วันหนึ่งในขณะที่อาซาเรียลกำลังจัดเอกสารอยู่ในห้องสมุดของสวรรค์ กาเบรียลก็เดินเข้ามาเงียบๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้อาซาเรียลเผลอกลืนน้ำลาย
“ทำงานหนักอีกแล้วเหรอ อาซาเรียล? เจ้าควรพักบ้างนะ”
“มะ...ไม่เป็นไร ข้าแค่ต้อง...”
ยังไม่ทันพูดจบ กาเบรียลก็ก้มลงมากระซิบที่ข้างหู พร้อมกับแนบริมฝีปากไปที่ลำคอของอาซาเรียลอย่างแผ่วเบา
“แค่นี้เอง... ทำไมต้องเกร็งขนาดนั้น?”
อาซาเรียลอ่านหนังสือแล้วคิดไปไกลจนแทบกู่ไม่กลับก็ยืนยิ้มอยู่คนเดียว กาเบรียลที่เห็นก็หัวเราะเบาๆ ท่าทางที่แสนเขินอายของเขา หลังจากเหตุการณ์นั้น อาซาเรียลก็แทบไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาเผลอหยิบหนังสือในห้องสมุดมาอ่าน หัวข้อคือ “ความหมายของการจูบ” และดวงตาของเขาเบิกกว้างทันทีเมื่อเจอข้อความว่า
"การจูบที่ลำคอแสดงถึงความปรารถนาและความหลงใหลอย่างลึกซึ้ง"
“คะ...ท่านกาเบรียลต้องการอะไรจากข้ากันแน่!?”
หลังจากนั้น อาซาเรียลก็เอาแต่เดินหลบสายตากาเบรียลตลอดเวลา แถมหน้าแดงจนแทบจะกลายเป็นไฟทุกครั้งที่กาเบรียลเข้ามาใกล้
กาเบรียลที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของอาซาเรียลก็อดหัวเราะไม่ได้ เขารู้ดีว่าอาซาเรียลคิดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อแกล้งให้เจ้าตัวเขินต่อไป
“อาซาเรียล เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมหน้าแดงขนาดนั้น?”
“มะ...ไม่มีอะไร! ข้าแค่...แค่ร้อนนิดหน่อย!”
“หรือเจ้าแค่กำลังคิดเรื่องจูบครั้งนั้น?”
“ขะ...ข้าไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น!”
พอได้ยินคำพูดแบบนั้นจากกาเบรียล อาซาเรียลก็หน้าแดงจนแทบไหม้ รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังละลายจากความเขิน เขาได้แต่รีบหลบออกไปจากห้องและไปนอนงอแงกับอูรีเอล
“คราวนี้อีกล่ะสิ กาเบรียลแกล้งอะไรเจ้าอีก?”
“เขาจูบข้า แล้วข้ายังคิดว่า... เขาคง...ฮือออออ!”
“เจ้าต้องตั้งสติหน่อยนะอาซาเรียล...นายก็แค่น่าจะคิดมากไปเองนั่นแหละนะ”
ยามค่ำคืนที่สงบเงียบในสวนแห่งสวรรค์
อาซาเรียลนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่พร้อมหนังสือเล่มหนึ่งในมือ ใบหน้าของเขาแฝงความสงสัยและเขินอายอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาสีแดงเข้มเหลือบมองตัวอักษรในหน้าหนังสือแล้วถอนหายใจเบาๆ ความจริงใจอยากจะเข้าใจสิ่งที่เขากำลังอ่านนั้นชัดเจน แต่ดูเหมือนเนื้อหาจะยิ่งทำให้เขาสับสนมากขึ้น
"อาซาเรียล เจ้าอ่านอะไรอยู่หรือ?"
เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้นด้านหลัง ทำให้เขาสะดุ้งโหยงพร้อมหันไปมอง กาเบรียลเดินเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มที่ชวนให้ใจสั่น อาซาเรียลรีบปิดหนังสือแล้วกอดมันไว้แน่น
"ม-ไม่มีอะไรครับ! ก็แค่...แค่เรื่องธรรมดาๆ!"
กาเบรียลหัวเราะเบาๆ แล้วนั่งลงข้างเขา "ถ้าแค่เรื่องธรรมดา แล้วทำไมเจ้าต้องหน้าแดงขนาดนี้ล่ะ?"
อาซาเรียลหันหน้าหนี พยายามควบคุมความเขินอาย แต่กาเบรียลกลับโน้มตัวเข้ามาใกล้ ยื่นมือมาแตะแก้มเขาเบาๆ "เจ้าอ่านอะไรที่ทำให้ข้าอยากรู้อยากเห็นแบบนี้น่ะ? หรือว่า...เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้า?"
"ม-ไม่ใช่!" อาซาเรียลโวยวายก่อนจะพลาดพลั้งทำหนังสือตก กาเบรียลหยิบมันขึ้นมาพลิกอ่านเพียงหน้าเดียว รอยยิ้มมุมปากของเขากว้างขึ้นทันที
"จูบที่คอแสดงถึงความปรารถนา...อาซาเรียล เจ้าคิดถึงเรื่องนี้อยู่หรือ?"
"ม-ไม่ใช่! ข้าแค่อยากเข้าใจ...ไม่ได้หมายความว่า—!"
ยังไม่ทันจบคำ กาเบรียลโน้มตัวลงจนใบหน้าของพวกเขาใกล้กัน ดวงตาคมปลายมองเขาด้วยความลึกซึ้ง "งั้นข้าจะช่วยอธิบายให้ดีไหม? หรือเจ้าจะลองเอง..."
อาซาเรียลพูดไม่ออก ใบหน้าแดงซ่านเหมือนลูกเชอร์รี่ แต่ก่อนที่เขาจะตอบอะไร กาเบรียลก็หัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นยืน แล้วลูบหัวเขาเบาๆ "อย่าคิดมากเลย ข้าแค่ล้อเล่น เจ้าเหมาะจะมีความรักแบบใสซื่อแบบนี้แหละ...และข้าก็ชอบที่เจ้าเป็นแบบนี้"
หลังจากที่กาเบรียลจากไป อาซาเรียลถอนหายใจเบาๆ แม้จะรู้สึกสงสัยว่าทำไมท่านกาเบรียลของเขาช่วงนี้ทำตัวแปลกขึ้นทุกวัน เพราะปกติกาเบรียลไม่เคยทำแบบนี้กับเขา...รึว่าสิ่งที่เขาทำมันมีความหมายแอบแฝงอยู่กันแน่?
—
ค่ำคืนที่ห้องพักส่วนตัวของกาเบรียล
อาซาเรียลถูกเรียกตัวมาพบ เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องงานธรรมดา แต่บรรยากาศในห้องกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ชวนให้อึดอัดเล็กน้อย แสงเทียนที่ริบหรี่ทำให้ห้องดูอบอุ่นและลึกลับในเวลาเดียวกัน
"กาเบรียล...ท่านต้องการอะไรจากข้าหรือครับ?" อาซาเรียลถามเสียงเบา หัวใจเต้นแรงอย่างไร้เหตุผล
กาเบรียลยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มือหนึ่งจับแก้วไวน์ที่ยังคงเหลือครึ่ง เขาหันกลับมาช้าๆ ดวงตาคมจ้องมองอาซาเรียลอย่างไม่วางตา
"เจ้ารู้ตัวบ้างไหม...ว่าเจ้าเปลี่ยนข้าไปมากแค่ไหน?" กาเบรียลเดินเข้ามาใกล้ เสียงของเขาอบอุ่นแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่น
"ข้า...ข้าเปลี่ยนท่าน?" อาซาเรียลพูดติดขัด ดวงตาสีแดงเข้มสบกับดวงตาคมของกาเบรียล แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงดูดให้ไม่อาจหลีกเลี่ยง
"ใช่ เจ้าเปลี่ยนหัวใจข้า" กาเบรียลโน้มตัวเข้ามาใกล้ เสียงของเขาแผ่วเบา แต่ชัดเจนในทุกถ้อยคำ "เจ้าทำให้ข้ารู้จักความรักในรูปแบบที่ข้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน"
อาซาเรียลนิ่งค้าง ตัวแข็งทื่อเมื่อกาเบรียลค่อยๆ จับมือเขา ดึงเขาเข้ามาใกล้จนหน้าอกของทั้งสองสัมผัสกัน ความร้อนจากตัวกาเบรียลทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังละลาย
"ท่านกา...กาเบรียล ข้า..."
ก่อนที่เขาจะพูดอะไร กาเบรียลโน้มหน้าเข้าใกล้ ปลายจมูกของพวกเขาแทบจะแตะกัน เสียงกระซิบแผ่วเบาดังข้างหู "ข้าขอได้ไหม...อาซาเรียล?"
ดวงตาของอาซาเรียลเบิกกว้าง ความเขินอายผสมกับความตื่นเต้นทำให้เขาแทบไม่สามารถตอบได้ แต่แล้วกาเบรียลก็ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ที่แก้มของเขา ก่อนที่จะก้มลงจูบริมฝีปากของอาซาเรียลอย่างนุ่มนวลแต่ร้อนแรง
อาซาเรียลตกใจในตอนแรก แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เขายอมให้กาเบรียลครอบครองริมฝีปากของเขา ความร้อนแรงและความอ่อนโยนที่ผสมผสานกันทำให้เขาแทบลืมหายใจ
เมื่อกาเบรียลถอนจูบออก เขายิ้มเล็กๆ พร้อมกระซิบข้างหูอาซาเรียล "เจ้ารู้หรือยัง...ว่าข้ารักเจ้าแค่ไหน?"
ค่ำคืนยังคงดำเนินต่อไปในห้องที่เต็มไปด้วยแสงเทียนริบหรี่...
อาซาเรียลยืนนิ่ง ใบหน้าของเขาแดงก่ำจนแทบไม่กล้าสบตากาเบรียลที่ยังคงจับมือเขาไว้แน่น หัวใจในอกเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมา เขายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองที่ยังคงรู้สึกถึงสัมผัสจากจูบนั้น
"ท่าน...ท่านพูดแบบนั้นได้ยังไงกันครับ" เขาพูดเสียงสั่น พยายามหันหน้าหนี แต่กาเบรียลกลับจับคางเขาเบาๆ บังคับให้เขาหันกลับมามอง
"ข้าพูดความจริง อาซาเรียล" กาเบรียลกระซิบ น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความจริงจังและความหลงใหล "เจ้าคือสิ่งเดียวที่ทำให้หัวใจข้ายังเต้นอยู่ในตอนนี้"
อาซาเรียลอ้าปากค้าง เขาพยายามจะหาคำตอบกลับ แต่ความรู้สึกในใจกลับท่วมท้นจนพูดอะไรไม่ออก เขาทำได้เพียงมองกาเบรียลด้วยสายตาสับสนปนเขินอาย
"เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" กาเบรียลพูดต่อ เขายกมือขึ้นลูบแก้มอาซาเรียลเบาๆ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน "แค่ให้ข้าอยู่ใกล้ๆ เจ้า...แค่เจ้ารู้ว่าข้ารัก...ก็เพียงพอแล้ว"
แต่ก่อนที่อาซาเรียลจะทันตั้งตัว กาเบรียลก็ดึงเขาเข้ามาในอ้อมกอด แขนแข็งแรงของเซราฟิมโอบรัดร่างกายของอาซาเรียลไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเขาจะหลุดหายไป
"ท่านกา...กาเบรียล ท่านทำอะไรครับ!" อาซาเรียลตะโกนออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบากว่าที่เขาคิดไว้ ร่างกายของเขาร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนแทบไม่สามารถขยับตัวได้
"ข้าทำในสิ่งที่ข้าต้องการมาตลอด" กาเบรียลตอบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ "และเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์หนีไปไหนอีกแล้ว อาซาเรียล"
ก่อนที่อาซาเรียลจะทันตอบ กาเบรียลก็โน้มหน้าเข้าไปใกล้อีกครั้ง คราวนี้จูบของเขาไม่เพียงแค่ลึกซึ้ง แต่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่ซ่อนเร้นมานาน อาซาเรียลพยายามดิ้น แต่แรงที่เขามีดูเหมือนจะหายไปหมด
ในวินาทีนั้น ทั้งคู่เหมือนถูกตัดขาดจากทุกสิ่งบนโลก สัมผัสของกันและกันคือสิ่งเดียวที่มีอยู่
เมื่อจูบสิ้นสุดลง กาเบรียลก็กระซิบที่ข้างหูอาซาเรียลด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "เจ้าจะเป็นของข้าเสมอ...และข้าจะไม่มีวันยอมปล่อยเจ้าไป"
อาซาเรียลแทบหมดแรง เขาซบลงกับอกของกาเบรียล ใบหน้าของเขายังคงแดงก่ำ ขณะที่ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำถามและความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้
และในค่ำคืนนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล...จากเจ้านายและลูกน้อง แปลเปลี่ยนเป็นคู่รักอย่างสมบูรณ์
อาซาเรียลพยายามตั้งสติในขณะที่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด
"ท่านกาเบรียล...ท่านรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?" เสียงของอาซาเรียลแผ่วเบาและสั่นพร่า เขาพยายามยกมือขึ้นดันอกของกาเบรียล แต่กลับถูกดึงเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิม
"ข้ารู้ตัวดี อาซาเรียล" กาเบรียลตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สายตาของเขาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของอาซาเรียลจนอีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกสะกด "และข้าก็แน่ใจว่าเจ้ารู้สึกเหมือนกัน"
อาซาเรียลกัดริมฝีปากตัวเอง ใบหน้าของเขาแดงจนถึงลำคอ "ขะ...ข้าคิดว่าท่านคงเข้าใจผิดไปแล้ว ข้าไม่ได้—"
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ กาเบรียลก็ยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากของเขาเพื่อหยุดคำพูด
"ไม่ต้องปฏิเสธอะไรทั้งนั้น" กาเบรียลกระซิบเบาๆ ใกล้ใบหูของเขา เสียงทุ้มต่ำของเขาทำให้อาซาเรียลรู้สึกเหมือนถูกไฟลนทั่วร่างกาย "เพราะแค่ดวงตาของเจ้า...มันบอกทุกอย่างกับข้าแล้ว"
อาซาเรียลกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนขาทั้งสองข้างของตัวเองจะหมดแรงจนยืนไม่ไหว
กาเบรียลยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของอาซาเรียล เขาค่อยๆ ก้มหน้าลงจนริมฝีปากเกือบสัมผัสกับคอของอีกฝ่าย
"ข้าสัญญา..." กาเบรียลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลราวกับคำสาบาน "ไม่ว่าเจ้าจะต้องการอะไร หรือไม่ต้องการอะไร...ข้าจะปกป้องเจ้า ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร"
คำพูดนั้นทำให้อาซาเรียลตะลึงจนพูดไม่ออก เขารู้สึกถึงมือของกาเบรียลที่ค่อยๆ ลูบแผ่นหลังของเขาเบาๆ อย่างปลอบโยน
"ท่านกาเบรียล..." อาซาเรียลเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ สายตาของเขาสั่นระริกด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย "ข้าควรทำอย่างไรดี..."
กาเบรียลเลื่อนใบหน้าขึ้นมาประชิดอีกครั้ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความมั่นคง "แค่ปล่อยให้ข้ารักเจ้า...แค่นั้นพอ"
และในวินาทีนั้น อาซาเรียลก็ไม่สามารถต้านทานอะไรได้อีกต่อไป เขายอมซบลงบนอกของกาเบรียลอย่างเงียบๆ หัวใจของเขายอมรับในสิ่งที่สมองพยายามปฏิเสธมาตลอด
กาเบรียลรู้สึกถึงแรงกอดของอาซาเรียลที่แน่นขึ้นเล็กน้อย
"อาซาเรียล…" เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ ปลายนิ้วไล้เส้นผมสีเงินอ่อนของคนในอ้อมกอด ความนุ่มของมันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แต่หัวใจของเขากลับเต้นรัวขึ้นทุกทีเมื่อสัมผัสถึงไออุ่นของอาซาเรียล
อาซาเรียลเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีแดงเข้มสั่นไหวอย่างชัดเจน "ข้ารู้สึกว่าหัวใจของข้ากำลังเต้นผิดปกติ…" เขาพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว
"มันอาจจะเป็นเพราะข้าอยู่ใกล้เกินไปหรือเปล่า?" กาเบรียลพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"ไม่ใช่แบบนั้น!" อาซาเรียลโพล่งออกมา ใบหน้าของเขาขึ้นสีจนแดงจัด "หรือ…อาจจะใช่ก็ได้…" เขาพึมพำเสียงเบาในตอนท้าย
กาเบรียลหัวเราะเบาๆ ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งเชยคางอาซาเรียลขึ้นมา "ข้าอยากลองพิสูจน์ดูจริงๆ ว่าหัวใจของเจ้าเต้นเร็วเพราะอะไร…"
อาซาเรียลเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าของกาเบรียลเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนเขาแทบลืมหายใจ "ท่านกาเบรียล... ท่าน—!"
คำพูดของเขาถูกกลืนหายไปทันทีที่ริมฝีปากของกาเบรียลกดลงมาเบาๆ มันไม่ใช่จูบที่รุนแรง แต่เป็นจูบที่อบอุ่นและลึกซึ้งจนเขารู้สึกเหมือนทั้งโลกหยุดหมุน
อาซาเรียลหลับตาลงอย่างช้าๆ ปล่อยให้ความอ่อนโยนนั้นลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ มือของเขาเผลอเกาะเสื้อของกาเบรียลไว้แน่นราวกับกลัวว่าตัวเองจะล้ม
กาเบรียลค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก ดวงตาสีเงินของเขาจ้องมองอาซาเรียลที่ยังคงหอบเบาๆ ใบหน้าของเขาแดงระเรื่ออย่างน่ามอง
"หัวใจเจ้าเต้นเร็วกว่าเดิมอีกนะ…" กาเบรียลกระซิบเบาๆ ใกล้ใบหูของเขา เสียงทุ้มต่ำชวนให้รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน
"ก็เพราะ… เพราะท่านนั่นแหละ!" อาซาเรียลโวยออกมาเบาๆ ใบหน้าของเขาก้มหลบจนเกือบชิดอกตัวเอง
กาเบรียลหัวเราะในลำคอ เขาค่อยๆ ดึงอาซาเรียลเข้ามากอดแนบชิด "ถ้าข้าทำให้เจ้าเป็นแบบนี้ ข้าคงต้องรับผิดชอบแล้วสินะ…"
อาซาเรียลได้แต่ซุกหน้าลงกับอกของกาเบรียลด้วยความเขินอายจนแทบไม่กล้าพูดอะไรอีก ครั้งท่ามกลางความอบอุ่นนั้น หัวใจของเขาเริ่มยอมรับว่าตัวเองอาจจะรักเซราฟิมผู้สูงส่งตรงหน้ามากกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก
อาซาเรียลยังคงซุกหน้าแนบอกของกาเบรียล พยายามซ่อนความเขินอายของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่า ความอบอุ่นจากร่างกายของกาเบรียลที่แนบชิดทำให้เขารู้สึกวูบวาบยิ่งขึ้น
กาเบรียลมองอาซาเรียลด้วยแววตาที่ลึกซึ้งและแฝงความปรารถนาเล็กน้อย เขาค่อยๆ เลื่อนปลายนิ้วไปแตะปลายคางของอาซาเรียล เชยขึ้นให้ดวงตาของพวกเขาสบกัน
"ข้าชอบตอนที่เจ้าทำตัวน่ารักแบบนี้จริงๆ..." เสียงทุ้มต่ำที่แฝงความเจ้าเล่ห์เอ่ยขึ้นเบาๆ
อาซาเรียลเงยหน้าขึ้น ดวงตาสั่นไหวพลางพยายามถอยตัวออก แต่กาเบรียลกลับรั้งร่างของเขาไว้แน่นจนขยับไปไหนไม่ได้
"ก-กาเบรียล... ท่านใกล้เกินไปแล้ว..." เขาพึมพำเสียงสั่น
กาเบรียลยิ้มบางๆ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของพวกเขาแทบจะประสานกัน "งั้นข้าควรอยู่ห่างกว่านี้หรือเปล่า?"
คำพูดนั้นไม่ได้มาพร้อมการถอยห่าง แต่เป็นการกดริมฝีปากลงมาอย่างแนบแน่น จูบนี้ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนครั้งก่อน แต่เต็มไปด้วยความร้อนแรงที่ทำให้อาซาเรียลลืมหายใจ
มือของกาเบรียลเลื่อนลงมาจับเอวของเขา รั้งให้เข้าใกล้มากขึ้นจนช่องว่างระหว่างพวกเขาหายไป อาซาเรียลตัวสั่นเล็กน้อยจากสัมผัสที่ราวกับไฟแผดเผา
"ท่านกาเบรียล...!" เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยเสียงหอบเบาๆ เมื่อจูบถูกถอนออก แต่กาเบรียลกลับไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาเลื่อนริมฝีปากไปที่ลำคอของอาซาเรียล ปล่อยรอยจูบที่ร้อนแรงไว้ตามผิวขาวเนียน
อาซาเรียลเบิกตากว้าง มือของเขาเผลอกดลงบนไหล่ของกาเบรียล "อย่า...ตรงนั้นมัน...!" เสียงของเขาสั่นไหวจนไม่สามารถพูดให้จบประโยคได้
"ตรงไหนล่ะ?" กาเบรียลเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหยอกล้อ ขณะเลื่อนปลายลิ้นสัมผัสบริเวณที่อาซาเรียลร้องห้าม
หัวใจของอาซาเรียลเต้นแรงจนเขารู้สึกเหมือนมันจะหลุดออกมา มือทั้งสองข้างพยายามผลักอีกฝ่ายออก แต่แรงของเขากลับไม่เพียงพอ
"ข้าจะไม่หยุด...จนกว่าเจ้าจะบอกว่ารักข้า" กาเบรียลกระซิบข้างหูของเขา เสียงทุ้มต่ำทำให้อาซาเรียลแทบละลายคาที่
"ข้ารัก...ข้า..." อาซาเรียลพยายามพูดแต่เสียงของเขากลับขาดหายไป
กาเบรียลจ้องเขาอย่างพอใจ ริมฝีปากของเขาขยับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะก้มลงไปจูบอีกครั้ง คราวนี้เต็มไปด้วยความดุดันที่ทำให้อาซาเรียลไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป
อาซาเรียลพยายามดึงสติกลับมา แต่แรงรัดจากวงแขนแข็งแรงของกาเบรียลที่โอบรอบเอวเขาไว้ราวกับกำลังตอกย้ำว่าเขาไม่มีทางหนีรอดได้อีกต่อไป
เสียงลมหายใจหนักหน่วงของทั้งสองคนสอดประสานกันในความเงียบที่ร้อนรุ่ม อาซาเรียลพยายามผลักดันอีกฝ่ายออก แต่กลับโดนกาเบรียลดึงเข้ามาชิดแน่นขึ้นกว่าเดิม
"เจ้ากำลังหนีข้า... หรือกำลังยั่วข้ากันแน่?" กาเบรียลถามด้วยเสียงแผ่วต่ำที่ชวนให้รู้สึกวูบวาบ
อาซาเรียลหน้าขึ้นสีจัดจนเหมือนจะระเบิด มือของเขายกขึ้นดันแผ่นอกของกาเบรียล แต่ก็เหมือนยิ่งเพิ่มแรงดึงดูดให้อีกฝ่ายยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
"ข้าจะ...จะไม่ยอมให้ท่านทำอะไรเกินเลยแน่!" เสียงของอาซาเรียลสั่นจนแทบไม่เป็นคำ
"เกินเลยเหรอ?" กาเบรียลกระซิบข้างหูเขา ก่อนจะลากปลายนิ้วไปตามแนวกรอบหน้าของอาซาเรียล "แล้วถ้าข้าบอกว่าสิ่งที่ข้าต้องการ...คือทุกอย่างของเจ้า จะว่าอย่างไร?"
ดวงตาของอาซาเรียลเบิกกว้าง น้ำเสียงของกาเบรียลที่ฟังดูจริงจังและหนักแน่นนั้นทำให้เขาไม่สามารถตอบโต้อะไรได้
"หรือเจ้าจะยอมให้ข้าแสดงให้ดู...ว่าข้าต้องการเจ้ามากแค่ไหน?" กาเบรียลเลื่อนมือไล้ไปตามแนวเอวของอาซาเรียล ลมหายใจของเขาร้อนผ่าวเมื่อเข้าใกล้ลำคอขาวเนียนอีกครั้ง
อาซาเรียลตัวสั่น มือของเขาเผลอจิกลงบนเสื้อคลุมของกาเบรียลเพื่อพยุงตัวเองไว้ "กาเบรียล...ท่าน..."
"อย่าห้ามข้าเลย อาซาเรียล..." เสียงกระซิบที่แฝงไปด้วยอารมณ์ร้อนแรงทำให้หัวใจของอาซาเรียลเต้นแรงจนเหมือนจะระเบิด เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟแห่งความปรารถนาแผดเผาจนแทบหลอมละลาย
กาเบรียลก้มลงไปหาเขาอีกครั้ง คราวนี้ริมฝีปากของเขาประทับลงบนแผ่นอกที่เต้นรัวของอาซาเรียล ความรู้สึกที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างทำให้อาซาเรียลหลุดเสียงครางแผ่วเบาออกมาโดยไม่ตั้งใจ
"เจ้าคือของข้า...และจะเป็นของข้าเสมอ" กาเบรียลประกาศเสียงหนักแน่น ก่อนจะประทับจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นจูบที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความต้องการที่ไม่อาจหยุดยั้ง
อาซาเรียลเหมือนตกอยู่ในวังวนที่ไม่อาจหนีออกไปได้ วงแขนแข็งแรงของกาเบรียลราวกับโซ่ตรวนที่พันธนาการเขาไว้แน่น ลมหายใจของอีกฝ่ายที่ร้อนรุ่มจนสัมผัสได้บนผิวกายทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
"ท่านกาเบรียล..." เสียงเรียกแผ่วเบาของอาซาเรียลเต็มไปด้วยความอายปนสับสน แต่ก็ไม่มีแรงพอจะต้านทาน
กาเบรียลยิ้มมุมปากพลางเอียงหน้าลงใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน "เจ้าก็รู้ว่าหนีไม่พ้นหรอก แล้วจะดื้อไปทำไมล่ะ อาซาเรียล?"
มือข้างหนึ่งของกาเบรียลเลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าอ่อนใสที่กำลังแดงระเรื่อของอีกฝ่าย ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะประทับลงไปบนริมฝีปากของอาซาเรียลอีกครั้ง จูบที่เริ่มต้นอย่างนุ่มนวลกลับร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนราวกับไฟที่กำลังลุกโชน
"อืม..." อาซาเรียลหลุดเสียงในลำคอขณะที่สัมผัสของกาเบรียลลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะดึงเอาทั้งลมหายใจและสติสัมปชัญญะของเขาไป
มือของกาเบรียลไล้ไปตามแนวแผ่นหลังของอาซาเรียล สร้างความรู้สึกวาบหวามที่อาซาเรียลไม่เคยสัมผัสมาก่อน แม้จะพยายามผลักดันอีกฝ่ายออก แต่แรงต้านก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆ เมื่อไฟแห่งความปรารถนาเข้าครอบงำ
"เจ้าคือทุกอย่างของข้า..." กาเบรียลกระซิบชิดใบหูของอาซาเรียล เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ลึกล้ำจนทำให้อาซาเรียลขนลุก
"ขะ...ข้าไม่เข้าใจ..." อาซาเรียลพยายามพูด แต่เสียงของเขาสั่นจนแทบไม่เป็นคำ
"ไม่ต้องเข้าใจหรอก แค่ยอมให้ข้าครอบครองเจ้า...แค่นั้นก็พอ" กาเบรียลดันตัวอาซาเรียลให้แนบชิดกับกำแพง พลางจ้องมองดวงตาของเขาด้วยสายตาที่แทบจะเผาผลาญทุกอย่าง
มือใหญ่ของกาเบรียลเลื่อนไปปลดเสื้อคลุมของอาซาเรียลอย่างช้าๆ ปล่อยให้เนื้อผ้าหลุดล่วงลงมากองที่พื้น เผยให้เห็นร่างกายที่กำลังสั่นไหวเบาๆ
"กาเบรียล! ท่านกำลังจะทำอะไร!" อาซาเรียลตะโกนด้วยความตกใจ แต่ก็ถูกกลืนหายไปเมื่อริมฝีปากของกาเบรียลประกบลงมาอีกครั้ง คราวนี้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
ลมหายใจของทั้งสองผสมผสานกัน ราวกับกำลังจุดไฟแห่งความร้อนแรงให้ลุกโชนขึ้นไปอีก
กาเบรียลก้มลงมามองอาซาเรียลที่ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายราวกับจุดไฟในอกของเขาให้ลุกโชน "เจ้าน่ารักเกินไปจนข้าห้ามตัวเองไม่ได้เลยล่ะ อาซาเรียล..."
อาซาเรียลกัดริมฝีปากแน่น พยายามไม่สบตากาเบรียล แต่เสียงหัวใจที่เต้นระรัวของเขากลับเป็นหลักฐานชัดเจนว่าเขาไม่อาจต้านทานสัมผัสของอีกฝ่ายได้
"ท่านกาเบรียล...พอเถอะ ข้าไม่..." คำพูดของอาซาเรียลขาดหายไปในทันทีเมื่อมือใหญ่ของกาเบรียลเลื่อนไปจับปลายคางเขาไว้แน่น
"อย่าปฏิเสธข้าแบบนั้นสิ เจ้าเองก็รู้ว่ามันสายเกินไปแล้ว" เสียงทุ้มต่ำของกาเบรียลทำให้อาซาเรียลแทบล้มทั้งยืน
ในที่สุด กาเบรียลก็กดริมฝีปากลงมาที่คอของเขาอีกครั้ง คราวนี้แรงกว่าเดิม ราวกับจะประทับตราไว้ว่าอาซาเรียลเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว จูบร้อนแรงนั้นราวกับจะดูดกลืนสติสัมปชัญญะทั้งหมดของอาซาเรียลไป
มือของกาเบรียลลากไล้ไปตามเส้นผมสีอ่อนของอาซาเรียลอย่างแผ่วเบา ก่อนที่มืออีกข้างจะเลื่อนไปตามแนวเอว บีบกระชับเบาๆ จนอีกฝ่ายสะดุ้งเล็กน้อย
"กาเบรียล! ข้า..." อาซาเรียลพยายามพูด แต่ลมหายใจขาดห้วงจนไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้
กาเบรียลโน้มตัวลงมาใกล้ขึ้นอีกจนปลายจมูกของทั้งสองสัมผัสกัน "เจ้าเป็นของข้า อาซาเรียล และข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
เสียงกระซิบแผ่วเบานั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความครอบครองที่ทำให้อาซาเรียลแทบจะละลายอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกวาบหวามราวกับเปลวเพลิงแผ่กระจายไปทั่วร่าง
กาเบรียลโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหูของอาซาเรียลอีกครั้ง "คืนนี้...ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีวันลืมชื่อของข้าเลยทีเดียว"
อาซาเรียลได้แต่กลืนน้ำลายพลางหลับตาแน่น ลมหายใจของเขาสะดุดแทบทุกจังหวะ ในใจของเขาทั้งสับสนและหวั่นไหวไปพร้อมกัน
กาเบรียลดึงร่างของอาซาเรียลเข้ามาแนบชิดมากขึ้นจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน สัมผัสร้อนแรงจากร่างของเซราฟิมเปรียบได้กับเปลวไฟที่กำลังลามไปทั่วร่างของอาซาเรียล เขาได้แต่หลับตาแน่น พยายามหายใจให้เป็นปกติ แต่ความใกล้ชิดนี้ทำให้ความพยายามทั้งหมดพังทลายลง
"เจ้าตัวเล็กของข้า...ช่างหวานเสียจนข้าไม่อาจหยุดได้เลย" กาเบรียลกระซิบชิดริมฝีปากของอาซาเรียลก่อนจะกดจูบลงอีกครั้ง คราวนี้หนักแน่นและลึกซึ้งกว่าเดิม
มือของกาเบรียลลากไล้ไปตามแผ่นหลังของอาซาเรียล เขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นเบาๆ ของอีกฝ่าย อาซาเรียลเผลอปล่อยเสียงครางแผ่วออกมาเมื่อสัมผัสของกาเบรียลทวีความร้อนแรงขึ้น
"กาเบรียล...ข้าไม่..." เสียงอ่อนแรงของอาซาเรียลดังขึ้นก่อนจะถูกกลืนหายไปในจูบที่เร่าร้อนอีกครั้ง
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แค่ปล่อยให้ข้าแสดงความรู้สึกของข้าเถอะ" กาเบรียลพูดอย่างหนักแน่น ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนเร้นได้อีก
กาเบรียลดันร่างของอาซาเรียลให้เอนลงไปกับพื้นเตียง มือใหญ่ของเขาเลื่อนไปตามลำคอขาวเนียน ก่อนจะก้มลงประทับรอยจูบลงไปอย่างจงใจ
อาซาเรียลตัวสั่นเทิ้มเมื่อสัมผัสร้อนแรงนั้นไล่ไปตามลำคอและลาดไหล่ "กาเบรียล...เจ้า..."
"เงียบเถอะอาซาเรียล เจ้าเป็นของข้า...ข้าไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร ไม่ว่าจะสวรรค์หรือใครก็ตาม ไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่าเจ้า" เสียงของกาเบรียลหนักแน่นและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แทบจะล้นทะลักออกมา
เปลวไฟของความรักและความปรารถนาที่ถูกกดเก็บมานานระเบิดออกมาราวกับลาวาภูเขาไฟที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ ค่ำคืนนี้เป็นของทั้งคู่เท่านั้น ท่ามกลางเสียงลมหายใจหอบกระเส่าและคำกระซิบที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้ง ไม่มีอะไรในโลกนี้จะพรากพวกเขาออกจากกันได้...
—
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องอย่างอ่อนโยน เสียงนกบนสวรรค์ร้องเพลงเบาๆ ราวกับจะปลุกให้ผู้คนเริ่มต้นวันใหม่ แต่สำหรับอาซาเรียล...เขาแทบไม่อยากลุกขึ้นจากเตียง
"อึก...เจ็บ..." เสียงครางเบาๆ หลุดออกจากปากของเขาเมื่อเขาพยายามขยับตัว ความปวดร้าวจากแผ่นหลังไปถึงเอวทำให้เขารู้สึกเหมือนร่างกายจะไม่เป็นของตัวเอง
กาเบรียลที่นอนอยู่ข้างๆ เปิดเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสภาพของอาซาเรียล "ตื่นแล้วหรือ เจ้าตัวเล็ก?"
"ทำไมท่านเรียกข้าว่าตัวเล็กอีกแล้วล่ะครับ?" อาซาเรียลเอ่ยเสียงงัวเงีย แถมยังเผลอส่งสายตาขุ่นๆ ไปให้กาเบรียล แต่มันกลับดูน่ารักมากกว่าน่ากลัว
"ก็เจ้าเป็นของข้าทั้งตัวทั้งใจ จะเรียกอะไรไม่ได้หรือ?" กาเบรียลยิ้มกริ่ม ก่อนจะเอื้อมมือไปโอบร่างอาซาเรียลที่พยายามหนีออกไปจากเตียง
"ปล่อยข้านะ! ท่านกาเบรียล ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว เจ้าคงไม่คิดว่า...อึก..." อาซาเรียลหน้าแดงเถือกเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขารีบเบือนหน้าหนี กัดริมฝีปากตัวเองอย่างเขินอาย
"ก็เพราะเจ้าเอาแต่น่ารักจนข้าอดใจไม่ไหวไงล่ะ" กาเบรียลโน้มตัวลงมากระซิบข้างหู พลางจูบเบาๆ บนหน้าผากของอาซาเรียล "แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลเจ้าเอง"
"ดูแล? ดูแลอะไรของท่าน! ถ้าดูแลจริงก็อย่าทำให้ข้าปวดแบบนี้สิ!" อาซาเรียลตะโกนเสียงอ่อย แม้จะพยายามดุแต่สีหน้ากลับแดงซ่านจนหมดความน่าเกรงขาม
"ขอโทษที คราวหน้าข้าจะ...อืม...พยายามเบาลงแล้วกัน" กาเบรียลตอบหน้าตาย แต่แววตากลับแฝงรอยขี้เล่นที่อาซาเรียลไม่ทันสังเกต
"คราวหน้า?! ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าจะได้ทำอีก!" อาซาเรียลตวัดสายตามองอย่างโกรธเคือง แต่ด้วยสภาพที่เขาแทบขยับไม่ได้ มันกลับทำให้กาเบรียลยิ้มออกมา
"เจ้าพูดแบบนั้น...แต่ข้าว่าเจ้าเองก็ชอบใช่ไหมล่ะ?" กาเบรียลยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกของทั้งสองแทบจะชนกัน
อาซาเรียลพูดไม่ออก ได้แต่เบือนหน้าหนีอย่างเขินจัด "ขะ...ข้าจะไปปรึกษาอูรีเอลแล้ว!"
"เจ้ากล้าหรือ?" กาเบรียลหัวเราะพลางดึงอาซาเรียลมากอดแน่นอีกครั้ง "ข้าไม่ให้เจ้าหนีไปไหนหรอก เจ้าเป็นของข้าแล้ว"
อาซาเรียลที่แม้จะพยายามดิ้นรน แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ต่ออ้อมกอดอบอุ่นของกาเบรียล ความเขินอายของเขายิ่งเพิ่มขึ้น แต่ลึกๆ ในใจก็รู้สึกมีความสุขจนไม่อาจปฏิเสธได้เลย...
หลังจากนั้นอาซาเรียลก็ไล่กาเบรียลออกไปจากห้อง (ถึงจริงๆ ห้องนี้จะเป็นของกาเบรียลก็เถอะ) แต่กาเบรียลก็ไม่ได้ว่าอะไรจึงปล่อยให้อาซาเรียลนอนพักบนเตียงเขาไปก่อน
อาซาเรียลนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง สีหน้าบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าสุดขีด พลางเอ่ยเสียงแหบแห้งกับตัวเอง
"เจ้า...เจ้านั่นมัน...เหมือนกับปืนนีโออามสตรอง...ใหญ่จนข้าจุกเลย..."
เขาพลิกตัวอย่างเชื่องช้า ก่อนจะยกมือจับเอวตัวเองพร้อมเสียงครางเบาๆ "กาเบรียลนี่ช่างไม่มีความปรานีจริงๆ...ใหญ่ขนาดนั้นยังจะ..."
เสียงประตูเปิดดังขึ้นอีกครั้ง อูรีเอลยืนอยู่พร้อมกับถือถาดน้ำชา เธอมองอาซาเรียลที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงพลางเลิกคิ้ว "เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า? หน้าตาเหมือนคนผ่านสนามรบมา"
"ข้าไม่เป็นไร! แค่...ปวดเอวเฉยๆ!" อาซาเรียลรีบตอบพลางพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่กลับต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ
อูรีเอลหรี่ตามองด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ย "เมื่อคืนนี้เจ้ากับกาเบรียล...ทำอะไรกันแน่?"
"ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!" อาซาเรียลหน้าแดงก่ำ รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว "ข้าแค่...แค่ล้มผิดท่า!"
"ล้มผิดท่าหรือโดนอะไร 'ใหญ่ๆ' ทิ่มกันแน่?" อูรีเอลยิ้มมุมปากก่อนจะเดินเข้ามาวางถาดชาใกล้ๆ พร้อมกับสายตาที่ทำให้อาซาเรียลอยากแทรกแผ่นดินหนี
"เจ้าพูดอะไรน่ะ! ไม่มีอะไรทั้งนั้น!" อาซาเรียลตะโกนเสียงสั่น หน้าแดงยิ่งกว่าผลมะเขือเทศ
"อืม...ข้าก็แค่สงสัยเฉยๆ นะ" อูรีเอลหัวเราะเบาๆ พลางเดินออกไปจากห้อง
กาเบรียลซึ่งยืนอยู่ข้างนอก ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดก็ได้แต่ยิ้มมุมปาก ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ "ปืนนีโออามสตรองงั้นเหรอ? ข้าคงทำแรงไปสินะ...แต่ก็อดใจไม่ไหวจริงๆ"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments