ตอนที่​4​ วางแผน​หลบหนี

"คนงามค่อยๆลุก"หลี่เฟิงซีรีบเดินเข้ามาประคองหวังฟางจิงลุกขึ้นมาร่างสูง​เหลือบไปเห็นร่องรอยความป่าเถื่อนที่หยางหลิงอี้ทิ้งไว้ให้ก็ยิ่งตอกย้ำ​ความผิดในใจของตนที่มาช้าไป

"ยังเจ็บ​อยู่​หรือไม่"น้ำเสียง​ที่​อ่อนเบาของหลี่เฟิงซีถามออกไปหวังฟางจิงพยักหน้า​ตอบกลับไปหมอหนุ่มยื่นถ้วยชาให้ร่างบาง

หวังฟางจิงรับถ้วยชามาดื่มก่อนจะยื่นคืนริมฝีปากบางยกยิ้มให้หลี่เฟิงซีแต่ดวงตาเต็มไปด้วยคำถามมากมายจนอดไม่ได้ที่ต้องถามออกไป"ขอบคุณ... ชายชุดดำผู้นั้นเป็นเจ้า?" 

"เป็นข้าเอง"หลี่เฟิงซีพูดออกมาด้วยท่าทีสุขุมแววตาอ่อนโยน​ระบายยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตรถึงบุรุษ​ตรงหน้าจะยอมรับก็เถอะแต่หวังฟางจิงก็ยังมีข้อสงสัยอยู่

"เจ้ามาเพื่อช่วยข้า...ไม่สิเจ้าคิดจะลอบสังหาร​หยางหลิงอี้"

"คนงามที่เจ้าพูด​มามีทั้ง​ถูกและไม่ถูก...เรื่องที่ข้ามาช่วยเจ้านั้นเป็นความตั้งใจของข้าแต่เรื่องมือสังหารก่อนหน้าที่ข้าจะมาถึงนั้นข้าไม่รู้​เรื่องเลย"หลี่เฟิงซีพูดความจริงออกไปเดิมทีเขาแค่จะจัดฉากถ่วงเวลาให้คนของตนพาหวังฟางจิงออกมาแต่ใครจะคิดล่ะว่าจะมีมือสังหารดัก​ซุ่ม​โจมตี​จริงๆเขาเลยรอจังหวะลงมือทีหลัง

"คนงามเจ้ายังไม่ต้องเชื่อข้าหมดก็ได้แต่เจ้าลองนึกดูว่าความสามารถ​เช่นข้าจะสู้กับหยางหลิงอี้ได้นานแค่ไหนกัน"หลี่เฟิงซีพูดไปตามนึกคิด

"แต่เจ้าสู้ได้สูสีกับเขาได้ถึงเพียงนั้นก็นับได้ว่าวรยุทธเจ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่ใหญ่​ข้าเลย" 

"เจ้าชมเกินไปแล้วข้าแค่สู้สูสีแต่ก็ยังห่างชั้นอยู่ดี"

"ก็จริงหมาบ้าเช่นเขาใครจะไปสู้ได้"หวังฟางจิงพึมพำ​เบาๆแต่หลี่เฟิงซีที่ดันได้ยินก็นึกขบขันอยู่ไม่น้อย

"หากหยางหลิงอี้มาได้ยินคำพูดเจ้าคงโกรธ​เคืองอยู่ไม่น้อย...อ่อจริงสิคนงามมีคนผู้หนึ่งอยากพบเจ้า"

​​​​​​"ใครกัน.."

"เจ้าเข้ามาเถอะ"สิ้น​เสียงเรียกของหลี่เฟิงซีเสียงฝีเท้าของคนผู้นั้น​ก็ก้าวเข้ามาใบหน้างามกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

​​​​​​"พี่รอง!"หวังฟางจิงเตรียมจะลุกขึ้น​ไปหาพี่ชายตนแต่ก็หวังหลงห้ามไว้ก่อน

​​​​​​"ไม่ต้องลุกเสี่ยวจิง"หลี่เฟิงซีลุกขึ้นหลีกทางให้หวังหลงนั่งข้างร่างบางหลี่เฟิงซีมองภาพสองพี่น้องกอดกันก็อดที่จะยินดีกับคนงามไม่ได้

​​​​​​"ในเมื่อพี่น้องได้พบกันแล้วข้าไม่อยู่​กวนจะดีกว่า"

"ต้องขอบคุณ​เจ้าอีกครั้ง"หวังหลงผละตัวออกจากหวังฟางจิงแล้วหันมาขอบคุณ​หลี่เฟิงซีอีกครั้งพี่ใหญ่​เขาเลือกเชื่อคนไม่ผิดจริงๆ

"ไม่ต้องเกรงใจเป็นเรื่องที่ข้าอยากจะทำอยู่แล้ว"เมื่อหลี่เฟิงซีเดินออกไปแล้วหวังฟางจิงก็อดไม่ได้ที่จะถามหาคนในครอบครัว

"พี่ใหญ่​กับท่านแม่สบายดีไหมตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน"

​​​​​​"เสี่ยวจิงเจ้าใจเย็นก่อนพี่ใหญ่​กับท่า​นแม่สบายดีตอนนี้พวกเขาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเจ้าวางใจได้"

"พี่รองท่านเจอกับเฟิงซีได้เช่นไร"

"เป็นพี่ใหญ่​ที่เจอกับเขาก่อนแล้วข้ากับท่านแม่ก็บังเอิญ​เจอกับเขาทีหลังเสี่ยวจิงเจ้ารู้ไหมว่าท่านแม่เป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหนตอนแรกที่ข้ากับพี่ใหญ่รู้ข่าวว่าเจ้าอยู่ที่นี่พวกข้าจะแทบจะพุ่งตัวมาทันทีโดยเฉพาะ​พี่ใหญ่เจ้าแต่ก็ถูกหลี่เฟิงซีห้ามไว้เพราะทหาร​ที่นี่เคยเห็นหน้าพี่ใหญ่จึงยากที่จะเจอเจ้า"

​​​​​​"ข้าทำให้พวกท่านต้องลำบากแล้ว"หวังฟางจิงกล่าวออกมาอย่างรู้สึกผิดน้ำตาเม็ดโตค่อยๆไหลรินออกมาอีกครั้งหวังหลงดึงตัวร่างบางเข้ามากอดประโลมมือหนาลูบหัวคนน้องเบาๆ

​​​​​​"ไม่ลำบาก​เพื่อเจ้าแล้วพวกพี่ไม่ลำบากเลยสักนิดเสี่ยวจิงเด็กดีของพี่ไม่ร้องนะ"หวังหลงนั่งปลอบหวังฟางจิงอยู่สักพักใหญ่จนเสียงสะอื้นหยุดลงหวังหลงเหลือบมองใบหน้างามที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาตอนนี้ร่างบางได้สลบไปอีกครั้งหวังหลงค่อยๆประคองน้องชายตนนอนลงมือหนาไล่เกลี่ยน้ำตาอย่างเบามือ

​​​​​​"เสี่ยวจิงแค้นนี้พี่ต้องชำระให้เจ้าให้ได้พี่สัญญา"

จวนหยางอ๋อง

​​​​​​​​​​​​"ชีพจร​คงที่แล้วโชคดีที่เจ้าโดนแค่ยาสลบเบาๆต่อให้ร่างกายเจ้าต้านพิษได้ทุกชนิดแต่เจ้าต้านยาสลบไม่ได้หรอกนะ"น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนจะเป็นห่วงของสตรีวัยกลางคนแต่ใบหน้ายังคงงามพิลาสอยู่นั้นกล่าวเตือนขึ้นหยางหลิงอี้ดึงแขนกลับมาพร้อมกับทำหน้าเบื่อหน่าย

"ขอบคุณ​อาสะใภ้​"น้ำเสียงที่ดูไม่เต็มใจทำให้คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเหมยกุ้ยที่กำลังเก็บของอยู่ถึงกลับต้องหันไปมองหน้าหลานชายตัวดีของตนอีกครั้งถึงแม้ใบหน้าจะเหมือนบิดาไปเจ็ดส่วนแต่สีหน้ากับแววตานั้นกับเหมือน​หลิงซานผู้เป็นสามีตัวเองไม่มีผิด

"เจ้าเด็กคนนี้...ชอบทำหน้าดื้อด้าน​เหมือนอาเจ้าไม่มีผิด"รู้อย่างนี้น่าจะจับฝังเข็มให้เดี้ยงไปสักสองสามวันซะให้เข็ดเหมยกุ้ยได้เพียงแต่นึกคิดในใจแต่หากนางนึกอยากจะทำจริงๆใครจะห้ามนางได้หยางหลิงอี้ที่คาดเดา​สีหน้าของอาสะใภ้ได้ก็ได้พูดดักทางไว้ก่อน

"อาสะใภ้​คงไม่ได้กำลังคิดจะปองร้ายซื่อจื่อเช่นข้าอยู่หรอกใช่ไหม"

"เจ้าคิดว่าไงล่ะหลานรัก"เหมยกุ้ยจงใจกัดฟันพูดสองคำสุดท้ายออกไปรอยยิ้มหวานเคลือบด้วยยาพิษฉบับของนางมองไปยังหยางหลิงอี้

