Love Sick [ม่านหมอก x ไพนต์] | ตอนที่ 5

"ฉันว่าเราพอกันแค่นี้เถอะค่ะ ฉันรู้แล้วว่าระหว่างฉันกับพี่มันไปด้วยกันไม่ได้"

[อืม]

"แค่นี้นะคะ"

[เดี๋ยว!]

"มีอะไรคะ"

[อย่าเพิ่งบอกใครได้มั้ยว่าเราเลิกกัน]

"ค่ะ" ฉันตอบส่งๆไปแบบนั้นก่อนจะกดวางสาย

"นี่มีปัญหากับแฟนเหรอครับ"

"ค่ะ ช่างเถอะค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"

"ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็บอกได้นะ ผมยินดีเป็นเพื่อนคอยรับฟัง"

"ขอบคุณนะคะ"

และวันนี้เป็นวันที่ฉันมาทำงานแล้วไม่เจอกับนีนเพราะเพื่อนตัวดีดันลาออกแบบไม่บอกกันก่อน

ยัยนั่นหนีหน้าฉันทำไมนะ

"มึงจะออกทำไมไม่บอกก่อน"

[พอดีเพิ่งได้ลงทุนใหม่น่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอก]

"มึงไม่อยู่แบบนี้กูก็เหงาสิ"

[ไว้วันหยุดไปสวนสนุกด้วยกันสิ]

"ห้ะ เมื่อไหร่?"

[อาทิตย์หน้า]

"ใครไปบ้าง"

[กูกับไพนต์]

"ไพนต์?"

[เอ่อ..แฟนกูน่ะ]

"อ่า..โอเค"

[แล้วเจอกัน กูทำงานก่อนล่ะ]

"อืม"

ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปซะได้นะ

"หมอกพี่ว่าจะทำเพิ่มเมนูน้ำใหม่ล่ะ เดี๋ยวมาลองทำกัน" เสียงเจ้าของร้านเดินเข้ามาคุยกับ

"เมนูอะไรเหรอคะ" 

"เสาวรสกับชาไทย เห็นเขาเอามามิกซ์กันน่ากินมาก"

"ได้ค่ะ"

 หลังจากทดลองทำน้ำสูตรใหม่ได้แล้วปรากฏว่ามันค่อนข้างที่จะอร่อยเลย ถึงจะไม่ชอบเสาวรสก็เถอะ แต่พอมาอยู่ด้วยกันกับชาก็ถือว่าแปลกใหม่ดี

"พี่หมอกคะ มีคนมาหา" เสียงพินเรียกฉันที่กำลังทิ้งขยะอยู่หลังร้าน

"โอเคจ้า" ฉันรีบเดินกลับเข้าไปในร้านก็เห็นว่าพี่องศากำลังยืนรออยู่ "มาหาฉันเหรอคะ?"

"อืม พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ"

"ค่ะ พูดมาเลย"

"พี่ขอโทษนะที่พูดแบบนั้นให้เรา" 

"ช่างเถอะค่ะ ฉันลืมไปแล้ว"

"เรายังเป็นพี่น้องกันได้ใช่มั้ย"

"ค่ะ" 

"หมอก.."

"ฉันไม่โกรธอะไรพี่หรอกค่ะ ฉันเข้าใจด้วยซ้ำ" ฉันยิ้มให้เขา "ดีแล้วค่ะที่ไม่ปล่อยให้มันเสียเวลาไปมากกว่านี้"

"ขอบคุณนะที่เข้าใจ"

และแล้ววันหยุดที่รอคอยก็ได้มาถึง ฉันแอบทักไปชวนองศาด้วย ตอนแรกเหมือนเขาจะไม่มาหรอก แต่พอบอกว่าไปกับนีนกลับยอมมาซะงั้น

"มึงแน่ใจนะว่าจะเล่นเครื่องเล่นด้วยน่ะ" นีนหันมาถามฉัน

"ไม่ กูขอผ่าน มึงเล่นเลย"

ตลอดทั้งวันฉันเหมือนแม่ที่มาเฝ้าดูลูกๆเล่นเครื่องเล่น เพราะนีนกับอีตาจิ้งจอกยักษ์นั่นดูสนุกเกินเบอร์กว่าเด็กๆที่มาเล่นซะอีก

แล้วไหนจะพี่องศาที่ดูจะไม่สนใจอะไรแต่กลับตามเล่นไปด้วยซะทุกอย่าง

"เข้าบ้านผีสิงกัน ใครแพ้จ่าย หนึ่งหมื่น!" ไพนต์ยื่นข้อเสนอที่ทำเอานีนตาลุกวาว

"เอาเด้!!"

"กูรอข้างนอกนะ"

"พี่ด้วย" พี่องศาพูด เพราะพี่องศาเองก็กลัวผี ไหนจะกลัวความมืดอีก ขืนเข้าไปมีหวังเขาแย่แน่

"งั้นเราไปกันเถอะที่รัก ปล่อยคนอ่อนๆ กากๆ เขานั่งรออยู่ตรงนี้แหละ" ไพนต์หันมากระตุกยิ้มกวนเยาะเย้ยเป็นนัยๆ ก่อนจะกอดคอนีนเดินเข้าไป

"หยามกันสินะ!" ฉันกัดฟันมองตามสองคนนั้น

"จะเข้ามั้ยล่ะ"

"เข้าค่ะ!" ฉันตัดสินใจเดินตามเข้าไปโดยไม่สนแล้วว่าตัวเองจะกลัวอะไร แถมพี่องศายังเดินเกาะตามฉันมาด้วย

กรี๊ด!!!!!!

เสียงกรี๊ดกรอกหูทำทั้งฉันและพี่องศาตกใจจนวิ่งกระเจิงกระจัดกระจายมองไม่ออกแล้วว่าทางไหนคือทางไหน แถมพี่องศายังวิ่งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ 

ฉันเลยตัดสินใจเดินต่อไปตามทางเรื่อยๆ ข้างในนี้ทั้งมืดแล้วก็หลอนเอามากๆ แถมเสียงซาวน์ในนี้ยังน่ากลัวจนขนลุกอีกด้วย

ตุบ!

"ว๊าย!!" ฉันเผลอเดินชนเข้ากับร่างสูงของใครบางคนด้วยความตกใจเลยเผลอหลับตากรี๊ดออกมา แต่ก็ต้องหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงตอบกลับ

"แหม คนอ่อนมาทำอะไรแถวนี้กันนะ"  

"นาย!!" 

"หึ ที่รักเธอไปไหนแล้วล่ะ วิ่งหางจุกตูดไปก่อนแล้วหรือไง ให้ฉันเดินเป็นเพื่อนเอามั้ย"

เสียงพูดพล่ามดังตามหลังฉันที่ปิดหูปิดตาเดินอย่างไม่สนใจเขา

บรรยากาศน่ากลัวแบบนี้รีบหาทางออกให้เร็วน่าจะดีที่สุด

"มัวแต่ร้องไห้อยู่หรือไง โอ๋เอ๋ๆ ไม่ร้องนะ"

"หุบปากสักทีได้มั้ย" ฉันหันไปตวาด

"หุบทำไม ก็ฉันมีปาก ฉันจะพูด" เขายกยิ้มราวผู้ชนะ แถมยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอะไรอีกด้วย 

"เลี้ยงหมาไว้ในปากหรือไง!!" ฉันพึมพำก่อนจะเดินจ้ำไปเรื่อย

ตุบ!

"กรี๊ด! โอ๊ย!"

ฉันถูกผีชุดขาวกระโจนเข้าใส่เป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันยืนอยู่ตรงทางต่างระดับเลยทำให้ล้มลงเข่ากระแทกกับพื้นอย่างจัง

"หึ" ไพนต์ที่เดินตามมาหลุดขำออกมาฉันเลยหันไปมองตาขวางก่อนจะรีบพยุงตัวเองลุกขึ้น 

เจ็บเข่าชะมัด 

ฉันได้แต่เดินช้าๆเพื่อไม่ให้เข่าตัวเองเจ็บ แต่เหมือนการเดินของฉันจะไม่ถูกใจคนเดินตามเอาซะเลย เพราะจู่ๆเขาก็พุ่งเข้ามาแบกร่างฉันขึ้นบ่าอย่างไม่ทันตั้งตัว

"ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ!!" สองกำปั้นรัวมือทุบหลังเขาเพราะท่าที่เขาแบกฉันมันเหมือนคนแบกกระสอบข้าวสารเลยน่ะสิ

ยิ่งถูกหามแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียนออกมา

"อยู่นิ่งๆสิ ขืนมัวแต่รอเธอเดินมีหวังได้แพ้ยัยนีนพอดี" เขาพูด

"ปล่อยฉ้านนนนน มันเวียนหัว อุบ" ฉันพยายามแหกปากโวยวายแต่ก็ต้องรีบยกมือป้องปากเพราะอาการคลื่นไส้

"อ๋อเหรอ"

เขาทำท่าเหมือนจะรับรู้แต่ฉันกลับถูกคนตัวใหญ่เหวี่ยงไปมาจนเกือบจะอ้วก มันเลยทำให้ฉันต้องหยุดนิ่งสักพักเพื่อไม่ให้ตัวเองมึนไปมากกว่านี้ 

"ไอ้บ้า!"

ฉันด่าเขาหลังจากที่รอดออกมาจากบ้านผีสิงนั่นเรียบร้อยแล้ว แถมอีตานี่ยังออกมาเป็นคนแรกอีกด้วย

"หึ บ้าไม่เท่าเธอแล้วกัน" เขากระตุกยิ้มก่อนจะเดินหายไป

คนบ้าอะไร ทั้งปากหมา ทั้งกวนประสาท แถมคำพูดคำจายังหมาไม่รับประทานอีกด้วย คนแบบนี้โตมาโดยไม่โดนกระทืบได้ยังไงเนี่ย

"อะ" เขายื่นถุงบางอย่างมาให้

"อะไร?"

"ทายาซะสิ หรือต้องทาให้?" 

เดี๋ยวนะ ที่หมอนี่หายไป เพราะไปซื้อยางั้นเหรอ?

"ไม่ต้อง"

"อ๋อ หรือชอบของเหลือ?"

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!