คุณย่าจางยื่นมือไปรับหลานสาวตัวน้อยในห่อผ้าจากป้าฉาง เมื่อได้ยินว่าลูกสะใภ้ปลอดภัยดีแล้วก็หมดห่วง ไม่สนใจอะไรอีกนอกจากหลานสาวตัวน้อยของเธอ
ส่วนลูกชายหลายชายนั้นแม้จะอยากเข้าไปดูสะใภ้ของเธอก็ยังเข้าไม่ได้ เพราะในห้องยังจัดการไม่เรียบร้อยดีนัก ทุกคนจึงได้เข้ามาห้อมล้อมคุณย่าจางขอดูสมาชิกใหม่ของบ้านอย่างตื่นเต้น
"ดีๆ ดีจริงๆ ทั้งสองปลอดภัยก็ดีแล้วหย่าเออร์ของย่าไหนให้ย่าดูหน้าหน่อยสิลูก"
คุณย่าจางพูดออกมาด้วยความสุขที่ปริ่มล้นออกมาผ่านน้ำเสียงของเธอ หลานสาวตัวน้อยของเธอมีผิวขาวอมชมพูหน้าตาหลังจากทำความสะอาดหลังคลอดแล้วดูน่ารักน่าเอ็นดูมาก
สมกับที่มีพ่อแม่หน้าตาดีเป็นที่หมายปองของวงสังคมในเมืองหลวงจริงๆ ดวงตากลมโตราวลูกองุ่นพราวระยับของหลานสาวจ้องมองเธออย่างสนใจ
ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูน้อยๆ นั้นยิ้มกว้างโชว์เหงือกสีแดงให้เธอ รอยยิ้มนี้ใบหน้านี้เหมือนกับในความฝันเมื่อคืนของเธอเลย
“ท่านจอมพล คุณดูหน้ายัยหนูสิว่าเหมือนในความฝันที่คุณเห็นเมื่อคืนรึเปล่า”
คุณย่าจางถามสามีด้วยตื่นเต้น พลางขยับตัวไปไกล้ๆ เพื่อจะเห็นกันได้ชัดขึ้น เด็กทารกห่อด้วยผ้าแพรสีน้ำนมที่ถูกอุ้มอยู่ตอนนี้ใครเลยจะรู้ว่าเนื้อในจริงๆ แล้ว
หาใช่จิตวิญญาณของทารกพึ่งคลอดไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริงๆกัน เธอเป็นหญิงสาวกำลังจะเข้ามหาลัยใช้ชีวิตในช่วงนั้นอย่างสุดสนุกสนาน ให้สมกับได้มีอิสระออกมาอยู่คนเดียวในเพนเฮ้าส์หรู
ที่เป็นธุรกิจของที่บ้านเพื่อลองเติบโตเองบ้าง ไม่ต้องคอยอยู่ในสายตาของพ่อแม่หรือเหล่าญาติๆ สนิททั้งหลายอีก ที่คอยดูแลราวไข่มุกล้ำค่า
เธอเป็นหลานสาวลูกสาวคนเล็กสุดของตระกูลหรือจะเรียกว่าลูกหลงก็ได้ เพราะแม่มีเธอตอนอายุมากแล้วทุกคนจึงรักเธอมาก เธอจึงไม่เคยออกมาใช้ชีวิตเองเลย
แต่สุดท้ายเป็นยังไงล่ะ เพราะความเอาแต่ใจนี่แหละเธอจึงตามเพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จัก ตอนไปรายงานตัวเข้ามหาลัย พากันเข้าคลับแห่งหนึ่งกลางกรุง เพราะความอยากรู้อยากเห็นทั้งที่อายุยังไม่ถึงแท้ๆ
เลยโดนลูกหลงจากการมีเรื่องกันของผู้ชายโต๊ะข้างๆ ลูกกระสุนปืนที่ไม่รู้ว่าพวกมันแอบเอาเข้ามากันได้ยังไง โดนเข้ากลางหน้าผากเธอแม่นราวจับวาง
สุดท้ายเธอจึงได้มาเกิดใหม่ในโลกเสมือนโลกใบเดิมของเธอ เพียงแต่ต่างยุคกันเท่านั้น ดีที่ชีวิตเก่าไม่เคยทำบาปทำกรรมหรือเคยทำร้ายใคร เพียงแค่มีนิสัยเอาแต่ใจบ้างนิดหน่อยตามประสาลูกรักหลานรักของคนทั้งตระกูล
ตลอดชีวิตจึงมีแต่ผลบุญที่ทำมา เพราะการไปงานการกุศลหรือการบริจากสิ่งของ บริจากเงินที่เธอติดตามญาติๆ ผู้หญิง และไปกับคุณแม่ของเธอทุกครั้งที่มีงานบุญแบบนี้เธอจะไม่พลาดต้องเข้าร่วมทุกครั้ง
อีกทั้งคุณแม่เธอชอบทำบุญมาก มีครั้งหนึ่งที่เคยร่วมทำบุณใหญ่ด้วยกัน ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของประเทศ เธอกับคุณแม่จึงร่วมกันช่วยเหลือคนประสบภัยครั้งใหญ่ตอนนั้นด้วย นั่นจึงน่าจะเป็นบุญใหญ่ที่สุดที่เธอทำเลยก็ว่าได้
พอตายขึ้นมาจริงๆ เธอจึงได้เจอกับท่านเซียนหรือท่านเทพเธอก็ไม่แน่ใจนัก ที่คอยดูแลเหล่าทารกน้อยทั้งหลายที่มีไม่ถึงสิบคนในห้องโถงใหญ่ ที่พอมองออกไปทางหน้าต่างบานใหญ่ๆนั่นก็เห็นแต่ปุยเมฆมากมายลอยไปมาเต็มไปหมด
ในโถงใหญ่ที่เธอเห็นตกแต่งอย่างหรูหรามีแจกันสวยๆ และเคื่องปั้นที่เธอเรียกชื่อไม่ถูก ตกแต่งจัดวางไว้อย่างน่ามองพร้อมดอกไม้ที่เธอไม่รู้จักถูกจัดช่ออย่างสวยงาม
เธอไม่รู้ว่าอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน ที่ผ่านมาก็เห็นท่านผู้เฒ่าเคราขาวชุดขาวทั้งร่างผู้นั้น คอยดูแผ่นหยกบางๆเรืองแสงสว่าง ที่มักจะแวบมาอยู่ในมือเมื่อเขาต้องการดูอะไรบางอย่างตลอด พอดูเสร็จก็จะอุ้มทารกน้อยเหินกายหายออกไปจากห้องโถงใหญ่นี่ตลอด
จนมาถึงคิวเธอถูกอุ้มออกไปบ้าง ถึงได้รู้ว่าผู้เฒ่าท่านนี้ทำหน้าที่ส่งทารกน้อยเข้าสู่อ้อมอกเหล่าแม่ๆ ก่อนถึงเวลาคลอดเหมือนกับที่เธอเจอคุณแม่คนใหม่ของเธอในความฝันของคุณแม่นั่นเอง
ท่านผู้เฒ่ายังบอกก่อนจะพาเธอไปส่งให้คุณแม่อีกว่าเพราะมีผลบุญที่เคยทำมา จึงจะส่งให้ไปเกิดกับครอบครัวที่ดีเหมือนชาติที่แล้วของเธอที่ทุกคนต่างรักเอ็นดูเธอ การเกิดใหม่ครั้งนี้จงทำดีสะสมผลบุญต่อไป เพื่อเป็นผลดีต่อเธอเอง
จนตอนนี้ได้มาอยู่ในอ้อมกอดคุณย่าแม้ดวงตาของเด็กทารกจะยังมองอะไรไม่ชัดนัก เธอก็ยังอยากสร้างความประทับใจ ในครั้งแรกที่พบหน้ากันให้กับทุกคนในครอบครัวเพราะเชื่อว่ามันสำคัญ
เธอจึงยิ้มกว้างโชว์เหงือกแดงๆ และดวงตากลมโตให้หยีลงส่งให้คุณปู่ที่ก้มลงมามองเธอใกล้ๆ จนคนแก่ที่ปกติจะทำหน้าเคร่งตลอดเวลา เพราะหน้าที่การงาน ตอนนี้ผ่อนคลายสีหน้าลง ส่งยิ้มตอบหลานสาวก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนออกมาเบาๆเพราะกลัวหลานน้อยตกใจอย่างที่ไม่เคยทำ
“แอ๊ แอ๊..…” ทารกน้อยกำหมัดเล็กๆโบกแขนให้คุณปู่เมื่อเห็นคุณปู่มองมา
“โอ้! หน้าเหมือนกับในความฝันผมเลยเลี่ยงเหลียง หลานสาวตัวน้อยของปู่ช่างน่ารักนัก ยิ้มหวานให้ปู่ด้วย”
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นางฟ้าตัวน้อยของย่าเป็นเด็กอารมณ์ดีจริงเลย" คุณย่าจางหัวเราะเอ็นดูหลานสาวอย่างชอบใจ
“คุณย่า ให้ผมดูน้องด้วยสิครับน้องต้องสวยมากแน่ๆ เพราะคุณแม่ของพวกผมสวยมาก”
หลี่เฟยเจินแฝดคนน้องพูดขึ้น เมื่อเห็นคุณปู่กับคุณย่าไม่นั่งลงให้พวกเขาพี่น้องได้เจอหน้ากันสักที
“คุณย่านั่งก่อนเถอะครับยืนนานๆ ไม่ดีนักหรอกครับ”
หลี่เฟยฮุ้ยแฝดคนพี่พูดขึ้นอย่างมีชั้นเชิงเพื่อจะได้ดูหน้าน้องสาวโดยไม่ขัดจังหวะคนแก่เห่อหลานสาว
หลี่เฟยหรงที่โดนแย่งลูกสาวได้แต่ยืนมองลูกชายทั้งสองทักท้วงคนแก่ทั้งสองของบ้านอยู่เงียบๆ พอเห็นว่าคุณย่าจางนั่งลงพร้อมกับปู่หลี่แล้วเขาจึงได้ถือโอกาสนี้เดินไปข้างหลังเก้าอี้
ที่ทั้งสองนั่งเพื่อดูหน้าลูกสาวโดยไม่ต้องพูดอะไรให้ขัดใจคุณย่าจางตอนกำลังเห่อหลานให้โดนมองแรงใส่เหมือนลูกแฝดคนเล็กอีก
คุณพ่อลูกสามกับลูกชายคนโตของเขาช่างเจ้าเลห์เหมือนกันจริงๆ เสี่ยวเจินผู้ซื่อตรงได้แต่ยืนทำตาปริบๆ เมื่อโดนคุณย่าจางมองค้อนใส่ เสี่ยวเจินได้แต่คิดในใจว่าตนทำผิดอะไรเขาแค่อยากดูน้องสาวเท่านั้นเอง
“แอ๊ แอ๊….”
ทารกน้อยที่ทุกคนต่างแย่งกันอย่างเงียบๆ นั้น ตอนนี้โปรยยิ้มหวานพร้อมโบกแขนน้อยๆ ทักทายพี่ชายฝาแฝดทั้งสองเพื่อส่งความน่ารัก ครั้งแรกที่พบหน้ากันนี้ให้สลักลงในใจของพวกเขา
“ว้าว น้องสาวน่ารักมากครับคุณพ่อ”
เด็กชายทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นน้องน้อยยิ้มหวานส่งให้พวกเขา เสี่ยวฮุ้ยมองพ่อของเขาพลางส่งยิ้มกว้างให้ทว่าแววตาฉายแววโอ้อวดส่งให้พ่อของเขา
แต่มีหรือที่หลี่เฟยหรงจะมองไม่ออกว่าเจ้าลูกชายของเขาคิดอะไรอยู่ จึงได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ
“ฮึ…”
หลี่เฟยหรงไม่สนใจมารยาทที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกชายอะไรอีกแล้ว เข้าเดินอ้อมมาข้างหน้าแทรกกลางเจ้าลูกชายตัวดีทั้งสองและอุ้มเอาลูกสาวตัวน้อยของเขามาอุ้มเองมันซะเลย
“แอ๊!……”
ทารกน้อยร้องตกใจเมื่อโดนเปลี่ยนคนอุ้มไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะมัวแต่โบกแขนน้อยๆ ให้พี่ชาย แต่พอเห็นว่านี่คือคนที่น่าจะเป็นคุณพ่อของเธอเอง
จึงชูกำปั้นน้อยๆโบกแขนโชว์ยิ้มหวานๆให้คุณพ่อหวังให้เขารักเอ็นดูเธอมากๆ เหมือนพ่อคนเก่าของเธอ
เธอไม่ได้มีความเสียดายชีวิตเก่ามากนักเพราะที่ผ่านมาเธอได้รับความรักและได้มอบความรักดูแลพวกท่านอย่างดีมาตลอด
และไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้งเป็นลูกที่ดีและหลานสาวที่ดีสมกับความรักที่พวกเขามอบให้เธอ
จะมีก็แต่เรื่องที่แอบไปคลับนี่แหละ ที่เธอเสียใจและรู้สึกผิดที่ต้องทำให้ทุกคนเสียใจกับการจากไปของเธอ
แต่ถึงเธอจะจากมาแล้วพ่อแม่เธอก็ยังมีพี่ชายเธออีกสามคนอยู่พวกเขาต้องดูแลพวกท่านได้ดีมากแน่ๆ
“ลูกสาวหนูน่ารักมากเลยครับ ยิ้มหวานเชียวดีใจที่ได้เจอพ่อหรือครับ ฮื้ม”
หลี่เฟยหรงพูดกับลูกสาวเสียงอ่อนเสียงหวานผิดกับเวลาพูดกับลูกชายไปคนละระดับเสียงเลยทีเดียว
ก็นะนี่ลูกสาวที่น่ารักของเขาจะมาพูดเสียงเข้มๆ อย่างที่พูดกับลูกชายได้ยังไงหากลูกสาวไม่รัก เขาต้องปวดใจจนตายแน่นอน
เขาได้แต่คิดในใจเข้าข้างตัวเองทำเป็นไม่รับรู้สายตาพ่อแม่ของเขาที่จ้องเขม่นใส่เขาที่มาแย่งหลานไป
ลูกชายทั้งสองของเขาได้แต่คิดว่าพ่อของเขาเป็นอะไรน้ำเสียงแปลกนักหรือพ่อเจ็บคอถ้าพ่อไม่สบายแล้วน้องสาวจะติดไข้ไปด้วยรึเปล่า
คุณแม่เคยบอกพวกเขาว่าหากไม่สบายให้เว้นระยะห่างกันก่อนเดี๋ยวจะติดไข้กันได้ เด็กชายทั้งสองคิดเป็นห่วงน้องสาวด้วยความกังวล
“ในห้องเรียบร้อยแล้วนะคะคุณซ่งผู่เย่วปลอดภัยดีค่ะดูแลบำรุงร่างกายคุณแม่หลังคลอดได้ตามปกติได้เลยค่ะ”
คุณหมอเสิ่นลู่จิวออกมาจากห้องคลอดพร้อมบรรดาแม่บ้านที่เข้าไปเป็นผู้ช่วยของเธอ และบอกเมนูอาหารบำรุงร่างกายและเรียกน้ำนมสำหรับคุณแม่พึ่งคลอด
คุณย่าจางรับฟังและจดจำไว้อย่างดีถึงเมนูและรายการบำรุงร่างกายต่างๆ สุดท้ายจ่ายค่ารักษาให้คุณหมอเรียบร้อยแล้วจึงสั่งให้ป้าฉางหัวหน้าแม่บ้านทำเมนูเรียกน้ำนมเตรียมไว้ให้ลูกสะใภ้คนโปรดของเธอ
ก่อนจะตามลูกชายหลายชายเข้าไปในห้องเพื่อดูอาการซ่งผู่เย่ว ส่วนสามีผู้เงียบขรึมของเธอน่ะหรือก็ยืนแนบชิดติดข้างกายเธออยู่นี่ไม่ได้ไปไหน
ลูกชายเธอติดภรรยาจนทะเลาะกับหลานชายเธอบ่อยๆ เรื่องแย่งแม่ของพวกเขายังไง สามีเธอก็เคยทะเลาะกับลูกชายเธออย่างนั้น ผู้ชายบ้านนี้เหมือนกันมากจนเธอยังสงสัยว่าจะเหมือนกันได้ยังไงขนาดนี้
“แอ๊ะ …..”
ซ่งผู่เย่วนอนพิงหัวเตียงอุ้มลูกสาวของเธอ หยอกล้อเล่นกับเจ้าตัวน้อยอารมณ์ดี แถมแรงดีไม่มีตกทั้งที่พึ่งคลอดแท้ๆ ท่ากำหมัดน้อยๆโบกแขนยิ้มหวานกลายเป็นท่าไม้ตายของเด็กน้อยทารกไปซะแล้ว
พอคุณปู่คุณย่าของเด็กๆ เข้ามาในห้องก็เห็นหลานสาวเธอยังคงร่าเริงดีดแขนดีดขาเล่นกับแม่และพี่ชายอย่างอารมณ์ดี
ลูกสะใภ้เธอไม่ได้เป็นอะไร พอเธอโลงใจเรื่องลูกสะใภ้แล้ว จึงนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องการตั้งชื่อของหลานสาวที่เธอและสามีตั้งไว้ให้แล้วกับลูกชายลูกสะใภ้เลย จึงเอ่ยออกมาตัดหน้าลูกชายก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร
“อาหรง เย่วเออร์ พ่อกับแม่ตั้งชื่อให้หลานสาวแล้วนะ”
คุณย่าจางพูดออกมาแทบจะทันทีที่นึกขึ้นได้ ไม่ให้ลูกชายได้ทันตั้งตัว เขาได้แต่มองพ่อและแม่ของเขาอย่างช่วยไม่ได้ลูกชายฝาแฝดของเขาที่เป็นหลานคนแรกของตระกูลน่ะเขายังพอเข้าใจได้
แต่นี่ลูกสาวตัวน้อยของเขาอีกเล่า ตอนแรกเขาก็หวังว่าท้องนี้อยากได้เป็นลูกสาวอยู่แล้วและตั้งใจจะเป็นคนตั้งชื่อเองคุณแม่ของเขาไม่ปราณีเขาเลยจริงๆ
หลี่เฟยหรงได้แต่คร่ำครวญในใจไม่กล้าพูดอะไรออกมาเพราะคุณแม่ของเขาดุมากแม้คำพูดไม่รุนแรงอะไร แต่แต่ละประโยคที่พูดออกมานั้นอาจทำให้เขารู้สึกผิดและรู้สึกว่าเขาอกตัญญูจนไม่มีหน้าไปมองใครได้อีก
“ครับ คุณพ่อกับคุณแม่ตั้งชื่อให้ลูกสาวผมต้องดีมากๆเลยครับ”
ท่านจอมพลหลี่หลืบมองหน้าลูกชายคนเดียวของเขาด้วยหางตาและดูถูกเขาในใจเมื่อเห็นสีหน้าไม่เต็มใจและคำพูดเสแสร้งว่ายินยอมแบบไม่จริงใจสุดขั้วของเขา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments