...Slumber I...
... ...
สองตาจับจ้องมองไปข้างหน้าสองหูฟังคำพูดอันแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินนั้นร่างกายไร้ซึ่งความสามารถในการควบคุม รอบกายไร้ซึ้งหนทางในการก้าวเดิน.....
มีเพียงเมฆหมองล้อมรอบกาย เธอก้มหน้าลงก้าวเท้าไปข้างหน้าช้าๆ ถึงแม้ว่าปลายทางข้างหน้าจะมีเพียงหมอกควันสีเทาไม่มีที่สิ้นสุดแต่สองขาก็ยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆดั่งคนที่กำลังหลงทาง
ทำไมกัน....
นัยน์ตาสีสวยจับจ้องมองไปข้างหน้า....
''อึก....ฮือ''
จ้องมองร่างบางของสาวสวยตรงหน้าที่นั่งลงบนพื้นร่ำไห้ด้วยน้ำเสียงอดกลั้นสองมือสวยปิดหน้าร่ำไห้
''คุณ...''
เธอยืดมือข้างหนึ่งไปข้างหน้าร้องเรียกสาวร่างระหงส์ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ชุดสีขาวสว่างสวายสวยงามของเธอตรงหน้าช่างดึงดูดสายตาให้ชวนมอง
สาวสวยตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงอันแผ่วเบานั้นได้หยุดร้องไห้ลง พร้อมเงยใบหน้าขึ้นมองมาทางเธอด้วยแววตาว่างเปล่า นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มราวฤดูใบไม้ผลิ ใบหน้าหวานใสละมุนเรียบเนียน ริมฝีปากสีส้มอ่อนนุ่ม....
''อะไรกัน....''
เด็กสาวเบิกตากว้างมองตรงไปอย่างคนข้างหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ใบหน้านั้นสะกดสายตาของเธอเอาไว้ไม่สามารถที่จะละจากใบหน้านั่นไปได้แม้เสียววินาที
นี้มัน.....ตัวของเธอเองอย่างงั้นหรอ?
ราวกับกำลังส่องกระจกดูเงา มองคนตรงหน้าที่มีใบหน้าเหมือนกับเธอทุกประกาศ.....ยิ้มละมุนปนความโศกเศร้าสะท้อนในแววตามาให้เธอ
ก่อนที่ร่างตรงหน้าจะจางหายไปในช่วงพริบตา
''ดะ...เดียวก่อนสิ!''
เธอวิ่งเข้าไปหาหญิงสาวที่มีใบหน้าคลายคลึงกันจายหายไปในสายหมอก ไขว้คว้าไว้ได้เพียงหมอกควันที่ละเหยลอยอยู่รอบกาย ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็ไม่เห็นหนทางที่จะไปต่อได้เลย
นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน.....แล้วนี้เธอมาอยู่ที่ไหน
วิ้ง!!!!
''อ๊ะ!!...''
แสงสีขาวนวลสว่างวับขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้นันย์ตาสีสวยปรับสภาพตามไม่ทันจนต้องหันหน้าหลบหนี
แสบตา......
ก่อนร่างบางจะค่อยๆหันไปจ้องมองแสงตรงหน้าช้าๆเมื่อสายตาพอจะปรับให้ชินกับแสงตรงหน้าได้บ้าง เธอก็พบเจอเข้ากับบางสิ่งท่ามกลางแสงสว่างนั่น มีเงาจางๆใจกลางแสงปรากฏต่อสายตา
นัยน์ตาสีสวยหรี่ลงเล็กน้อยทำให้มองเห็นเงาตรงหน้าชัดเจนมากขึ้นปรากฏเป็นเรือนร่างของบุรุษรูปงามสูงสง่าที่ร่างทั้งร่างปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวมวน หากแต่มันช่างเป็นภาพที่เลืองรางจนหน้าใจหาย ยิ่งเงยหน้าขึ้นไปมองส่วนของใบหน้ายิ่งมองไม่เห็นแม้แต่ครึ่งเสี้ยว เพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยแสงอันเจิดจา แต่กลับมองเห็นเพียงรอยยิ้มแสนละมุนอบอุ่นเบาบางสะกดให้เธอไม่สามารถละสายตาจากรอยยิ้มนั้นได้แม้เสี้ยววินาที
ตึกตัก.......
อะ.....ความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆในอกนี้มันอะไรกัน เธอเอามือทับลงบนอกที่เต้นย่ำเตือนความรู้สึกที่เธอไม่คุ้นชินแถมมันยังปวดร้าวขึ้นเรื่อย ๆ
''อึก!...''
ตุบ!
ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านจนต้องร่วงลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่แสดงความเจ็บปวดภายในอกข้างซ้าย เจ็บ....ปวดหัวใจเหมือนถูกบีบรัดด้วยโซ่นับหมื่นๆเส้น ราวกับถูกกระชากมันออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทรมาน.....
ใครก็ได้.......ใครก็ได้ช่วยที
วิ้ง!!!!......
''อะ?.....''
แสงสีนวลลออยืดเข้ามาข้างหน้าเด็กสาว ปรากฏเป็นฝามือกว้างแสนอ่อนโยน ร่างของบุรุษตรงหน้าที่ถึงแม้จะมองไม่เห็นใบหน้าแต่กลับให้ความรู้สึกดีจนยากที่จะเข้าใจ เขายืดมือออกมาข้างหน้าราวกับจะช่วยให้เธอลุกขึ้นมาจากพื้น
เธอมองฝามือขาวนวลตรงหน้าด้วยแววตาไร้อารมณ์ ความเจ็บปวดแปลกๆในอกก็เริ่มบรรเทาลงช้าๆ เธอยืดมือตัวเองออกไปข้างหน้าหวังจะสัมผัสฝามือกว้างที่ยืดออกมา.........
เพียงเสี้ยวนาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกัน แสงสว่างสีขาววับขึ้นมากับตา!
''อะ!...''
วูบ!!!!
เฮือก!!
''แฮ่กๆๆ.....''
ภาพผนังสีขาวอันคุ้นเคยปรากฎสู่สายตา ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะหลับตาลงพร้อมสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าหวานมีหยดเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย.....
ก่อนจะทำใจถอนหายใจออกมาช้าๆ
อา.......
ฝันแบบนี้อีกแล้ว....
''ชาร์ล็อต...ช่วงนี้เรื่องเรียนลูกเป็นอย่างไงบ้าง''
''........''
ภายในห้องอาหารขนาดเล็กในบ้าน บนโต๊ะอาหารถูกประดับประดาด้วยกับข้าวง่ายๆสองสามอย่างว่างเรียบรายอยู่บนโต๊ะ เสียงของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าเอ่ยถามขึ้นเริ่มบทสนทนาด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มจางๆ
''ก็ดีค่ะ....(-- )''
''คิดไว้หรือยังว่าจะต่อมหาลัยไหน...?''
''มีมหาลัยที่เลือกไว้แล้วค่ะ...''
''....แล้วจะเปิดเทอมเมื่อไรละ''
เสียงทุ้มต่ำราบเรียบถามออกมาจากปากของผู้เป็นพ่อที่นั้งประจำอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ บรรยายกาศภายในครอบครัวที่ดูเหมือนจะอึมครึม แต่จริงๆแล้ว กลับเป็นเพียงเรื่องปกติของครอบครัว'เทย์เลอร์'ครอบครัวที่ไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหาในครอบครัวเลยสักครั้ง
''สองเดือนหน้าค่ะ...''
''จบมอปลายแล้วสินะ....เวลาผ่านไปเร็วจริง''
ผู้เป็นแม่พูดออกมาเสียงแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มบางเมื่อนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กของลูกสาวตรงหน้าเธอ
''คณะที่ลูกเลือกต่อคือ คณะศิลป์กรรม สินะ''
''.....''
''ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหมชาร์ล็อต....''
ผู้เป็นพ่อชายวัยกลางคนตรงหน้าเธอที่มีใบหน้าและแววตาจริงจังเรียบนิ่งเมือนกับเธอไม่มีผิด ราวกับว่าคัดลอกใบหน้ากันมาก็ไม่ปาน ท่านหันขึ้นมามองเธอพร้อมถามด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
ทั้งสองจ้องมองตากัน....
''ค่ะ....''
''ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน...ทุกคนเกิดมาย่อมมีความฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำมันให้สำเร็จได้''
เสียงทุ้มต่ำกดดันให้เด็กสาวตรงหน้าได้รับรู้ความเป็นจริงของโลกเพื่อไม่ให้หลงระเริงไปกับสิ่งที่ต้องการ เพราะโลกใบนี้มันไม่เคยมีที่ยืนสำหรับผู้ล้มเหลวได้ยืนยัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง
''.....''
''ความฝัน....คือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง''
ชาร์ล๊อตวางช้อนซ้อมลงบนจานอย่างนิ่งเงียบ.....เธอเบื่อผู้เป็นพ่อที่ไม่ยอมรับความฝันของเธอสักที เพียงเพราะว่ามันเป็นความฝันที่เขาคิดว่าไร้ประโยชน์และไม่ทำให้ชีวิตของเธอเจริญก้าวหน้าได้
''แต่ถ้าลูกตั้งมั่นที่จะก้าวไปตามความฝันนั้น...แม่ขอให้พยายามจนถึงที่สุดเพราะไม่มีใครกำหนดได้ว่า ความฝันจะเป็นแค่ฝันตลอดไปหรือความจริงที่กำลังจะมาถึง''
เธอมองสบตาผู้แม่ที่ส่งแววตาอันอ่อนโยนมาให้...แต่กลับแฝงไปด้วยความห่วงใยและกังวน
ท่านค่อยสนับสนุนอยู่ข้างเธอเสมอถึงแม้ทางที่เธอเลือกเดินไม่ใช่ทางที่ท่านต้องการที่จะให้เดินไปก็ตาม
''หนูเข้าใจ....''
เพราะความฝันที่เธอเลือกเดิน...มันต้องดิ้นรนขนาดไหนถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ละ ถึงยังงั้นฉันก็ยังรักที่จะทำมัน
''พวกเราเคารพการตัดสินใจของลูกเสมอนะ...ชาร์ล็อต''
''ถ้าเป็นสิ่งที่หนู'รัก' หนูไม่มีวันทิ้งมันไปหรอกค่ะ''เธอพูดจบก็ลุกออกจากเก้าอีกประจำตำแหน่งและเดินออกไปจากโต๊ะอะหารพร้อมกล่าวออกมาแผ่วเบา
''อิ่มแล้วค่ะ...''
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments