Princess Syndrome
รถหรูราคาหลายร้อยล้านถูกจอดที่หน้าอาคารประถมในโรงเรียนชื่อดังระดับโลกผู้ปกครองนักเรียนบอดิการ์ดและครูที่อยู่แถวนั้นก็ต่างชำเลืองมองรถคันนั้นเหมือนอยากรู้ว่าใครคือลูกหลานของเจ้าของรถสุดหรูที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้คันนี้
...ตึก...
เสียงรองเท้ากระทบพื้นเบา ๆ ปรากฏให้เห็นเด็กสาว(?)ในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนและสีผมและสีตาที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้คนที่จ้องมองต่างก็หันกลับไปอย่างรวดเร็วอย่างเกรงกลัวยกเว้นเด็กบางคนที่ไม่รู้จัก
.
วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกหลังปิดเทอมยาวทำให้มีเด็กใหม่มากหน้าหลายตาและดูวุ่นวายมากเลยทีเดียวเพราะส่วนใหญ่นั้นหาห้องเรียนไม่เจอ
"เห้อ. .รู้งี้น่าจะมาช่วงบ่ายดีกว่า. ." เอลลี่ที่พึมพำกับตัวเองได้สักพักก็รู้สึกถึงบางอย่างแข็ง ๆ นุ่ม ๆ ที่หน้าอกจึงก้มหน้าดู
"!!? ขะ-ขอโทษคับ!!" เด็กหนุ่มที่รํ้ตัวก็รีบย้ายหน้าออกจากหน้าอกแสนนุ่มนิ่มทันที
"ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจล่ะ" เอลลี่ที่ตกใจสักพักก็ถามกับคนตรงหน้าทันที
"ผะ-ผมโดนสกัดขาเลยเป็นแบบนั้น. .แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะ!!" เพราะเป็นเด็กทุนจึงหวาดระแหวงคนตรงหน้าที่ดูสูงศักดิ์จนเอี้ยมไม่ถึง
"คิก ๆ ๆ! สมน้ำหน้าเว้ย~!" เด็กร่างอ้วนท้วนหัวเราะเสียงดังกับเด็กทุนที่ท่าทีลนลานแบบนั้น
"มันใช่เรื่องเหรอไงห่ะ ถ้าเกิดชั้นสกัดขาให้หน้าบางคนไปชนกับช้างน้อยของนายน่ะ" เอลลี่กอดอกมองกลุ่มเด็กชนชั้นสูงก่อนจะกดสายตาต่ำลง
"อะไร!? แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ทำเป็นรักนวนสงวนตัวไปได้" เด็กอ้วนกอดอกพูดจบก็หันไปหัวเราะกับกลุ่มเพื่อนด้านหลัง
"เหอะ. .ไอ่อ้วนช้างน้อย" พูดจบเอลลี่ก็เลิกสนใจและหันไปมองแผ่นบอร์ดขนาดใหญ่ที่มีกระดาษแผ่นใหญ่ติดอยู่
"ยัยนี้! เมื่อกี้พูดว่าไงนะ!?" เด็กอ้วนเดินตรงดิ่งไปหาเอลลี่และง้างมือจะกระชากผมแต่โดนเด็กทุนมาบังไว้ซ่ะก่อน
"หลบไป! ชั้นมีธุระกับยัยนั้นไม่ใช่แก!!" เด็กอ้วนง้างสุดแขนและต่อยไปที่หน้าเด็กทุนเต็ม ๆ
"เด็กชายวินสันหยุดเดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่ง!!"
ครูที่ได้รับแจ้งมาว่าที่ชั้นหนึ่งของอาคารประถมเกิดเหตุเทลาะวิวาทเกิดขึ้นจึงรีบมาแต่ก็สายไปเสียแล้ว
.
"อึก. .อือ ?" เด็กทุนที่ได้สติก็ตื่นขึ้นพร้อมกับคนที่กำลังอ่านอ่านสือข้างเตียง
"อ่า ก็ยังไม่ตายนี้หลับซ่ะนานเลยนะฮีโร่ตัวจิ๋ว" เอลลี่ที่ได้ยินเสียงเด็กชายบนเตียงก็เลิกสนใจหนังสือและมองคนบนเตียง
"นายคงไม่ถามว่าที่นี่คือที่ไหนเหมือนละครน้ำเน่าหลอกนะดูออกง่ายขนาดนี้" พูดจบเอลลี่ก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดลิ่มเลือดตรงปลายจมูกของเด็กทุน
"เธอ. .ไม่ไปเรียนเหรอ ?" เด็กทุนถามด้วยความสงสัยและคำถามที่มีอยู่ในหัวมากมาย
"วันแรกให้มาทำความคุ้นเคยกับโรงเรียนคุณครูและเพื่อนใหม่น่ะ" พูดจบก็พับผ้าเช็ดหน้าและกำลังจะเก็บใส่กระเป๋า
"ดะ-เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวผมเอาผ้านั้นไปซักให้" เด็กทุนพูดอย่างลนลานเพราะผ้าเช็ดหน้าสีขาวอมชมพูนั้นมีเลือดเค้าติดอยู่
"ชั้นจะเอาไปทิ้งไม่ได้เอาไปซักสักหน่อย" เอลลี่ตอบด้วยความมึนงงแต่ก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้อักฝ่ายอยู่ดี
"ละ-แล้วเธอชื่อ. ."
"เอลลี่ เรียกว่าเอลก็ได้นายล่ะ"
"อเล็กซ์. .มีชื่อสั้น ๆ ว่าเอลเหมือนกัน. ."
อเล็กซ์พูดด้วยท่าทีเขินอายเพราะชื่อดันตรงกัน
"อือ ยินดีที่ได้รู้จักเอล" เอลลี่ยิ้มอ่อนก่อนจะจับมืออเล็กซ์ขึ้นมา
"ยะ-ยินดีที่ได้รู้จักคับเอลลี่. ." อเล็กซ์พูดอย่างไม่มั่นใจและเขินอาย
"เอลเรียกชั้นว่าเอล" เอลลี่พูดจบก็วางมืออเล็กซ์ลงและชักมือกลับ
"เอ๊ะ. .งั้นชื่อก็ซ้ำกันสิคับ!" อเล็กซ์ตอบอย่างลนลานและคิดว่าเด็กทุนไม่มีเงินอย่างเขาจะมาใช้ชื่อเดียวกันกับคุณหนูผู้สูงศักดิ์ได้อย่างไร
"แบบนี้แหละน่ารักดี"
.......
...หลายสัปดาห์ผ่านไป...
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอเล็กซ์ที่ได้เอลลี่เป็นเพื่อนก็เป็นมุมใหม่ ๆ จองกันและกันและสนิทกันง่าย ๆ เพราะชอบอะไรหลาย ๆอย่างเหมือนกัน
"เอลไปกินข้าวกันหิว~" อย่างแรกคือเอลที่รู้จักกันแรก ๆ เหมือนคุณหนูผู้สูงศักดิ์แต่พอนาน ๆ เข้านิสัยกลับปกติเหมือนคนมีพอกินพอใช้ไม่เหมือนลูกคุณหนูสักนิด
"อืม รอแป๊บนะ" พูดจบอเล็กซ์ก็กวาดของบนโต๊ะลงกระเป๋าก่อนจะวางบนเก้าอี้และเดินตามเอลลี่ไปอย่างที่ 2 เอลลี่เป็นคนติดสกินชิพมาก็ช่วงแรก ๆ ที่รู้จักกันก็ตกใจมากเพราะจู่ ๆ ก็มาจับมือกอดแขนกอดคอกระโดดเข้าหลังแต่พอเอลลี่บอกว่าเธอเป็นคนติดสกินชิพก็โล่งไปเปลาะหนึ่ง
อย่างที่ 3 เอลลี่เป็นลูกคุณหนูติดดิน อย่างที่ได้อ่านที่ได้รู้เพราะวันก่อนผมพา
เอลลี่ไปเดินตลาดคนเดินหลังเลิกเรียนแล้วเห็นได้ชัดว่าเอลลี่ชอบอาหารข้าทางมากกว่าอาการในภัตตาคารหรูเสียอีก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments