กรงรักเจ้าพ่อมาเฟีย
...บทที่1 งานเลี้ยงนองเลือด...
เสียงดังโหวกเหวกของคนรับใช้หลายร้อยชีวิตที่กำลังวุ่นวายกับการจัดสถานที่ภายในคฤหาสน์สุดหรูอย่างเร่งรีบเพื่อที่จะเสร็จให้ทันก่อนงานเริ่ม โดยมีหัวหน้าแม่บ้านคอยชี้นิ้วสั่งการอยู่ ทุกคนต่างก็ทำงานที่ได้รับมอบหมาย คฤหาสน์แมนเซียถูกเหล่าคนรับใช้เนรมิตรขึ้นจนกลายเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงที่ดูหรูหรายิ่งขึ้น ภายในงานตกแต่งด้วยวัสดุราคาแพง พร้อมกับอาหารมื้อค่ำสำหรับแขกที่มากมายหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารอิตาเลียนหรือแม้แต่อาหารไทยที่เชฟหลายสิบคนรังสรรค์เมนูขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน ด้านนอกตัวคฤหาสน์มีบอดี้การ์ดวางกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา กระจายรอบๆไม่เว้นแม้แต่ด้านหน้าเอง
“เร่งมือกว่านี้หน่อย..เดี๋ยวคุณหญิงก็จะออกมาตรวจแล้ว”เสียงหัวหน้าแม่บ้านตะโกนเร่งให้เหล่าคนรับใช้ที่กำลังจัดซุ้มอยู่ให้รีบเร่งมือเข้าเพราะเดี๋ยวคุณหญิงของบ้านก็จะออกมาดูสถานที่ ซึ่งเธอนั้นเข้มงวดเป็นอย่างมากยิ่งถ้ามีงานสำคัญแบบนี้เธอจะยิ่งเข้มงวดเป็นพิเศษ
“หัวหน้าแม่บ้านคะดอกไม้ที่ใช้จัดซุ้มไม่พอค่ะ”สาวใช้นางหนึ่งวิ่งหน้าตั้งเข้ามาบอก
“วาไงนะ!!ไหนบอกว่าพอแน่นอนยังไงล่ะ”แม่บ้านเบิกตาโตอีกไม่กี่ชั่วโมงงานเลี้ยงก็จะเริ่มแล้ว
“พอดีว่าคนส่งดอกไม้คนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางมาที่นี่ค่ะจึงทำให้ล่าช้า”
“โอ๊ย…นี่โทรไปถามร้านดอกไม้หรือยังว้าจะมาส่งให้เมื่อไหร่”
หัวหน้าแม่บ้านกุมขมับ
“ทางร้านบอกว่าให้มารับเองค่ะเพราะคนส่งบาดเจ็บหนักจึงไม่สามารถมาส่งให้เราได้”
“งั้นไปเรียกบอดี้การ์ดสักคนมาสิ”แม่บ้านเอ็ด เธอจึงรีบเดินหายไปทันทีไม่กี่นาทีสาวใช้ก็เดินมาพร้อมกับบอดี้การ์ดคนหนึ่ง สวมชุดสูทสีดำรูปร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งรับกับริมฝีปากอย่างลงตัว พระเจ้า…เธอนึกว่าเขาเป็นดาราเสียอีก หัวหน้าแม่บ้านอึ้งกับควมหล่อของบอดี้การ์ดไม่นานก็ดึงสติกลับมา
“เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่า..”บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความมเงียบของหญิงทั้งคู่
“คุณช่วยไปรับดอกไม้ที่ร้าน……ให้ทีได้ไหม”แม่บ้านเอ่ย เขาขมมวดคิ้ว
“แต่ว่าผมต้องคอยดูลาดเลา….”
“เดี๋ยวฉันจะบอกหัวหน้าบอดี้การ์ดให้”หัวหน้าแม่บ้านพูดตัดบท เขาชั่งใจอยู่สักพักจึงยอมไป
“เดี๋ยวผมไปเอารถก่อน”บอดี้การ์ดหนุ่มจึงเดินหายไปทันที เธอจึงถอนหายใจ และได้แต่ภาวนาให้เขากลับมาให้ทัน
รถยนต์สึดำสนิทแล่นไปตามถนนที่ทอดยาวสองข้างที่มีต้นไม้ที่ปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำมือหนึ่งจับพวงมาลัยและขับอย่างช้าๆส่วนมืออีกข้างเท้าคางอย่างใจเย็น ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มที่มุมปาก ราวกับพึงพอใจในบางอย่าง เขาใช้มือเรียวล้วงในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์ยกขึ้นมาแนบหูเพื่อโทรหาใครบางคน
“เตรียมมตัวให้พร้อม……”สิ้นเสียงเขาก็เก็อมือถือเข้ากระเป๋าแล้วขับรถมุ่งหน้าไปทันที
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ แขกมากมมายต่างมาร่วมงานเลี้ยงเพื่อร่วมแสดงความยินดีให้กับโฮเมิร์ส แมนเซีย เนื่องในโอกาสที่เขานั้นได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานของเครือแอลเอ็นกรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทไอทีที่ใหญ่ที่สุดในทวีป พร้อมกับยอดขายที่พุ่งขึ้นสามร้อยเท่าซึ่งทำให้เขานั้นพอใจอย่างมาก เหล่านักธุรกิจชื่อดัง นักการเมือง และนักร่วมลงทุนกับเขาต่างมาร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีแด่โฮเมิร์สมากมาย เป็นสาเหตุที่ต้องวางกำลังพลบอดี้การ์ดให้แน่นหนาเพื่ออารักขาความมปลอดภัยภายในงาน
“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่ของผมในวันนี้ ผมยังมีประสบการณ์น้อยยิ่งนักกับตำแหน่งประธานแอลเอ็นแต่ผมจะทุ่มเทแรงกายเต็มที่เพื่อบริหารแอลเอ็นกรุ๊ปให้รุ่งเรืองต่อไป เชิญทุกท่านร่วมชนแก้วและก้าวไปพร้อมๆกันกับเรา คัมปาย ” โฮเมิร์สกล่าวแล้วชูแก้วไวน์ขึ้น
“คัมปาย……”
“คัมปาย…”
“คัมปาย……”
แขกในงานต่างยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นเหนือศรีษะพร้อมกับตะโกนพร้อมกันเพื่อแสดงความยินดี
สายตาคู่หนึ่งจ้องมองเจ้าของงานที่ยืนยิ้มอยู่บนเวทีนิ่ง ดวงตาสีฟ้านน้ำทะเลที่ดูนิ่งจนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และดูน่ากลัวในบางครั้ง
“นายมาหลบอยู่ที่นี่ทำไม” เสียงใครบางคนเอ่ยขึ้นจากด้านหลังของเขาทำให้ชายหนุ่มออกจากภวังความคิดแล้วหันไปมมองต้นเสียง
“หัวหน้าวานให้ผมมาเปลี่ยนเขาเข้าห้องน้ำน่ะ”เขาพูด
“นายชื่อแอนดรูวใช่ไหม..งั้นเดี๋ยวฉันจะยืนตรงนี้แทนส่วนนายไปยืนเวรยามข้างนอกซะ”
แอนดรูวมองหน้าบอดี้การ์ดที่มาใหม่นิ่ง คนที่ถูกมองทำตัวไม่ถูกจึงรีบไล่ให้เขาออกไป
“แกจะมองหน้าหาพระแสงอะไรวะ..เชื่อฟังรุ่นพี่และทำตามซะ”รุ่นพี่ตะคอกใส่เขาอย่างหงุดหงิด แอนดรูวได้แต่กัดฟันแน่นและยอมเดินออกมาแต่โดยดี ยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลาเขายิ้มอย่างเยือกเย็น อีกไม่กี่นาทีทุกอย่างก็จะจบสิ้น
ผู้คนนที่อยู่ในงานต่างก็เพลิดเพลินไปกับการแสดงที่เจ้าของงานเลี้ยงเตรียมไว้โดยที่ไม่รู้สึกเลยว่าอันตรายกำลังเคลือบคลานเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ
สาม..
สอง..
หนึ่ง..
แป๊ก.
เสียงดีดนิ้วของใครบางคนนดังขึ้น ไฟทุกดวงดับลง เหล่าผู้คนต่างก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เหล่าบอดี้การ์ดต่างวิ่งวุ่นไปทั่วแต่ก็ไม่ทัน
ตู้ม…….....
เสียงระเบิดดังขึ้นเหล่าผู้คนนในงานต่างก็แตกตื่นรีบวิ่งหนีตายกันอย่างวุ่นวาย
ตู้ม……….ปังๆๆๆๆๆๆๆ
“กรี๊ด……”เสียงกรี๊ดร้องดัังขึ้นท่ามกลางความมืด ต่างคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ชายชุดดำหลายสิบคนสาดกระสุนใส่เหล่าบอดี้การ์ดจนล้มลง
“นายท่านรีบหนีเร็ว.”หัวหน้าบอดี้การ์ดควักปืนออกมาพะยุงผู้เป็นนายให้ลุกขึ้นแล้วออกไปจากงานเลี้ยงโดยมีบอดีการ์ดอีกสามคนคอยยิงสกัดเอาไว้
ปังๆๆๆๆ
เหล่าผู้ก่อการร้ายยังคงยิงกระสุนเก็บทุกคนที่เข้ามมาขวางเรื่อยๆโดยมีเป้าหมายคือสังหารคนของตระกูลแมมนเซียให้หมด
“กรี๊ด..คุณแม่คะเกิดอะไรขึ้น”รอเรนลูกสาวคนเล็กของตระกูลนั่งหลบอยู่หลังเวทีโดยมมีบอดี้การ์ดคอยปกป้อง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยแล้วคนพวกนั้นมันเป็นใครกันทำไมถึงกล้าบุกเข้ามาแบบนี้”โฮแอนลูกชายคนนโตกล่าว ใช้มือสองข้างปิดหู
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน……กรี๊ด……”โจแอนนายหญิงของกระกูลกรีดร้องลั่นเมื่อบอดี้การ์ดห้าคนที่คอยยิงสกัดกั้นล้มลงต่อหน้าเธอและลูกๆ เลือดไหลเป็นทางยาว
ปังๆๆๆๆๆๆ
ความทรงจำสุดท้ายก่อนที่จะสติหลุดไปคือเธอนั้นเห็นลูกทั้งสองคนของเธอถูกยิงเข้าที่ศรีษะแล้วล้มลงต่อหน้าต่อตา……
ห้องทำงานของโฮเมิร์ส
หัวหน้าบอดี้การ์พาโฮเมิร์สผู้เป็นนายเข้ามาหลบอยู่ที่ห้องทำงาน มีบอดี้การ์ดอีกสามคนยืนปกป้องอยู่ด้านนอก ทำให้เขาอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน พวกมันเป็นใครถึงกล้าบุกเข้ามาทำลายงานเลี้ยงของเขาแบบนี้……โฮเมิร์สคิดไม่ตก เขาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟารับแขก ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธและกลัวปนกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีบุคคลที่สามกำลังจ้องมองเขาในความมืดอย่างเงียบเชียบ
“ไม่คิดว่าท่านจะหนีตายมาคนเดียวแบบนี้”
"!!!"
ร่างท่วมสะดุ้งโหยงรีบหันไปมองต้นเสียงทันที แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระทบเข้ากับร่างสูงของใครบางคนนั่งไขว้ห้างอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา ทำให้มองเห็นได้ชัดเจน แอนดรูวกระตุกยิ้มเย็น หัวหน้าบอดี้การ์ดหันกระบอกปืนไปที่เขาแต่ก็ไม่ทัน เขายิงเข้ามือของบอดี้การ์ดข้างที่เหนี่ยวไกลมาที่เขาทำให้กระบอกปืนกระเด็นไปไกล
“อ๊าก……”หัวหน้าบอดี้การ์กรีดร้องเสียงดัง โฮเมิร์สก้าวถอยหลัง นึกหวาดกลัวและรักชีวิตขึ้นมา
“แกเป็นใคร…ต้องการอะไรเงินใช่ไหม”เขาก้าวถอยหลังจนหลังติดกำแพง
“นะ..ในตู้เซฟมีพันล้านเอาไปได้เลย แล้วปล่อยฉันไปเถอะ”โฮเมิร์สพูดเสียงสั่นจังหวะนี้ชีวิตของเขาต้องมาก่อนเงินน่ะค่อยหาทีหลังก็ได้
“ฮ่าๆๆๆเศษเงินแค่นี้ฉันไม่อยากได้หรอก..นี่ต่างหาก”ร่างสูงชูเอกสารซองสีน้ำตาลขึ้น โฮเมิร์สตาลุกวาวเขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าได้ซ่อนเอกสารความลับสุดยอดเกี่ยวกับธุรกิจทั้งหมดและความลับของตระกูลในเซฟนั้นด้วยหากตอนนี้มันอยู่ในมือของแอนดรูวเรียบร้อย ถ้าถูกเปิดโปงเท่ากับตรูกูลของเขาล่มสลายในทันที
“แก……”เขาพูดรอดไรฟันด้วยความโกรธ ร้องเรียกบอดี้การ์ดด้านนอกกให้เข้ามาแต่ก็ไร้เสียงตอบรับใดๆ
“ตระกูลแมคเพนสัน”แอนดรูวเอ่ย
“แกคงจำได้สินะ” เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ตกใจปนสับสนของชายตรงหน้า
“ในวันนี้ทุกคนต้องตายเหมือนกับครอบครัวของฉันเมื่อยี่สิบปีก่อน..”
“อย่าบอกนะว่าแกคือลูกชายของคาลอส แมคเพนสันไอ้ขี้ขลาดนั่น“
ปังๆ
“อ๊าก……”กระสุนถูกฝังเข้าที่ขาทั้งสองข้างของโฮเมิร์สทำให้เขาล้มลงไปกองกับพื้นและร้องด้วยความเจ็บปวด ขายาวก้าวเข้ามาใกล้นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าใช้มือบีบคางเขาอย่างแรงจนเจ้าตัวร้องออกมา
“ใช่…และตอนนี้ฉันกลับมาล้างแค้นให้กับตระกูลของฉัน จงดูเอาไว้ซะ”แอนดรูวพูดด้วยความโกรธ แล้วส่งสัญญาณให้ใครบางคนเข้ามา ประตูเปิดออกพร้อมกับชายชุดสีดำสนิทสองคนปรากฏตัว ทั้งสองโยนร่างที่ไร้ลมหายใจนั่นคือลูกสาว ลูกชาย และภรรยาของเขาลงพื้นตรงหน้า โฮเมิร์สสะตั้นทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“จัดการทุกคนที่นี่อย่าให้รอดแม้แต่คนดียว……”
“รับทราบครับนาย”
สิ้นเสียงเขาก้าวเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับเสียงหวีดร้องของโฮเมิร์สก่อนที่ลูกน้องของเขาจะปริดชีพตามหลัง
ปัง……
คฤหาสน์ของตระกูลแมคเพนสัน
สายตาเรียวไล่อ่านตัวอักษรบนเอกสารอย่างตั้งใจที่โต๊ะทำงานจนหมดทุกแผ่น เมื่อเขาได้เข้าใจทุกอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขายังขัดใจคือมีประวัติของใครบางคนที่อยู่ในหน้าสุดท้าย นี่เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า แอนดรูวมั่นใจในการสืบประะวัติของตนเองที่จัดการอย่างละเอียดโดยไม่ขาดตกบกพร่องไม่เว้นแม้แต่ลูกที่เกิดจากชู้รัก ทำไมมีชื่อที่ไม่คุ้นอยู่ในนี้กัน แถมยังเป็นลูกนอกสมรสของโฮเมิร์สอีก แต่พอได้ลองค้นหาชื่อของมารดาผู้ให้กำเนิดเด็กเขาก็ยิ้มขึ้น หึ..คงจะต้องลองหาใหม่ให้ละเอียดกว่านี้เสียแล้ว
‘ไอริน ชัยธนวัฒน์’
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 14
Comments