เวลาผ่านมาหนึ่งปี
ณ จวนตระกูลหลี่ที่เงียบสงบยามเช้าหญิงสาวนางหนึ่งกำลังเย็บผ้าอยู่บนศาลารินน้ำ เป็นกิจวัตรประจำวันของทุกวัน แต่วันนี้พิเศษเพราะมีขนมมากมายเรียงอยู่บนโต๊ะ
"ท่านน้าเจ้าค่ะ/ท่านน้าขอรับ"เสียงของเด็กเล็กสองคน ฝาแฝดชายหญิงบุตรของท่านกงลู่ลูกพี่ลูกน้องฝั่งสามี วันนี้ก็เข้ามาเมืองหลวงเช่นเคยและพาเจ้าสองแสบมาเยี่ยมนาง คงเป็นสิ่งเดียวทำให้เหรินเหมยลี่รู้สึกมีดีใจและมีความสุขยิ่งนัก การมีใครสักคนมาเยี่ยมเช่นนี้ก็ทำให้นางไม่เหงาด้วย ตั้งแต่ท่านแม่สามีจากไปนางต้องอยู่ในจวนหลี่ที่เงียบนี่มีนางเป็นนายเพียงผู้เดียวเพราะเหล่าญาติพี่น้องของสามีนั้นได้ตกแต่งไปหมดแล้วเหลือ นับจากท่านพ่อตาที่รับช่วงต่อการเป็นผู้นำตระกูล กลับต้องต้องพ่ายแพ้ในสงครามและสิ้นชีพไป จนเหลือเพียงท่านแม่สามีและสามีที่ยังคงต้องดูแลจวนตระกูลหลี่ต่อจนตอนนี้เหลือเพียงสามีที่เป็นผู้นำคนเดียวของตระกูลแล้ว และยังร่วมกองทัพอยู่ต่างเมือง แม้ว่าสงครามจะดูสงบลงกลังจากได้รับชัยชนะมา แต่สามีนางกลับยังรับตำแหน่งค่อยดูแลชายแดนอยู่เลย ทำให้นางต้องอาศัยอยู่ที่นี่กับสาวใช้นับสิบคน
"วันนี้ข้าก็ของฝากเจ้าเด็กสองคนนี่อีกสักวันนะ"ท่านลุงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
"เจ้าค่ะ ท่านลุงไม่ต้องห่วง ข้าจะค่อยดูแลหลานทั้งสองอย่างดี"นางเอ่ยพร้อมจับจูงมือของสองแฝด เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอะไรท่านลุงนั้นจึงออกตัวแล้วเดินจากไป
"หิวหรือยัง วันนี้น้าทำขนมรอไว้เมื่อรู้ว่าเจ้าทั้งสองจะมา"เหรินเหมยลี่หรี่ยิ้มหวานละมุมผ่านทำให้เด็กทั้งสองนั้นยิ้มตาม ก่อนที่ทั้งสามจะเดินไปทางศาลา โดยมีเหรินเหมยลี่ที่ค่อยดูแลเอาใจใส่หลานทั้งสอง
ณ ค่ายต่างเมือง
แม้เวลาผ่านไปศึกสงครามก็จบไปทหารหลายรายต่างขอลาเพื่อกลับภูมิลำเนาเดิม แต่ไฉนเลย ถึงไม่ใช่กับรองแม่ทัพผู้องค์อาจอย่างหลี่หนิงเหอที่ยังหมุกตัวอยู่ไหนค่ายทหารจนสหายที่เป็นท่านแม่ทัพใหญ่ถึงกับส่ายหัว เมื่อกลับมาจากเมืองหลวงไปรายงานสถานการณ์แก่ฮ่องเต้และได้ขอลาำักร้อนเพื่อได้อยู่กับครอบครัว จนกลับมาก็ยังเห็นสหายผู้นี้ยังอยู่
"หนิงเหอ ทำไมเจ้ายังอยู่ในค่ายอยู่อีกเล่า"เฉินจางหมิ่นสหายที่เป็นท่านแม่ทัพใหญ่ของแคว้น การที่ทั้งสองเป็นสหายรักกันได้เพราะเคยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กไม่แปลกที่จะสนิมสนมกัน
"จะให้ข้าไปอยู่ไหนได้อีกหรือ งานกองเท่าภูเขาไม่มีกะจิกะใจทำอะไรหรอก"หลี่หนิงเหอเอ่ยก่อนตั้งใจมาดูรายงานที่เหล่าทหาร จริง ๆ งานพวกนี้เป็นของท่านแม่ทัพต่างหาก ไม่อยู่หลายวันทุกอย่างจึงตกมาที่เขา
"ให้รองแม่ทักหยางก็ได้เห็นว่าพึ่งกลับมาที่ค่ายห้าวันก่อนนี่"เขามีรองแม่ทัพตั้งสองคนใยถึงทำอยู่คนเดียวกันเล่า "เจ้าเอาแต่ทำงานเช่นนี้เมื่อไหร่จะกลับเมืองหลวง"
"..."หลี่หนิงเหอไม่ได้ตอบกลับเอาแต่สนใจกับงานตรงหน้า เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นเงียบก็ได้แต่ถอนหายใจ หนึ่งปีเต็มที่ต้องออกรบ ทำให้ห้าเดือนต่อมาเหล่าทหารต่างทยอยกลับไปหาครอบครัว แต่ไม่ใช่กับหลี่หนิงเหอที่หมกตัวอยู่แต่ในค่ายมาตลอดสองฤดูกาล
หลังจากที่ได้รับจดหมายออกรบตรงกับช่วงที่ท่านน้าหลี่เสีย ทำให้บุรุษตรงหน้านั้นคงเสียใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ในตาจะไม่แสดงออก แต่เขารู้ว่าสหายของเขาเสียใจปานใด ซึ่งดูได้จากสนามรบที่เขาพยายามจะกำจัดคนที่สังหารบิดา หลายครั้งที่คิดว่าจะเสียรองแม่ทัพผู้เก่งกาจคนนี้ไป การบุกและทำอะไรไม่ระวังเช่นนั้นหาใช้ตัวของหลี่หนิงเหอไม่ เขาพอดูออกว่าในสนามอีกฝ่ายต้องการสละชีพของตนเอง แต่ก็สามารถรอดมาได้นั้นแปลว่าสรรค์ยังไม่อยากได้ตัวเขาไป หลังจากการแก้แค้อันยามนานจบลง ความรู้สึกเสียใจ เศร้าใจยังคงอยู่ เขารู้ดีทั้งบิดามารดาที่เสีย เหมือนกับโดนทิ้งไว้ด้านหลังตัวคนเดียว แต่สำหรับท่านแม่ทัพเองก็เสียท่านทั้งสองเช่นกันแต่นั้นกลับไม่ได้เศร้ามากนักเพราะมีภรรยาคนงามที่ค่อยปลอบและการใช้เวลาช่วยให้หายเศร้าแปรเปลี่ยนเป็นความคิดถึงแทน แต่ทำไมสหายของเขานั้นกลับเป็นเช่นนี้ ทั้งทีมีภรรยาคอยอยู่ด้านหลังอยู่ ฉะนั้นก็ควรใช้ชีวิตให้ดีขึ้นไม่ใช่หรือ เฉินจางหมิ่นนึกเป็นกังวลกับลูกน้องที่มีสักเป็นสหาย เขาจึงตั้งมั่นว่าต้องทำให้คนตรงหน้ากลับไปให้ได้เลยค่อยดู
"เจ้าไม่ต้องทำ" เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น
"ได้งั้นที่เหลือเจ้าก็จัดการเอง"หลี่หนิงเหอเอ่ยรับพร้อมกับลุกขึ้น
"และพรุ่งนี้เจ้าก็ไม่ต้องมาประชุม"เฉินจางหมิ่นนั้นกล่าวพร้อมเดินไปโต๊ะตัวใหญ่ ก่อนจะหยิบสมุดเล็กออกมาพร้อมกับเขียนอะไรบางอย่างและลงนาม
"เจ้ากำลังหมายความว่าอย่างไร"หลี่หนิงเหอถามด้วยความสงสัย บุรุษสองคนที่กำลังยื่นประจันหน้ากัน ก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นนั้นมาให้
"ใบลาพักผ่อนสองเดือน พรุ่งนี้ข้าหวังว่าจะไม่เห็นหน้าเจ้า"ท่านแม่ทัพเอ่ยพร้อมยกยิ้ม แล้วจะรีบดึงกลับเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั้นเหมือนจะดึงไปฉีก
"หากเจ้าฉีกทิ้งข้าจะเพิ่มไปอีกเป็นหนึ่งเดือนหากเจ้ายังไม่ยอมข้าก็จะเพิ่มไปอีกครึ่งปี"
"จางหมิ่งเจ้าคิดจะทำอะไร"หลี่หนิงเหอเห็นว่าอีกฝ่ายดูไม่ยอมแพ้จึงถามตรง ๆ ว่าทำไมต้องการให้เขาพักนัก ทั้งที่ก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือที่เขายังอยู่ในค่าย เป็นระเบียบเรียบร้อม เบาภาระท่านแม่ทัพได้มาก
"เจ้าไม่คิดถึงเมืองหลวงข้าไม่ว่าหากแต่ตอนข้ากลับผ่านจวนตระกูลหลี่ เงียบเหงาดั่งป่าช้านัก" ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหลี่หนิงเหอที่นิ่งเฉยนั้นก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้อีกฝ่ายใจกระตุก"เจ้าคิดบางหรือไม่ว่ามีใครบางคนกำลังรอเจ้ากลับ"เขาพยายามจะสื่อถึงใครบางคนที่อยู่ที่นั้น หากยังคิดได้อยู่ก็จะยอมในการกลับเมืองหลวงซะ
"นางอาจจะมีความสุขอยู่ก็ได้ ยังไงข้าก็ส่งเงินกลับไปตลอด"หลี่หนิงเหอเอ่ยพร้อมคิดว่าภรรยาคงอยู่ส่งสบายนั้นแหละ ทั้งชีวิตของนางยังไงเสียก็เป็นการรับผิดชอบของเขา
"เฮ้อ เจ้านี่"พอท่านแม่ทัพจะเอ่ยว่าอีก หลี่หนิงเหอจึงรีบเดินออกมามองดูใบสั่งลานี่ก่อนจะถอนหายใจ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments