กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกไม้งามเมืองเหนือ | เสือใบ×เสือดำ×y/N

กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกไม้งามเมืองเหนือ | เสือใบ×เสือดำ×y/N

สาวงามเมืองเหนือ

     

...----------------...

  ในช่วงต้นปี2490 ประเทศไทยมีเสือร้ายชุกชุมอยู่มากโข แต่เสือร้ายที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายก็คงจะเป็น อัลฮาวียะลู เสือสังข์ ซึ่งเป็นเสือภาคใต้

แต่ในภาคกลาง เสือฝ้าย ถือเป็นเสือที่มีความโหดร้ายและมีพรรคพวกมากที่สุด ซึ่งเสือฝ้ายมีลูกน้องคนสนิทนั่นคือ เสือใบ เขาเป็นคนที่ดุร้ายไม่แพ้กับเสือฝ้ายแต่เป็นคนที่ค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ทำร้ายหญิงสาว แต่เขาดันมีนิสัยเจ้าชู้ ทำให้มีสาวๆมากหน้าหลายตารุมล้อมเนื่องด้วยความหล่อเหลาของเขา

   แต่ก็มีเสืออีกสองตัวที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดไม่แพ้กับเสือใบ นั่นคือ เสือมเหศวรและเสือดำ

เสือมเหศวร จะมีนิสัยสุภาพบุรุษและเล่ห์เหลี่ยม และเนื่องด้วยความที่เขานั้นชอบปลอมตัวจึงได้ฉายา จารชน2หน้า มา ส่วนเสือดำ เป็นเสือที่ดุร้ายและติดฝิ่นเป็นอย่างมาก เเละเนื่องด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ทำให้เขาเป็นคนที่ไม่เคยยอมใคร โหดเหี้ยม แต่ก็รักเด็กและเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง

    ณ ชุมโจรของเสือฝ้าย เหล่าเสือภาคกลางมากมายได้มารวมตัวกันในที่แห่งนี้ เนื่องด้วยเหตุว่า

วันนี้ เสือฝ้ายมีภารกิจสำคัญที่ต้องมอบหมายให้เสือใบ เสือดำและเสือมเหศวร ไปจัดการ

มีสายข่าวรายงานมาว่า ในทางภาคเหนือ มีดอกกุหลาบเวียงพิงค์ดอกนึงอยู่ งดงามสมเป็นกุหลาบเมืองเหนือเป็นอย่างยิ่ง เสือฝ้ายจึงอยากให้ทั้งสามไปนำกุหลาบนี้กลับมาให้ แต่ติดทว่ากุหลาบนี้ เป็นกุหลาบงามที่ใครๆก็หมายปองอยากจะครอบครอง และทางภาคเหนือนั้น ค่อนข้างที่จะอยู่ไกล

ทำให้มันค่อนข้างที่จะเสี่ยงและลำบากยิ่งที่จะนำกุหลาบนี้กลับมา ทั้งสามรับคำสั่งของผู้เป็นนายและรีบควบม้ามุ่งไปทางเหนือทันที

เสือใบ : พวกพี่คิดหรือยังว่า พวกเราจะไปเอากุหลาบกลับมาได้อย่างไร แค่เดินทางไปทางภาคเหนือมันก็ใช้เวลาน๊านนานนะพี่ กุหลาบมันไม่เหี่ยวเฉาไปก่อนหรอวะ?

เสือดำ : มึงไม่รู้ข่าวหรอวะไอ้ใบ ว่ากุหลาบที่เขาอยากได้กัน มันมิใช่ดอกไม้ แต่เป็นสตรี เป็นสาวงามคนหนึ่ง!

เสือมเหศวร : สาวงามคนนั้นมีผัวไปรึยัง พวกเรายังไม่รู้เลย แต่พี่ฝ้ายจะให้เราไปสู่ขอให้เนี่ยนะ

เสือใบ : พี่ฝ้ายอ่ะ อยากได้ใครต้องได้อยู่แล้ว เราแค่ไปขอๆมาก็จบ ผัวเขาไม่ให้ก็แค่ยิงผัวเขาทิ้งไปก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องคิดอะไรเลย

เสือมเหศวร : ถ้าทำงั้นได้มันก็ดีดิไอ้ใบ

เสือดำ : หุบปากแล้วรีบควบม้าไปเหอะ

    ทั้งสามรีบควบม้าไปที่ทางภาคเหนือแต่เนื่องด้วยที่เวลานี้มันค่อนข้างจะมืดค่ำแล้วทำให้ทั้งสามต้องพักที่หมู่บ้านแถวๆนั้น เนื่องด้วยทั้งสามเป็นเสือร้ายทำให้ผู้คนต่างเกรงกลัวและให้ที่พักที่อาศัย และข้าวปลาอาหารแก่ทั้งสามเป็นอย่างดี เมื่อทั้งสามทานข้าวปลาเสร็จก็รีบนอนพักผ่อนเพื่อเตรียมมุ่งหน้าไปที่ภาคเหนือต่อ

ทั้งสามนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมาและพากันควบม้าไปยังจุดหมายต่อทั้งๆที่ยังนอนพักผ่อนไม่เต็มแรง

ทั้งสามใช้เวลาควบม้าไปยังภาคเหนือราวๆสองวันครึ่งก็ถึงยังจุดหมาย เมืองเชียงใหม่ ทั้งสามควบม้าต่อไปเรื่อยๆจนถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

เสือใบมองไปรอบๆในหมู่บ้านแห่งนั้น จนไปพบกับลุงคนนึงที่กำลังนอนบนเปลอย่างสบายใจ

เสือใบจึงได้เอ่ยเรียกลุงคนนั้น

เสือใบ : ลุง ลุง!

ลุงคนหนึ่ง : เห้อออ ตกใจหมด มีอะไรล่ะพ่อหนุ่ม

เสือใบ : พูดกลางได้หรอลุง?

ลุงคนหนึ่ง : โห้ยยย คนสมัยนี้เขาพูดกลางหมดนั่นแลไอ้หนุ่ม ไม่ค่อยมีคนพูดภาษาถิ่นหรอก ว่าแต่พวกเอ็งเป็นคนต่างถิ่นนี่ มาที่นี่ทำไมรึ

เสือใบ : พอดีว่า- (เสือใบยังไม่ทันพูดจบก็โดนลุงแทรกซะก่อน)

ลุงคนหนึ่ง : อ๋อๆ ให้เดานะ จะมาแลชมกุหลาบเมืองเหนือกันใช่ไหมล่า ของขึ้นชื่อของชาวเชียงใหม่เลยหนา

เสือใบ : ใช่ ลุงรู้จักนางไหม

ลุงคนหนึ่ง : รู้สิ แต่นางไม่ได้อยู่หมู่บ้านนี้หรอก นางอยู่หมู่บ้านถัดไป อยู่บนๆดอยเลย เลยต้นพญาเสือโคร่งไปก็จะพบหมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่

เสือใบ : ขอบคุณ

   เสือทั้งสามรีบควบม้าและมุ่งตรงไปที่หมู่บ้านบนดอยทันที ระหว่างทางทั้งสามได้เชยชมต้นพญาเสือโคร่ง มันเป็นต้นไม้ที่ดูสวยงามอีกต้นหนึ่งเลย

เนื่องด้วยว่ามันมีใบสีชมพู จึงได้ชื่อว่าเป็นซากุระแห่งเมืองไทย เสือใบรู้สึกประหลาดใจกับต้นไม้นี้มาก มันดูสวยแปลกตาจริงๆ แต่ถึงแม้เขาจะอยากเชยชมต้นไม้นี้ต่อมากแค่ไหน แต่เขาก็ต้องทำภารกิจของเขานั้นให้สำเร็จเสียก่อน เขาจึงหยุดความคิดนั้นแล้วรีบควบม้าต่อไปจนถึงจุดหมาย

เสือดำ : มาถึงจุดหมายละ แต่ไหนวะ สาวงามที่เขาล่ำลือกันว่างดงามดั่งดอกไม้เมืองเหนือ

เสือใบ : ถามคนแถวนี้สิ

เสือดำ : กูไม่เอ่ยถามอ่ะ มึงถามเองดิ

สิ้นคำของเสือดำ เสือใบตอบกลับอืมๆเออๆ เนื่องจากรำคาญและขี้เกียจขัดคำสั่งของเขา จึงมองหันซ้ายหันขวาเพื่อหาผู้คน โชคดี แถวนั้นมีหญิงสูงวัยคนหนึ่งอยู่พอดี เสือใบจึงเอ่ยถามไป

เสือใบ : เออๆ ป้าๆ ป้าเห็นสาวงามที่เขาล่ำลือกันว่างดงามราวกับกุหลาบเวียงพิงค์ กุหลาบงามเมืองเหนือไหม?

ป้าคนหนึ่ง : เห็นสิจ้ะ นางพึ่งเดินเข้าไปในบ้านหลังนู้นน่ะจ้ะ

คุณป้าตอบพลางชี้ไปที่เรือนไม้หลังหนึ่ง เป็นเรือนไม้ที่ค่อนข้างจะดูดีกว่าเรือนอื่นๆนิดหน่อยแต่ก็ยังดูโทรมๆอยู่ดี เสือใบลงจากหลังม้าและรีบมุ่งตรงไปที่เรือนหลังนั้นทันทีด้วยความเร่งรีบและเอ่ยถามลุงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเรือนหลังนั้นว่ามีสาวงามอยู่ไหม แต่ลุงเจ้าของบ้านเอ่ยปฏิเสธว่าไม่มี ซึ่งตัวเสือใบเองค่อนข้างมั่นใจอยู่แล้วว่านางต้องอยู่ที่นี่แน่นอนจึงเอ่ยตอบลุงไปและหาว่าลุงนั้นพูดเท็จ ทำให้ลุงไม่พอใจเป็นอย่างมากและนำน้ำมาสาดไล่เสือใบให้ออกไป เสือดำและเสือมเหศวรเห็นท่าจะไม่ดี จึงรีบลงจากหลังม้าแล้ววิ่งเข้ามาหาเสือใบทันที เสือดำด้วยความที่เป็นคนปากร้ายจึงตวาดด่าเสือใบและลุงคนนั้นทันที ส่วนเสือมเหศวรก็ทำได้แต่เอ่ยขอโทษลุงแทนเสือใบ แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยออกมา ถึงจะเป็นเสียงที่พูดด้วยความโมโห

นิดๆแต่ก็เป็นเสียงที่ดูอ่อนหวานยิ่งนัก

บัวแก้ว : พวกท่านมาตวาดพ่อข้าแบบนี้ได้อย่างไรกัน หะ!

เสือทั้งสามได้ยินดังนั้นก็รีบหันไปตามเสียงและต้องตกตะลึงในความงามของหญิงตรงหน้า นางเป็นสาวงามวัยราวๆ18ปี ผิวขาวเนียน ดวงตาเรียว ริมฝีปากแดง แก้มอมชมพู และถึงแม้นางจะพูดด้วยท่าทีที่โกรธแต่ก็ดูเสือทั้งสามจะไม่รู้สึกกลัวเธอเลยแม้แต่น้อย

เสือใบ : แม่หญิงเป็นใคร แล้วรู้จักกุหลาบเวียงพิงค์ กุหลาบงามเมืองเหนือหรือไม่

บัวแก้ว : ก็ข้าเนี่ยแหละ เวียงพิงค์ ข้าชื่อเวียงพิงค์

ฉายานั้นก็เป็นฉายาของข้า

เสือดำ : ก็งามสมคำล่ำลือจริงๆนั่นแล เออเสือใบ มึงให้นางนั่งหลังมึงไปละกัน รีบพานางกลับได้แล้ว

บัวแก้ว : เดี๋ยวก่อน พวกท่านจะพาข้าไปไหน ตอบมาก่อน ไม่งั้นข้าไม่ไปด้วย

เสือดำ : ข้าได้รับมอบหมายภารกิจให้มานำเจ้ากลับไปยังเมืองสุพรรณบุรี

บัวแก้ว : แล้ว...ทำไมข้าต้องไป ที่นี่บ้านข้า ถ้าท่านจะให้ข้ากลับไปกับท่าน ท่านก็ต้องขอพ่อแม่ข้าก่อน มิเช่นนั้นข้าไม่กลับไปด้วยหรอก แถมข้ายังมิรู้เลยว่าไปกับพวกท่านแล้ว ข้าจะกินดีอยู่ดีหรือไม่

เสือใบ : กินดีอยู่ดีกว่าที่นี่เป็นแน่ พี่ฝ้าย นายของข้าอ่ะ เป็นถึงอดีตกำนันเชียวนะ

บัวแก้ว : ฝ้ายหรอ...พวกท่านเป็นโจรหรือ?

เสือใบ : จะว่างั้นก็ไม่ผิด แล้วเอ็งจะยอมกลับไปหรือไม่ ถ้าไม่ยอม ข้าก็จะขอล่วงเกินละนะ

เสือมเหศวร : ข้าไปคุยกับพ่อของนางแล้วเมื่อกี้ เขาบอกว่ายกนางให้ด้วยเงินสิบบาท*

*สิบบาท สมัยนั้นจะมีค่าเท่ากับราวๆหมื่นบาทในปัจจุบัน หรือประมาณหนึ่งบาทจะมีค่าเท่ากับสองร้อยบาทถ้วนนั่นเอง

เสือดำ : สิบบาท แพงเกินไปไหม!

เสือใบ : พี่ฝ้ายให้ข้ามาราวๆยี่สิบบาทถ้วน ข้าพอซื้อตัวนางมาได้อยู่

เสือใบพูดจบก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงและยื่นให้คุณลุงคนนั้นโดยทันที และหันไปคุยกับสาวงามคนนั้นว่า

เสือใบ : ข้าซื้อตัวเอ็งมาแล้ว งั้นต่อไปนี้เอ็งต้องมาอยู่กับพวกข้า

บัวแก้ว : ทำอะไรไม่เคยถามข้าก่อนสักคำ คิดเองทำเองซะหมด ไม่เห็นใจข้าบ้างเลยรึไงที่ต้องไปจากบ้าน

เสือดำ : เห็นรึไม่เห็น มันไม่ใช่เรื่องของพวกข้า เอ้า รีบไปกันได้แล้ว

เสือดำและเสือมเหศวรรีบขึ้นมาและควบม้านำไปทั้งที ส่วนเสือใบก็ทำได้แค่ปลอบใจและง้อบัวแก้ว

เเละเนื่องด้วยบัวแก้วเป็นคนที่เชื่อฟังพ่อของตน นางจึงยอมกลับไปด้วย เสือใบเห็นดังนั้นจึงอุ้มนางขึ้นหลังม้าและรีบควบม้าตามพี่ๆทั้งสองไปทันที

เสือใบ : เกาะแน่นๆนะน้อง ม้ามันเร็วเดี๋ยวตกม้าเอา

เสือใบพูดทักเนื่องจากเห็นว่านางไม่กล้าเอื้อมมือมาเกาะหลังตนไว้และด้วยความที่กลัวว่านางจะตกจากหลังม้า เสือใบจึงจับแขนของนางทั้งสองข้างมากอดหลังตนไว้ นางจึงกอดหลังเสือใบด้วยความแน่นหลังจากได้รับการอนุมัตินั้น เพราะนางก็กลัวว่าตัวเองอาจจะตกจากหลังม้าเหมือนกัน

เสือใบ : เห้ย กอดแน่นไปแล้ว กอดแน่นแบบนี้ มีใจให้ป่าวเนี่ย

เสือใบพูดหยอกล้อแซวบัวแก้ว เมื่อเห็นว่านางกอดตนแน่น ทำให้นางเลิกกอดเขาทันที

เสือใบ : เห้ยๆ เดี๋ยวร่วง ข้าพูดเล่นน่า

เสือใบอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่านางเลิกกอดตนเอง เขาจึงจับมือทั้งสองข้างของนางมากอดตนอีกครั้งหนึ่ง

และเนื่องด้วยว่าตอนนี้เป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว เสือทั้งสามจึงเห็นตรงกันว่าควรจะแวะทานอาหารก่อน แต่ด้วยความที่ทั้งสามไม่รู้จักร้านอาหารในทางภาคเหนือเลย จึงต้องพึ่งบัวแก้วให้พาไปยังร้านอาหาร บัวแก้วก็ยินดีที่จะพาไป จึงคอยบอกนำทางให้ทั้งสามไปถึงยังจุดหมาย

ร้านอาหารที่บัวแก้วพามา เป็นร้านอาหารที่ดูเรียบหรู ดูมีภูมิฐาน ต่างกับร้านอาหารทั่วไปในประเทศไทยสมัยนี้ จึงทำให้เสือทั้งสามแปลกใจเป็นอย่างมาก

บัวแก้ว : ที่นี่เป็นร้านของเพื่อนข้าเอง เขาเป็นคนฝรั่งเศส

เสือดำ : ก็ว่าอยู่ ว่าทำไมร้านมันแต่งไปทางแถบตะวันตกยิ่งนัก แล้วแบบนี้กูต้องพูดฝรั่งเศสไหม

บัวแก้ว : จะพูดไทยก็ได้ แต่พูดฝรั่งเศสได้ก็จะดี

Hubert : Bonjour(สวัสดี)

บัวแก้ว : Bonjour Une table pour quatre, s'il vous plaît(สวัสดี ขอโต๊ะสำหรับสี่คนค่ะ)

Hubertพยักหน้าและพาทั้งสี่ไปนั่งที่โต๊ะ

บัวแก้ว : Hubert, Je voudrais steak de bœuf

(อูร์แบร์ ฉันขอสเต็กเนื้อวัวค่ะ)

Hubert : Quatre steaks de bœuf? (สเต็กเนื้อวัวสี่ที่หรอครับ)

บัวแก้ว : Oui (ใช่ค่ะ)

เสือใบ : เอ็งสั่งอะไรไป?

บัวแก้ว : สเต็กเนื้อวัวน่ะ

เสือใบ : สเต็ก เนื้อวัวทอดน่ะรึ ก็ดี งั้นมีเหล้าอะไรพวกนี้ไหม

บัวแก้ว : มีไวน์

เสือใบ : ไวน์?

บัวแก้ว : Hubert, Je voudrais une bouteille un verre de vin blanc , et de l'eau (อูร์แบร์ ฉันต้องการไวน์แดงหนึ่งขวดและก็น้ำเปล่าค่ะ)

Hubertพยักหน้าตอบรับและรีบไปนำไวน์แดง น้ำเปล่าและแก้ว4ใบมาให้ แล้วรีบกลับไปที่ครัวเพื่อไปทำอาหารต่อ และเสือทั้งสามก็ดูมีท่าทีประหลาดใจและสนอกสนใจหญิงสาวผู้นี้เป็นอย่างมาก

เสือดำ : พูดภาษาฝรั่งเศสได้เรอะ แบบนี้ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย

เสือใบ : เจ้าไปเรียนมาจากที่ไหนกัน ทำไมพูดได้คล่องอย่างนี้

บัวแก้ว : ข้าก็แค่ศึกษาอ่านเอาตามตำราและให้เจ้าของร้านคนนั้นช่วยสอนให้ก็แค่นั้น

เสือใบ : เจ้าของร้านนั้นชื่อฮับเบิร์ดรึ เห็นชื่อร้านเขียนไว้

บัวแก้ว : มันอ่านว่าอูร์แบร์น่ะ

เสือใบ : หะ อ่านยังไงก็ฮับเบิร์ดชัดๆ

ไม่นานHubertก็นำอาหารมาเสิร์ฟ เสือทั้งสามดูประหลาดใจกับเนื้อสเต็กนี้มาก เนื่องด้วยปกติพวกเขาไม่เคยทานมันเลยในชีวิต จึงรู้สึกประหลาดใจกับรสชาติของมันที่มีความเค็มของเกลือและเผ็ดนิดๆจากเครื่องเทศ และเมื่อทานเสร็จทั้งสี่จึงควบม้ามุ่งหน้ากลับไปยังเมืองสุพรรณบุรีโดยเร็ว

และเมื่อทั้งสี่กลับมาถึงยังชุมโจรของเสือฝ้าย

เสือทั้งสามรีบพานางไปหาเขาทันที และเมื่อเสือฝ้ายเห็นนางก็รู้สึกไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็ต่างอยากได้นางมาครอบครอง

เสือใบ : ข้าพานางมาแล้วพี่

เสือฝ้าย : เออดี ข้าจะรับนางเป็นลูกบุญธรรม

เสือใบ : หะ อะไรนะพี่

เสือฝ้าย : เออ พวกมึงได้ยินไม่ผิดหรอก ข้ากะจะไปรับตัวนางมาเป็นลูกบุญธรรมเฉยๆ และจะยกให้พวกมึงถ้าพวกมึงคนใดคนหนึ่งอยากได้ ข้าเห็นว่าพวกเอ็งทำงานให้ข้ามาก็นานแถมตั้งใจทำงานมากด้วย สมควรได้รับรางวัล ไอ้ใบและไอ้ดำเมียก็โดนฆ่าตายเหมือนกันทั้งคู่ ส่วนไอ้ศวรก็ยังไม่มีคู่ครอง

เสือใบ : สาวิตรีไงพี่ฝ้าย คนรักของไอ้ศวรอ่ะ

พวกมันกิ๊กๆกันอยู่

เสือฝ้าย : เออเอาเหอะ แล้วสรุปใครจะเอานางไป

เสือใบ : ข้ามีทับทิมแล้วพี่ พี่ลืมหรอก พี่ให้พี่ดำดิ

เสือดำ : ไม่อ่ะ กูไม่อยากได้

เสือฝ้าย : เอ้า งั้นกูก็เสียเงินฟรีหรอ เอาเถอะ ถ้าพวกมึงเปลี่ยนใจ ค่อยมาขอนางละกัน ไอ้ใบ มึงให้ลูกน้องมึงจัดหาห้องให้ลูกสาวกูเลย ด่วน

เสือใบ : คร้าบๆพี่ฝ้าย

เสือใบรีบวิ่งไปจัดหาห้องนอนให้บัวแก้วโดยทันที

แต่ทว่าไม่มีห้องนอนไหนที่ว่างเลย ทำให้เสือฝ้ายต้องจำใจให้บัวแก้วนอนพักกับเสือใบไปสักคืน

เสือใบ : เอ็งจะตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าอะไรขนาดนั้น ข้าไม่ทำอะไรเอ็งหรอกน่า มานอนมา

บัวแก้ว : ข้าจะเชื่อได้ไง ใครๆก็ลือกันว่าเสือใบนั้นเจ้าชู้แค่ไหน

เสือใบ : ข้ามีเมียเดียวน่าแถมข้าไม่ได้รักอะไรเอ็งเลย ข้าไม่ทำหรอก แถมตอนนี้เอ็งเป็นลูกสาวพี่ฝ้ายนะ ขืนข้าทำมีหวังโดนด่าแน่ นอนๆไปเถอะน่า

เสือใบพูดพลางล้มตัวนอนหันหลังให้นาง บัวแก้วเห็นดังนั้นจึงยอมล้มตัวนอนข้างๆเขา ถึงแม้เธอจะแอบเกรงกลัวเขาเล็กน้อยแต่เธอเองก็พอเชื่อใจเขาอยู่ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอแน่ๆ แต่แล้ว เขาก็หันมาหาเธอ ทำเอาเธอตกใจนิดๆ

เสือใบ : หนาวอ่ะ

เสือใบเอ่ยกับเธอแบบนั้น มันเลยทำให้เธองงเล็กๆว่าเขาต้องการอะไรกันแน่

บัวแก้ว : ก็ท่านถอดเสื้อทำไมล่ะ

เสือใบ : ข้าร้อน

บัวแก้ว : ใส่เสื้อก็บ่นร้อน ถอดเสื้อก็บ่นหนาว ท่านต้องการอะไรกันแน่เนี่ย

เสือใบไม่ตอบเธอแต่พลางมองเธอด้วยสายตานิ่งๆ

แต่เนื่องด้วยที่เธอไม่รู้ว่าเขาจะสื่ออะไร เธอจึงเอื้อมมือไปกอดเขาทันที

เสือใบ : เห้ย กอดข้าไมเนี่ย

บัวแก้ว : ก็ข้าเห็นท่านบ่นว่าหนาว ปกติเวลาข้าหนาว ข้าเองก็ต้องการให้พ่อข้ามากอดเช่นกัน

เสือใบ : แต่ข้าไม่ต้องการให้เจ้ากอด

บัวแก้ว : แล้ว...ท่านไม่มีผ้าห่มหรือ

เสือใบ : ไม่มีอ่ะ ปกติอากาศมันไม่หนาวขนาดนี้

เสือใบพูดพลางเอื้อมมือมากอดบัวแก้วเบาๆ

บัวแก้ว : ท่านกอดข้าทำไมคะเนี่ย!

เสือใบ : ก็เผื่อเอ็งจะหนาวไง

บัวแก้ว : แค่นี้ข้าไม่หนาวหรอกค่ะ อยู่บนดอยข้าหนาวกว่าเยอะ

เสือใบ : แต่ตัวเย็นเจี๊ยบเลยนะ เจ้าจะบอกว่าไม่หนาวหรือ

บัวแก้ว : ก็ลมมันพัดมาจากฝั่งข้านี่คะ

เสือใบ : อ่า...

เสือใบได้ยินดังนั้นจึงรีบลุกย้ายมานอนทางฝั่งของบัวแก้วแทนโดยทันที

เสือใบ : เอ็งไม่หนาวแล้วเนอะ

บัวแก้ว : ค่ะ

เสือใบ : แต่ข้าหนาวอ่ะ กอดหน่อย

หลังเสือใบพูดจบ เขารีบดึงมือของบัวแก้วมากอดให้ความอบอุ่นแก่ตนเองทันทีแล้วจึงค่อยหลับไป

ทำให้บัวแก้วตกใจและขวยเขินเขาไปในเวลาเดียวกัน เธอไม่รู้เลยว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่กันแน่

และเมื่อถึงยามเวลาเช้าตรู่ ไก่เริ่มขันร้องเรียก

เธอตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจโดยทันที เหตุใดเสือใบจึงมานอนกอดเธอแทนได้ล่ะเนี่ย!?

...----------------...

...แนะนำตัวละคร...

นางเอก : บัวแก้ว (y/n)

พระเอก1 : เสือใบ

พระเอก2 : เสือดำ

เสือมเหศวร

เสือฝ้าย(กำนันฝ้าย)

อัศวิน

ร้อยเอก ทัตเทพ

ขุนพันธ์

ส่วนจะพูดถึงตัวละครพวกนี้ไหมต้องดูก่อน ใส่มางั้นๆแหละ ใส่มาก่อน

ฮอต

Comments

Thattep kongluuakây

Thattep kongluuakây

ตามมาอ่านแล้วครับผม

2024-04-30

2

FC's Foei

FC's Foei

ไม่งงนิดๆครับไรท์ งงมากๆครับ

2024-04-29

3

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 2

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!