บทที่4 ตลอดไป

“คุกเข่าลง เจ้าไพร่ไร้มารยาท!!!”

เสียงหวานใสตะคอกสะท้อนก้องกังวานไปทั่วบริเวณ จนใครได้ฟังต่างก็ต้องหน้าซีดเผือดจนหมดแรงลงเอาดื้อๆ

“อะ องค์หญิง ดะ ได้โปรด ครอบครัวข้า ลูกเมียข้ากำลังจะตะ…”

“ตาย…แล้วยังไง” น้ำเสียงขององค์หญิงราบเรียบ “ครอบครัวของแกกำลังจะตาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า”

“ขะ ข้า! ข้ามาขอให้ อะ องค์หญิงเมตตา…ดะ ได้โปรด! ช่วยพวกเราด้วย!!!”

“หึ ข้าช่วยแน่” รินยิ้มอย่างเคลือบแคลง “ข้าจะช่วย…ให้เจ้าไปตายเร็วขึ้นไงล่ะ เอามันไปขัง!!!”

“อะ องค์หญิง!!!”

เสียงคร่ำครวญอย่างสิ้นหวังพยายามจะขอร้องแต่ก็ไร้ความหมาย ทหารในชุดเกราะ2-3คนเดินมาจับกุมชายร่างผอมแห้งในชุดซอมซ่อเอาไว้ตามคำสั่งขององค์หญิงที่นั่งเรียบเฉยอยู่บนบัลลังก์ แต่เสียงอ้อนวอนนั้นก็ยังไม่ยอมหยุด

                “ได้โปรดเถอะ!!! องค์หญิง!!! ลูกข้ากำลังป่วยหนัก ถึงไม่มีเงิน แต่ข้าก็ขอแค่เสบียงไปทำยา...!!!”

ชายร่างผอมเปล่างเสียงมาได้แค่นั้น ก่อนที่หมัดหนักจากชายในชุดเกราะจะต่อยตรงที่ท้องจนจุกและหมดสติไป ร่างผอมแห้งที่ไร้เรี่ยวแรงดูน่าสังเวชจนเหมือนศพมากกว่ามีชีวิตอยู่ ดวงตาสีฟ้าทอดมองร่างนั้นจนลับสายตาไป

                “…เจ้าวัชพืชไร้ค่า…”

                “องค์หญิง” เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้รินตกใจไม่มากนัก

                “มีอะไรเล็น?”

                “ผู้ชายคนนั้น…กำลังลำบากอยู่ไม่ใช่หรือขอรับ…?” เล็นถามเสียงเบา “แล้วทำไมถึงไม่…”

                “เงียบ! ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น!!!” คำสั่งเด็ดขาดทำให้ข้ารับใช้เงียบสนิท “ฉันปวดหัว จะไปพักแล้ว”

                “แล้วเรื่องประชุม…?”

                “บอกพวกขุนนางนั่นไปว่าฉันปวดหัว ประชุมโดยไม่มีฉันไปก่อนละกัน” ว่าแล้วองค์หญิงน้อยก็ลุกขึ้นแล้วสาวเท้าหนีทันที เล็นเพียงโค้งเคารพแล้วเหลือบมองร่างเล็กที่ค่อยๆเดินจากไป

                เล็นแอบถอนหายใจ เขากังวล? จะบอกว่าใช่ก็คงจะใช่ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ ใช่ เขากังวล กังวลว่าในไม่ช้าจะเกิดเหตุการณ์อะไร ร้ายๆ กับองค์หญิงน่ะสิ…

            คิดมากไปหรือเปล่านะเรา…?

นั่นสินะ คงคิดมากไปจริงๆ…

“ท่านเล็น…” เสียงเรียกหวานใสและนุ่มนวลทำให้เล็นสะดุ้ง เมื่อหันกลับไปมองก็พบหญิงสาวผู้หนึ่งที่มีผมสีทองเข้มและนัยน์ตาสีน้ำตาล เด็กสาวร่างเล็กในชุดเมดสีดำขาวอยู่ในกริยาเรียบร้อยสงบเสงี่ยมแต่ก็ซ่อนความเขินอายไว้

“ท่านเนรุ…” พอเล็นรู้ว่าเป็นใครก็คลายอาการตกใจไปมาก “อย่าโผล่มาข้างหลังแบบนี้สิขอรับ”

“ขะ ขออภัยจ้าค่ะ” ทั้งที่น้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้ดุด่าอะไรเลยแต่เธอคนนี้กลับก้มขอโทษใหญ่ “ข้า…ไม่ทันคิด”

“ก็…ไม่ได้ว่าอะไรนี่ขอรับ” เล็ยบอกพลางยิ้มให้สาวใช้นามเนรุ ที่อายุมากกว่าเขาตั้ง3ปีแน่ะ เนรุก้มหน้าด้วยความอาย เล็นมองอย่างงงๆแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

“ท่านเนรุมีอะไรกับกระผมหรือขอรับ?”

                “เอ่อ ท่านเล็นไม่ต้องเรียกฉัน เอ้ย ข้าว่า ’ท่าน’ ก็ได้เจ้าค่ะ” เล็นชะงัก นั่นสินะ…ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เขาติดนิสัยเรียกคนอื่นไปทั่วว่า ’ท่านๆ’ แถมเป็นนิสัยที่แก้ไม่หายจนเป็นนิสัยเสียไปเลย…

                “ขออภัยขอรับ” เนรุเบิกตากว้างแทนคำถามว่าขุนนางชั้นสูงผู้นี้ขอโทษเธอทำไม “ท่านเนรุมีอะไรหรือขอรับ?”

ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเรียกคนอื่นว่า ‘ท่าน’ ต่อไปล่ะน่า…

                “เอ่อ องค์หญิง องค์หญิงริน…” เล็นเลิกคิ้วสูงทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘องค์หญิงริน’

                “องค์หญิงทำไมขอรับ?”

                “อะ องค์หญิงรับสั่งให้ฉัน เอ้ย ข้านำของว่างไปให้ท่านที่ห้องอาหาร ตะ แต่ฉัน เอ้ยข้ามะ ไม่กล้า…”

                “ท่านเนรุเรียกตัวเองธรรมดาก็ได้ขอรับ”

                “แต่!...มะ มันจะเสียมมารยาท”

                “กระผมไม่ถือ” เล็นส่งยิ้มให้ “อา เรื่องของว่างเดี๋ยวกระผมนำไปให้องค์หญิงเองก็ได้ขอรับ ไม่ต้องรบกวนท่านเนรุหรอกขอรับ”

                “อุ๊ย! จะดีหรอเจ้าคะ!” เนรุถามเสียงดัง “แต่องค์หญิงรับสั่งฉันมาโดยตรง…”

                “เป็นหน้าที่ ของกระผม อยู่แล้วขอรับ ไม่ต้องห่วงหรอก” ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็ใช้สายตามองไปทางด้านหลังหญิงสาวในชุดเมด “ถาดอาหารอยู่บนรถเข็นใช่ไหมขอรับ เดี๋ยวผมเข็นไปให้องค์หญิงเอง”

                “เอ่อ…”

                “หืม?”

                “ท่านเล็นนี่ ใจดี จังนะเจ้าคะ” คนถูกชมว่าใจดีชะงักไป

                “งั้นหรือขอรับ” เล็นพูดพึมพำจนแทบจะไม่ได้ยิน “นั่นคง…เป็นคุณสมบัตข้ารับใช้ขององค์หญิงกระมัง?”

                “เจ้าคะ???” เนรุทวนก่อนจะยิ้มบางๆ “ถ้างั้นองค์หญิงรินคงโชคดี ที่มีท่านเล็นอยู่ข้างกายนะเจ้าคะ”

                “คงไม่หรอกขอรับ”

แล้วคนใจดีก็เข็นรถเข็นอาหารไปยังห้องอาหารที่มีองค์หญิงเอาแต่ใจรออยู่ แต่ก็อดนึกไม่ได้ว่าทั้งที่องค์หญิงบอกว่าจะไปพักแต่กลับสั่งของว่างไปรอที่ห้องอาหาร แถมแทนที่จะใช้ข้ารับใช้คนสนิทอย่างเขากลับไปใช้สาวใช้คนอื่น ไม่ค่อยสมเป็นองค์หญิงเลย…

เมื่อมาถึงห้องอาหารเป็นอย่างที่เขาคิด องค์หญิงไม่ได้รออยู่ที่นี่ เล็นถอนหายใจเบาๆไม่บอกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน สองเท้าเดินไปยังห้องๆหนึ่งในปราสาทที่กว้างขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายมือหนาทำท่าว่าจะเคาะประตูแต่ก็ต้องชะงัก

                “ใครน่ะ!?!” เสียงจากคนข้างในตะโกนผ่านประตู ก่อนที่น้ำเสียงจะเบาลง “เล็นหรอ…”

                “ขอรับ องค์หญิง…” เล็นตอบเสียงเบาให้พอองค์หญิงได้ยิน “องค์หญิง ของว่างที่องค์หญิงสั่งรออยู่ที่ห้องอาหารแล้วนะขอรับ”

                “ไม่เอา เอามาที่ห้องนอนฉันเลย ฉันไม่อยากลุก” รินปฏิเสธเสียงแข็ง ดูจากประโยคแล้ว คงนึกสภาพได้ว่าเธอนอนอยู่บนเตียง “เล็น ได้ยินไหม ไปเอาของว่างมาที่ห้องฉัน”

                “เดี๋ยวห้องขององค์หญิงจะสกปรกนะขอรับ”

                “ช่างมัน เดี๋ยวให้พวกสาวใช้เก็บให้ก็ได้”

                “องค์หญิง…” เล็นเลิกคิ้วขึ้น “มีอะไรหรือเปล่าขอรับ? ทำไมถึงไม่ยอมออกมาหรือขอรับ?”

                “…ม่ะ มะ ไม่มี…” รินตอบ “ไม่มีอะไร…….…อย่าเปิดประตูนะ!?!”

มือที่กำลังจะเปิดประตูชะงักไปอีกครั้ง คิ้วขมวดกันเป็นปมอย่างงุนงง “องค์หญิง เป็นอะไรขอรับ? ทำไมถึงไม่ให้กระผมเปิดประตู?”

                “………………..”

“………………..?”

“ไม่มีอะไร…” มั่นใจว่าเสียงขององค์หญิงนั้น สั่น “เล็น ไม่ต้องเปิดเข้ามาดูนะ”

“ขอรับ?”

“นี่เป็นคำสั่ง!!! ห้ามเปิดประตูเข้ามา เล็น!!!”

“องค์หญิง…” เด็กหนุ่มพูดเสียงเบา “ขออภัยนะขอรับ แต่คำสั่งนั้น กระผมคง ทำไม่ได้”

“…!?! เล็น!!!”

แอ๊ด…!!!

ภาพที่เห็นคือ ร่างของใครบางคนที่คุ้นเคยดีนอนคลุมโปงอยู่บนเตียงหรูขนาดคิงไซค์ ร่างเล็กสั่นเทาเพราะอะไรก็ไม่ทราบ แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือ…คราบน้ำตา

“ละ เล็น…” แทบจะทันทีที่ถูกเรียกชื่อ เล็นถลาเข้าไปที่เตียง

“องค์หญิง เป็นอะไรขอรับ?” น้ำเสียงแสดงความตื่นตระหนก “ร้องไห้…ทำไมขอรับ”

“เล็น ฉัน…ปวดหัว” รินพูดพลางสะอื้นจนตัวสั่น “ปวดมาก ทรมาน เล็น ช่วยด้วย…”

“เดี๋ยวกระผมเอายาให้ขอรับ”

“ไม่เอา! ไม่เอา…ยา”

“แล้วองค์หญิงจะให้กระผมทำอย่างไรขอรับ?”

“………………..” รินเงียบ ก่อนที่แขนเล็กบางทั้งสองข้างจะยื่นมาข้างหน้า เล็นมองอย่างงุนงง “กอดหน่อย”

“ขอรับ?”

“ฉันหนาว…กอดฉันหน่อย” น้ำเสียงขององค์หญิงจอมเอาแต่ใจดูน่าสงสาร “เล็น กอดฉันหน่อย ฉันหนาว”

“กระผมว่าเอาผ้าห่มมาเพิ่มน่าจะอุ่นกว่า…”

“ไม่เอา เล็น กอดฉันหน่อย…”

 

เล็นลังเล มองแขนที่ยื่นมาทางตนสลับกับดวงตาสีฟ้าใสสวยของคนตรงหน้า ดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและปรารถนา ในดวงตานั้นสะท้อนภาพของตัวเขาเอง

“กอด-หน่อย”  รินย้ำคำพูดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าตนยังไม่ได้ตามที่ต้องการ  แต่ดูเหมือนเสียงนั้นจะไม่เข้าหูข้ารับใช่คนสนิทเธอเลย เพราะว่าเขาคนนั้นเอาแต่ยืนนิ่งไม่ทำอะไรจนแววตาสีฟ้านั้นเต็มไปด้วยความขุ่นมัวอย่างไม่พอใจ

“กอดฉัน เดี๋ยวน…”

หมับ…

ร่างเล็กทั้งร่างถูกกระชากจนไปชนกับแผ่นอกของใครบางคนเข้า ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ค่อยกลับไปเป็นปกติดังเดิม เมื่อความรู้สึกอบอุ่นได้เข้ามาแทนที่ความหนาวสั่นในตอนแรก

                “…อุ่นจัง…” คำๆนั้นแผ่วเบาจนเกือบไม่ได้ยิน

เล็นเพิ่มแรงกอดให้แน่นขึ้นเพื่อเพิ่มความอุ่นให้คนในอ้อมกอด ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกันซุกลงไปบนคอของอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก คิดถึง โหยหา?

                “องค์หญิงขอรับ กระผมน่ะ…ไม่ได้กอดองค์หญิงมานานแล้วนะขอรับ”

                “อือ…นั่นสินะ…” คนเป็นองค์หญิงรับเบาๆ “ซัก10ปีแล้วมั้ง ใช่ไหมเล็น…”

                “ขอรับ…” เล็นกอดแน่นกว่าเดิม “องค์หญิงหนาวไหมขอรับ”

                “ไม่…ตอนนี้ไม่หนาวแล้ว…แต่ช่วยกอดฉันต่อไปเรื่อยๆได้ไหม” เพราะฉันชอบอ้อมกอดของเล็น…

                “ขอรับ…”

                “เล็น…ร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิ”

                “จะให้กระผมร้องเพลงอะไรหรือขอรับ?”

                “เอาอะไรก็ได้ ขอเพลงเพราะๆนะ” รินกำชับ

                “หึหึ…” เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงเบา “องค์หญิงตัวร้อนๆนะขอรับ นอนก่อนดีไหมเดี๋ยวกระผมค่อยร้องให้ฟัง”

                “ก็ได้…” รินพยักหน้า “แต่…นายต้องนอนกอดฉันด้วยนะเล็น”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เขาเบิกตากว้างขนาดไหน แต่คนตัวต้นเหตุยังหัวเราะชอบใจ เล็นถอนหายใจอีกเช่นเคยกับนิสัยขององค์หญิง เขาค่อยวางร่างเล็กลงบนเตียง มือหนากุมมือที่บอบบางเอาไว้แล้วเริ่มร้องเพลง

ตัวเธอนี้คือเจ้าหญิง ตัวผมคือข้ารับใช้…

โชคชะตาได้พลัดพรากสองเราจากกันออกไป…

แม้นต้องเผชิญเรื่องเลวร้ายซักเพียงเท่าไหน…

จักยอมที่จะเป็นดังมาร เพื่อที่จะปกป้องเธอ…

ณ ที่ตรงนั้น ซึ่งที่กำเนิดของพวกเรา…

ได้ยินเสียงระฆัง ร่ำร้องฉลองอยู่ร่ำไป…

หากแต่เหตุใด จึงจำต้องถูกพลัดพราก…

ฝาแฝดที่น่าสงสาร ต่างก็เดินแยกทาง…

แม้ว่าโลกทั้งใบจะไม่เคยสนใจเธอ…

แม้ว่าโลกทั้งใบจะไม่เคยเหลียวมองเธอ…

แม้ว่าโลกทั้งใบจะไม่เคยจดจำเธอ…

ผมคนนี้จะขอ ปกป้องรอยยิ้มเธอไว้เอง…

ตัวเธอนี้คือเจ้าหญิง ตัวผมคือข้ารับใช้…

โชคชะตาได้พลัดพรากสองเราจากกันออกไป…

แม้นต้องเผชิญเรื่องเลวร้ายซักเพียงเท่าไหน…

จักยอมที่จะเป็นดังมาร เพื่อที่จะปกป้องเธอ…

เสียงเพลงที่อ่อนโยนขับกล่อมองค์หญิงน้อยจนหลับไป แต่มือที่ถูกกอบกุมยังไม่ถูกปล่อย รอยยิ้มที่เหลือไว้บนใบหน้าทำเอาคนมองอยากจะรู้ว่าตอนนี้เธอ…ฝันถึงอะไร

“หลับแล้วหรอเนี่ย?” เล็นพึมพำ “ตัวร้อนๆ ไปหายามาให้ดีกว่า”

พอเขาจะลุก ชายเสื้อถูกจับเอาไว้โดยคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง คงจะทำไปเพราะละเมอกระมัง?

เล็นยิ้มอย่างเอ็นดู มือหนาปัดเส้นผมที่ปรกใบหน้างาม พอจะยื่นมากลับมาก็ต้องชะงัก

             

“ท่านแม่ ไม่เอา…ท่านแม่…ไม่เอา รินไม่ไป…”

              

“ท่านแม่ ฮึก รินกลัว รินเหงา…”

              

“รินไม่อยากอยู่คนเดียว ฮือ ท่านพ่อ ท่านพ่อช่วยรินด้วย…”

              

“ท่านพ่อ ไม่เอา ท่านพ่อ ท่านพ่อจะพาเล็นไปไหน ไม่เอา…เล็น…ฮือ…”

                “องค์หญิง ไม่ร้องนะขอรับ…” ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็ก้มจูบหน้าผากคนที่ร้องไห้อยู่บนเตียงอย่างแผ่วเบา “กระผมจะไม่ไปไหน จะอยู่กับองค์หญิงตลอดไปขอรับ”

จะอยู่ตลอดไป อยู่กับองค์หญิงตลอดไป…

ตลอดไป ข้ารับใช้และองค์หญิงจะด้วยกันตลอดไป

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!