วายุสะบั้นรัก
"รายงานแม่ทัพตอนนี้ประตูเมืองเราใกล้จะต้านกองทัพต้าซ่งไม่ได้แล้วขอรับ"ทหารรายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงานผู้บัญชาการหวังลี่หรือแม่ทัพหวังที่ตอนนี้กำลังวางแผนการรบกับแม่ทัพท่านอื่นอยู่ก็รู้สึกตกใจไม่น้อยที่จู่ๆอีกฝ่ายก็เคลื่อนทัพมากะทันหันเช่นนี้
"ครั้งที่แล้วฝ่ายต้าซ่งเสียกำลังทหารไปมากทำไมถึงเคลื่อนทัพโจมตีไวเช่นนี้"หวังลี่ถามด้วยความสงสัยถึงแม้พลกำลังของเขาจะน้อยกว่าแต่ฝั่งเขาได้เปรียบทางภูมิศาสตร์จึงต้านฝั่งตรงข้ามมาได้หลายเดือน
"หน่วยสอดแนมส่งข่าวมาว่าแคว้นต้าซ่งเปลี่ยนผู้นำทัพกะทันหันขอรับ"ทหารผู้นั้นตอบกลับหวังลี่ไป
"เป็นผู้ใดกัน"
"หยางหลิงอี้ขอรับ"หวังลี่ที่ได้ยินชื่อของอีกฝ่ายใจของเขาแทบหล่นไปที่ตาตุ่มเพราะไม่คิดว่าคนผู้นั้นจะมานำทัพเองคนที่ได้ฉายาว่าเทพสงครามของแคว้นต้าซ่ง'หยางหลิงอี้'แคว้นฉู่คงถึงคราวล่มสลายจริงๆเสียแล้ว
"ไป๋ซูเจ้ารีบอพยพชาวบ้านออกไปจากที่นี่ส่วนเจ้าหวังซีเจ้ารีบกลับไปที่จวนพาแม่กับน้องเจ้าหนีไปซะ"หวังลี่หันไปสั่งคนสนิทกับบุตรชายคนโตของตน
"ท่านพ่อแล้วท่าน"หวังซีถามด้วยความเป็นห่วงพ่อ
"พ่อแก่มากแล้วได้ตายเพื่อแคว้นเป็นความปรารถนาสุดท้ายของพ่อเจ้ารีบไปอย่าทำให้พ่อต้องผิดหวัง"
หวังซีก้มคำนับพ่อของตนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะรีบกลับไปที่จวนหวังลี่มองดูบุตรชายตนจนละสายตาแล้วเขาเองก็ได้แต่ภาวนาให้ครอบครัวเขาปลอดภัยชายวัยกลางคนถือกระบี่พร้อมออกไปทำศึก
ด้านฝั่งหวังซีเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบเพียงมารดากับน้องรองทั้งคู่ดูตื่นตระหนกเป็นอย่างมากหวังซีพยายามมองหาน้องเล็กที่โดยปกติจะอยูในจวนแต่ตอนนี้กับหายไป
"อาซีเกิดเรื่องอะไรขึ้นพ่อเจ้าไปไหน"ฮูหยินแม่ทัพถามบุตรชายตน
"ท่านแม่ตอนนี้เมืองเราใกล้แตกแล้วอีกไม่นานแคว้นต้าซ่งก็คงมาถึงเมืองหลวงท่านพ่อให้ข้าพาท่านแม่กับน้องหนีไปก่อน"หวังซีอธิบายทุกอย่างให้ผู้เป็นแม่ฟังหวังฮูหยินที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดเข่าแทบทรุดกร่ำไห้ออกมายังดีที่หวังซีรับตัวทัน
"เจ้ารองไปตามฟางจิงมาโดยด่วน"หวังฮูหยินหันไปบอกบุตรชายคนรองแต่ไม่ทันที่หวังหลงหรือคุณชายรองจะออกไปก็มีสาวใช้มารายงานซะก่อน
"แย่แล้วๆคุณชายน้อยหายตัวไปเจ้าค่ะ"
"เจ้าว่าไงนะ"น้ำเสียงตกใจของหวังซีดังขึ้นสองมือแกร่งเขย่าตัวสาวใช้ผู้นั้นเบาๆ
"เมื่อครู่บ่าวยังเห็นคุณชายน้อยอยู่ตรงนี้อยู่เลย"
"น้องเล็กต้องไปหาท่านพ่อแน่"เสียงของหวังหลงพูดขึ้น
"เจ้ารองเจ้าพาท่านแม่ออกไปก่อนข้าจะไปตามน้องเล็ก"
"ระวังตัวด้วย"น้ำเสียงความเป็นห่วงของหวังหลงพูดออกไป
หวังซีพยักหน้ารับแล้วรีบออกตามหาหวังฟางจิงทันที
หวังฟางจิงที่แอบหนีออกมาหาบิดาของตนหลังจากที่ได้ยินเรื่องที่พี่ใหญ่บอกกับท่านแม่ไปสถานการณ์ในตอนนี้ดูวุ่นวายเป็นอย่างมากชาวบ้านส่วนมากต่างรีบอพยพออกจากที่นี่ส่วนตัวเขาได้เพียงแค่หลบหลีกทหารบางส่วนที่รู้จักเขาจนกระทั่งมาถึงที่กระโจมของบิดาตนเองหวังฟางจิงเดินเข้ามาภายในกระโจมซึ่งตอนนี้ไร้ผู้คนอยู่หวังฟางจิงเมื่อเห็นท่าไม่ดีก็รีบหมุนตัวออกจากที่นี่จนไปชนกับแผงอกแกร่งของคนผู้หนึ่งจนเกือบล้มแต่แขนแกร่งคว้าเอวบางไว้ได้หวังฟางจิงที่ทรงตัวอยู่แล้วก็รีบผละตัวออกมาดวงตากลมโตภายใต้หน้ากากมองบุรุษมาใหม่ท่าทางน่าเกรงขามของชายคนนั้นทำให้หวังฟางจิงแอบกลัวไม่น้อย
"เจ้าเป็นใคร"เสียงสั่นของหวังฟางจิงถามคนตรงหน้าหยางหลิงอี้ที่ได้ยินเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัวของคนที่สวมหน้ากากทำให้เขาเริ่มสนใจคนผู้นี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
เดิมทีเขานำทัพบุกเข้าเมืองมาได้สักพักแล้วกว่าจะบุกเข้ามาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียวเพราะ'กว่าจะปราบแม่ทัพหวังได้ก็ทำเขาลงแรงไปไม่น้อย'หยางหลิงอี้ชื่นชมในความสามารถของแม่ทัพหวังแต่ก็น่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้หยางหลิงอี้รอบเข้าเมืองมาก่อนก็ดันไปสะดุดตากับท่าทางของชายผู้สวมหน้ากากที่ทำตัวลับๆล่อๆเข้ากระโจมไปทำให้หยางหลิงอี้อดไม่ได้ที่จะตามเข้าไปอย่างเงียบๆร่างบุรุษหนุ่มผู้นั้นที่ไม่รู้ว่ามีอีกคนตามมาก็ไม่ทันระวังจนเผลอชนอกเขาอย่างจังดีที่เขารับคนตรงหน้าได้ทันแต่'เป็นถึงบุรุษเหตุใดเอวถึงบางอย่างกับสตรีเช่นนี้'หยางหลิงอี้ได้แค่เพียงคิดไว้ในใจสายตาคมที่จ้องมองคนที่ตัวเล็กกว่าทำให้เหยื่อเผลอดันตัวเขาออกและเอ่ยถามเขา
"ข้าเป็นทหารชั้นผู้น้อยนามว่าเหลียนฟาง"หยางหลิงอี้เลือกที่จะหลอกให้เหยื่อตรงหน้าให้ตายใจหวังฟางจิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งยามที่หยางหลิงอี้จะเข้าใกล้หวังฟางจิงก็ถอยออกมาตลอดราวกับสัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่าคนผู้นี้อันตรายเกินไป
"แล้วท่านเป็นใครกัน"หยางหลิงอี้ถามกลับ
"หวังฟางจิง"หวังฟางจิงพยายามคุมเสียงตนไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ชายหนุ่มกำลังหาทางที่จะออกจากกระโจมแห่งนี้ดูเหมือนหยางหลิงอี้จะเดาความคิดของร่างบางออกไม่รอจังหวะที่หวังฟางจิงกำลังจะวิ่งออกไปหยางหลิงอี้กระชากแขนอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวทันที
"ปล่อยข้า!"หวังฟางจิงดิ้นสุดฤทธิ์แต่มีหรือแรงอันน้อยนิดจะสุดแรงอีกฝ่ายได้ยิ่งดิ้นอีกคนยิ่งกอดแน่นขึ้นฟางจิงได้แค่ภาวนาให้ใครก็ได้มาช่วยเขาที
"ปล่อยคุณชายน้อยเดี๋ยวนี้!"หยางหลิงอี้เบี่ยงตัวหลบลูกธนูที่ยิงมาของไป๋ซูหวังฟางจิงทีรอทีเผลอรีบสะบัดตัวออกมาแล้ววิ่งไปหลบหลังไป๋ซู
หยางหลิงอี้กัดฟันกรอดสายตาหมายจะสังหารคนมองไปยังไป๋ซูอย่างไม่ปิดมิดกล้ามาทำลายความสนุกของเขาก็เตรียมรอความตายได้เลย
"ท่านอาท่านพ่อข้าอยู่ที่ไหน"หวังฟางจิงถามด้วยความหวังอันน้อยนิดสีหน้าของไป๋ซูสลดลงเมื่อนึกถึงผู้เป็นเหมือนพี่น้อง
"ท่านแม่ทัพสิ้นแล้ว"เหมือนฟ้าผ่ากลางใจน้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสายของหวังฟางจิงทำให้ไป๋ซูปวดใจตามไปด้วยเขาเองก็เห็นหวังฟางจิงเป็นเหมือนบุตรชายของตนถึงต่อให้เขาต้องตายก็ต้องพาแก้วตาดวงใจของท่านแม่ทัพออกไปให้ได้
"เสี่ยวจิงฟังอาด้านนอกมีม้าอยู่เจ้าหนีไปก่อนส่วนเขาอาจะจัดการเอง"น้ำเสียงจริงจังของไป๋ซูบอกหวังฟางจิง
"ท่านอา"หวังฟางจิงชั่งใจสักครู่ก่อนจะก้าวเท้าออกไปแต่ต้องชะงักกับคำพูดของหยางหลิงอี้
"เจ้าหนีเขาตาย"นี่ไม่ใช่คำขู่แต่เขาทำจริงหยางหลิงอี้จ้องมองไปยังร่างบางในสายตานั้นเต็มไปด้วยจิตสังหาร
"ฟางจิงรีบไป!แม่กับพี่ชายเจ้ารอเจ้าอยู่พวกเขาเสียท่านแม่ทัพไปแล้วจะเสียเจ้าไปอีกคนไม่ได้!"ไป๋ซูตะคอกใส่หวังฟางจิงสองแขนอยู่ในท่าง้างธนูเตรียมยิงหยางหลิงอี้ได้ทุกเมื่อ
ริมฝีปากของหยางหลิงอี้เหยียดขึ้นเขาเหยียดยิ้มด้วยความน่าสมเพชให้กับไป๋ซูรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองต้องตายแล้วจะฝืนอยู่ทำไมอีกหวังฟางจิงตัดสินใจรีบวิ่งออกให้ไวที่สุดเหลือเพียงแค่ไป๋ซูกับหลิงอี้
"เจ้าทำข้าเสียเวลามากพอแล้ว"หยางหลิงอี้พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์กระบี่อ่อนของหลิงอี้ก็เชือดไปที่ลำคอไป๋ซูเลือดที่กระเซ็นโดนใบหน้าคมหยางหลิงอี้เช็ดออกอย่างไม่ใส่ใจร่างสูงก้มลงหยิบธนูของไป๋ซูขึ้นพร้อมง้างไปทางหวังฟางจิงที่กำลังควบม้าหนีเขาปลายนิ้วปล่อยลูกธนูออกไปอย่างรวดเร็ว
'ของฝากนี้ข้าฝากไว้ก่อนไว้ข้าจัดการทางนี้เสร็จเมื่อไหร่ข้าจะไปทวงคือเอง'
"ให้ข้าตามไปหรือไม่"เสียงของเจียงหมิงคนสนิทของหยางหลิงอี้ที่พึ่งมาถึงถามขึ้น
"ไม่ต้องสภาพเช่นนั้นคงหนีไปได้ไม่ไกลเตรียมบุกเข้าเมืองหลวงเถอะ"น้ำเสียงเรียบเฉยของหยางหลิงอี้ทำให้เจียงหมิงไม่กล้าพูดอะไรต่อในใจเขาขอเพียงให้ชายผู้นั้นหนีไปให้ไกลที่สุด
หวังฟางจิงรู้สึกเจ็บจวนจะตายเมื่อยามที่เขาพยายามควบม้าหนีแต่จู่ๆก็มีธนูปักทะลุไหล่เขาดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือใครร่างบางกัดฟันฝืนทนไปได้สักพักก่อนที่จะสลบไป
กลิ่นยาสมุนไพรทำให้เปลือกตาสีมุกค่อยๆลืมตาขึ้นหวังฟางจิงพยุงตัวเองขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียงดวงตากลมกวาดมองบริเวณรอบห้องจนไปสดุดตากับบุรุษชุดฟ้าผู้หนึ่ง
"ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นสักที"เสียงนุ่มนวลของชายผู้นั้นพูดขึ้นชายหนุ่มถือถ้วยยาเดินมาหาหวังฟางจิงร่างบางขยับตัวถอยหนีทันทีเมื่อชายผู้นั้นเข้าใกล้
"ไม่ต้องกลัวข้าเป็นคนช่วยเจ้าไว้"ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทีที่สุภาพรอยยิ้มแสนอ่อนโยนถูกส่งมาให้หวังฟางจิง
"...."
"ข้ามีนามว่าหลี่เฟิงซีแล้วเจ้าล่ะ"
"หวังฟางจิงขอบคุณท่านที่ช่วยข้า"ร่างบางที่เห็นท่าทีเป็นมิตรของชายตรงหน้าจึงลดความระแวงลงมาบ้าง
"เรื่องเล็กน้อยฝีมือของผู้ที่ธนูนี้ไม่เลวเลยทีเดียวทำเอาเจ้าสลบไปตั้งสามวัน"หลี่เฟิงซีเอ่ยเรื่องบาดแผลขึ้นทำให้หวังฟางจิงนึกถึงชายที่โหดเหี้ยมผู้นั้นก็ทำให้ร่างกายเริ่มสั่นขึ้นหลี่เฟิงซีที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
"เจ้าหิวหรือไม่เดี๋ยวข้าทำอะไรให้เจ้ากินดีกว่า"หลี่เฟิงซีพาหวังฟางจิงออกมานั่งรอด้านนอกส่วนตัวเองก็รีบไปทำอาหารให้คนงามกิน
หลี่เฟิงซีใช้เวลาไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกับอาหารสองสามอย่างกลิ่นหอมของอาหารทำให้หวังฟางจิงรู้สึกหิวไม่น้อยใบหน้างามเงยหน้ามองหลี่เฟิงซีเพื่อที่จะขอบคุณแต่ก็ต้องหลุดขำออกมาใบหน้าของหลี่เฟิงซีตอนนี้มีแต่รอยดำจากการทำอาหารหลี่เฟิงซีเผลอมองรอยยิ้มของร่างบางจนตัวเองเผยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"คนงามเจ้าขำอะไร"
"หน้าเจ้า"หวังฟางจิงชี้ไปที่แก้มของหลี่เฟิงซีมือหนาลูบตามแก้มที่เจ้าตัวชี้ก็พบแต่คราบดำจากเขม่าควัน
"ทำให้ตัวเองขายหน้าแล้ว"หลี่เฟิงซีพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะขอตัวไปล้างหน้าให้เรียบร้อยหวังฟางจิงที่ทนความหิวไม่ไหวก็ลงมือจัดการอาหารด้วยความหิว
"ฝีมือข้าใช้ได้หรือไม่"หลี่เฟิงซีมองดูจานที่ว่างเปล่ารอยยิ้มรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ผุดขึ้นมาอีกรอบ
"ใช้ได้ไม่สิต้องบอกว่าอร่อยมากเลยตั้งหาก"
"คนงามเจ้าชอบก็ดีแล้ว"
คำก็คนงามสองคำก็คนงามคิ้วสวยขมวดเข้าหากันและอดที่จะค้านอีกฝ่ายไปไม่ได้
"คนงามอะไรกันข้าก็เป็นบุรุษเหมือนกับเจ้า"
"เจ้าไม่เคยส่องกระจกมองหน้าตนเองเลยหรือว่าเจ้างามแค่ไหนงามกว่าตอนเจ้าสวมหน้ากากไว้เสียอีก"
"หน้ากากข้าล่ะ"
"น่าจะตกระหว่างทางหายไปแล้ว"
"ช่างเถอะหายแล้วก็หายไปยังไงซะก็มีแค่เจ้ากับคนในครอบครัวที่เคยเห็นหน้าข้า"
"หลังจากนี้เจ้าคิดจะทำอะไรต่อ"
"ตามหาครอบครัวแล้วเจ้าล่ะ"
"กลับบ้านข้าออกมานานเกินไปแล้วถึงเวลาต้องกลับซะที"
"อ๋อจริงสิคนงามข้ามีอะไรจะให้เจ้าด้วย"หลี่เฟิงซีหยิบอาวุธลับประจำตัวให้หวังฟางจิง
"อาวุธลับนี้ดูงดงามและแปลกตาดี"
"นี่เป็นอาวุธลับที่ท่านแม่ทำให้ข้าเจ้าต้องใช้อย่างระวังด้วยเข็มด้านในมีพิษอยู่"
"อวี้หลาน...เป็นชื่อของแม่เจ้าใช่หรือไม่"
"ใช่ในใต้หล้านี้ไม่มีใครทำอาวุธได้ร้ายกาจเท่าท่านแม่ของข้าแล้ว"น้ำเสียงสุดภาคภูมิใจของหลี่เฟิงซีเอ่ยออกมาทำให้ฟางจิงคิดถึงพี่รองขึ้นมา
"ขอบคุณเจ้าอีกครั้ง"
"เจ้ารีบกลับเข้าไปพักเถอะข้าจะไปเก็บสมุนไพรต่อสักพักใหญ่"หลี่เฟิงซีสะพายตะกร้าเตรียมพร้อมเดินทางออกไปหวังฟางจิงโบกมือส่งหลี่เฟิงซีจนร่างสูงลับสายตา
หวังฟางจิงที่กำลังเดินเข้าห้องแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ๆมีธนูจากไหนไม่รู้ผ่านเฉียดหน้าเขาไปปักตรงประตูร่างบางยืนนิ่งไม่กล้าแม้จะหันไปทางผู้ที่ยิงมาเสียงฝีเท้าของคนผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนมาหยุดที่ด้านหลังใบหน้าคมคายก้มลงมากระซิบบอกอะไรบางอย่างกับหวังฟางจิงหลัง
"ข้ากลับมาทวงลูกธนูแล้ว"
...^^^...^^^...จากที่ได้ยินเสียงของมัจจุราชในคราบคนแล้วร่างบางก็แทบทรุดทันที...^^^...^^^...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments