คุณนายใหญ่ของบ้านไม่ได้สนใจการส่งสายตามองกันของสองพ่อลูกนัก จึงเอ่ยชื่อหลานสาวที่เธอและสามีตั้งใจตั้งออกมา โดยไม่ได้มีความหมายของโชคลาภวาสนาเงินทองแต่อย่างใด
สิ่งเหล่านี้ตระกูลเธอมีมันจนมากเกินพอแล้วด้วยซ้ำ หวังเพียงแค่หลานสาวที่รักจะเติบโตมาอย่างสวยงามและมีความสุขที่สุดเพียงเท่านั้น
“ดี ถ้างั้นให้หลานสาวตัวน้อยชื่อว่าเฟยหย่า หลี่เฟยหย่า หลานย่าจะได้เติบโตมาอย่างสง่างามเพรียบพร้อมสมกับเกิดมาเป็นคนในตระกูลหลี่ เป็นนางฟ้าตัวน้อยแสนสวยของบ้านเรา”
เมื่อหลี่เฟยหรงและซ่งผู่เย่วได้ยินชื่อของลูกสาว ก็ยอมรับชื่อยนี้ด้วยความยินดีไม่ได้แย้งขึ้นมาแต่อย่างใด ชื่อนี้ความหมายดีมากเช่นกัน
เฟยหย่า โบยบินอย่างสง่างาม อย่างนั้นหรอพ่อกับแม่เลือกชื่อได้ถูกใจเขาจริงๆ ลูกสาวเขาจะได้เติบโตขึ้นมาอย่างสง่างาม เหมือนอย่างที่คุณแม่พูดจริงๆ
“แอ๊! อ้า อ้า….”
แม่หนูน้อยเมื่อได้ยินชื่อที่คุณย่าจางตั้งให้ก็ดีดแขนดีดขาไปมาอย่างคึกคัก ด้วยความยินดีส่งเสียงร้องตอบรับคุณย่าเสียงดังอย่างชอบใจ
นี่มันชื่อเดิมของเธอเลยเชียวนะ เมื่อมีชื่อเหมือนกับชื่อในชีวิตเก่ามันทำให้เธอได้เก็บความทรงจำที่ดีมากๆ ของชาติที่แล้วเอาไว้ผ่านชื่อนี้ได้โดยไม่ลืมไปตามกาลเวลาเมื่อเธอเติบโตขึ้น
ด้วยไม่แน่ใจว่าความทรงจำชาติที่แล้วมันจะอยู่กับเธอไปอีกนานเท่าไร คงมีแต่ชื่อนี้นี่แหละที่จะยังคงอยู่กับเธอ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งอบอุ่นหัวใจ คุณปู่หลี่กับคุณย่าจางดีที่สุดเลย!
“น้องต้องชอบชื่อที่คุณปู่คุณย่าตั้งให้มากแน่เลยครับน้องดูดีใจใหญ่เลย น้องเล็กน่ารักมาก!”
เสี่ยวเจินเด็กชายผู้ซื่อตรงของบ้านพูดชมน้องน้อยของเขาเสียงดังอย่างมันเขี้ยวเมื่อเห็นแขนขาน้อยๆ สีขาวอมชมพูเป็นปล้องๆ ขยับไปมาเขาอยากจะลองกัดดูจริงๆ มันดูน่ารักมาก!
หากเฟยหย่าได้ยินที่พี่ชายคนรองของเธอคิดอยากลองกัดแขนขาน้อยๆนี่แล้วละก็เธอคงไม่กล้าเอาออกมาโชว์สร้างความน่ารักอีกแน่นอน
เสี่ยวฮุ้ยพี่ชายคนโตตอนนี้นั่งเงียบเอามือปิดปากดวงตาพราวระยับจ้องมองแขนขาน้อยๆ ของน้องสาวขยับไปมาอยู่อย่างห้ามใจตัวเอง
เขารู้สึกไม่ต่างจากน้องชายเลย น้องสาวน่ารักมากอยากลองกัดสักคำจริงๆ เพียงแค่เขาไม่ได้พูดออกมาแสดงออกชัดอย่างน้องชายเท่านั้นแต่ก็นะนี่ขนาดอาการยังออกไม่ชัด?
เหล่าคนโตเห็นเด็กชายของบ้านอาการเริ่มหนักก็ได้แต่ยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของพวกเขา
“แอ๊…ฮ้าวว…”
เมื่อทุกคนเห็นว่าหลี่เฟยหย่าอ้าปากหาวง่วงนอนอย่างไม่ร้องให้งอแงแล้ว ก็รู้ว่านี่ควรปล่อยให้ทารกพึ่งคลอดกินนมนอนได้แล้ว
ทุกคนจึงได้พากันออกจากห้องปล่อยให้ทั้งสองพักผ่อนก่อน แม้เด็กชายทั้งสองจะอยากอยู่ในห้องกับแม่และน้องสาว แต่ก็โดนคุณปู่ลากออกมาจากห้องด้วยกัน ก่อนจะตามหลังทุกคนไปหลี่เฟยหรงยังก้มลงจุ๊บปากภรรยารักของเขาสองสามจุ๊บก่อนไปอีกด้วย
“……..”
หลี่เฟยหย่าที่ยังเป็นทารกตัวน้อยทำอะไรไม่ได้จึงมองพ่อตาแป๊วไม่มีหลบแต่อย่างใดก่อนทำปากจู๊ บู้บู้ ใส่พ่อที่เห็นเธอเป็นทารกน้อยพึ่งคลอด จะทำอะไรไม่มีเกรงใจกันเลย
คุณแม่ซ่งยกมือขึ้นฟาดต้นแขนสามีเธอแรงๆดังเพี๊ยะหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน หลี่เฟยหรงยกยิ้มมุมปากหัวเราะ ฮึ ฮึ ในลำคออย่างชอบใจ
ก่อนจะก้มลงจุ๊บหน้าฝากเจ้าตัวน้อยที่ทำปากจู๊ไม่ชอบใจ ชาติก่อนเธอยังไม่เคยมีแฟนเลยนะจะมีจุ๊บน่ารักๆ แบบนี้ได้ยังไง
“จุ๊บ… พ่อไปก่อนจะครับเดียวคุณพ่อเข้ามาหาใหม่นะครับหย่าเอ๋อร์”
ซ่งผู่เย่วมองสามีเธอพูดเสียงหวานกับลูกสาวเธอเสียงเล็กเสียงน้อยที่พึ่งเคยเห็นอย่างขำๆ ก่อนเธอจะดันๆ ไหล่ไล่สามีเธอให้ออกจากห้องไปสะทีเธอจะให้นมลูก หลี่เฟยหรงจึงออกจากห้องไปอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อสามีไปแล้วเธอจึงเปิดสาบเสื้อออกให้นมลูกสาวตอนนี้เธอคัดหน้าอกมากด้วยเพราะตั้งแต่ทุกคนรู้ว่าเธอตั้งท้องจึงได้รับการบำรุงมาอย่างดีบวกกับเธอดูแลตัวเองอย่างดีมาตลอดด้วย
เฟยหย่ามองหน้าอกอวบอิ่มของคุณแม่คนใหม่ของเธอก่อนจะอ้าปากงับมันและดูดน้ำนมกินด้วยความหิวอย่างไม่ลังเล ตอนนี้เธอไม่ได้คิดอะไรให้ยุ่งยากเกินกำลังของทารกน้อยเกิดมาชั่วโมงกว่าๆ ให้มากความอีก
เด็กๆ นี่อ่อนแอจริงๆ สมกับที่ต้องได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่ด้วยความใกล้ชิดแล้ว ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากพยายามกินให้มากและนอนให้เยอะๆ เธอจะได้โตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ
เธออยากแข็งแรงเร็วๆ จังตอนนี้กระดูกเธออ่อนแอมาก ส่วนคอของเธอตอนนี้เธอก็กลัวมันหักจริงๆ ทารกน้อยคอยังไม่แข็งได้แต่คิดไปดูดนมไปเพลินๆ ในอ้อมกอดของคุณแม่เธออบอุ่นและนุ่มนิ่มมากกินนมจนใกล้อิ่มตาปรือจนหลับไป
ซ่งผู่เย่วที่นอนมองลูกสาวตัวน้อยของเธอกินนมอยู่ ยิ้มให้กับความน่ารักของลูกสาว ที่ยามกินนมก็กลอกตากลมโตราวลูกกวางน้อยนั่นไปมาราวกับคิดอะไรไปเพลินๆ อย่างรู้ความก็นึกตลก
พอเห็นว่าลูกกินนมอิ่มแล้วเธอถึงได้อุ้มทารกน้อย ประคองต้นคอน้อยๆ พาดบ่าตบก้นลูบหลังให้เรอออกมา ค่อยอุ้มมานอนเบอะน้อยข้างๆ เธอ
เมื่อหลี่เฟยหลงออกมาจากห้อง และตามทุกคนไปนั่งรอป้าฉางตั้งโต๊ะที่ห้องอาหารเพื่อจัดการเมื้อกลางวันให้เรียบร้อย
เขาจะได้กลับไปทำงานต่อ ที่เขาลาบ่อยๆ ไม่ได้เพราะก่อนหน้านี้ เขาพยายามเร่งทำผลงานและรับทำภารกิจเสี่ยงเพื่อต้องการเลื่อนตำแหน่ง
จากพลเอกเป็นพลเอกพิเศษที่เขาต้องรีบขนาดนี้เป็นเพราะว่าเขาโดนบีบบังคับให้รับภารกิจเสี่ยงตายบ่อยๆจากผู้นำตำแหน่งสูงที่อยู่คนละฝ่ายกับพ่อเขา
ซึ่งพ่อเขาที่อยู่ยศสูงที่สุดแล้วตอนนี้ก็ยังไม่สามารถช่วยได้มากนักเพราะอีกฝั่งมีอยู่หลายคน จึงออกหน้ามากไม่ได้เดี๋ยวจะพลอยพากันล้มทั้งหมด
พวกคนตระกูลหลิวที่คอยตามขัดแข้งขัดขาคนตระกูลหลี่มาตลอดนั้นเมื่อสมัยก่อนไม่สามารถทำอะไรคนตระกูลหลี่ได้มากนัก แต่ตอนนี้มันต่างออกไป
เพราะความอยากเอาชนะของคนตระกูลนี้ มีมากจนน่าแปลกใจและน่าเอือมระอา พยายามผูกความสัมพันธุ์ส่งลูกหลานในตระกูลไปแต่งงานกับคนมีอำนาจเพื่อแตกหน่อลูกหลานออกไป
นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณพ่อเขาออกหน้ามากไม่ได้เพราะอีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า แม้ตำแหน่งหลายคนอาจไม่สูงมากนักแต่ก็เหมือนมดที่คอยไต่ไปมา ให้น่ารำคาญสร้างเรื่องเล็กเรื่องน้อยคอยจับผิดใส่ความกันได้ตลอด
เมื่อโดนบีบให้รับงานแบบนี้บ่อยๆเข้า ไม่สู้ถือโอกาสนี้เร่งรับภารกิจให้ได้มากที่สุด โดยไม่แย้งอะไรมันทั้งสิ้นเพื่อขอเลื่อนตำแหน่งแบบเงียบๆ
ให้หลุดพ้นจากการเป็นรองเพราะยศตำ่กว่า ไม่ต้องรอรับภารกิจ ทำตามคำสั่งใครที่เข้ามาแซกแซงสั่งงานเหมือนสั่งให้เขาเอาชีวิตไปทิ้งได้อีกนอกจากพ่อของเขาแล้ว เพราะเมื่อได้เลื่อนตำแหน่งผู้บังคับบัญชาของเขาก็คือท่านจอมพลสูงสุดหลี่เฟยเทียนบิดาเขานั่นเอง
พลเอกพิเศษนี้ถือว่าเป็นยศที่สูงมากสำหรับคนหนุ่มแบบเขา แต่จะทำไงได้ล่ะก็อีกฝ่ายยื่นเนื้อใส่ปากให้เขาเอง จึงทำให้เขาเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ
ทั้งที่โยนภารกิจที่อันตรายที่สุดเสี่ยงตายที่สุดใสหัวเขา หวังให้ตายในภารกิจ เพื่อให้ตระกูลหลี่ที่ได้เป็นทหารตำแหน่งยศสูงกันมาในทุกรุ่นไม่มีทายาทสืบตระกูลอีก
เพื่อจะได้ไม่มีคนมาคอยแย่งตำแหน่งงาน แย่งความมีหน้ามีตาในวงสังคม รับผลประโยชน์จากผู้คนที่เข้าหาไปจนหมด
เมื่อทุกคนรับเมื้อกลางวันกันเรียบร้อยแล้วก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง คุณย่าจางให้ป้าฉือเอาอาหารเข้าไปในห้องให้ลูกสะใภ้เธอเรียบร้อยแล้ว
ก่อนออกไปทำงานหลี่เฟยหรงยังเข้าไปร่ำลาภรรยาและลูกสาวตัวน้อยของเขาด้วยจุ๊บน่ารักๆคนละที พอใจแล้วก็เดินยิ้มออกมาอย่างเป็นสุข
ผ่านหน้าห้องรับแขกที่ลูกชายหน้าเหม็นของเขา นั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างเชื่อฟัง ไม่เล่นกันเสียงดังเอะอะเหมือนเด็กเล็กทั่วๆไป ก็ได้แต่ส่ายหัว
คิดในใจว่าถึงเจ้าสองคนนี้จะเป็นเด็กดีเชื่อฟัง แต่ออกจะฉลาดรู้ความแถมรู้ทันเขามากเกินไปหน่อย ไม่น่ารักน่าชื่นใจเหมือนลูกสาวเขาเลยสักนิด
คุณปู่หลี่อยู่ในห้องทำงานบนชั้นสองของบ้านกับคุณย่าจาง ตอนนี้กำลังต่อสายโทรหาเพื่อนสนิทของเขาซ่งหวังเหว่ยหรือพ่อตาของลูกชายเขานั่นเอง เพื่อบอกข่าวดีของสองครอบครัวถึงสมาชิกคนใหม่ที่พึ่งเกิดมา
"ซ่งเหว่ย ลูกสะใภ้ฉันคลอดหลานสาวออกมาแล้วนะแกจะกลับปักกิ่งเมื่อไร"
คุณปู่หลี่ไม่รอให้ปลายสายได้เอ่ยทักทายก่อนเลยด้วยซ้ำเขาแจ้งข่าวดีให้สหายฟังในทันที
ด้วยอยากให้ครอบครัวเพื่อนเขากลับมาปักกิ่งสักที ครอบครัวซ่งแต่เดิมก็อยู่ที่นี่มาตลอด เพราะเป็นตระกูลใหญ่มีหน้ามีตาเหมือนกัน เป็นทหารยศจอมพลสูงสุดทั้งคู่รุ่นเหนือหัวเขาขึ้นไปอีก ก็รู้จักสนิทสนมกันมาทุกรุ่น
ที่ซ่งหวังเหว่ยไปอยู่ทางใต้ทั้งที่ยศสูงขนาดนี้แล้วนั่นเป็นเพราะต้องการลดการสร้างปัญหาเล็กบ้างใหญ่บ้างของคนตระกูลหลิวที่ขยันโยนใส่หัวฝ่ายพวกเขาและคนที่เข้ามาผูกมิตรที่ดีด้วย
ยิ่งพวกเขารวมตัวกันพวกมันยิ่งสร้างเรื่องใหญ่ เข้ามาแทรกแซงภารกิจ เพื่อไม่ให้ทำภารกิจสำเร็จจนมีคนในทีมเสียชีวิตไปหลายคน
พวกเขาจึงต้องมาวางแผนเร่งสร้างผลงานให้กับลูกชายของพวกเขา และตาเฒ่าซ่งจึงเสนอให้ซ่งหลี่เจี๋ยย้ายลงใต้ไปทำผลงานที่นั่นแทนหลี่เฟยหรง
เพราะเป็นห่วงลูกสาวและหลานชายทั้งสองถ้าต้องให้ลูกเขยไป เขาและเพื่อนจึงแยกกันเพราะเหตุผลนี้
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า หลานน้อยคลอดแล้วอย่างนั้นหรอตาแก่หลี่วันนี้มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเลย ฉันจะบอกแกเมื่อกลางวันมีจดหมายมาส่งให้เจ้าหลี่เจี๋ย ในนั้นเป็นใบตอบรับการเลื่อนขั้นที่ได้รับการอนุมัติแล้วด้วยนะ"
คุณตาซ่งของหลานบอกกล่าวกับสหายด้วยความดีใจจนปริ่มล้น เขาต้องดีใจอยู่แล้วมาอยู่ที่นี่ตั้งสามปีเต็มๆไม่ได้เห็นหน้าหลานเลย เมื่อมีเรื่องน่ายินดีสองเรื่องพร้อมกันขนาดนี้จะเก็บไว้อย่างไรไหว
คุณย่าซ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆสามี ได้ยินสิ่งที่ซ่งหวังเหว่ยพูดออกมาทั้งหมดแล้ว ก็ยิ้มออกมาด้วยความยินดี
พลางคิดว่าวันนี้มีแต่เรื่องดีๆอย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ ตั้งแต่หลานสาวคลอดออกมาก็มีเรื่องน่ายินดีนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวในทันทีเลย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Vikale5
ถ้าอัพได้เร็วๆนี้ ผมจะดีใจมากแล้วแอด 🤩
2024-06-09
1