ขี้เหล่กว่าเดิมจริงเหรอ?

"กลับยังไง"

"ร..รถเมล์ไง"

ปกติกูก็กลับแบบนี้ทุกวัน

"เดี๋ยวไปส่ง"

ไม่สบายเหรอ เก่งอยากถามแต่คิดอีกทีไม่ถามดีกว่าเดี๋ยวโดนเขกกะโหลก ร่างสูงเดินกอดคอเขาไปทางโรงรถ ไม่ได้จะฆ่าอำพรางศพเขาตรงนี้ใช่ไหมวะ? เมื่อกี้นี้ระหว่างเขากับข้าวโพดก็น่าเข้าใจผิดอยู่หรอก ทว่ารอให้ท่าทางเรียบนิ่งนั่นแสดงความต้องการหรือจุดประสงค์ออกมามากเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีมันก็ผ่านมาถึงตอนที่เขาคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์

"ใส่นี่ด้วย"

เสียงเข้มว่าพลางก็สวมหมวกกันน็อคลงบนหัวให้เขา ทำเอาแว่นตาถูกเกี่ยวตกลงมาด้วยก่อนตามมาด้วยเสียงเหยียบติดๆ กัน ด้วยความสายตาสั้นเขาจึงมองไม่เห็นหน้าของคนที่น่าจะเหยียบแว่นเขาไปแล้ว ที่บ้านมีสำรองอยู่อันหนึ่งแต่จะเดินเข้าบ้านได้ก็คงต้องไถตาเดินแทนเท้า

พลันรู้สึกได้ว่าอีกคนนิ่งเงียบกว่าปกติสิ่งที่เห็นเลือนรางคือสีหน้าที่เหมือนกำลังอึ้งบางอย่างของอีกฝ่าย ตกใจที่ทำแว่นเขาแตกเหรอ เก่งคิดได้ดังนั้นจึงยิ้มบางเบา

"ไม่เป็นไรๆ ยังมีสำรองอีกอันที่บ้านไปส่งให้ถึงก็พอ"

ภูมิดึงสติจากใบหน้าที่ไร้แว่นตาหนาเตอะ ไม่รู้มาก่อนว่าแว่นเพียงอันเดียวจะสามารถทำให้ออร่าความดูดีของคนๆ หนึ่งลดลงได้ขนาดนี้ มือแกร่งยกขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองอย่างเรียกสติ เขาคงต้องบ้าไปแล้วหากรู้สึกว่าเก่งหน้าตาน่ารักยิ่งกว่าน้องสาวเขาเสียอีก

"มีใครบอกไหมว่าตอนมึงถอดแว่น.."

"หื้ม?" หัวใจในอกซ้ายเต้นแรงขึ้นอย่างคาดหวัง ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกไหวหวั่นไปกับท่าทางที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปของภูมิ ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดถัดมาใจที่พองโตก็เหมือนลูกโป่งที่ค่อยๆ ถูกปล่อยลมจนแฟบ

"ขี้เหร่กว่าเดิม"

บ้าเอ้ยเก่ง ดันเผลอคาดหวังอะไรก็ไม่รู้ออกมาจนได้ การที่คิดว่าจะได้คำชมจากปากของอีกคนน่ะมันยังเร็วไปร้อยปี! เก่งยิ้มทั้งน้ำตา หัวเราะเหมือนคนบ้าแล้วเร่งให้ร่างสูงรีบๆ พาเขาไปส่งบ้าน ระหว่างที่ออกรถเขาตกใจจนเผลอเกาะเอวไป มือสัมผัสโดนกล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งปึก แต่นั้นก็เพียงวิเดียวเขาก็รีบชักมือกลับราวกับรังเกียจ

"จะจับก็ได้"

"ม..ไม่เป็นไร"

กูกลัวโดนมึงกัด

"รังเกียจรึไง"

รังเกียจบ้าอะไรโคตรจะตรงกันข้ามเลยต่างหากล่ะเว้ย! เก่งพลันต้องกระแอมไอแก้เก้อกับความคิดในหัวที่เกือบโพล่งออกไป

"ไม่ได้รังเกียจสักหน่อย"

ภูมิมองท่าทางอึกอักของร่างบางผ่านกระจกรถ อยากจะหัวเราะให้ฟันหลุดเมื่อเขาจับมือที่บางกว่าให้กอดเอวเขาไว้ เก่งดิ้นเหมือนโดนของร้อนแต่เพราะเขารั้งไว้จึงดึงไม่ออก

"นั่งดีๆ ดิกูขับมือเดียวอยู่ไม่เห็นหรือไง"

"อันตรายนะ ฮื่อยังเร็วเกินไปที่จะตาย" คนฟังถอนหายใจถ้าไม่ใช่เพราะขับแค่ในซอยเขาคงไม่ทำหรอก แต่แกล้งแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน จนกระทั่งถึงบ้านที่เขาเคยมาไม่บ่อยนัก หน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่สองต้น ไม่รู้ว่าต้นอะไรแต่อีกต้นหนึ่งรู้ว่าเป็นต้นมะม่วง

ร่างบางลงจากรถไม่วายงงว่าอีกคนลงมาด้วยทำไม จะพาเขาไปส่งที่ประตูบ้านใช่ไหม แต่เพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมากลับบอกให้เก่งทิ้งความคิดนั้นลงถังขยะซะ และเมื่อได้ยินเสียงใบไม้เสียดสีกันเขาก็รู้ได้ทันที ถ้าแม่รู้ว่าเขาพาโจรขโมยมะม่วงมาถึงบ้านจะต้องโดนตีตูดลายแน่ๆ 

เก่งพยายามไม่สนใจแล้วโฟกัสกับทางเข้าบ้านแทน ไม่เคยเกิดมาแล้วน้อยใจเรื่องที่ตัวเองสายตาสั้นขนาดนี้มาก่อนเลยฮื่อๆ โอ๊ะ..ตอนนี้มือโดนประตูรั้วแล้ว ถึงจะเลือนลางขนาดไหนแต่เขาจำได้ว่าอะไรเป็นอะไรจนสามารถเปิดรั้วได้ ขณะเดียวกันเสียงใบไม้ก็หยุดลงก่อนเรียวมือของเก่งจะถูกกุมไว้ ไม่ทันได้พูดอะไรร่างสูงใหญ่ก็เดินนำหน้าโดยมือของเรากำลังจับจูงกัน

มันอาจจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับใครบางคน

ทว่าไม่รู้ทำไมสัมผัสที่แลดูอ่อนโยนถึงยังติดตรึงอยู่บนฝ่ามือ เหม่อมองนานเสียจนคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นบ้าไปแล้ว

หลังจากวันนั้นไม่นาน

เก่งก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!