กลับไปเรียนใหม่

...ตอนที่ 3...

...กลับไปเรียนใหม่...

“เดี๋ยวก่อน ทิวาแน่ใจแล้วเหรอลูก พ่อคิดว่า...”

“ครับ ผมแน่ใจ แต่ผมมีข้อแม้กับคุณแสน 1ข้อ”

ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ผมก็ต้องทำให้ได้แบบที่พูดนั่นแหละ ก็แค่ย้ายไปอยู่กับคู่หมั้น กว่าจะแต่งอีกน่าจะมีเวลาทำอะไรอีกเยอะ

“หึ คนแบบนายนี่มีข้อแม้เยอะจังนะ”

พูดจบเขาก็ค่อยๆ เดินมาหาผม พอมองใกล้ๆ แล้วเขาก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดีเลยแหละ ไม่แปลกใจเลยทำไมเจ้าของร่างนี้ถึงรักนัก แต่ขอโทษทีมันใช้ไม่ได้กับผมหรอก

“ครับ ผมขอแค่ไปสระน้ำของคุณ อาทิตย์ละหนึ่งครั้งก็ได้ แล้วผมก็สัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งอะไรกับพวกคุณสองคนอีก”

คนตรงหน้าขมวดคิ้วแล้วจ้องมาทางผม ผมเองก็จ้องกลับไปเหมือนกันก็ผมพูดจริงนี่นาว่าจะไม่ไปยุ่งอะ แค่อยากให้เขาเชื่อใจ แค่สักนิดก็ยังดี เพราะผมเองก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้หรอก อะไรที่พอจะทำได้ก็อยากจะลองให้มันสุดๆ ดู

“แล้วทำไมฉันต้องเชื่อคนแบบนาย?”

พอได้ยินคำตอบแบบนี้ ผมเผลอกลอกตาแล้วถอนหายใจออกมา เอาจริงชักจะเบื่อกับอะไรแบบนี้แล้วจริงๆ ผมไม่เคยต้องพยายามทำอะไรแบบนี้เลยสักครั้ง แค่พูดอะไรไปทุกคนก็เชื่อแล้ว แต่พอมาอยู่ร่างนี้ ทุกอย่างก็ดูยากไปหมดนี่ผมยังไม่ทันได้ก้าวขาออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าปฏิกิริยาของคนภายนอกจะเป็นยังไง

“เชื่อผมสักครั้ง ขอแค่ครั้งเดียว ผมจะไม่ไปยุ่งกับพวกคุณอีกเพราะตอนนี้ผมเองก็มีคู่หมั้นใหม่แล้ว ถ้าผมทำอะไรตุกติกก็จับผมได้เลย”

อะไรตุกติกที่ว่าก็คงไม่มีอยู่แล้ว เพราะผมเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งกับความสัมพันธ์ใครหรอก มันยุ่งยาก

“หึ ก็เอาสิ”

ผมยิ้มรับกับคำตอบที่ได้ ในที่สุดปัญหาหนึ่งเรื่องก็คลี่คลายออกมาแล้วหนึ่งเรื่อง แค่นี้ก็มีแรงสู้กับเรื่องต่อไปแล้ว

“แล้วฉันก็หวังว่านายจะรักษาสัญญาที่บอกว่าจะเดินทางวันนี้นะ”

พูดจบคนตรงหน้าผมก็เดินจากไปทันที ส่วนผมเองก็ไม่อะไรในเมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องทำให้ได้สิ

“ลูกจะไปวันนี้จริงเหรอ พ่อว่าเรา..”

“ไม่เป็นไรครับ ผมบอกจะไปวันนี้ก็ต้องวันนี้สิครับ ผมไม่ใช่คนที่ชอบผิดสัญญาสักหน่อย ถ้างั้นผมขอไปเก็บของก่อนนะครับ”

“อืม.. เดี๋ยวพ่อเตรียมรถไว้ให้”

ผมพยักหน้ารับคำแล้วรีบเดินขึ้นไปเก็บของบนห้องนอน เอาจริงผมใช้เวลาไม่นานหรอกเพราะบางส่วนผมก็ทยอยเก็บไปบ้างแล้วก็เลยทำให้ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ พอดูคร่าวๆ แล้วว่าไม่ลืมอะไรก็รีบลงไปข้างล่างทันที ตอนนี้ทั้งป๊าทั้งพ่อมายืนรอผมข้างรถก่อนแล้ว ผมไหว้ลาทั้งสองคนเสร็จก็เปิดประตูขึ้นรถ

“ทิวา พ่อบอกพี่เหนือให้แล้วนะลูก ถ้ามีอะไรก็กลับมาได้ทุกเมื่อเลยนะ”

ผมพยักหน้ารับคำเบาๆ ก็แค่ไปอยู่กับคู่หมั้นทำไมทุกคนถึงทำเหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนั้นกันนะ แต่ก็ชั้งมันเถอะผมเองก็ไม่อยากคิดอะไร ผมก็บอกลากันอีกนิดหน่อยสักพักคนขับรถก็ขับรถออกไป ผมเหม่อมองออกไปทางหน้าต่างของรถที่มีรถขับผ่านไปผ่านมา ครั้งนี้จะเจอเรื่องอะไรอีกนะ พอคิดได้แบบนั้นก็แอบเหนื่อยนิดๆ 

“ถึงแล้วครับคุณทิวา”

ผมพยักหน้ารับคำแล้วค่อยๆ เปิดประตูรถลงไป ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะถึงที่นี้ ผมกวาดสายตามองรอบๆ แล้ว ที่นี่ติดกับทะเลเลย แถมบ้านตรงหน้านี้อีก เหมือนจะเป็นบ้านพักต่างอากาศมากกว่าจะเป็นบ้านที่คนใช้อาศัยอยู่ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันผมเองก็อยากพักผ่อนเหมือนกันพอเจอเรื่องอะไรมากๆ เข้าก็เริ่มเหนื่อย

“ผมขนของออกมาหมดแล้วนะครับ คุณทิวาให้ผมขนเข้าไปในบ้านพักเลยไหมครับ”

ผมรีบสะบัดหัวเบาๆ บางทีก็แอบเกรงใจ ผมเองเคยทำอะไรด้วยตัวเองมาโดยตลอดพอมีคนมาทำให้ก็แอบรู้สึกแปลกๆ แถมของก็ไม่ได้เยอะอะไรด้วย

“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เดี๋ยวผมยกเข้าไปเอง คุณลุงกลับเถอะครับตอนนี้ก็เย็นมากแล้วขับรถกลางคืนมันอันตราย”

คุณลุงพยักหน้ารับคำแล้วขึ้นรถขับออกไป ส่วนผมก็ยืนมองจนรถลับสายตาไป แล้วหยิบของเตรียมเข้าไปในบ้าน ตอนแรกก็กังวลว่าบ้านล็อกหรือเปล่า พอลองเปิดดูก็ไม่ได้ล็อก เลยเปิดเข้าไปในบ้าน สิ่งแรกที่เห็นพอเปิดเข้ามาเลยคือรกมาก ทั้งขวดไวน์ แก้วที่เหมือนจะดืมค้างไว้ 2-3 แก้วเรียงรายไว้ ผมเลิกสนใจกับอะไรพวกนี้แล้วรีบขึ้นไปเก็บของก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน แต่ทำไมยิ่งขึ้นไปชั้นสองกลิ่นแปลกๆ นี่ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นกลิ่นที่ต่างกับที่บ้านนั้น เพราะกลิ่นนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดตรงหน้าอกแต่มันเป็นกลิ่นแปลกๆ ที่ทำให้รู้สึกใจสั่นแปลกๆ ผมค่อยๆ พยุงตัวเองไปยังห้องตรงหน้า

“อื้มม.. คุณเหนือครับ”

ผมขมวดคิ้วกับเสียงที่ลอดออกมาให้ได้ยิน นี่มันเรื่องอะไร ยิ่งเข้าใกล้ห้องนั้นเท่าไหร่กลิ่นมันก็รุนแรงขึ้น ผมพยายามที่จะออกห่างแต่ทำไมพอยิ่งได้กลิ่นแล้วทำให้อยากเข้าไปใกล้กว่านี้ อยากเข้าไปหาเจ้าของกลิ่นนั้นจัง เสียงที่ได้ยินลอดออกมาเป็นระยะนั้นผมก็พอจะเดาออกว่ามันหมายถึงอะไร คนข้างในเขาคงทำเรื่องแบบนั้นกันอยู่ แต่ที่ผมไม่เข้าใจเลยคือทำไมร่างนี้ถึงไม่ฟังผมเลยทำไมถึงยังคงเดินตรงไปห้องนั้นอยู่ได้

“อ๊ะ!.. คุณเหนือครับ นั้นใครเหรอครับ”

สภาพผมตอนนี้คงแย่สุดๆ ไหนจะเหงื่อที่ออกมา แถมตอนนี้ทั้งใบหน้าใบหูก็ร้อนไปหมด แต่ที่แย่กว่านั้นคือผมกำลังเหมือนพวกโรคจิตที่ยืนดูคนทำเรื่องแบบนั้นกัน ส่วนภาพที่เห็นตรงหน้าก็ไม่น่าดูเลยสักนิด เป็นภาพที่ผู้ชายทั้งคู่กำลังมีความสัมพันธ์กัน แต่ผมห้ามร่างกายนี้ไม่ได้เลย กลิ่นนั้นมันคืออะไรกัน

“นี่ พี่รู้นะว่าเราเป็นคู่หมั้นกัน แต่การที่ทิวามาแอบดูพี่แบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอครับ”

ผมเผลอสบตากับคนที่พูดเมื่อกี้ แถมคนตรงหน้าไม่มีท่าทีตกใจอะไรเลย มีแค่ผมที่รู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ตรงหน้านี่สินะ ผมรีบก้มหน้าหลบสายตานั้นทันที เพราะรู้สึกอายแถมรู้สึกผิดอีก

“หึ กลับไปก่อน”

เขากำลังพูดกับใคร กับผมหรือเปล่า

“แต่คุณเหนือครับ”

“ผมบอกให้คุณกลับไปก่อน คุณกำลังทำให้คู่หมั้นผมไม่สบายใจ”

พอจบประโยคผมรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที ทำไมเขาถึงพูดออกมาแบบนั้น ทำไมผมต้องไม่สบายใจด้วยล่ะ ผมแค่รู้สึกอายเฉยๆ คนร่างเล็กที่อยู่ใกล้ๆ กับเขาหันมามองผมด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แต่ก็ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วเหมือนจะเก็บของ พอทุกอย่างดูเรียบร้อยเขาก็เดินผ่านผมไป ส่วนผมเองก็รู้สึกโล่งใจที่เหตุการณ์ตรงหน้าดูไม่ได้ร้ายแรงอะไร แถมกลิ่นแปลกๆ นั้น ก็ค่อยๆ จางลงไปแล้ว

“นี่ทิวาครับ”

“คือผมขอโทษครับ ผมไม่รู้เอ่อ..ไม่ใช่ ผมรู้ครับ แต่ผมห้ามตัวเองไม่ได้ มันมีกลิ่นแปลกๆ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ”

ผมรีบก้มหัวขอโทษทันที เพราะเรื่องนี้ถ้าให้ว่ากันตามตรงผมผิดเต็มๆ เลย เพราะผมถือวิสาสะเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังมายืนแอบดูเขาอีก ที่ผมพูดไปเหมือนคำแก้ตัวแบบโง่ๆ แต่ผมพูดจริงนะเรื่องที่ควบคุมตัวเองไม่ได้นั้นนะ

“หมายถึงกลิ่นนี้หรือเปล่า”

จู่ๆ กลิ่นที่ผมว่ามันเริ่มจาง กลับรุนแรงขึ้นกว่าเก่า อ่า..ไอความรู้สึกแปลกๆ ตรงท้องน้อยนี่มันคืออะไร ผมมีอารมณ์กับกลิ่นเหรอ ผมเองก็เป็นหมอมานานเคยได้ยินมาบ้าง แต่นี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ แล้วไอกลิ่นที่ว่านั้นคืออะไรทำไมมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ขนาดนั้นมันเป็นตัวยาเดียวกับยาปลุกอารมณ์หรือเปล่า แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนิ นอกจากนั่งอยู่บนเตียงแล้วจ้องมาทางผมเฉยๆ ขาเขาก็แทบไม่ได้ขยับไปไหนเลย ผมก็ไม่เข้าใจว่ากลิ่นนี้มันมาจากไหน จู่ๆ มันก็เหมือนกับว่ามันเกิดขึ้นมาเอง นี่มันอันตรายเกินไปแล้ว พอยิ่งสูดกลิ่นนี้เข้าผมเองก็ชักจะลายตา หัวใจก็เริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าใบหูก็เริ่มร้อนขึ้นมา ร่างกายส่วนล่างเองก็เริ่มตึงขึ้นมา นี่มันเหมือนกับไอพวกโรคจิตเลยไม่ใช่เหรอ ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน พอเงยหน้าไปสบตากับคนที่นั่งมองผมอยู่เขาเองก็แค่ส่งยิ้มจางๆ กลับมาให้ เหมือนมีแค่ผมที่รู้สึกแบบนี้ ร่างกายนี้มันเป็นยังไงกันแน่ พอเริ่มรู้สึกตึงช่วงล่างมากกว่าเดิมผมเลยเผลอเอามือไปกุมเอาไว้ จู่ๆ คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็ขำออกมาเสียงดัง ผมที่รู้สึกอายอยู่แล้วตอนนี้ก็เริ่มจะโมโหแล้วจริงๆ

“นี่ อย่าสูดกลิ่นเยอะไปสิ เดี๋ยวฮีทขึ้นมามันจะยุ่งเอา”

...To be Continue...

...100%...

...1 คอมเมนท์ \= 1 กำลังใจ ❤️...

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!