"ฉันว่าเราพอกันแค่นี้เถอะค่ะ ฉันรู้แล้วว่าระหว่างฉันกับพี่มันไปด้วยกันไม่ได้"
[อืม]
"แค่นี้นะคะ"
[เดี๋ยว!]
"มีอะไรคะ"
[อย่าเพิ่งบอกใครได้มั้ยว่าเราเลิกกัน]
"ค่ะ" ฉันตอบส่งๆไปแบบนั้นก่อนจะกดวางสาย
"นี่มีปัญหากับแฟนเหรอครับ"
"ค่ะ ช่างเถอะค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"
"ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็บอกได้นะ ผมยินดีเป็นเพื่อนคอยรับฟัง"
"ขอบคุณนะคะ"
และวันนี้เป็นวันที่ฉันมาทำงานแล้วไม่เจอกับนีนเพราะเพื่อนตัวดีดันลาออกแบบไม่บอกกันก่อน
ยัยนั่นหนีหน้าฉันทำไมนะ
"มึงจะออกทำไมไม่บอกก่อน"
[พอดีเพิ่งได้ลงทุนใหม่น่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอก]
"มึงไม่อยู่แบบนี้กูก็เหงาสิ"
[ไว้วันหยุดไปสวนสนุกด้วยกันสิ]
"ห้ะ เมื่อไหร่?"
[อาทิตย์หน้า]
"ใครไปบ้าง"
[กูกับไพนต์]
"ไพนต์?"
[เอ่อ..แฟนกูน่ะ]
"อ่า..โอเค"
[แล้วเจอกัน กูทำงานก่อนล่ะ]
"อืม"
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปซะได้นะ
"หมอกพี่ว่าจะทำเพิ่มเมนูน้ำใหม่ล่ะ เดี๋ยวมาลองทำกัน" เสียงเจ้าของร้านเดินเข้ามาคุยกับ
"เมนูอะไรเหรอคะ"
"เสาวรสกับชาไทย เห็นเขาเอามามิกซ์กันน่ากินมาก"
"ได้ค่ะ"
หลังจากทดลองทำน้ำสูตรใหม่ได้แล้วปรากฏว่ามันค่อนข้างที่จะอร่อยเลย ถึงจะไม่ชอบเสาวรสก็เถอะ แต่พอมาอยู่ด้วยกันกับชาก็ถือว่าแปลกใหม่ดี
"พี่หมอกคะ มีคนมาหา" เสียงพินเรียกฉันที่กำลังทิ้งขยะอยู่หลังร้าน
"โอเคจ้า" ฉันรีบเดินกลับเข้าไปในร้านก็เห็นว่าพี่องศากำลังยืนรออยู่ "มาหาฉันเหรอคะ?"
"อืม พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ"
"ค่ะ พูดมาเลย"
"พี่ขอโทษนะที่พูดแบบนั้นให้เรา"
"ช่างเถอะค่ะ ฉันลืมไปแล้ว"
"เรายังเป็นพี่น้องกันได้ใช่มั้ย"
"ค่ะ"
"หมอก.."
"ฉันไม่โกรธอะไรพี่หรอกค่ะ ฉันเข้าใจด้วยซ้ำ" ฉันยิ้มให้เขา "ดีแล้วค่ะที่ไม่ปล่อยให้มันเสียเวลาไปมากกว่านี้"
"ขอบคุณนะที่เข้าใจ"
และแล้ววันหยุดที่รอคอยก็ได้มาถึง ฉันแอบทักไปชวนองศาด้วย ตอนแรกเหมือนเขาจะไม่มาหรอก แต่พอบอกว่าไปกับนีนกลับยอมมาซะงั้น
"มึงแน่ใจนะว่าจะเล่นเครื่องเล่นด้วยน่ะ" นีนหันมาถามฉัน
"ไม่ กูขอผ่าน มึงเล่นเลย"
ตลอดทั้งวันฉันเหมือนแม่ที่มาเฝ้าดูลูกๆเล่นเครื่องเล่น เพราะนีนกับอีตาจิ้งจอกยักษ์นั่นดูสนุกเกินเบอร์กว่าเด็กๆที่มาเล่นซะอีก
แล้วไหนจะพี่องศาที่ดูจะไม่สนใจอะไรแต่กลับตามเล่นไปด้วยซะทุกอย่าง
"เข้าบ้านผีสิงกัน ใครแพ้จ่าย หนึ่งหมื่น!" ไพนต์ยื่นข้อเสนอที่ทำเอานีนตาลุกวาว
"เอาเด้!!"
"กูรอข้างนอกนะ"
"พี่ด้วย" พี่องศาพูด เพราะพี่องศาเองก็กลัวผี ไหนจะกลัวความมืดอีก ขืนเข้าไปมีหวังเขาแย่แน่
"งั้นเราไปกันเถอะที่รัก ปล่อยคนอ่อนๆ กากๆ เขานั่งรออยู่ตรงนี้แหละ" ไพนต์หันมากระตุกยิ้มกวนเยาะเย้ยเป็นนัยๆ ก่อนจะกอดคอนีนเดินเข้าไป
"หยามกันสินะ!" ฉันกัดฟันมองตามสองคนนั้น
"จะเข้ามั้ยล่ะ"
"เข้าค่ะ!" ฉันตัดสินใจเดินตามเข้าไปโดยไม่สนแล้วว่าตัวเองจะกลัวอะไร แถมพี่องศายังเดินเกาะตามฉันมาด้วย
กรี๊ด!!!!!!
เสียงกรี๊ดกรอกหูทำทั้งฉันและพี่องศาตกใจจนวิ่งกระเจิงกระจัดกระจายมองไม่ออกแล้วว่าทางไหนคือทางไหน แถมพี่องศายังวิ่งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
ฉันเลยตัดสินใจเดินต่อไปตามทางเรื่อยๆ ข้างในนี้ทั้งมืดแล้วก็หลอนเอามากๆ แถมเสียงซาวน์ในนี้ยังน่ากลัวจนขนลุกอีกด้วย
ตุบ!
"ว๊าย!!" ฉันเผลอเดินชนเข้ากับร่างสูงของใครบางคนด้วยความตกใจเลยเผลอหลับตากรี๊ดออกมา แต่ก็ต้องหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงตอบกลับ
"แหม คนอ่อนมาทำอะไรแถวนี้กันนะ"
"นาย!!"
"หึ ที่รักเธอไปไหนแล้วล่ะ วิ่งหางจุกตูดไปก่อนแล้วหรือไง ให้ฉันเดินเป็นเพื่อนเอามั้ย"
เสียงพูดพล่ามดังตามหลังฉันที่ปิดหูปิดตาเดินอย่างไม่สนใจเขา
บรรยากาศน่ากลัวแบบนี้รีบหาทางออกให้เร็วน่าจะดีที่สุด
"มัวแต่ร้องไห้อยู่หรือไง โอ๋เอ๋ๆ ไม่ร้องนะ"
"หุบปากสักทีได้มั้ย" ฉันหันไปตวาด
"หุบทำไม ก็ฉันมีปาก ฉันจะพูด" เขายกยิ้มราวผู้ชนะ แถมยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอะไรอีกด้วย
"เลี้ยงหมาไว้ในปากหรือไง!!" ฉันพึมพำก่อนจะเดินจ้ำไปเรื่อย
ตุบ!
"กรี๊ด! โอ๊ย!"
ฉันถูกผีชุดขาวกระโจนเข้าใส่เป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันยืนอยู่ตรงทางต่างระดับเลยทำให้ล้มลงเข่ากระแทกกับพื้นอย่างจัง
"หึ" ไพนต์ที่เดินตามมาหลุดขำออกมาฉันเลยหันไปมองตาขวางก่อนจะรีบพยุงตัวเองลุกขึ้น
เจ็บเข่าชะมัด
ฉันได้แต่เดินช้าๆเพื่อไม่ให้เข่าตัวเองเจ็บ แต่เหมือนการเดินของฉันจะไม่ถูกใจคนเดินตามเอาซะเลย เพราะจู่ๆเขาก็พุ่งเข้ามาแบกร่างฉันขึ้นบ่าอย่างไม่ทันตั้งตัว
"ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ!!" สองกำปั้นรัวมือทุบหลังเขาเพราะท่าที่เขาแบกฉันมันเหมือนคนแบกกระสอบข้าวสารเลยน่ะสิ
ยิ่งถูกหามแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียนออกมา
"อยู่นิ่งๆสิ ขืนมัวแต่รอเธอเดินมีหวังได้แพ้ยัยนีนพอดี" เขาพูด
"ปล่อยฉ้านนนนน มันเวียนหัว อุบ" ฉันพยายามแหกปากโวยวายแต่ก็ต้องรีบยกมือป้องปากเพราะอาการคลื่นไส้
"อ๋อเหรอ"
เขาทำท่าเหมือนจะรับรู้แต่ฉันกลับถูกคนตัวใหญ่เหวี่ยงไปมาจนเกือบจะอ้วก มันเลยทำให้ฉันต้องหยุดนิ่งสักพักเพื่อไม่ให้ตัวเองมึนไปมากกว่านี้
"ไอ้บ้า!"
ฉันด่าเขาหลังจากที่รอดออกมาจากบ้านผีสิงนั่นเรียบร้อยแล้ว แถมอีตานี่ยังออกมาเป็นคนแรกอีกด้วย
"หึ บ้าไม่เท่าเธอแล้วกัน" เขากระตุกยิ้มก่อนจะเดินหายไป
คนบ้าอะไร ทั้งปากหมา ทั้งกวนประสาท แถมคำพูดคำจายังหมาไม่รับประทานอีกด้วย คนแบบนี้โตมาโดยไม่โดนกระทืบได้ยังไงเนี่ย
"อะ" เขายื่นถุงบางอย่างมาให้
"อะไร?"
"ทายาซะสิ หรือต้องทาให้?"
เดี๋ยวนะ ที่หมอนี่หายไป เพราะไปซื้อยางั้นเหรอ?
"ไม่ต้อง"
"อ๋อ หรือชอบของเหลือ?"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 13
Comments