วัดใจ

ความสัมพันธ์ทั้งคู่ดำเนินมาเรื่อยๆ วันเวลาผ่านไปทั้งสองเริ่มจะตัวติดกันตลอดเวลา ไปไหนมาไหนด้วยกัน ทั้งสองจะแวะไปมาหาสู่บ้านกันเสมอมา วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งคู่มีนัดกันพาไปเที่ยวเล่นตามสถานที่ที่ได้วางแผนกันไว้ เสียงเปิดประตูจากห้องน้ำ ฝีเท้าที่ก้าวเดินออกมาหยุดอยู่หน้ากระจก หญิงสาวที่กำลังเช็ดตัวเสร็จทำการเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ เธอถอดผ้าขนหนูลงแล้วสวมใส่ชุดที่ได้เลือกไว้ เดินมานั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง แต่งหน้าทำผมจัดระเบียบตัวของเธอ หญิงสาวส่องกระจกไปมาไม่หยุด ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงครึ่งพอดี ได้เวลาที่นัดหมายกันแล้ว เสียงบีบแตรรถดังมาจากทางหน้าบ้าน ชายหนุ่มร่างสูงขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์คันสีขาวแถบดำ บิ๊กไบค์ หญิงสาวเมื่อเห็นชายหนุ่มมาถึงแล้วก็รีบลงไปหาเขาในทันที ทั้งคู่ต่างแต่งตัวออกมาดูดีเป็นพิเศษในวันนี้ ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน สบตากันชั่วคราว ท่าทางของทั้งคู่ดูเขอะเขิน

'ว..วันนี้แต่งตัวหล่อนะเนี่ยยย' ไอยูเอ่ยชมภูริขึ้น เมื่อเขาได้ยินคำชมจากปากหญิงสาว ก็รู้สึกร้อนผ่าวที่หู

"ขอบคุณ เธอก็สวยเหมือนกันนะวันนี้" เขาเอ่ยชมกลับทำให้หญิงสาวแทบใจเต้นอย่างแรง เธอกล่าวขอบคุณเขาตอบ ฝ่ายหญิงก้าวเท้าเหยียบที่รองเท้าของรถก็จะยกตัวขึ้นคร่อมซ้อนท้ายส่วนชายหนุ่มเมื่อหญิงสาวซ้อนรถเขาเรียบร้อยก็บิดคันเร่ง ขี่รถมุ่งหน้ายังสถานที่ที่พวกเขาได้วางแพลนกันไว้

ประตูเปิดอัตโนมัติ สองชายหญิงก้าวเท้าเดินเข้าห้างมา ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่เซ็นทรัลทั้งคู่พากันเดินไปดูจุดที่ขายของต่างๆ ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านมือถือ ร้านนาฬิกา สร้อยเพชร ร้านกิ๊ฟช๊อป ร้านขายรองเท้า เดินกันจนมาถึงโซนขายอาหารทั้งคู่จึงพากันไปเลือกของกิน ทั้งสองคนเดินเข้าไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร พนักงานก็นำรายการอาหารมาให้ทั้งคู่ได้เลือก เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งทั้งสองคนจึงตกลงสั่งเมนูราเม็งมาทานกัน ในระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟทั้งคู่ก็พูดคุยกันระหว่างรอ

'ไม่ได้กินราเม็งมานานแล้ว'

"หรอ" ภูริเอ่ยถามโดยนัยจริงหรอ

'ก็ใช่นะสิ'

"อ่ออออ"

'นายเคยมากินร้านนี้ปะ'

"อืมม เคย"

'หรอ แล้วร้านนี้อร่อยปะ'

"ก็พอใช้ได้"

'อ่อ แล้วนายเคยมากินกับใครหรอ สาวแน่ๆ' ไอยูแซวเขา

"ใช่ผมมากับสาว" ภูริตอบทันที เมื่อไอยูได้ยินเธอก็รู้สึกสตั้นทันที ตอนนี้เธอไม่พอใจมากจึงตอบประชดประชันเขากลับ

'อ่อ' เธอทำหน้าบึ้งตึงหันหน้าไปมองอย่างอื่น ภูริเรียกเธอก็ไม่ตอบไม่พูดไม่จากับเขาสักคำ จนภูริหลุดขำออกมาเล็กน้อย ไอยูหันไปมองค้อน สงสัยว่าภูริขำอะไรเธอ

'ขำไร' เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ตะคอก

"นี่คุณหึงผมหรอ 5555" ไอยูได้ยินก็อารมณ์เสียยิ่งขึ้น

'อย่ามาเพ้อเจ้อ หึงบ้าหึงบอไร' เธอปฎิเสธเสียงแข็ง ภูริหุบยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของไอยูที่มีต่อเขา

"สาวที่ผมพูดถึง..ก็คือแม่ผมเอง" เมื่อไอยูได้ยินอย่างนั้นเธอก็คลายโมโหในทันที

"ผมเคยมากินร้านนี้กับแม่ตอนอายุสัก 10ขวบมั้ง นานแล้วแหละผมก็จำไม่ค่อยได้" ชายหนุ่มย้อนความหลังให้ไอยูได้ฟัง พูดจบพนักงานก็เอาอาหารที่พวกเขาสั่งไว้มาเสิร์ฟที่โต๊ะ กลิ่นราเม็งลอบฟุ้งเข้าจมูกส่งกลิ่นหอมชวนน่าทาน ทั้งคู่ไม่รีรอที่จะทานในทันที ได้เวลาเช็คบิลอาหารภูริยกมือเรียกพนักงานมาเช็คบิล เมื่อพนักงานแจ้งยอดอาหาร ไอยูเปิดกระเป๋าหยิบเงินขึ้นมาเพื่อที่จะจ่ายค่าอาหารตัวเองแต่พอเงยหน้าขึ้นมา ภูริก็ชิงแสกนจ่ายไปก่อนแล้ว ไม่ทันที่เธอจะได้จ่าย

'แมะ ให้ฉันจ่ายเองบ้างก็ได้'

"ไม่เป็นไร ผมรวย ผมจ่ายให้" สีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของภูริทำให้ไอยูรู้สึกว่าชายหนุ่มช่างมีความมั่นในตัวเองพอตัว

'จ้าาา พ่อคนรวยมีเงินใช้เป็นสิบล้าน'

"แน่นอน บ้านผมรวยเงินสิบล้านยังน้อยด้วยซ้ำ"

'อึ้ย....ทำไมมั่นชั่งวะ เออรู้แล้วค่าาว่าบ้านรวย' ความคิดที่ดังอยู่ภายในใจของหญิงสาว

"ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่"

'หรอ'

"อืม"

'งั้นชั้นคิดอะไรอยู่'

"คุณคิดว่าผมรวยไม่พอแถมหน้าตาดีอีกต่างหาก ใช่ไหมล้า"

'ทำไมไอนี่มันมั่นจังวะ... นายอย่าปัญญาอ่อนสิ'

"ผมไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ"

'อ่อๆเคๆ' ทั้งสองเหย้าแหย่กันแล้วเดินออกจากร้านไปเดินเล่นกันต่อ

ทั้งคู่เดินเที่ยวเล่นเลือกซื้อของที่ต้องการแล้วก็พากันเดินทางไปสถานที่ที่ตั้งใจไว้ต่อ สถานที่ที่ทั้งคู่มาต่อก็คือวัดที่มีชื่อเสียง หญิงสาวชายหนุ่มพากันเดินเข้าไปภายในตัววัด เดินก้าวเข้าโบถส์ทั้งสองได้ซื้อของที่เตรียมจะมาไหว้สักการะเรียบร้อยแล้ว ภูริกับไอยูคุกเข่าลงคลานเข้าไปลงแล้วกราบไหว้พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ตรงหน้าพวกเขา พระพุทธรูปนั้นองค์ใหญ่โตเป็นสีขาวผ่องใส ช่างงดงาม หลังจากที่ไหว้เสร็จสรรพพวกเขาทั้งสองก็แวะถ่ายรูปตามจุดต่างๆบ้าง แล้วก็พากันมานั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ บรรยากาศเย็นสบาย สายลมพัดผ่านบางเบา แสงแดดอ่อนๆ ไอยูสูดดมกลิ่นอายของบรรยากาศ ช่างชื่นใจเสียจริงๆ

'อา รู้สึกดีจัง'

"ทำไมถึงอยากมาทำบุญหรอ" ภูริเอ่ยถามด้วยความสงสัย

'ชั้นมาทำบุญให้พ่อกับแม่หนะ' หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

"พ่อแม่?"

'อืม'

"พวกท่านเป็นอะไรหรอ.."

'พวกท่านเสียไปแล้วหนะ' ภูริได้ยินก็อึ้งไปสักพักหนึ่ง

"ผมเสียใจด้วยนะ"

'ไม่เป็นไร ถือว่าพวกท่านไปสบายแล้วกัน' แม้ปากจะบอกว่าไม่เป็นอะไรแต่ภายในใจของหญิงสาวเธอก็คิดถึงทั้งสองคนอยู่ตลอดเวลา

"แล้วคุณโตมาอย่างไรหรอ ผมขอถามได้ไหม...ต..แต่ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นอะไรนะ ผมไม่ได้ซีเรียส" หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอหุบยิ้มไม่ได้เมื่อได้ยินคำถามที่เขาพูด หญิงสาวเงยหน้ามองท้องฟ้า ก่อนจะย้อนความหลังชีวิตของเธอให้เขาได้ฟังว่าเธอนั้นสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เธออายุ12ปี พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุรถชนในวันที่พวกท่านไปซื้อของและกำลังเดินทางกลับมาบ้าน หญิงสาวเติบโตมาโดยตัวคนเดียวตลอด ส่วนเงินที่มีใช้ทุกวันนี้ได้มาจากมรดกของพ่อแม่และเงินจากญาติของเธอบางส่วน ภูริที่ได้ฟังเรื่องในชีวิตแต่ก่อนของไอยู เขาก็ทำหน้าโศกเศร้า

"คุณคงโดดเดียวมากเลยสินะ" ไอยูเห็นสีหน้าและน้ำเสียงที่เศร้าหมองของภูริเมื่อได้ฟังเรื่องราวของเธอก็หัวเราะชอบใจ

'555 ไม่ขนาดนั้นหรอก ฉันโอเค' เธอพูดปลอบภูริ

"จริงหรอ"

'อืม แน่นอน ถึงจะอ้างว้างบ้างแต่ไม่ช้าก็เร็วพวกท่านก็ต้องจากฉันไปอยู่ดีมันเป็นธรรมชาติของคนเราหนะ ไม่มีใครอยากให้คนที่รักจากไปหรอก แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็เติบโตมาได้'

"เธอเข้มแข็งมากเลย"

'บ้าาา ชมเกินไปหนา55' ไอยูตีที่ไหล่ของภูริเบาๆแสดงถึงการหยอกล้อของเธอ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางต่อพากันไปที่สะพานแห่งหนึ่ง ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ทั้งสองมายืนชมบรรยากาศยามค่ำ ผู้คนเดินไปมาตามริมฟุตบาทผ่านพวกเขาทั้งสองไป สายลมพัดผ่านมากระทบตัวทำให้เส้นผมปลิวไสวไปตามแรงลม ทั้งสองคนยืนนิ่งชื่นชมบรรยากาศ ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอยู่ข้างๆโดยที่เธอนั้นไม่รู้ตัว เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่หลงไหลภายในตัวเธอ เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งเหมือนเธอจะรู้สึกตัวได้ว่าชายหนุ่มมองอยู่ หญิงสาวค่อยๆหันหน้าไปมองชายหนุ่มทันที ทั้งคู่สบตากันพร้อมกับสายลมที่พัดเข้ามาหาทั้งสอง เหมือนอยู่ในวังวนที่ไม่อาจจะละสายตาจากกันได้เวลาผ่านไปสักพักหญิงสาวก็เอ่ยถามขึ้นมา

'มีอะไรหรอ เห็นจ้องฉันไม่หยุด' ไร้ซึ้งคำตอบใดๆโต้กลับให้เธอ ชายหนุ่มไม่โต้ตอบอะไรได้แต่มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขา ก่อนที่เขาจะคอยๆเดินเข้ามาหาไอยูทีละก้าว ไอยูสะดุ้งเดินถอยไปนิดหน่อยแล้วก็หยุดทำให่ภูริเดินเข้ามาหาตัวเธอได้อย่างใกล้ชิด ตอนนี้ทั้งคู่ใกล้กันมากขึ้น ใจของหญิงสาวเริ่มเต้นขึ้นตึกตักตึก ทั้งสองมองหน้ากัน

'น..นี่ภูริ' ไอยูเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าภูริเอาหน้ายื่นเข้ามาใกล้เธอ

"ไอยู ผมมีบางอย่างที่อยากจะบอกคุณ"

'อะ..อะไรหรอ..' ภูริยื่นหน้าเข้ามาใกล้ไอยูมากกว่าเดิมจนเหมือนว่าเขาจะเอาริมฝีปากมาจูบลงที่ปากเธอ ไอยูหลับตาปี๋ยืนตัวนิ่งตอนนี้หูของเธอร้อนชาและแดงขึ้นมาก ใจของเธอก็เต้นแรงเข้าไปอีก แต่เวลาผ่านไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นใบหน้าภูริที่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนแล้วเขาก็เดินถอยออกจากตัวเธอ ทำให้ไอยูยืนงงอยู่สักพักหนึ่ง

"กิ๊ฟนี้เหมาะกับเธอดีนะ" เมื่อไอยูได้ยินก็เอามือไปจับที่ผมของเธอปรากฏว่าภูริได้นำกิ๊ฟมาติดที่ผมของเธอ ทำให้ไอยูเข้าไปตีที่หลังของภูริหลายที

'นี่แหนะๆๆๆ ตาบ้า!!'

"โอ๊ยๆๆ ผมเจ็บนะ ตีผมทำไหม"

'ใครสั่งให้นายมาทำกิริยากับชั้นแบบนี้ นี่แหนะๆๆๆโดนสะ!'

"เดี่ยวๆ โอ๊ยๆ พอเถอะผมเจ็บบ" 

'หึ้ย!!'

ไอยูได้กลับมาที่บ้านของตัวเองเรียบร้อยเธอขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินมาล้มตัวฟุบนอนลงเตียง ในหัวของไอยูนึกภาพตอนที่ภูริยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วก็อดที่จะเขินไม่ได้ หญิงสาวกำมือทุบลงที่นอนดัง ตุบตุบตุบ

'หึ้ย!! ตาบ้า!!' เธอนอนแน่นิ่งไปกับที่นอนในหัวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาเปลี่ยนจากเอากิ๊ฟมาติดที่ผมเป็นการเอาริมฝีปากมาประกบที่ปากเธอแทนจะเป็นอย่างไร แต่พอคิดถึงอะไรอย่างนั้นเธอก็ส่ายหัว พยายามหยุดคิด แล้วก็ต่อยที่นอนตุบตุบตุบ

'ภูริ ไอคนบ้าเอ่ย...ชอบทำให้เขินอยู่ได้...'

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!