บทที่2 ไถ่โทษ

กริ๊งงง!

เสียงออดที่ดังขึ้น บ่งบอกให้รู้ว่าได้เวลาของการเข้าเรียนในคาบแรก เหล่านักเรียนต่างพากันรีบเร่งเพื่อให้ทันต่อการเข้าเรียน ภาพอันชุลมุนนับเป็นเรื่องปกติของสถานศึกษาแห่งนี้ คิยูริ เธอเพิ่งจะมาถึงพร้อมๆกับหนังสือรายงานมากมายหอบมาจนเต็มอ้อมแขนอย่างทุลักทุเลจนถูกชนเข้าโดยผู้คนที่กำลังรีบ จนตัวของเธอล้มลงไปพร้อมๆหนังสือในอ้อมแขนกระจัดกระจายลงบนพื้น ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้มีใครจะให้ความสนใจกับเธอ ทุกคนต่างเดินผ่านไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยูริถอนหายใจออกมาก่อนจะก้มลงไปเก็บหนังสือที่ตกหล่นอยู่บนพื้นเธอเข้าใจดีกับเหตุการณ์ทั้งหมดเธอชินกับมันไปแล้วทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง เธอเองก็เช่นกัน 

"เป็นอะไรมากไหม" ระหว่างที่ยูริกำลังง่วนอยู่กับการเก็บหนังสือ ก็ได้มีมือของใครอีกคนยื่นเข้ามาหาเธอ ดวงตาสีครามเหลือบมองเจ้าของน้ำเสียงอันคุ้นเคยก็พบว่าเป็นเชอร์ลิลที่กำลังส่งยิ้มบางๆให้กับเธอในเชิงบอกให้จับมือลุกขึ้น

"ไม่...เราไม่เป็นไร" น้ำเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าของเพื่อนสนิทสองคน ทั้งเชอร์ลิลและลิต้าช่วยกันเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าและส่งมันคืนให้กับยูริ

"หรอ..งั้นก็เข้าไปข้างในเถอะ" เป็นลิต้าที่กล่าวขึ้นก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน 

"มาสิยูริ..." เชอร์ลิลหันมาย้ำเสียงหนักก่อนจะก้าวตามลิต้าไปติดๆ

****

"อันนี้ของเชอร์...ส่วนอันนี้ของลิต้า"

หลังจากก้าวเข้ามานั่งในห้องเรียน ยูริก็รีบหยิบของที่เธอไปต่อคิวซื้อมาตั้งแต่ตีห้าวางลงบนโต๊ะและยื่นให้กับเพื่อนทั้งสองด้วยความเร่งรีบ ทว่าสายตานิ่งๆที่มองมายังตัวของเธอกลับเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้ว่าเพื่อนอย่างเชอร์ลิลและลิต้ากำลังคิดอะไรอยู่ สิ่งนี้ทำเอายูริรู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อยกับท่าทีที่ดูมีอะไรในใจของคนทั้งสอง ยิ่งเชอร์ลิลเหลือบมองซีสเค้กบนโต๊ะที่เธอยื่นให้และใช้มือขยับมันออกห่างจากตัวก่อนเงยหน้าขึ้นมาจ้องเธอ

"เมื่อคืนวันเกิดเชอร์...ยูริหายไปไหนมาหรอ?"

คำถามของผู้เป็นเพื่อนทำเอายูริหน้าเจื่อน ถึงแม้จะเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร แต่พอเอาเข้าจริงเชอร์ลิลกับนิ่งมากกว่าที่เธอคิดซึ่งมันทำให้เธอร้อนรนไม่ต่างกับถูกไฟเผาอยู่ในอก

"คือว่า...แม่เรามาหาที่หอพักน่ะ เราเลยต้องรีบกลับก่อน" น้ำเสียงแผ่วเบาปะปนไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นเป็นสิ่งที่ดูได้ไม่ยากว่าเธอกำลังโกหกเพื่อเอาตัวรอดจากคนตรงหน้า

"หรอ?...มันคงสำคัญกับยูริมากสินะ" คำถามปนเชือดนิ่มๆ ทำเอาฝ่ายที่ได้ยินถึงกับยืนเก็งตัวสั่นไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

"เชอร์..เราขอโทษ เราขอโทษจริงๆ"ยูริกล่าวอย่างสั่นเครือ ความรู้สึกกระอักกระอ่วนราวกับมีอะไรคับแน่นอยู่ในอกจนพูดไม่ออก ยิ่งเห็นท่าทีนิ่งๆแต่แฝงไปด้วยแววอะไรบางอย่างที่เธอเคยเห็นและหวั่นเกรงมันมาตลอด

"หืม...ขอโทษหรอ?..ลิต้าเธอว่าไง ควรให้อภัยไหม" ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนจะหันมองผู้เป็นเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ลิต้าส่ายหน้าขณะที่ยังคงจ้องมองท่าทีเก็งๆของคนผิดสาวเจ้าก็ระบายยิ้มออกมาก่อนเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายต่างจากยูริที่ร้อนรุ่มไม่ต่างอะไรกับถูกไฟสุมเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองมีความเห็นเดียวกัน

"เราเคยพูดกันแล้วไม่ใช่หรอ...ว่าไม่มีอะไร หรือว่าใครจะสำคัญเท่าเราสามคนได้..แต่ยูริทำแบบนี้ มันไม่น่ารักเลยนะ"ขณะที่กำลังนั่งเท้าคางจ้องมองยูริอยู่ไม่ห่างน้ำเสียงของเชอร์ลิลนั้นนุ่มและอ่อนหวานขึ้นทุกที ทว่ามันกลับเปรียบเสมือนใบมีดที่ทิ่มแทงทะลุเข้ามาในจิตใจของยูริ เธอนั้นหวาดกลัวต่อท่าทีเจ้าเล่ห์นี้เป็นอันมาก

"เชอร์..ยกโทษให้เราเถอะนะ เชอร์อยากให้เราทำอะไรเชอร์บอกมาเลย" ยูริรู้ดีว่าในตอนนี้เชอร์ลิลกับลิต้ามองเธอเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่สามารถหาข้อแก้ตัวไหนๆได้ นอกจากก้มหัวขอร้องให้เชอร์ลิลนั้นยกโทษให้

"ยูริก็รู้ สิ่งที่เชอร์อยากให้ยูริทำมันจบตั้งแต่ที่ยูริหายไปจากงานแล้วล่ะ" ยิ่งได้ยินอย่างนี้ยูริก็ยิ่งหมดทางออกขาของเธออ่อนจนแทบจะยืนไม่ไหว เธอรู้ว่าชีวิตต่อจากนี้มันจะดำเนินไปด้วยความยากลำบากมากกว่าเดิมเป็นไหนๆเท่า หากเธอไม่ทำอะไรสักอย่างเธอก็จะต้องพบเจอแต่เรื่องที่โหดร้ายมากขึ้นในชีวิต ในตอนนี้ทางออกของเธอมีแค่ทางเดียวคือการขอร้องเชอร์ลิลให้ยกโทษให้ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปมากกว่านี้

"พอจะมีอะไรให้เราทำไถ่โทษได้ไหม" คำพูดของเธอเป็นสิ่งที่ดูจะเห็นแก่ตัวเอามากๆสิ่งนี้เธอรู้ดีเพราะมันอาดจะไปทำร้ายชีวิตของใครบางคนได้ ทว่าในตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกใดๆอีกแล้วเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเสียก่อนทุกอย่างจะจบ

"เห้อ..ไม่มีหรอกนะ ก็ไอ้สิ่งที่ต้องการจากตัวเธอมันหายไปแล้วนี่" ลิต้ากล่าวแทรกขึ้นขณะที่กำลังเอนกายพิงเก้ากี้อย่างเบื่อหน่าย 

ยูริสลดลง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นสองมือเย็นเฉียบ ไม่คิดว่าชีวิตของเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่ไม่รู้จะทำยังไง จะเดินต่อไปก็ไม่ไหวจะถอยก็ไม่ทันแล้วทุกๆอย่างมันบีบรัดเธอไปเสียหมด หรือเธอต้องยอมนอนกับชาร์ล เธอถึงจะไม่ต้องมาหนักใจอย่างนี้ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนมันก็ไม่ต่างอะไรกับการข้าตัวตายอยู่ดี

"นั่น!"

เสียงของเชอร์ลิลทำให้ยูริหลุดออกจากภวังค์ความคิดไปเสียดื้อๆ เธอหันมองไปตามสายตาของเชอร์ลิลที่กำลังจ้องมองหญิงสาวที่ไม่คุ้นหน้า

"อะไรหรอ"

"สิ่งที่เชอร์ต้องการยังไงล่ะ...คิดว่ายูริทำให้เชอร์ได้ไหม" เชอร์ลิลตาโตเมื่อพูดถึงหญิงสาว เธอคือนักเรียนใหม่ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาในชั้นเรียนนี้ ความจริงโรงเรียนแห่งนี้แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปตรงที่ระดับชั้นของนักเรียนจะไม่ได้มีเกณฑ์อายุเป็นตัวตัดสิน แต่จะแบ่งตามระดับความรู้และประสบการณ์ในการเรียนโดยจะเลือกจากการสอบและเก็บคะแนนดสริมจากกิจกรรมต่างๆเป็นหลัก เพราะฉะนั้นการที่อยู่ชั้นเรียนเดียวกันอายุอาดต่างกันมากๆก็มี ซึ่งเธอคนนี้ดูจะยังเด็กมากกว่าพวกเธออยู่ไม่น้อย

"เชอร์คือว่า.." เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะยังเด็กยูริจึงมีอาการเก้อๆกังๆและลำบากใจเอามากๆ

"ถ้ายูริทำให้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรนะ เชอร์ไม่ได้บังคับยูริหรอก...ออกจะใจดีซะด้วยซ้ำ" น้ำเสียงของเชอร์ลิลเข้มขึ้นพร้อมกับสายตานิ่งๆ ยูริสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจชัดเจนบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้และนี่ก็อาดจะเป็นทางเลือกสุดท้าย ถึงแม้จะลำบากใจมากเพียงใดแต่โอกาสครั้งสุดท้ายก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ยูริได้แต่เงียบไปสักพักพลันหลับตาสูตรหายใจเข้าเพื่อรวบรวมสติ

"ได้...เดี๋ยวเราทำให้" ความกระอักกระอ่วนในน้ำเสียงของคนที่ไม่เต็มใจ ทำให้เชอร์ลิลเผยยิ้มกับคำตอบอันน่าพึงพอใจนี้เธอไม่สนว่าใครจะคิดยังไง แต่การที่ยูริทำให้เธอพลาดนั้นเป็นสิ่งที่เชอร์ลิลหัวเสียอยู่ไม่น้อยคงไม่มีอะไรมาทดแทนได้นอกจากเด็กใหม่คนนี้

"งั้นก็จัดการตอนนี้เลยสิ...ยูริก็รู้ดชอร์เกลียดการรอคอย"

คิยูริมองไปยังเด็กใหม่ที่กำลังยืนยิ้มพูดคุยหัวเราะกับนักเรียนคนอื่นๆในห้อง ระหว่างขาสองข้างค่อยๆก้าวอย่างเชื่องช้า เธอมีความคิดถกเถียงอยู่ในหัวไม่หยุด สิ่งนี้มันได้สร้างความลังเลใจให้กับสาวเจ้าเป็นอันมาก กว่าผลจะสรุปออกมาเธอก็เผลอจ้องหน้าเด็กใหม่จนถูกสังเกตเห็นเข้าอย่างจัง

"เธอ..มีอะไรรึป่าว เห็นจ้องเราซะนานเลย" ไม่รอช้าหญิงสาวเดินตรงเข้ามาหายูริที่ยืนนิ่งด้วยอาการตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

"ไม่มีอะไรหรอก เห็นว่าเธอเข้ามาใหม่ก็เลยอยากชวนมาร่วมกลุ่มด้วย" เป็นเชอร์ลิลที่พูดขึ้นก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินตรงเข้ามาหาคนทั้งสอง

"แต่ยูริขี้อายไปหน่อยน่ะ เลยไม่กล้าเข้าไปชวน" เชอร์ลิลกล่าวด้วยยิ้มบางๆขณะเหลือบมองยูริ

"ไม่เห็นมีอะไรต้องอายเลย เราเองเป็นเด็กใหม่ก็ยังไม่ค่อยรู้จักคนเยอะเท่าไหร่"

"ถ้างั้น...สนใจมาร่วมกลุ่มกับพวกเราไหมล่ะ"เชอร์ลิลรีบกล่าวชวน

"ได้สิ...ถ้าพวกเธอไม่รังเกียจนะ"สาวเจ้าเผยยิ้มเล็กๆเมื่อถูกชักชวน หลังจากที่ย้ายมาวันแรกเธอเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนอะไรนักเป็นการดีเสียด้วยซ้ำที่มีคนเข้ามาชวนอย่างนี้

"รังเกียจอะไรกันล่ะ..พวกเราสามคนน่ะอยู่กันแบบครอบครัว ถ้ามีสมาชิกเข้ามาเพิ่มอีกคนยิ่งดีเข้าไปใหญ่"เชอร์ลิลกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายมานั่งคุยกัน

"ขอบคุณนะ...พวกเธอใจดีจัง" บอลนิเบลกล่าวขอบคุณเพื่อนทั้งสามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ท่าทีตื่นเต้นดีใจนั้น นับเป็นสิ่งที่ทำให้ยูริคิดหนักและลำบากใจมากกว่าเดิมเป็นไหนๆ

*****

17:21

"ยูริ!"

เสียงเรียกจากน้ำเสียงหวานๆของคนที่กำลังวิ่งเตร่เข้ามาทำเอาสาวเจ้าถึงกับหยุดสงักไป ยูริหันมองผู้เป็นเจ้าของเสียงก็พบกับบอลนิเบลที่ยืนหอบอยู่ตรงหน้าจากอาการเหนื่อยเพราะวิ่งตามเธอแต่ก็ไม่วายที่จะส่งยิ้มมาให้

"ยูริยังไม่กลับอีกหรอ เห็นว่าเชอร์ลิลกับลิต้ากลับไปแล้วนี่...แล้วนั่นในมือคืออะไรหรอ"บอลนิเบลเอียงคอมองอย่างสงสัย

"รายงานของเชอร์ลิลกับลิต้าน่ะ..เราต้องเอาไปส่งให้อาจารย์"

"ใช่อันที่ยูริ นั่งทำทั้งวันป่ะ"

ยูริเงียบไป

"เอ๊ะ!ถ้านี่คือของเชอร์ลิลกับลิต้า ทำไมเขาไม่ทำเองล่ะ ทำไมให้ยูริทำให้คนเดียวหมดเลย" สายตาของบอลนิเบลมองยูริอย่างจับผิดและคาดคั้นในคำตอบ

"เรื่องแค่นี้เอง อะไรทำแทนได้ก็ทำ เราไม่ติดอะไรหรอก"

"งั้นหรอ?...พวกเธอสามคนดูจะรักกันดีจังเลยนะ"

คำพูดปนแซวของบอลนิเบลทำเอายูรินิ่งเงียบไป 

"มา เดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อน" บอลนิเบลคว้าแขนข้างหนึ่งของยูริเอาไว้

"ไม่เป็นไร เธอกลับเถอะ"

"จะกลับได้ยังไงกันล่ะ คนขับรถเรายังไม่มาเลย" บอลนิเบลกล่าวด้วยน้ำเสียงงอนๆเล็กน้อย แต่ก็ยังคงยืนยันในคำเดิม เธออยากจะเดินไปเป็นเพื่อนยูริ

"ให้เราไปเป็นเพื่อนเถอะนะ มาเดี๋ยวเราช่วยถือ" ว่าจบบอลนิเบล ก็แย่งเอารายงานในมือของยูริไปถือ

"ไม่ ไม่เป็นไร!" ยูริรีบปฏิเสธด้วยความตกใจ

"แค่นี้เอง...ยูริจะหวงอะไรนักหนา ให้เราช่วยเถอะนะ" บอลนิเบลยกรายงานในมือขึ้น ไม่ให้ยูริเอาคืนไปได้ เมื่อยูริพยายามจะแย่งกลับคืนมา สาวเจ้าก็เดินถอยออกห่างจนไปชนเข้ากับใครอีกคนที่กำลังเดินมาจนอีกฝ่ายล้มลงไป

"เห้ย!เธอ เป็นอะไรรึป่าว เราขอโทษนะเราไม่ทันเห็น" บอลนิเบลรีบเข้าไปพยุงตัวอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น

"ไม่เป็นไร"หญิงสาวลุกขึ้นมาโดยมีบอลนิเบลช่วยพยุง เธอยังไม่ได้พูดอะไร ทันทีที่สายตาเหลือบเห็นยูริที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอก็มีสีหน้าซีดเผือดด้วยอาการตกใจ รีบสลัดมือออกจากบอลนิเบลและวิ่งหนีไป

"ทำไมรีบขนาดนั้นกันนะ?" บอลนิเบลบ่นอุบอย่างไม่เข้าใจเหตุใดหญิงสาวถึงมีท่าทีที่ดูตกใจและหวาดกลัวราวกับเห็นผีเช่นนี้

"เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม"

"คนเมื่อกี้...ยูริรู้จักไหม" เมื่อความสงสัยแว็บเข้ามาในหัวเธอก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามแก่บุคคลที่สาวเจ้าแสดงอาการออกมาชัดเจนว่ากลัวแค่ไหน

"ไม่"

"ทำไมเค้าถึงดูกลัวๆตอนเห็นยูริล่ะ"

"เราก็ไม่รู้..."ยูริส่ายหน้าขณะที่ยื่นมือหยิบบทรายงานจากบอลนิเบล

"เธอกลับไปเถอะนะบอลนิเบล...เราทำเองได้"

กล่าวจบยูริก็ทำท่าจะเดินจากไปทว่ามันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกน้อยใจขึ้นมากับท่าทีที่ดูเย็นชาของเธอ

"ยูริไม่ชอบเราหรอ" คำถามชวนงงทำเอายูริหยุดสงักไป

"เราขอโทษนะ..ถ้าทำอะไรให้ยูริไม่ชอบ เราก็แค่อยากสนิทกับยูริให้มากกว่านี้ เพราะเห็นยูริเงียบๆไม่ค่อยพูดอะไรเหมือนสองคนนั้นเลย"

ยูริถอนหายใจทอดยาว ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้สาวเจ้าตั้งคำถามแบบนี้ หรือเป็นเพราะตัวของเธอเองที่ทำตัวตามปกติจนมันทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดไป

"ทำไมถึงคิดอย่างนั้น...ทำไมถึงคิดว่าเราไม่ชอบเธอ" ยูริหันกลับมาตั้งคำถาม เธอเลิ่กคิ้วขึ้นสูงอย่างสงสัย มองเห็นสีหน้าไม่สบายใจของอีกฝ่ายยูริก็เข้าใจได้ในทันที เป็นเพราะตัวของเธอเอง ที่ทำให้บอลนิเบลเข้าใจอย่างนี้

"ก็..."

"เราไม่ได้ไม่ชอบเธอ...เราแค่เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ขอโทษนะถ้าทำให้เธอคิดอย่างนั้น"

*****

นางเอกของเราค่อนข้างเป็นคนนิ่งๆเงียบๆไม่ค่อยพูด แอบชาเย็นนิดหน่อยค่ะ...ยังไงก็ฝากติดตาม กดlikeแล้วก็คอมเมนท์เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ._.

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!