ตอนที่​3​หอโคมแดง

หรูอี้เดินออกไปแล้วก่อนนางจะไปหรูอี้ให้เวลาร่างบางทบทวนถึงยามซวี (19:00น.-21:00น.)หวังฟางจิงยังไม่ได้รับปากกับอีกฝ่ายไปเป็นเพราะตอนนี้ตัวเขาเองไม่สามารถเชื่อใจใครได้หวังฟางจิงเดินกลับไปกลับมารอบห้องจนสาวใช้ต้องเอ่ยทัก

"คุณชายหวังท่านเลิกเดินไปมาก่อนเถอะเจ้าคะพวกบ่าวมองจนตาลายไปหมดแล้ว"สาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้นหวังฟางจิงจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ดวงตากลมมองไปยังสาวใช้คล้ายเหมือนอยากจะถามอะไรแต่ก็ไม่กล้าสาวใช้คนเดิมที่เห็นสายตาเช่นนั้นก็เอ่ยถามอีกรอบ

"หากมีคำถามเชิญคุณชายหวังถามมาเถิดเจ้าค่ะ"

"ข้าถามได้จริงๆหรอ"สาวใช้พยักหน้าหวังฟางจิงถือโอกาสดึงเหล่าสาวใช้มานั่งด้วยกัน

"แม่นางหรูอี้เป็นใครกัน"

"คุณหนูรองหรูเป็นบุตรสาวของคหบดีหรูจ้าวมีสัญญาหมั้นหมายกับซื่อจื่อตั้งแต่เด็กเจ้าค่ะ"

"ที่แท้ก็เป็นคู่หมั้น...แล้วนิสัยนางเป็นเช่นไร"มิน่าตอนแรกถึงมองข้าอย่างกับกลัวว่าข้าจะแย่งของรักนางไป

"บ่าวเองก็ไม่ค่อยได้รับใช้คุณหนูรองหรูมากนักแต่หากดูแล้วนางเองก็เป็นสตรีจิตใจดีนางหนึ่งเจ้าค่ะ"สาวใช้พูดไปตามสิ่งที่ตนเคยได้ยินมา

"ข้าอยากจะพักผ่อนแล้วพวกพี่สาวออกไปเถอะ"ในเมื่อหรูอี้ออกตัวอยากช่วยตนขนาดนี้เขาเองก็ขอฝากความหวังนี้ไว้ที่นางแล้ว..หวังฟางจิงเอ่ยปากให้เหล่าสาวใช้ออกไปเผื่อที่จะได้มีเวลาคิดแผนหลบหนี

.

ยามซวี(19:00น.-21:00น.)

หวังฟางจิงเปิดประตูออกไปดูสถานการณ์ด้านนอกอีกครั้งก็พบว่ามีทหารเฝ้าอยู่หน้าประตูสองนายหนึ่งในนั้นหันมามองตนหวังฟางจิงยิ้มแห้งแล้วปิดประตูเข้าห้องเช่นเดิม

'เฝ้าซะขนาดนี้แล้วข้าจะออกไปได้เช่นไร 'หวังฟางจิงถอนหายใจออกมาจู่ๆเขาก็เหมือนได้ยินเสียงพูดคุยอยู่หน้าห้องเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้งแล้วมีเสียงเอ่ยออกมา

"คุณชายหวังบ่าวเอาเสื้อผ้ามาให้เจ้าค่ะ"

หวังฟางจิงเดินไปเปิดประตูให้สาวใช้น่าแปลกที่ครั้งนี้เป็นสาวใช้ที่ตนไม่คุ้นหน้าร่างบางเก็บความสงสัยไว้และให้นางเข้ามาสาวใช้คนนั้นวางเสื้อผ้า​ลงบนโต๊ะนางหันมายิ้มให้ร่างบางและทวงคำตอบจากหวังฟางจิง

"คุณหนูให้บ่าวมาถามคำตอบจากคุณชายเจ้าค่ะ"ที่แท้หรูอี้ที่ส่งนางมา..

"ข้าตกลงเพียงแต่ด้านนอกมีทหารเฝ้าอยู่เราจะออกไปได้ยังไง"

"เรื่องนั้นบ่าวจัดการไว้หมดแล้วเชิญคุณชายเปลี่ยนชุดเจ้าค่ะ"

หวังฟางจิงรู้สึกขัดเขินอยู่ไม่น้อยเพราะชุดที่ตนสวมอยู่ในตอนนี้เป็นชุดของสาวใช้หวังฟางจิงเดินตามหลังสาวใช้ผู้นั้นไปเรื่อยๆส่วนทหารสองคนที่ตัวเขากังวลในตอนแรกก็ได้สลบไปแล้วเรียบร้อยเมื่อใกล้ถึงปลายทางจู่ๆสตรีผู้นั้นก็อยู่เดินแล้วหันมองพูดกับเขา

"คุณชายเดินไปตามทางอีกหน่อยคุณหนูกำลังรอท่านอยู่"

"เจ้าจะไปไหน"

"บ่าวมีเรื่องที่ต้องไปจัดการให้เรียบร้อยเจ้าค่ะ"

"ขอบคุณเจ้ามาก"หญิงสาวรับคำขอบคุณเสร็จก็เดินออกไปร่างบางเดินไปตามทางที่สาวใช้บอกมาจนพบกับหรูอี้ 'นางไม่ได้โกหก' หวังฟางจิงรีบเดินไปหาทันทีที่เห็นหรูอี้

"หวังฟางจิงเจ้ามาจริงๆด้วย..ว่าแต่เจ้าออกมาได้เช่นไร?"ความสงสัยของหรูอี้ถามออกไปทันทีที่เห็นหวังฟางจิง

"เจ้าให้สาวใช้พาข้าออกมาไม่ใช่หรือ"แม้หรูอี้จะสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรถึงแม้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งแต่ก็ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากที่พาศัตรูอย่างหวังฟางจิงมาส่งถึงที่หรูอี้แสร้งยิ้มให้หวังฟางจิงอีกครั้ง

"ใช่..ข้าลืมไปงั้นเรารีบไปกันเถอะ"หรูอี้โกหกอีกฝ่ายให้ตายใจมือบางของสตรีดึงข้อมือของหวังฟางจิงให้ตามตนออกไปขึ้นรถม้าที่เตรียมไว้อยู่หลังจวน

.

"เจ้าดูสิหวังฟางจิงงามผู้นี้ไม่น้อยไม่น่าพี่ชายข้าถึงหวงไม่ให้ข้าเจอเขาสักที"หญิงสาวหันไปพูดกับสาวใช้ที่พาหวังฟางจิงไปหาหรูอี้การกระทำของว่าที่พี่สะใภ้อยู่ในสายตาของเสวี่ยเจียวอวี่ทั้งหมด

"ทำเช่นนี้จะดีหรือคุณหนูหากซื่อจื่อรู้เข้า.."

เสวี่ยเจียวอวี่พูดแทรกขึ้นมาทันที "เขารู้ก็ไม่ใช่ความผิดข้า..ข้าไม่ได้เป็นคนเริ่มหรูอี้ต่างหากส่วนข้าก็แค่ส่งเสริมนางนิดหน่อย"

"คุณหนู"น้ำเสียงสาวใช้พูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจให้กับคุณหนูของตัวเองทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าซื่อจื่อเป็นคนเช่นไรก็ยังชอบไปก่อกวนซื่อจื่ออยู่ตลอดเวลาตัวนางเองก็ได้แค่นึกสงสารอีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

'คุณชายหวังท่านจะรู้หรือไม่ว่าถูกหลอกเข้าให้แล้ว'

"เลิกพูดได้แล้วข้าวางแผนซ้อนแผนนางเพื่อช่วยพี่ข้าอยู่นะเจ้ารีบส่งคนไปบอกพี่ชายข้าซะส่วนข้าจะไปดูแลความปลอดภัยให้ระหว่างที่พี่ข้าไม่อยู่"เสวี่ยเจียวอวี่ยังคงยึดมั่นความตั้งใจเดิมไม่เปลี่ยนเดิมทีตัวเขาเองก็ไม่ชอบหรูอี้อยู่แล้วเพราะสตรีนางนั้นมักจะชอบทำตัวเสแสร้งอ่อนแออยู่ตลอดเวลา

และเรื่องทั้งหมดเป็นเขาเองที่เป็นคนยุแยงให้หรูอี้วางแผนกำจัดหวังฟางจิงออกไปโดยหารู้ไม่ว่าตัวเขาเองก็ได้ซ้อนแผนรอไว้แล้ว 'ข้าชักจะอยากเห็นสีหน้าของหรูอี้ตอนที่รู้ว่าแผนที่ตัวเองล่มไม่เป็นท่าจะเป็นเช่นไร'เสวี่ยเจียวอวี่ยิ้มร่าขึ้นมาเมื่อยามที่จะได้เห็นเรื่องเห็นเรื่องสนุกๆที่กำลังจะเกิดขึ้น

"เจ้าค่ะคุณหนู"

.

รถม้าของหรูอี้ได้มาหยุดที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งหรูอี้เดินนำหน้าเข้าไปในโรงเตี๊ยมก่อนตามด้วยหวังฟางจิงเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ในโรงเตี๊ยมเดินเข้ามาหาพวกเขาทันที

"ข้าต้องการหนึ่งห้อง"เสียงหวานของหรูอี้พูดขึ้น

"ขอรับเชิญคุณหนูตามข้ามา"เสี่ยวเอ้อร์ผู้นั้นพาขึ้นมาชั้นสองของโรงเตี๊ยมพอถึงหน้าห้องเสี่ยวเอ้อร์ก็เดินจากไปหวังฟางจิงผลักประตูเข้าไปในห้อง

"คืนนี้เจ้าพักที่นี้ไปก่อนไว้พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าออกนอกเมือง"

"ขอบคุณเจ้าหรูอี้บุญคุณครั้งนี้ข้าจะไม่ลืม"

"ไม่เป็นไร"หรูอี้ยิ้มปลอบใจหวังฟางจิง 'เพราะเจ้าจะไม่มีวันลืมได้เลย'หรูอี้ขอตัวกลับไปก่อนทิ้งหวังฟางจิงไว้เพียงลำพังก่อนขึ้นรถม้าหรูอี้ส่งสัญญาณให้กลับบุรุษสองคนที่ปลอมเป็นชาวบ้านใบหน้าสวยกรีดยิ้มร้ายขึ้นเมื่อเห็นว่าแผนของตัวเองสำเร็จไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว

รถม้าของหรูอี้ออกไปแล้ว..หวังฟางจิงที่มองมาจากหน้าต่างก็เดินกลับไปนั่งที่เตียงตอนนี้เขาควรดีใจสิที่จะได้เป็นอิสระแต่ทำไมในใจเขาถึงรู้สึกเมื่อว่าตนเองกำลังคิดผิดที่เลือกจะหนีออกมาหวังฟางจิงสะบัดหัวเบาๆเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านร่างบางเตรียมจะดับเทียนเพื่อที่จะพักผ่อน

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นคิ้วสวยขมวดเข้าหากันหวังฟางจิงเดินเข้าใกล้ประตูอย่างช้าๆ

"คุณชายยังอยู่ไหมขอรับคุณหนูเราลืมให้ของบางอย่างกับคุณชาย"เสียงชายวัยกลางคนพูดขึ้นหวังฟางจิงเปิดประตูออกไปเมื่อเห็นว่าเป็นคนของหรูอี้แต่ไม่ทันได้ระวังตัวก็ถูกเป่าผงยาสลบใส่ทำให้ร่างบางหมดสติไปทันที

.

เปลือกตาสีมุกลืมตาขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้แปลกออกไปเขาฟื้นมาอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งไว้อย่างดีหวังฟางจิงค่อยๆยันตัวขึ้นเมื่อได้สติกลับมาแล้วร่างบางรีบหาทางออกทันทีมือเรียวผลักประตูออกมาจากห้องดวงตากลมกวาดมองสถานการณ์รอบๆก็ต้องตกใจอีกรอบเพราะสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้คือ'หอโคมแดง'นี่ตัวเขาถูกจับมาขายสินะหวังฟางจิงนึกขันให้กับโชคชะตาตนเอง

"เจ้ารีบไปดูทางนั้น"ไม่ทันที่จะได้คิดอะไรมากเสียงของบุรุษประมาณสองสามคนก็ดังขึ้นชายหนุ่มกลุ่มนั้นเหมือนหาอะไรบางอย่างซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องหาตนแน่ๆหวังฟางจิงเริ่มร้อนใจอีกรอบมือเรียวรีบหยิบผ้าคลุมหน้าแล้วตีเนียนเดินเข้าห้องตามกลุ่มของคณิกาไป

เมื่อเข้ามาภายในห้องได้สำเร็จหวังฟางจิงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆที่รอดจากสถานการณ์เมื่อกี้มาได้ก็ต้องกลั้นหายใจไปชั่วขณะเพราะเขาเจอคนที่ไม่สมควรจะเจอ

"นี่เหล่าคณิกาเลื่องชื่อของข้าเจ้าค่ะซื่อจื่อ"ผู้ดูแลหอแนะนำเหล่านางและนายคณิกาที่เข้ามาหยางหลิงอี้ไล่สายตามองดูทีละคนแต่กลับมาสะดุดตาที่บุรุษร่างบางที่สวมอาภรณ์สีชมพูถึงแม้จะมีผ้าปิดไว้ครึ่งหน้าแต่เขาก็จำคนผู้นี้ได้ 'เจอตัวสักทีหวังฟางจิง' มุมปากของหยางหลิงอี้ยกยิ้มขึ้นมาเพียงนิดซึ่งนั้นก็ทำให้หวังฟางจิงขนลุกเป็นอย่างมาก

'หยางหลิงอี้!ให้ตายเถอะนี่ข้าเอาตัวเองมาฆ่าตัวตายชัดๆ'หวังฟางจิงสบถคำไว้ในใจสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของร่างบางหยางหลิงอี้เห็นหมดแล้ว

สาเหตุที่เขามาที่นี่เพราะเขาได้รับสารลับจากบุคคลปริศนาว่าหวังฟางจิงอยู่ที่หอโคมแดงเดิมที่ตัวเขาเองก็ไม่เชื่อจนกระทั่งมีทหารมารายงานว่าหวังฟางจิงหายตัวไปเขาเองก็เลยลองมาดูแต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอตัวหวังฟางจิงจริงๆ

"ข้าต้องการแค่เขาที่เหลือออกไปให้หมด"หยางหลิงอี้ชี้ตัวเจาะจงไปที่หวังฟางจิงโดยเฉพาะหัวหน้าหอที่รู้งานจึงรีบโน้มตัวขอลาทันทีพร้อมกับคนที่เหลือหวังฟางจิงยังคงยืนอยู่กับที่ไม่กล้าขยับไปไหนจนหยางหลิงอี้ต้องพูออกมา

"หอโคมแดงไม่ได้สอนเจ้าปรนนิบัติแขกหรือไง"

"ขออภัยซื่อจื่อหากข้าทำให้ท่านไม่พอใจไม่สู้ท่านเปลี่ยนคนดีหรือไม่"หวังฟางจิงพูดจบก็รีบหมุนตัวจะออกไปแต่ไม่ทันหยางหลิงอี้แขนแกร่งคว้าเอวบางเข้ามากอดจากด้านหลังอย่างแรงแก้มนุ่มของหวังฟางจิงถูกหยางหลิงอี้กัดเข้าคล้ายคนตัวสูงกว่าจะลงโทษ

"อ๊ะ! ข้าเจ็บนะ"

'กัดมาได้เจ้าคนหรือสุนัขกัน!'หวังฟางจิงชำเลืองมองหยางหลิงอี้ด้วยความโกรธร่างสูงที่พอใจกับสายตาของหวังฟางจิงก็ปล่อยในอีกคนเป็นอิสระแล้วกลับมานั่งที่เดิม

"ถ้าข้าไม่อนุญาตเจ้าก็ห้ามไปไหน"หยางหลิงอี้กวักมือเรียกร่างบางให้เข้ามาหาหวังฟางจิงที่ไม่มีทางเลือกจึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย

"เอาผ้าออกได้แล้วข้ารู้ว่าเป็นเจ้าหวังฟางจิง"

"นึกไม่ถึงเลยว่าซื่อจื่อผู้ยิ่งใหญ่จะมาสถานที่เช่นนี้เป็นด้วย"หวังฟางจิงดึงผ้าคลุมหน้าออกแล้วทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามกับหยางหลิงอี้และไม่วายที่จะพูดประชดใส่ร่างสูง

"เป็นข้าที่ต้องถามประโยคนี้กับเจ้ากลางวันยังเป็นเชลยข้าไหนกลางคืนถึงมาเป็นนายคณิกาได้"หยางหลิงอี้พูดจบก็จิบสุราร่างบางไม่ได้โต้ตอบอะไรมีเพียงแต่จะส่งสายตาไม่พอใจให้หยางหลิงอี้

"..."

"หากเจ้าชื่นชอบอาชีพเช่นนี้ข้าควรจะสนองให้เจ้าดีหรือไม่"หยางหลิงอี้ลุกขึ้นเดินไปหาหวังฟางจิงช้าๆสายตาเจ้าเล่ห์ของร่างสูงที่มองมาดูปิดไม่มิดร่างบางที่เห็นท่าไม่ค่อยจะดีจึงรีบลุกขึ้นและถอยหลังทิ้งระยะห่างกับหยางหลิงอี้ไว้

"เจ้าจะทำอะไร"หวังฟางจิงค่อยๆเดินถอยหลังส่วนหยางหลิงอี้ก็เดินตามมาอย่างใจเย็นจนร่างบางเดินถอยชนกับเตียงจนล้มลงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่กลิ่นกำยานภายในห้องเปลี่ยนไปตัวเขารู้สึกถึงความร้อนบางอย่างจากร่างกายหยางหลิงอี้ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน

หยางหลิงอี้จับปลายคางของหวังฟางจิงขึ้นร่างสูงจ้องมองแววตาที่หวาดกลัวของร่างบางอย่างนึกสนุกไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์กำยานหรือเปล่าครั้งยามที่เผลอมองริมฝีปากแดงสดนั้นทำเอาเขาอยากจะบดขยี้ให้แดงกว่าเดิมแต่แค่คิดจะเห็นผลได้ที่ไหนใบหน้าคมโน้มลงชกชิมความปรารถนาที่คิดไว้ทันทีลิ้นร้อนของหยางหลิงอี้เกี่ยวตวัดอย่างเอาแต่ใจมีหรือที่คนไม่มีประสบการณ์อย่างหวังฟางจิงจะตามทันบทจูบที่แสนเอาแต่ใจนี้จบท้ายด้วยการที่ฟันคมกัดลงที่ริมฝีปากบางจนด้เลือดถือเป็นการลงโทษเบาๆหยางหลิงอี้ผละใบหน้าออกเพื่อมองดูผลงานตัวเองมือเรียวสวยของหวังฟางจิงตบเข้าที่ใบหน้าของหยางหลิงอี้อย่างแรง

"เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!"เสียงเดือดดาลของหวังฟางหวังพูดขึ้นหยางหลิงอี้ลูบแก้มตัวเองข้างที่โดนหวังฟางจิงตบสายตาร่างสูงเปลี่ยนไปทันทีจากที่ดูเจ้าเล่ห์ในตอนแรกก็เป็นดุดันแทนมือแกร่งคว้าเอวบางที่คิดจะหนีเหวี่ยงลงที่เตียงอย่างแรงหวังฟางจิงหวาดกลัวหยางหลิงอี้ในตอนนี้ที่สุดร่างบางพยายามขยับถอยหนีแต่ก็ถูกมือหนาดึงกลับมาหวังฟางจิงดิ้นอย่างสุดแรงสองมือเรียวที่พยายามปะทุร้ายหยางหลิงอี้ก็ถูกรวบไว้เหนือหัว

"โทษตัวเจ้าเองเถอะที่คิดจะหนีข้า"

" อะ...อื้ออ"หยางหลิงอี้โน้มใบหน้าลงมาเพื่อหวังจะช่วงชิมความหวานจากปากแดงอีกครั้งแต่ครั้งนี้หวังฟางขัดขืนเต็มทีฟันคมของร่างสูงกัดลงที่ปากบางจนได้เลือดหวังฟางจิงเผลอร้องออกมาจึงทำให้อีกคนที่รอจังหวะสอดลิ้นร้อนเข้าไปตวัดชิมความหวานจากปลายลิ้นเล็กกลิ่นคาวเลือดที่ป่นเข้ามาทำให้ปลุกสัญชาตญาณความป่าเถื่อนเพิ่มมาอีกเท่าตัว

มืออีกข้างที่ว่างก็เลื่อนลงมาปลดเชือดคาดเอวของหวังฟางจิงออกและมัดข้อมือเล็กไว้ใบหน้าคมค่อยๆเลื่อนลงมาคลอเคลียแถวลำคอขาวกลิ่นประจำตัวของหวังฟางจิงทำให้หยางหลิงอี้รู้สึกมอมเมาหนักกว่าเก่าริมฝีปากร้ายตีตราทั่วทั้งลำคอขาวแล้วค่อยไล่ลงมาถึงแผ่นอกลิ้นร้อนไล่เกี่ยวตวัดยอดอกสลับกับดูดเม้มร่างขาวแอ่นอกขึ้นตามอารมณ์เป็นเพราะฤทธิ์กำยานที่ทำให้ร่างบางเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับหยางหลิงอี้เข้าให้แล้วมือหนาของหยางหลิงอี้ลูบไล้ตามผิวนุ่มลื่นลงมาเรื่อยๆจนถึงแกนกายขนาดพอมือ

"อะ...อย่า"หวังฟางจิงร้องประท้วงขึ้นร่างสูงกุมแกนกายร่างบางมือหนารูดขยับขึ้นลงตามจังหวะที่ร่างสูงกำหนดเสียงครางหวานดังขึ้นเป็นระยะร่างสูงมองใบหน้าที่ใกล้จะสุขสมเต็มทีหยางหลิงอี้เร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้นไม่นานนักน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาเปื้อนเต็มฝ่ามือหนาหวังฟางจิงนอนเหนื่อยหอบอย่างหมดแรงร่างบางสะดุ้งตัวขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความชื้นแฉะที่ช่องทางหลังเป็นหยางหลิงอี้ที่นำน้ำรักของเขามาป้ายที่ช่องทางอุ่นสองปลายนิ้วค่อยๆแทรกเข้ามาหวังฟางจิงลิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

" อ๊ะ อื้ออ...เอาออกไป"หวังฟางจิงพยายามดันตัวออกยามที่อีกฝ่ายกดนิ้วเข้ามาจากสองไปสามนิ้วหวังฟางจิงพยายามกลั้นเสียงจนกระทั่งเผลอร้องออกมาหยางหลิงอี้ยกยิ้มร้ายขึ้นเมื่อรู้ว่าตนควานหาจุดของอีกฝ่ายเจอเข้าให้แล้ว

" อื้ออ..อะ..อ๊ะ!"ร่างสูงจงใจกระแทกนิ้วให้โดนจุดหลายๆรอบหยางหลิงอี้รอบมองใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างยั่วยวนซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างสูงอดไม่ได้ที่จะโน้มศรีษะลงบดจูบหวังฟางจิงอีกรอบก่อนที่จะถอดนิ้วออก

"ต่อไปจะเป็นของจริง"หยางหลิงอี้ถอยออกมาปลดอาภรณ์ตนเองออกจนหมดใบหน้าแดงของหวังฟางจิงหันหน้าหนีทันทีหยางหลิงอี้ดึงคนตัวเล็กกว่ามามือที่ถูกมัดไว้ก็นำมาคล้องที่คอร่างสูงในตอนนี้หวังฟางจิงอยู่ในท่าคร่อมร่างสูง

"หยางหลิงอี้เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ..ขะ..ข้าสัญญาว่าจะไม่หนีเจ้าไปแล้ว"น้ำตาของร่างบางไม่ได้ทำให้หยางหลิงอี้สงสารแม้แต่น้อยตรงกันข้ามมันกลับทำให้อีกฝ่ายดูน่ารังแกมากกว่าเก่าอีก

"สายไปแล้วรอรับบทลงโทษจากข้าเถอะฟางจิง"หยางหลิงอี้จับเอวบางกดลงบนแกนกายใหญ่รวดเดียวความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วถึงแม้ก่อนหน้านี้ร่างสูงเบิกช่องทางเขาไว้บ้างแล้วแต่เทียบเท่ากับขนาดของหยางหลิงอี้ก็แทบไม่มีความหมายการกระทำที่รุนแรงของอีกฝ่ายทำให้หวังฟางจิงพยายามดันตัวขึ้นแต่ก็ถูกอีกคนกดตัวแช่ไว้หยางหลิงอี้ขบกรามแน่นเมื่อช่องทางอุ่นรัดแกนกายมากไป

"อื้ออข้าเจ็บ..เอาออกไป"

"อย่าเกร็ง"หยางหลิงอี้คว้าใบหน้าสวยเข้ามาจูบเผื่อจะคลายความเกร็งของอีกฝ่ายได้และดูเหมือนจะได้ผลใบหน้าคมผละออกใบหน้าสวยยังคงหลงเหลือคราบน้ำตาอยู่บ้าง

"อ๊ะ!..ข้าเจ็บ.."เพียงแค่หยางหลิงอี้กระทุ้งเข้าออกเบาๆสีหน้าเกยด้วยความเจ็บของหวังฟางจิงก็แสดงออกมาทันที

"ทำไมหากเจ้าเจ็บก็ลองขยับเองซะสิ"หวังฟางจิงตัดสินใจค่อยๆเริ่มขยับตามจังหวะท่าทางที่ดูเงอะงะของร่างบางดูขัดใจหยางหลิงอี้อยู่บ้างจนมือหนาต้องเข้ามาประคองเอวบางไว้จะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่ร่างสูงหวังฟางจิงก้มหน้าซบไหล่หนาเสียงครางอื้ออยู่ในลำคอของหวังฟางจิง'เหมือนลูกหมาน้อยไม่มีผิด'หยางหลิงอี้แกล้งกระแทกสวนเอวบางขึ้นมาสองสามรอบนั้นทำให้ร่างบางเผลอฝังเขี้ยวลงบ่ากว้างของร่างสูงเพื่อระบายความเจ็บแต่ยิ่งร่างบางกัดนานแค่ไหนคนตัวสูงก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นเท่านั้นจนหวังฟางจิงต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ละผละใบหน้าออกคราวนี้หยางหลิงอี้เปลี่ยนท่าทางจากที่ให้ร่างบางนั่งคร่อมตนก็เปลี่ยนเป็นให้อีกฝ่ายอยู่ในท่าคลานเอ็นร้อนสอดเข้าที่ช่องทางอุ่นอีกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้หยางหลิงอี้เลือกที่จะทำตามสัญชาตญาณดิบของตนเสียงกรีดร้องของร่างบางร้องขอให้ช้าลง

"หลิงอี้ อ๊ะ..อ๊า..ชะ..ช้าลงหน่อย"ดูเหมือนการขอร้องจะใช้ไม่ได้ผลและดูเหมือนจะกระตุ้นให้ร่างสูงกระทำหนักกว่าเก่าหยางหลิงอี้โน้มตัวลงฝังเขี้ยวที่แผ่นหลังขาวอยู่หลายจุดถือเป็นการเอาคืนที่หวังฟางจิงได้กัดตนไปเสียงร้องครวญครางป่นสะอื้นดังสลับกันเป็นระยะร่างบางปลดปล่อยไปได้หลายรอบแล้วแต่อีกฝ่ายดูท่าทีจะไม่จบลงง่ายๆจนกระทั่งรอบสุดท้ายทีคนตัวเล็กจะรับได้ก็ได้ขอร้องร่างสูงไปอีกครั้ง

"หลิงอี้..ข้า..อ๊ะ..จะไม่ไหวแล้ว"เสียงแหบแห้งของหวังฟางจิงบ่งบอกว่าหมดแรงแล้วจริงๆหยางหลิงอี้จับเอวบางเร่งจังหวะกระแทกเข้าออกก่อนที่จะถอนแกนกายออกน้ำสีขาวขุ่นไหลออกตามโคนขาขาวช่างเป็นภาพที่น่าดูสำหรับหยางซื่อจื่อหวังฟางจิงที่มีท่าทีจะล้มลงก็ถูกหยางหลิงอี้คว้าตัวไว้ซะก่อน

"จำไว้นับจากนี้เจ้าเป็นของข้าเพียงผู้เดียว"หยางหลิงอี้พูดขึ้นก่อนที่หวังฟางจิงจะสลบไปเมื่ออีกฝ่ายสลบไปแล้วหยางหลิงอี้ก็หยุดได้ด้วยเช่นกันร่างสูงลุกขึ้นมาสวมอาภรณ์ให้เรียบร้อยดวงตาคมทอดมองหวังฟางจิงที่สลบอยู่กายที่เคยขาวราวกับหิมะบัดนี้โดนเขาแต่งแต้มรอยแดงเต็มไปหมด

หยางหลิงอี้แกะเชือกที่ผูกกับข้อมือเล็กออกและนำผ้ามาคลุมตัวหวังฟางจิงแล้วอุ้มร่างบางออกมาขึ้นรถม้าใบหน้าคมหันกลับไปชำเหลืองหอโคมแดงอีกรอบใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆของหยางหลิงอี้ทำเอาเจียงหมิงไม่กล้าเงยหน้ามองซื่อจื่อของเขาเลยสักนิด

"เผาที่นี้ทิ้งซะ"หยางหลิงอี้พูดกับเจียงหมิง

"แต่ซื่อจื่อ.."

"นี่คือจุดจบของคนที่กล้ามาแตะของของข้าถ้าข้าไม่อนุญาตใครหน้าไหนก็อย่ามายุ่ง"

"ข้าน้อยรับคำสั่ง"เจียงหมิงเดินแยกตัวออกไปหลังจากที่เขาได้รับคำสั่งจากซื่อจื่อ

เจียงหมิงมองหอโคมแดงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถอนหายใจแล้วพูดออกมา 'จะโทษก็โทษที่พวกเจ้ารับคนมาไม่ดูประวัติซะเถิด'

รถม้าของหยางหลิงอี้เคลื่อนตัวออกมาได้สักพักหยางหลิงอี้ก็รู้สึกถึงความผิดปกติจู่ๆมีธนูที่ลอดเข้าในรถม้าของร่างสูงโชคดีที่หยางหลิงอี้เบี่ยงหลบได้ทันไม่นานนักก็มีเสียงต่อสู้กันอยู่ภายนอกร่างสูงยกยิ้มร้ายขึ้น'หากอยากตายกันมากนักข้าจะสงเคราะห์ให้ 'หยางหลิงอี้ประคองหวังฟางจิงให้นอนพิงกับมุมรถแล้วออกไปจัดการกับกลุ่มมือสังหารด้านนอก

หวังฟางจิงลืมตาขึ้นหลังจากที่หยางหลิงอี้ออกไปแล้วร่างบางค่อยๆขยับตัวเดินออกมาด้วยความยากลำบากนี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะมีโอกาสได้หนีอีกครั้งหวังฟางจิงกัดฟันทนความเจ็บรีบวิ่งออกมาทันทีหยางหลิงอี้ที่จัดการมือสังหารได้แล้วสายตาคมเหลือบไปเห็นหวังฟางจิงที่พยายามจะหนีร่างสูงที่กำลังจะไปหาร่างบางก็มีกระบี่ด้ามหนึ่งพุ่งเข้ามาหาตนซะก่อนหยางหลิงอี้ถอยตั้งรับกระบี่ของบุคคลปริศนาหยางหลิงอี้รู้สึกได้ว่าฝีมือของคนผู้นี้สูสีกับเขามากทั้งคู่ฟาดฟันกระบี่ไปเรื่อยๆจนตอนนี้เป็นบุรุษชุดดำที่เริ่มจะเสียเปรียบให้หยางหลิงอี้เมื่อเห็นท่าจะไม่ดีชายชุดดำรอโอกาสที่อีกฝ่ายเผลอก็ปาระเบิดหมอกยาสลบใส่หยางหลิงอี้แล้วรีบพาตัวหวังฟางจิงไป

"ซื่อจื่อให้ข้าตามไปหรือไม่"เจียงหมิงที่มาที่หลังเอ่ยถามหยางหลิงอี้ที่ถอยออกมาจากหมอกควันได้

"ไม่ต้องสั่งทหารที่เฝ้าประตูเมืองทั้งหมดว่านับจากนี้ให้ตรวจคนเข้าออกให้ละเอียดหากพบคนน่าสงสัยให้จับตัวไว้ทันที"

"ขอรับซื่อจื่อ"

.

หวังฟางจิงลืมตาขึ้นอีกครั้งภาพจำสุดท้ายก่อนที่ตนจะสลบไปเขากำลังหนีหยางหลิงอี้ออกมาแล้วดันเผลอสูดกลิ่นยาสลบเข้าจากนั้นเขาก็หมดสติไปร่างบางยันตัวขึ้นช้าๆจมูกเขากลิ่นสมุนไพรที่คุ้นเคยทำให้ร่างบางนึกถึงใครบางคนขึ้นมา

"เจอเจ้าทีไรสภาพเจ้าดูไม่ได้ตลอดเลยนะ"น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนของคนนั้นพูดขึ้นรอยยิ้มอันอบอุ่นที่ส่งมาให้ร่างบางยังคงเหมือนเดิม

"หลี่เฟิงซี"

ฮอต

Comments

Angela M.

Angela M.

ตื่นเต้นจัง

2024-07-01

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!