"หากไม่มีข้าแล้วอาสามจะขาดซื่อจื่อสืบทอด...อาสะใภ้​ท่านคิดให้ดีก่อน"จบคำพูดของหยางหลิงอี้ริมฝีปากบางสีแดงสดก็ยกยิ้มร้ายขึ้นมาทันที

"เรื่องนั้นไม่ยากหากเจ้าตายเจียวอวี่ก็รับช่วงต่อจากเจ้าได้ส่วนตระกูล​เสวี่ยของพ่อเจ้าก็ไม่ต้องห่วงเพราะข้าได้ยินข่าวมาว่าแม่เจ้ารับบุตรบุญธรรม​มาคนหนึ่งคนผู้นั้นก็สืบทอดตระกูล​ต่อได้เป็นไงหลานชายอาสะใภ้คนนี้วางแผนไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว"

"ข้ายอมท่านแล้วความคิดชั่วร้ายเช่นนี้ข้าเทียบท่านไม่ได้เลย"

"ย่อมแน่อยู่แล้วถ้าข้าไม่เก่งและเด็ดขาดข้าจะควบคุมอาสามของเจ้าได้เช่นไร"เหมยกุ้ยเหยียดยิ้มอย่างผู้ชนะ

'เด็กคนนี้ต่อให้ทั้งแคว้นตราหน้าเจ้าว่าเป็นเทพสงครามก็ดีมัจจุราชก็ช่าง​มีเพียงแค่ตอนอยู่กับข้าเจ้ามันก็แค่ลูกสุนัข​ที่รอฝึกให้เชื่องอยู่ดี'

"เจียวอวี่นางไปไหนกันก่อเรื่องไว้แล้วคิดจะหนีหรือไง"หยางหลิงอี้เปลี่ยนเรื่องถามหาน้องสาวตัวดีที่สร้างเรื่องให้ตนแล้วหนีหายไปเลย

เรื่องที่หอโคมแดงหยางหลิงอี้ให้เจียงหมิงไปตามสืบดูแล้วปรากฏ​ว่า​คนเริ่มคิดแผนเป็นหรูอี้ส่วนน้องสาวเขาเป็นคนตลบหลังอีกทีไหนจะเรื่องกำยานปลุกกำหนัดในห้องอีกเจ้าเด็กบ้านี่โดนตามใจจนเสียคนไปหมดแล้ว

"นางคงไปเที่ยวเล่นแถวนี้เดี๋ยว​ก็​คงกลับนางไปก่อเรื่องอะไรอีก​...หรือว่ากำยานปลุกกำหนัดที่หายไปของข้านางจะเอาไปก่อเรื่องเจ้าตัวแสบนี่กลับมาเมื่อไหร่ข้าจะจัดการให้หนัก"

"ฝากอาสะใภ้​จัดการให้ข้าด้วย"

"อาหลานคู่นี้ทะเลาะ​อะไรกันเสียงดังไปถึงด้านนอกเซียว"เสียง​สตรีของ​ผู้มาใหม่กล่าวทักขึ้นทำให้สองอาหลานหันมาให้ความสนใจต่อผู้มาใหม่

"หลิงอี้คาราวะอาสาม"

"อืม...อาการเจ้าเป็นไงบ้าง"หยางอ๋องหรือหยางหลิงซาน​เอ่ยถามอาการหลานตนทันทีที่เห็นหน้า

"ปกติดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงขอบคุณ​อาสามที่เป็นห่วง"เหมยกุ้ยกรอกตาขึ้นยามเห็นท่าทางโอนอ่อนของหยางหลิงอี้ที่ปฏิบัติกับหลิงซาน

"ไม่เป็นอะไร​ก็​ดีแล้วเหมยกุ้ยดูสิว่าข้าพาใครมาด้วย"หลิงซานหลีกทางให้ผู้ที่อยู่ด้านหลังนางเดินออกมา

" เฟิงซีคาราวะหยางฮูหยิน"

"คนกันเองทั้งนั้นจะมากพิธีไปทำไมมาเฟิงซีมานั่งข้างน้า"เหมยกุ้ยรีบเดินไปดึงตัวหลี่เฟิงซีมานั่งข้างกายส่วนหยางหลิงซานก็เลือกมานั่งข้างหยางหลิงอี้

"หลิงอี้เก็บอาการของเจ้าหน่อยเถอะ"หยางหลิงซานเอียงตัวกระซิบ​เตือนหลานตัวเองที่นั่งทำหน้าตาน่าหมั่นไส้​ใส่เหมยกุ้ย

"อวี้หลานนางเป็นเช่นไรบ้าง"เหมยกุ้ยถามหาสหายสนิทของตนหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว

"ท่านแม่ยังแข็งแรงดีนางยังบ่นกับท่านพ่ออยู่ทุกวันว่าอยากจะมาหาท่านน้าแต่ท่านพ่อไม่ยอม" 

"พ่อเจ้าไม่ยอมย่อมถูกแล้วเดิมทีสุขภาพ​ร่างกายนางก็อ่อนแออยู่ไว้รอให้หลิงอี้สืบทอดตำแหน่งอ๋องแล้วน้าจะเป็นฝ่ายไปหาแม่เจ้าเอง"

"หากท่านแม่รู้คงจะตั้งหน้าตั้งตารอท่านน้าแน่"

"เด็กคนนี้อะไรก็ดีไปหมดทุกอย่างไม่เหมือนคนแถวนี้ดื้อด้านเกินเยียวยา​"เหมยกุ้ยพูดด้วยน้ำเสียง​ที่เอ็นดูแต่ก็ไม่วายจิกกัดหยางหลิงอี้

"นี่ก็ใกล้จะเย็นเฟิงซีต้องขอตัวกลับก่อน"

"ไปเถอะเดี๋ยวน้าออกไปส่งเจ้า"

"ขอรับท่านน้า"

"ข้าจะออกไปส่งเฟิงซีเจ้าจะตามมาด้วยทำไม"เหมยกุ้ยหันไปถามหยางหลิงอี้ที่เดินตามออกมาด้วย

"บังเอิญ​ว่าข้าก็มีเรื่องอยากจะคุยกับเขาพอดีไม่สู้ให้ข้าไปส่งเฟิงซีที่หออวี้หลานไม่ดีกว่าหรอ"ใบหน้างามพิลาสมองจับผิดหลานตัวเองทันที

​​​​​​"อย่างเจ้าเนี้ยนะจะมีเรื่องพูดคุยกับเขาหลิงอี้ข้าเลี้ยงเจ้ามาตั้งแต่เล็กอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่"

​​​​​​"อาสะใภ้​กังวล​เกินไปแล้วคนหนุ่มเช่นพวกข้าก็ย่อมมีเรื่องให้คุยกันบ้างคนแก่เช่นท่านอาจะไปเข้าใจอะไร"หยางหลิงเน้นคำว่าแก่แล้วมองไปยังเหมยกุ้ยคิ้วงามกระตุกขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่าแก่

​​​​​​"หยางหลิงอี้"เสียงขบกรามดังขึ้นจนหลิงซานกับหลี่เฟิงซีต้องรีบห้ามทัพก่อนที่จะมีคนตายขึ้นมาจริงๆ

​​​​​​"เอ่อ...ท่านน้าไม่เป็นไรขอรับข้าเองก็มีเรื่องพูดคุยกับหลิงอี้เช่นเดียวกัน"หลี่เฟิงซีรีบออกตัวแทนหยางหลิงอี้ทันที

"งั้นก็ตามใจเจ้าเถอะ"เหมยกุ้ยที่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แค่ตอบรับส่งๆไปค่อยดูเถอะกลับมาเมื่อไหร่เจ้าตายแน่

​​​​​​"เฟิงซีขอลาท่านน้าตรงนี้ไว้มีโอกาสหลานจะมาเยี่ยมเยียน​ใหม่"

​​​​​​"อืม"

"เจ้าตัวดีอย่าให้ข้ารู้นะว่าเจ้าแอบไปรังแกเฟิงซีไม่งั้นเจ้าเจอดีแน่"เหมยกุ้ยเดินเข้ามากระซิบ​ให้ได้ยินแค่สองคนหยางหลิงอี้ไม่พูดตอบโต้อะไรมีเพียงแต่รอยยิ้มยียวน​ทให้เหมยกุ้ยก่อนที่จะรีบขึ้นรถม้าตามหลี่เฟิงไป

"หลิงซาน! เจ้าดูหลานของเจ้าเหมือนเจ้าไม่มีผิดเกินเยียวยาแล้วจริงๆเจ้าเด็กบ้านี่"เหมยกุ้ยที่ข่มความโกรธ​ไม่ไหวแล้วชี้ตามรถม้าของหยางหลิงอี้ที่พึ่งจะเคลื่อนตัวออกไปจนหลิงซานต้องรีบเดินเข้ามาโอบไหล่และเก็บมือของฮูหยินตน

"เหมยกุ้ยข้าว่าหลิงอี้เหมือนเจ้ามากกว่า​ข้าซะอีกอีกอย่างเจ้าเลี้ยงเขามากับมือเองนะ"

"หยางหลิงซานใช้ได้นิเดี๋ยวนี้​กับข้าเจ้าก็กล้าเถียงแล้ว"

"ไม่กล้าๆเรากลับเข้าไปด้านในกันเถอะข้าให้สาวใช้เตรียมของหวานที่เจ้าชอบไว้ให้แล้ว"หลิงซานพยายามเกลี่ยกล่อมให้ฮูหยินตนสงบอารมณ์​หลิงซานรู้สึกปวดหัวทุกครั้งที่เหมยกุ้ยกับหลิงอี้อยู่ด้วยกันมันเหมือนกับคนหนึ่งเป็นไฟส่วนอีกคนเป็นเชื้อไฟยามอยู่ใกล้กันทีไรก็วายวอดทุกที

หลี่เฟิงซีรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าให้ได้เมื่อได้อยู่กับหยางหลิงอี้เพียงลำพังตั้งแต่ที่อีกฝ่ายขึ้นรถมาก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขามีเพียงที่บ้างครั้งหยางหลิงอี้จ้องมองมาที่เขาจนหลี่เฟิงซีทนความกดดันไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน

"ทำไม...เจ้ามองหน้าข้าเพราะรู้สึกอิจฉา​ที่ข้าหน้าตาดีกว่าเจ้าหรือไง"หลี่เฟิงซีจงใจพูดจายียวนอีกฝ่าย

"หลงตัวเองซะจริง"

"หึ เจ้ามีอะไรก็พูดมาตามตรงเลยดีกว่าข้าเดาใจเจ้าไม่ถูกหรอกนะ"

"เจ้ามาทำอะไรที่นี่"

"ข้ามาตามหาสมุนไพรหายากอยู่ชนิดหนึ่งแล้วรู้มาว่าของที่ข้าตามหาอยู่ที่นี่พอดี"

"สมุนไพร​ที่เจ้าว่าตามหาเจอหรือยัง"

"เจอแล้วตอนแรกข้าก็คิดว่าจะเจอยากกว่านี้ซะอีก"

"งั้นก็ยินดีด้วยที่เจออ๋อจริงสิรอบนี้ก็ซ่อนไว้ให้ดีๆหน่อยล่ะระวังสมุนไพรเจ้าจะหายไปเหมือนรอบที่แล้ว"

"ที่แท้เป็นเจ้าที่บุกรุกเรือนปรุงยาข้า"

"หึ..ข้าก็นึกว่าเจ้าจะไม่รู้ซะอีก"คราวนี้เป็นหยางหลิงอี้ที่ยียวนอีกฝ่ายกลับ

"แน่นอนว่าข้าไม่รู้แต่พอเจ้าสารภาพออกมาเองข้าค่อยวางใจหน่อยตอนแรกข้าก็นึกว่าโจรป่าเถื่อนสุนัขจรจัด​ไร้มารยาท​ที่ไหนกันที่แท้ก็เป็นคนกันเอง"รอยยิ้มที่ดูไม่สะทกสะท้าน​ใดๆของหลี่เฟิงซีเป็นสิ่งที่หยางหลิงอี้ไม่ชอบที่สุด

"วาทะศิลป์​ของเจ้ายังคงร้ายกาจ​เช่นเดิม"

"ก็พอๆกับความโหดเหี้ยมของ​เจ้านั้นแหละขอบคุณซื่อจื่อที่เสียสละมาส่งข้าหากไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว"หลี่เฟิงซีรีบชิ่งลงจากรถม้าก่อนตามด้วยหยางหลิงอี้ที่ลงตามมาติดๆหลี่เฟิงซีหันไปมองหยางหลิงอี้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน

"เจ้าจะทำอะไร"

"บนรถเมื่อครู่นี้​ข้ายังมีเรื่องพูดกับเจ้าไม่หมดหลี่ซื่อจื่อคงไม่ว่าอะไรหากข้าจะเข้าไปนั่งดื่มชาสักครู่" 

"ได้เชิญหยางซื่อจื่อเข้ามาดื่มชาก่อน"เมื่อปฏิเสธ​ไม่ได้หลี่เฟิงซีก็ได้เพียงเชิญอีกคนเข้าไป

"พวกเจ้าออกไปก่อน"เมื่อมาถึงห้องโถงแล้วหลี่เฟิงซีก็ได้ทำการไล่บรรดาสาวใช้​ออกไปให้หมดจนตอนนี้เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนหยางหลิงอี้เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างๆเขามือหนาได้หยิบของบ้างอย่างออกมาจากเสื้อมาวางไว้ที่โต๊ะกั้น

"เข็มหยกพิรุณ​"หนึ่งในห้าอาวุธ​ลับของหออวี้หลานหลี่เฟิงซีทำหน้าแปลกใจได้เพียงครู่ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ

"ถูกต้องอาวุธ​ที่มีแต่คนในหอบุปผาและพวกเชื้อพระวงศ์​ใช้แต่ข้ากับพบมันในตัวของมือสังหาร​เมื่อคืน"

"เจ้าคิดว่าเป็นฝีมือข้า"หลี่เฟิงซีเลิกคิ้วถามอีกฝ่าย

"ทั้งใช่และไม่ใช่"ความหมายแฝงที่หยางหลิงอี้ต้องการบอกอีกฝ่ายนั้นก็คือเขารู้ว่ามือสังหาร​กลุ่มนั้นไม่ใช่ฝีมือของหลี่เฟิงซีแต่คนที่เขาสู้ด้วยตอนหลังตั้งหากที่เป็นอีกฝ่ายถึงแม้ว่าหยางหลิงอี้จะยังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังแต่หลี่เฟิงซีดันติดกับของบุคคลที่สามเข้าให้แล้ว

"...."

"ที่ข้าถือหลักฐานมาหาเจ้าในวันนี้เพราะแค่อยากจะมาเตือนเจ้าไว้ว่าในอีกไม่ช้าจะเกิดศึกภายในอีกครั้งช่วงนี้เป็นไปได้เจ้าควรจะระวังตัวหน่อยก็ดี...เอาล่ะเรื่องที่ข้าจะพูดก็พูดหมดแล้วที่เหลือก็แล้วแต่เจ้าจะไปจัดการ"

"ขอบคุณ​ที่สำหรับคำเตือนของเจ้าไปเถอะเดี๋ยวข้าออกไปส่ง"

"ข้าจะออกไปเองไม่รบกวนหลี่ซื่อจื่อเดินไปส่งข้าหรอก" 

"ที่แท้เจ้าก็เป็นลูกของหลี่อ๋อง"หวังหลงเดินเข้ามานั่งแทนที่หยางหลิงอี้ที่กลับไปแล้วสายตาเย็นชามองไปที่หลี่เฟิงซี

"ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังพวกเจ้าเพียงแต่..."ยังไม่ทันที่หลี่เฟิงซีจะได้อธิบาย​ต่อหวังหลงก็พูดแทรกขึ้นมา

"ช่างเถอะเจ้าเป็นใครก็ไม่สำคัญอีกอย่างตัวตน​ของเจ้าหากมีคนรู้มากก็ใช่จะเป็นผลดี" 

"ขอบคุณ​ที่เข้าใจข้า" 

" ตอนนี้​เรามาวางแผน​กันดีกว่าว่าจะพาเสี่ยวจิงออกจากเมืองไปได้ยังไง"

"เรื่องนั้นข้าวางแผนไว้แล้ว" 

"แผนของเจ้าคืออะไร" 

"อีกสามวันขบวนสมุนไพร​ของหยางฮูหยินจะถูกส่งออกไปให้หอบุปผาขบวน​ขนส่ง​รอบนี้ข้าเป็นผู้รับผิดชอบข้าคิดว่าหากให้ฟางจิงหลบเข้าไปซ่อนตัวในนั้นน่าจะปลอดภัยที่สุด"หวังหลงนั่งนึกคิดถึงแผนที่อีกฝ่ายพูดออกมาก็ถือว่าไม่เลวเพียงแต่ชายหนุ่มผู้นี้ประมาทหยางหลิงอี้เกินไป

"เจ้าอย่าประมาณหยางหลิงอี้จนเกินไปยังไงซะข้าเชื่อว่าพอถึงวันจริง​หยางหลิงอี้คงวางแผนตลบหลังเราแน่ๆข้ามีแผนที่ดีกว่านี้" 

"เชิญ​เจ้าว่ามาเลย" 

สามวันถัดมา...

"หลี่เฟิงซีเจ้าช่วยข้าดูหน่อยว่าขาดตกบกพร่องอะไรอีกหรือไม่"หวังหลงเรียกหลี่เฟิงซีมาดูความเรียบร้อยบัดนี้ใบหน้าของหวังฟางจิงไปเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าขององครักษ์​เงาของหลี่เฟิงซี

"เหมือนอาหลีมากข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีความสามารถ​เช่นนี้ด้วย"หลี่เฟิงซีชื่นชมความสามารถ​ของหวังหลงภายในสามวันคนผู้นี้สามารถ​ทำหน้ากากหนังออกมาได้อย่างสมบูรณ์​แบบได้เช่นนี้เป็นบุคคล​ที่เก่งจริงๆ

"พี่รองข้ากลัว"หวังฟางจิงเงยหน้าขึ้นมองหวังหลงในแววตาคล้ายจะร้องไห้ออกจนหวังหลงต้องดึงร่างบางเข้ามากอด

"พี่อยู่นี่แล้วเสี่ยวจิงไม่ต้องกลัว"

"คนงามวางใจข้ากับพี่ชายเจ้าวางแผนมาแล้วอย่างดี"หลี่เฟิงซีช่วยพูดอีกแรงเพื่อให้ร่างบางมั่นใจขึ้น

"ซื่อจื่อได้เวลาแล้วขอรับ"เสียงเรียกจากนอกห้องดังขึ้นหลี่เฟิงซียื่นหน้ากากครึ่ง​เสี้ยวให้กับหวังฟางจิงใบหน้างามมองไปที่หน้ากากด้วยความสงสัยหลี่เฟิงซีจึงบอกเหตุผลที่ต้องสวมเพราะว่าองครักษ์​เงาของเขาน้อยคนที่จะเคยเห็นหน้าเพราะเจ้าตัวมักจะสวมมันไว้ตลอดเวลาเมื่อคลายข้อสงสัยได้หวังฟางจิงจึงหยิบขึ้นมาสวมไว้ก่อนที่จะออกไป

ประตู​เข้าออกเมือง

ตอนนี้ขบวนสินค้าของหลี่เฟิงซีได้หยุดให้ทหารเฝ้าเมืองตรวจสอบอยู่โดยมีหวังหลงที่ปลอมเป็นคนของหออวี้หลานเป็นคนจัดการโดยใช้เวลาอยู่พอประมาณภายในรถหลี่เฟิงซีลอบมองหวังฟางจิงที่ตอนนี้แทบนั่งไม่ติดดวงตากลมที่ชะเง้อ​มองสถานการณ์​ด้านนอกอยู่ตลอดเวลาจนหลี่เฟิงซีต้องเกลี่ยกล่อมคนงามให้ใจเย็น

"วางใจเถอะคนงามอีกไม่นานก็จะได้ออกไปแล้ว"

"แต่พี่รองออกไปนานแล้วนะ"หวังฟางจิงยังคงรู้สึกรู้กังวลอยู่

"ตรวจของออกนอกเมืองก็นานเช่นนี้คนงามเชื่อใจข้ามีข้าอยู่เจ้าจะปลอดภัย"มือหนา​เลื่อนมากุมมือขาวไว้ทำให้หวังฟางจิงรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้างหวังหลงที่กลับมาจากการตรวจก็รีบเข้ามาเพื่อที่จะมาบอกทั้งคู่ถึงจะต้องชะงักเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจับมือน้องเขาไว้อยู่

"ตรวจสอบ​เสร็จ​แล้ว...หลี่เฟิงซีปล่อยมือน้องข้า!"หลี่เฟิงซีรีบปล่อยมือออกจากหวังฟางจิงทันทีหลังจากสิ้นเสียงของหวังหลงหลี่เฟิงซีรับรู้ถึงสายตาพิฆาตที่มองมาที่เขาจนต้องเจ้าตัวต้องขยับออกให้ห่างจากร่างบางก่อนที่หวังหลงจะปิดประตู​ชายหนุ่มก็ได้กำชับกับหลี่เฟิงซีว่าอยู่ให้ห่างกับน้องชายเขาเข้าไว้​ขบวน​ของหลี่เฟิงซีที่กำลังจะเคลื่อนตัวออกต้องหยุดชะงัก​ลงอีกครั้ง

"ช้าก่อน!"สิ้นสุดเสียงก็มีทหารจำนวนหนึ่งมาขวางทางรถม้าไว้หลี่เฟิงซีเลื่อนผ้ามองผ่านหน้าต่างดูก็พบว่าคนที่มาขวางทาง​เขาเป็นคนที่รับมือยากที่สุด

"เป็นเขา? "หยางหลิงอี้เดินพร้อมกับสตรีนางหนึ่งมาหยุดที่ข้างรถสายตาคมเหลือบไปเห็นใครบางคนที่อยู่ในรถกับหลี่เฟิงซีซึ่งไม่ต้องบอกตัวเขาเองก็พอรู้ว่าเป็นใคร

"ข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับหลี่ซื่อจื่อเพียงครู่ไม่ทราบว่าเจ้าจะลงมาจากรถก่อนได้หรือไม่" 

"คนงามเจ้ารอข้าอยู่บนนี้"หลี่เฟิงซีหันไปกระซิบกับร่างบางเสร็จก็เตรียมจะลุกลงไปหาหยางหลิงอี้แต่ข้อมือหนาถูกดึงไว้ก่อนหลี่เฟิงซีหันไปมองร่างบางด้วยความสงสัย

"ไม่ได้ข้าต้องลงไปด้วยอย่าลืมสิว่าตอนนี้ข้าเป็นองครักษ์​เงาของเจ้าหากข้าปล่อยให้เจ้าลงไปผู้เดียวหยางหลิงอี้จะยิ่งสงสัย"

"ได้"หลี่ซื่อจื่อเห็นท่าทางมุ่งมั่นของหวังฟางจิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมารอยยิ้มอ่อนโยนยิ้มออกไปหลี่เฟิงซีหลีกทางให้หวังฟางจิงลงไปก่อนแล้วตนค่อยลงตามหลังไป

"ไม่อยากจะรู้ว่าเจ้าจะเปลี่ยนองครักษ์​แล้ว"สิ่งแรกที่หยางหลิงอี้เอ่ยทักขึ้นหลังจากหลี่เฟิงซีลงมาก็ไม่พ้นเกี่ยวกับหวังฟางจิง

"หยางซื่อจื่อล้อข้าเล่นเสียแล้วองครักษ์​เงาเปลี่ยนกันได้ที่ไหนเจ้าไม่ค่อยได้พบหน้าอาหลีคงจะลืมไปแล้ว"

"ข้าคงจะลืมไปแล้วจริงๆ"หยางหลิงอี้ตั้งใจโน้มตัวลงไปหาหวังฟางจิงร่างบางพยายามหลบสายตาคมยามที่อีกฝ่ายจ้องมองมารอยยิ้มร้ายเหยียดขึ้นอีกครั้งต่อให้จะเหมือนอาหลีมากแค่ไหนแต่มีหรือที่เขาจะจำดวงตาที่มองเขาด้วยความหวาดกลัวแบบนี้ไม่ได้หลี่เฟิงซีที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงตัวหวังฟางจิงมาหลบที่ด้านหลัง

"เจ้าคิดจะทำอะไรอีกหลิงอี้"น้ำเสียงไม่พอใจถูกพูดออกไปแววตาที่เคยสุขุมบัดนี้กลับกลายเป็นความขุ่นเคือง​

"ข้าเปล่าจะทำอะไรไหนๆน้องสาวข้าก็จะกลับเมืองหลวงอยู่แล้วตัวข้าเองก็ไม่มีเวลาไปส่งนางถ้างั้นข้ารบกวนฝากนางเดินทางไปพร้อมเจ้าคงไม่มีปัญหา​อะไร​หรอกใช่ไหม"

"ไม่มีปัญหา​หากเจ้ากล้าฝากเจียวอวี่ไปกลับข้าก็ย่อมได้อยู่แล้ว"หลี่เฟิงซีจงใจยั่วโทสะหยางหลิงอี้โดยการมองไปยังเสวี่ยเจียวอวี่ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์​ผู้อื่นมักจะพูดว่าสองพี่น้องคู่นี้ไม่ค่อยถูกกันแต่ใครจะรู้ล่ะว่าหยางหลิงอี้หวงเสวี่ยเจียวอวี่ยิ่งกว่าสิ่งใดหยางหลิงอี้ที่ข่มอารมณ์​ตัวเองไว้ได้ก็หันไปออกคำสั่งกับเจียงหมิงทันที

"เจียงหมิงเจ้าเดินทางกลับไปกับนางด้วย"

​​​​​​"ขอรับ​ซื่อจื่อ"

​​​​​​"พี่แต่ข้ายังอยากอยู่กับพี่แล้วก็อาสาม"เสียงใสเอ่ยคัดค้าน​ขึ้นมาทันทีเรื่องอะไรที่นางต้องกลับในช่วงที่พี่ชายเขาจะสืบทอดอ๋อง

​​​​​​"เจียวอวี่อย่าดื้อ"น้ำเสียงที่ดุของหยางหลิงอี้พูดเตือนน้องสาวไปเจียวอวี่ที่รู้ดีว่าหากนางยังคงดื้อดึงต่อไปคงไม่เป็นผลดีแน่

​​​​​​"ก็ได้ๆหากไม่ใช่คำสั่งของอาสะใภ้​ข้าก็ไม่ทำตามหรอก"

​​​​​​"ฝากบอกท่านแม่ด้วยว่าข้าจะรีบกลับไปเยี่ยม"

​​​​​​"ชิ! เรื่องอะไรที่ข้าต้องบอกล่ะ!"เสวี่ยเจียวอวี่เชิดหน้าขึ้นอย่างแงงอน​แล้วเดินหนีขึ้นรถม้าไปทันทีหยางหลิงอี้ถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของน้องสาวตน

​​​​​​"นี่ก็สายมากแล้วหนทางยังอีกยาวไกลข้ายังต้องรีบเดินทาง"

​​​​​​"ขอให้หลี่ซื่อจื่อเดินทางปลอดภัยเจียงหมิงฝากดูแลคนด้วย"สายตาคมของหยางหลิงอี้เหลือบไปมองที่หวังฟางจิงเจียงหมิงที่รู้ความหมายแฝงนั้นก็รับคำสั่ง​ทันที

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!