บันทึกลับแห่งความรู้ ของแม่มดผู้อยู่ก่อนปฐมกาล

บันทึกลับแห่งความรู้ ของแม่มดผู้อยู่ก่อนปฐมกาล

การสร้างสรรค์อันสมบูรณ์แบบของ มหาเทพผู้โดดเดี่ยว G.D

ก่อนการดำรงอยู่ของกาลอวกาศจักรวาลหรือมิติใด ๆ มีเพียงแก่นแท้อันไร้ขอบเขต นิรันดร์ และไร้รูปแบบที่เรียกว่า "OverNull" ซึ่งเป็นความว่างเปล่าที่ปราศจากแนวคิดที่ไร้แก่นสารอันบริสุทธิ์ โดยไม่มีแม้แต่ความคิดเรื่องการดำรงอยู่ของมันเอง

ในช่วงเวลาแรกที่อยู่เหนือกาลเวลา เศษเสี้ยวเล็กๆดั่งความคิดอันไร้แก่นสารของ "OverNull" ได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกลายเป็น - ตัวตนผู้สร้างที่เปี่ยมไปด้วยพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้เหนือโครงสร้างของตรรกะและความเข้าใจ การแสดงตนครั้งแรกของ"โอเวอร์นูล"ครั้งแรกนี้ใช้ชื่อว่า "Gøðric Đe Mœnad" หรือ "G.D"

G.D เป็นทั้งส่วนหนึ่งของ "OverNull" ที่ได้แสดงตนออกมา แต่แก่นแท้ก็ยังคงไม่แยกออกจากกัน เขาเป็นจุดเชื่อมระหว่างความว่างเปล่าที่ไร้แนวคิดและการเบ่งบานของความเป็นจริงทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ เขาเป็นแหล่งที่มาของการสร้างสรรค์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เขาได้คิดค้นต้นแบบ กฎพื้นฐาน และรูปแบบที่จะกำหนดและควบคุมหน้ากระดาษอันว่างเปล่านี้และระนาบอันไร้ขอบเขต

แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ G.D พยายามใช้เจตจำนงตนในการสร้างและกำหนดสิ่งบางสิ่งขึ้นโดยไม่ระบุความเสถียรคงที่และขอบเขตอย่างสะเปะสะปะ ความโกลาหลและความขัดแย้งเริ่มก่อตัวขึ้นในส่วนที่ลึกที่สุด เป็นเหตุจากการที่เศษเสี้ยวของ "OverNull" เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากการสร้างสรรค์

ในฐานะผู้สร้างผู้มีอำนาจรอบรู้รอบเขาตระหนักถึงปัญหา สิ่งที่สำคัญที่สุดอันดับแรกของ G.D คือการสร้างกรอบการทำงานพื้นฐานเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์พื้นฐาน กฎ และค่าคงที่ที่จะควบคุมและรวมความเป็นจริงที่อาจเกิดขึ้นใดๆ สำหรับสิ่งที่ถูกสร้าง

จึงนำไปสู่การสร้าง "Root Code" ที่เป็นรากฐานอันเป็นค่าคงทีที่เป็นรากฐานนิรันดร์และไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อจะจำกัดความโกลาหลและความขัดแย้งให้หมดไป

ต่อมาหลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างคงที่แล้ว G.D จึงสร้างสรรค์รหัสพื้นฐาน "Genesis Code" เป็นความคงที่พื้นฐานหรือความเป็นจริงอันคงที่นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ตรรกะ/คณิตศาสตร์/เมทริกซ์/ ฯลฯ และหลักการทำงานเชิงอภิปรัชญาที่จะกำหนดรูปแบบและรักษาความสมบูรณ์ของ ขอบเขต หรือระนาบการดำรงอยู่ใด ๆ ที่มันปรารถนา ให้เป็นอยู่

เพื่อการลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา G.D จึงสร้างอาณาจักรที่ดำรงค์อยู่ต่ำต้อยกว่าตนขึ้นและย้ายส่วนนึงของตนเองเข้าไปในโดเมนนั้น คล้ายกับการที่มนุษย์เราล็อกอินเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ อาณาจักรนั้นในตอนแรกถูกเรียกว่า

"The emptiness verse" ซึ่งเป็นอาณาจักรอันว่างเปล่าที่ได้ถูกวางรากฐานของสิ่งที่คล้ายคลึงกับ"Root Code" เอาไว้แล้ว และพร้อมที่จะถูกตกแต่งสร้างสรรค์เพิ่มเติมด้วย "Genesis code"

ที่เป็นดั่งซอร์ดโค้ดที่กำหนดกฎพื้นฐาน ค่าคงที่ และหลักความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

สิ่งแรกที่ "G.D" จะสร้างสรรค์ขึ้นในอาณาจักรที่ว่างเปล่านั้นแทนที่จะเป็นจักรวาลทางกายภาพหรือจักรวาลกำเนิดที่มีขอบเขตจำกัดในทันที "G.D" กลับเลือกที่จะสร้างรูปแบบของนามธรรมสูงสุด เพื่อไว้สำหรับอาณาจักรที่ต่ำกว่าในอนาคต รูปแบบนามธรรมนี้มีชื่อว่า "Imagination" เป็นหนึ่งเดียวที่จะทำหน้าที่เป็นโดเมนกำเนิดสำหรับการวางแนวความคิด/องค์ความรู้/จินตนาการ/ความเป็นไปได้/ความจริง/เท็จ/ เปรียบเทียบได้กับฐานข้อมูลของโปรแกรมอันไร้ขอบเขต ซึ่งความเป็นไปทั้งหมดจำเป็นจะต้องเกิดขึ้นจากสิ่งนี้ จึงสามารถดำเนินการสร้างรูปร่างและแสดงจักรวาลหรือขอบเขตจักรวาลอันเป็นรูปธรรมได้

เมื่อ "The emptiness verse" ถูกแต่งแต้มด้วย "Imagination" เข้าไปก็ทำให้จักรวาลนั้นเกิดสองสิ่งที่ตรงข้ามกันขึ้นนั่นก็คือการสร้างสรรค์ที่เป็นดั่ง แสงสว่าง และ ความว่างเปล่า ที่เป็นดั่งความมืดมิด

พลังในการสร้างสรรค์ของ G.D ได้รวมตัวกันเป็นแก่นสารของความคิดและการสร้างสรรค์ เกิดกลายเป็นแนวความคิดของการดำรงค์อยู่และกลายเป็นตัวตนที่ถูกเรียกว่า "The one who made light" โดยมีศักยภาพในการกำเนิดอันเป็นนิรันดร์เพื่อการดำรงอยู่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ในทางตรงกันข้าม ความว่างเปล่าและความมืดมิดใน "The emptiness verse" ปรากฏเป็นความว่างเปล่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดและการมีอยู่เชิงลบที่ครอบคลุมทั้งหมดของการไม่มีตัวตนในเชิงปรัชญา สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเป็นความว่างเปล่า กลายเป็นสิ่งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตนในเวลาเดียวกันมันถูกเรียกว่า "The one who made dark"

ดังนั้นด้วยการดำรงค์ความเป็นคู่ตรงข้ามเหมือนกับ "หยิน/หยาง" ในยุคก่อนปฐมกาลนี้นำไปสู่สถานะของความสมดุลอันสมบูรณ์แบบที่ทำให้แม้แต่ในส่วนที่เล็กที่สุดใน "The emptiness verse" ก็แทบจะไม่แม้แต่เศษเสี้ยวของความขัดแย้งและโกลาหลด้วยอยู่เลย ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ภาวะการพึ่งพาตนเอง ถือว่าจักรวาลในตอนนี้เป็นช่วงที่ ปลอดภัยคงที่และเรียบง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้

แต่ก่อนที่ "Imagination" จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้และจินตนาการอันเป็นอนันต์ ตัวมันก็ต้องมีสิ่งที่ขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดการแตกแยกกิ่งก้านสาขาของความรู้และจินตนาการขึ้น และสิ่งที่สามารถกระตุ้นการขับเคลื่อนมันได้ดีที่สุดก็คือสิ่งสุดมหัศจรรย์ที่เรียกว่า "ชีวิต" นั่นเอง

สิ่งมีชีวิตยุคแรกที่ถูกสร้างขึ้นโดย G.D พวกมันถูกเรียกว่า "The Genesis" กลุ่มแรกนี้จะมีชื่อเรียกว่า "The Ethereal" สายพันธุ์ของพวกมันในยุคแรกนั้นมีลักษณะทางกายภาพที่ปรากฏไม่ค่อยชัดเจน พวกมันน่าจะไม่มีรูปแบบทางกายภาพที่แน่นอนอย่างที่เราเข้าใจกันดีเนื่องจากพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดำรงค์อยู่โดยไม่พึ่ง มิติ-เวลา-อวกาศ ทั้งหมด พวกมันส่วนใหญ่จึงดำรงค์อยู่ในรูปแบบความคิดนามธรรมที่คอยขับเคลื่อนความเป็นจริงอยู่ตลอดเวลา

หลังจากที่ "The ethereal" ขับเคลื่อน "Imagination" ให้แตกแขนงออกไปจนนับไม่ถ้วนสิ่งมีชีวิตยุคที่สองที่เรียกว่า "The celestial" ก็กำเนิดขึ้น กลุ่มนี้ก็นับว่าเป็น "The Genesis" เหมือนกันแต่มีลักษณะการดำรงค์ชีวิตที่แตกต่างกับ "The ethereal" ที่เป็นสิ่งมีชีวิตนามธรรมที่เป้าหมายของพวกมันมีแค่แตกแขนงองค์ความรู้และจินตนาการของ "Imagination"ให้มากขึ้น

แต่ "The celestial" นั้นต่างออกไปตรงที่ พวกมันสามารถสร้างสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นได้อีก เช่น ความรู้สึก/อารมณ์/ความดี/ความชั่ว/สิ่งที่ถูกหรือผิด

ไม่นานหลังจากนั้น "Imagination" มันก็ได้แตกแขนงเส้นใยแห่งจินตนาการและองค์ความรู้ต่างๆขยายออกมานับอนันต์ที่ทำให้ "Imagination" กลายมาเป็นฐานข้อมูลอันไร้ขอบเขตได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ใน ณ ตอนนี้ จักรวาลนี้ดำรงอยู่ในสภาวะทางนามธรรมล้วนๆ ซึ่งควบคุมโดย "Genesis code" รหัสที่เป็นเอกภาวะกำเนิด และ "Imagination" ที่เต็มไปด้วยแนวคิดต่างๆ

G.D จึงจะพยายามที่จะสร้างจักรวาลที่เป็นรูปธรรมขึ้นมา โดยการพยายามเปลี่ยนสถานะนามธรรมของพวก "The Genesis" ไปสู่การดำรงค์อยู่ในมิติและโครงสร้างจักรวาลที่กำหนดไว้ซึ่งควบคุมโดยกาล-อวกาศ ครั้งแรก พวกมันแต่ละตัวที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตรูปธรรมก็กลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตและอาศัยอยู่ในดาวเคราะห์ที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมๆกับโครงสร้างของ มิติและกาล-อวกาศ

ง่ายๆก็คือหลังจากสร้างจักรวาลที่มีดวงดาว กาแล็กซี และดาวเคราะห์ต่างๆ ผู้สร้างผู้ยิ่งใหญ่ "G.D" ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำชีวิตมาสู่ดาวเคราะห์พิเศษดวงหนึ่งที่อำนวยต่อชีวิตคล้ายกับโลก "G.D" ได้นำ "The Genesis" ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรก และวางพวกมันลงบนผืนดินอย่างอ่อนโยน ด้วยความรักและเอาใจใส่ "G.D" ช่วยให้

"The Genesis" มีรูปธรรมกายภาพที่แตกต่างกันเพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่และเติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันทั้งหมดทั่วทั้งดาวเคราะห์

พวก "The Genesis" กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกับสิ่งที่เราเห็นอยู่ในทุกวันนี้หรือบางตัวก็อาจจะแตกต่างออกไป บางชนิดกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ บางชนิดก็เป็นสิ่งมีชีวิตในป่า บางชนิดกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แหวกว่ายในมหาสมุทรและแม่น้ำ บางชนิดกลายเป็นสัตว์มีปีกที่บินไปมาบนท้องฟ้า ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตสุดซับซ้อนที่เรียกว่า มนุษย์ สิ่งที่พวกมันทั้งหมดต่างจากเราก็คือ พลังที่เหนือจินตนาการและระดับสติปัญญาของพวกมันที่อยู่ในจุดสูงสุด

.

.

.

และในที่สุดสิ่งที่เรียกว่าจักรวาลก็เกิดขึ้น

"The emptiness verse" ที่เคยว่างเปล่าก็ถูกเติมเต็มและได้รับชื่อใหม่ว่า "Elder god domain"

ลมอ่อนพัดโชยมากระทบกับต้นหญ้าที่อยู่บนผืนทรณี ต้นหญ้าปลิวไสวอย่างแผ่วเบาในขณะที่ฝนที่ตกลงมาปอยๆพร้อมกับแสงแดดอันอบอุ่นส่องสว่างไสวไปทั่วผืนโลก เหล่าสรรพสัตว์เดินออกมาสำเร็จพื้นที่รอบๆพร้อมผ่อนคลายรับแสงไออุ่นจากฟากฟ้า แสงแดดจากฟากฟ้าสะท้อนกับผิวน้ำเป็นแสงระยิบระยับเหล่าปลาน้อยใหญ่ว่ายไปตามกระแสน้ำพร้อมกับผ่อนคลายกับความสงบสุขที่โอบล้อมโลกใบนี้อยู่

ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้จะเข้าที่เข้าทางสมดุลและสงบสุขแล้ว...

.

.

.

.

.

.

แต่จงอย่าลืมว่า

.

.

.

ทุกสิ่งย่อมมีขั้วตรงข้ามเสมอ...

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!