คนโดนตวาดใส่ทำหน้านิ่งราวกับรู้อะไรในใจแต่ไม่พูดออกมา ก่อนจะเบือนหน้าหลบเขาเหมือนงอน
นี่มึงงอนคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดได้ยังไง!?
"อะไร? ทะเลาะไรกัน"
เป็นคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ ข้าวโพดทำหน้าไม่เข้าใจแล้วก็ดึงเก่งให้เดินออกมา เพื่อนสนิทมีขนาดตัวไม่ต่างกันมาก จะต่างก็แค่บุคลิกที่ดูไม่เข้ากันสุดๆ แต่สิ่งที่ทั้งสองคนมีเหมือนกันคือความไม่สนโลก ไม่สนว่าคนอื่นจะชอบหรือเกลียด ไม่สนว่าฝนตกหรือแดดออก เพราะถ้าเราอยู่ด้วยกันแล้วก็เหมือนกับจะไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้น
"เมื่อกี้คนก็ไม่เยอะนะแต่พอถามว่าใครเห็นตัวคนทำไหมก็ไม่มีใครตอบว่าเห็นเลยสักคน"
"ช่างมันเถอะน่า" เก่งว่าอย่างเหนื่อยหน่ายกับเรื่องประมาณนี้เต็มทน บางทีก็คิดว่าถ้าเลิกคบกับข้าวโพดไปเลยจะยังมีคนคอยแกล้งเขาอยู่หรือเปล่า แต่เขาทำกับเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ในยามนี้ไม่ลง ทุกครั้งที่ให้ใจเพื่อนคนนี้ไปเต็มร้อยเขาก็มักจะได้กลับมาเกินร้อยเสมอ
"ช่างมันไม่ได้นะเว้ย ถ้าสมมุติเมื่อกี้ไม่ใช่พื้นแต่เป็นบันได มึงไม่คอหักตายเป็นผีเฝ้าโรงเรียนไปแล้วรึไง"
เก่งหน้าเจื่อนทันที
"แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดจะได้รู้ด้วยไงว่าใครคบได้คบไม่ได้"
"เฮ้ออจนตอนนี้ก็จะเป็นหมาหัวเน่าอยู่แล้วอะนะ มึงเห็นสายตายัยพวกน้ำหวานตอนมองกูที่สระหรือยัง อย่างกับงูเห่าจ้องจะฉกนมกูให้แฟบ"
"ฉกแล้วแฟบจริงก็ดีกูรำคาญ"
"แล้วมึงคิดว่ากูไม่รำคาญนมตัวเองเหรอ กูสิบแปดขวบเองนะแต่ทำไมมันตู้มเหมือนแม่ลูกสามเลยวะ!?" น้ำเสียงอันอัดอั้นระคนหงุดหงิดของข้าวโพดทำให้เขาต้องปิดหูตัวเอง เราไม่ได้พยายามหาทางแก้เรื่องที่ถูกแบนและกลายเป็นหมาหัวเน่าของห้อง เพราะคิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่แรก พวกเพี้ยนพวกนั้นต่างหากที่ต้องคิดได้แล้วว่าเป็นเหี้ยอะไรกันอยู่
"เย็นนี้ไปติวสอบคณิตที่ห้องกูป่ะ?"
"กูให้มึงพูดใหม่" เก่งว่าพร้อมกับหรี่ตา
"ติวคณิตศาสตร์ให้ดิฉันหน่อยนะคะคุณเก่ง เก่งสมชื่อจริงๆ สอบได้ที่หนึ่งในห้องทุกปีเลย" คนถูกยอไม่คิดจะอ่อนน้อมถ่อมตนพลางยิ้มมุมปากเท่ๆ แล้วพูดเสียงหล่อ
"ได้เลย เทอมนี้กูจะแบกมึงให้ติดท็อปห้องไปด้วยกัน"
"กรี๊ดเท่จังเลยค่า" ข้าวโพดแสร้งดี๊ด๊าก่อนเราสองคนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน
"ภูมิ"
"..."
"ไอ้ภูมิ!"
ร่างสูงเจ้าของชื่อเรียกหลุดจากภวังค์ เขาละสายตาจากบันไดที่ตรงไปยังห้องของคนเป็นน้องกลับมาจ้องหน้าเพื่อนที่ยามนี้กำลังหงุดหงิดเพราะเขาเหม่อคิดเรื่องอื่นไม่หยุด
"กูมาติวให้ฟรีแล้วยังจะนั่งเหม่ออีก"
มันบ่นแต่เขาไม่สนแล้วก้มหน้าก้มตาจดโน้ตสั้นต่อ เพรชสอนต่างจากอีกคน..
"ทำหน้าเหมือนปวดขี้อีกแล้ว ถ้ามึงไม่อยากติวกับกูก็บอกมาตรงๆ รู้งี้ติวกับสาวดีกว่าเผื่อได้ติ้วให้ด้วย" เสียงของเพชรไม่ดังไม่เบา มันกล้าพูดเพราะทุกคนในบ้านไม่อยู่เหลือเพียงข้าวโพดและไอ้สี่ตาที่ก็มาติวเหมือนกัน อยู่ในห้องกันสองต่อสองจะมาติวหรือติ้วกั-
"แม่ง!!"
เพชรสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ เพื่อนที่ไม่ค่อยเต็มบาทของตัวเองก็ลุกขึ้นพรวดพร้อมกับสบถออกมา
"เฮ้ยภูมิมึงเป็นไรเนี่ย?"
"กูไม่ติวแล้วไม่มีสมาธิ!"
"ก็ไม่เห็นต้องทำหน้าเหมือนจะแดกหัวใครแบบนั้นเลย" เพชรว่าอย่างหน่ายใจพลางขยับมือหยิบข้าวของของตัวเองลงกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน ทว่าก็ไปไหนไม่ได้ไกลเมื่อพอจะรู้ถึงสาเหตุที่อีกคนไม่มีสมาธิ ภูมิมักจะไม่รู้ตัวว่าจริงๆ ตัวเองต้องการอะไรกันแน่
"เปลี่ยนจากห้องนั่งเล่นไปห้องมึงดีไหม?" บ้านนี้เป็นครอบครัวใหญ่ ห้องมันที่ว่าก็ติดกับห้องลูกพี่ลูกน้องที่เรียนห้องเดียวกันกับเขาชื่อข้าวโพด สวยน่ามองตั้งแต่หัวจรดเท้าขนาดนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะห่วง แต่แปลกตรงที่...
...เขาไม่ได้รู้สึกว่าภูมิมันหวงน้องจริงๆ เนี่ยแหละ...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments