาเจ้าคะ ข้าแค่ออกมาเดินเล่นนอกห้องเฉยๆเจ้าค่ะ พระเชษฐภคินีอย่าได้มองน้องมิดีสิเพคะ"หงอย'นี้ฉันโดนจับได้หรอเนี้ย'
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments