7. อยากกอดคนนั้น

แผงอกอุ่นนี้...จะให้ไอรักซึมซาบเข้าไปในหัวใจเธอ...สักวัน

------------------------

คนึงนิจสาวน้อยนอนกอดสุธนตั้งแต่เธอยังไม่หลับจนหลับไปจนถึงรุ่งเช้า หนุ่มใหญ่เช่นเขาเริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาสองสามวัน ไปทำงานก็ยังคิดถึงเป็นห่วงเธอ กังวลว่าเธอจะเป็นอะไรมากกว่านี้ไหม บางครั้งต้องให้จ่าแดงคนสนิทที่รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากกว่าทุกคน โทรมาหาป้าสมใจคอยถามเรื่องอาหารการกินและอาการของเธอ เขาพยายามบอกให้ป้าสมใจหลอกล่อให้เธอกินยาตามที่หมอสั่ง

เช้าวันนี้เขารู้สึกไม่อยากไปทำงาน แต่อยากพาสาวน้อยคนนี้ไปเที่ยวนอกเมืองแถวบ้านเดิมของเขาก่อนเข้าตัวเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี พาเธอไปพบแม่ของเขาที่อายุค่อนมากแล้ว ท่านอยู่กับหลานสาวอายุสิบเจ็ดปี

“หนูนิจ วันนี้ไปเที่ยวกันนะ” เขาเอ่ยปากชวนระหว่างกินข้าวมื้อเช้าด้วยกัน

“เหรอคะ...ที่ไหน” เธอแต่งตัวสวยเหมือนพร้อมออกบ้าน

“ไปบ้านแม่ผม...ไม่ไกลจากนี่สักหนึ่งชั่วโมงก็ถึง ไปทานข้าวบ้านแม่ ท่านทำอาหารอร่อยนะ” เขาเอ่ยชวนเธอ

“ดีจังค่ะ...”

“ไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ชุดนี้สวยดีแล้ว” เขาบอกเธอ และหันไปสั่งป้าสมใจให้ขึ้นไปเอายาลงมา เขาจะเอาไปด้วย

“หนูต้องทำอะไรบ้าง เวลาเจอคุณแม่” เธอทำหน้าสงสัย

“ไม่ต้องเลย ท่านชอบดูแลสาวๆ โดยเฉพาะคนสวยๆ” เขาพูดตะล่อมเธอ

สุธนขับรถไปเรื่อยๆ เปิดเพลงเบาๆ อิ่มใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พาเธอไปไหนด้วยกันตั้งแต่รับเธอเข้ามาอยู่ด้วย เธอไม่เคยมีท่าทียอมไปไหนกับเขา กลัวที่จะอยู่ใกล้เขาทุกครั้งโดยเฉพาะเวลาที่เขาพยายามจะหาเรื่องเข้ามาใกล้เธอ

“มีความสุขดีไหม...” เขาถามอย่างปรีดา

“หนูชอบกอดคุณพ่อ อกคุณพ่ออุ๊นอุ่น...หลับปุ๋ยเลย” เธอพูดอย่างไร้เดียงสา ทำเขาถอนหายใจเฮือก อารมณ์วาบหวิวที่เธอทำให้เขาหัวใจกระเจิงมาสองสามคืนแล้ว

“คืนนี้จะกอดผมอีกไหม” เขาถามไปอย่างนั้น

“ค่ะ...หนูจะกอดไปตลอด”

“ทำไม...เพราะหนูอยากกอดแฟนของมาดามทุซโซ”

“อ้าว...ได้ไงล่ะ” เขาขำเธอ

“ได้สิคะ...เขาเป็นแฟนหนูนี่คะ”

“มาดามทุซโซ อนุญาตหรือ” เขาทำเสียงดูตลก

“ค่ะ...เพราะมาดามทุซโซ คือหนูเองในวันนี้” เธอกอดตุ๊กตาตัวที่เอามาจากบ้านหมอดู ท่าทีชอบมันเหลือเกิน

“ดูสิคะ...เขาคนนั้นอยู่ในตุ๊กตาตัวนี้ด้วย คุณพ่อ” เขาฟังเธอพูดแล้วนึกกังวลว่าเมื่อไหร่เธอจะหายปกติ

“วันนี้อยากทานอะไรตอนเที่ยง ผมจะแวะซื้อกลางทางไปให้แม่ทำให้เรา”

“สเต๊กได้ไหมคะ...ปลาแซลมอนนะคะ หนูชอบค่ะ เขาก็ชอบด้วย” สุธนส่ายหัวและยิ้มขณะฟังเธอเล่า เขาแวะซุปเปอร์สโตร์ก่อนถึงทางเข้าบ้าน ซื้อปลาตามที่เธอสั่ง

“เอาไวน์ไหม...” เขาถามเพื่อให้เธอสบายใจ

“ได้ไหมคะ...”

“ไวน์อะไร...” เขายิ้มหน้าบาน

“ไวน์ขาวนะคะ หนูชอบ คุณพ่อทานด้วยกันนะ” เธอเลือกชนิดได้ถูกต้อง เดินไปที่ร้านขายสุราและหยิบขวดที่คุณภาพดีอีก เขาขำที่เธอดูเหมือนคนปกติ แต่ทำไมทำอะไรแปลกขนาดนี้

“ไป...เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว”

จากนั้นไม่นานเขาก็ขับรถมาถึงบ้านของแม่สุภา แม่ของเขามองมายังหญิงสาวที่นั่งมาด้วยอย่างแปลกใจ สุธนไม่เคยเล่าเรื่องของเธอให้แม่เขารู้เรื่องมาก่อน วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องอธิบาย

“ลงไปสวัสดีคุณแม่นะ...หนูนิจ” เขาจับแขนเธอเบาๆ เพื่อให้เธอไม่กังวล

“ค่ะ...” เธอกระโดดลงจากรถกระบะสองตอน และลงไปยืนต่อหน้าแม่ของสุธน ยกมือไหว้และเดินเข้าไปกอด

“ไปเอาลูกสาวใครมา...” แม่สุภามองหน้าสุธนด้วยความสงสัย

“ครับ...เธอชื่อ คนึงนิจ ผมรับเธอมาอยู่ด้วยที่บ้านกรุงเทพ ให้ดูแลผม” เขาพูดอายๆ

“พ่อธน...ไปเอาลูกสาวใครมา ต้องไปทำให้มันถูกต้องไม่ใช่เอามาอยู่เฉยๆ” แม่เขาตำหนิ

“ครับ...พ่อแม่เธอเสียไปนานแล้ว เธอมีแต่น้องชายยังเรียนอยู่ครับ” เขาพาคนึงนิจเดินเข้าบ้าน หญิงสาวช่วยหิ้วถุงอาหารที่จะให้แม่ของเขาปรุงสำหรับมื้อเที่ยง

สุธนเดินเข้าไปในตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังเก่าตั้งแต่สมัยปู่ของเขา เป็นบ้านทรงไทยมรดกตกทอดแต่โบราณ ใต้ถุนสูงทุกวันนี้ได้ดัดแปลงเป็นห้องครัวสมัยใหม่เพื่อให้แม่ทำอาหารได้สะดวก หลานสาวของเขาไปเรียนที่กรุงเทพ จะกลับมาช่วงเสาร์อาทิตย์ปลายเดือน วันนี้เขาจึงขอให้คนึงนิจช่วยแม่ของเขาล้างผักเป็นแค่ลูกมือเท่านั้น

“คุณแม่คะ...หนูช่วยล้างผักนะคะ” เธอคุยกับแม่ของสุธนเหมือนคนปกติ แต่แม่สุภาสงสัยอยู่เหมือนกัน สาวน้อยบางทีพูดอะไรเหมือนคนเพ้อเจ้อ ไม่ค่อยเต็มบาท

ระหว่างกินข้าวแม่ของสุธนนั่งติดกับลูกชาย จึงเอ่ยถามเบาๆ ว่าสาวน้อยผิดปกติไหม ดูสติไม่เต็มจะว่าบ้าก็ไม่ใช่ คือรู้เรื่องดีแต่ไม่เข้าเรื่องอยู่บ้าง

“ครับ...เธอกำลังกินยารักษาอยู่”

“เป็นมานานหรือยัง”

“เพิ่งไม่กี่วันนี่เอง”

“ไปทำอะไรมา”

“แม่ว่า เหมือนถูกผีสิงมากกว่านะ”

“เหรอครับ...ยังมีเรื่องนี้อีกหรือ” สุธนมองหน้าคนึงนิจอย่างวิตก

“มีสิ...รู้ไหมว่าเธอไปทำอะไรมา”

“สามวันก่อนไปหาหมอดู”

“แบบไหน...” แม่ของสุธนถามรายละเอียด เธอเริ่มสงสัย

“บอกผมว่า หมอดูสื่อวิญญาณ”

“แม่ว่า หนูนิจถูกมันเสกมนต์ใส่แน่ๆ แบบนี้” แม่ของสุธนเล่าว่า สมัยคุณยายเธอมีพวกหมอดูคุณไสยเคยเสกเป่าใส่คนที่มันต้องการ แล้วเป็นบ้าเป็นบอแบบนี้ บางวันดีบางวันร้าย

“จะให้ผมทำยังไงครับ...” เขาถอนหายใจยาว หนักใจกับเธอ

“คืนนี้นอนกันที่นี่ พรุ่งนี้แม่จะพาไปหาหลวงตาที่วัด” แม่สุภาแนะนำให้สุธนลองดู

“ผมมีงานด่วนพรุ่งนี้ ผมฝากแม่ดูแลได้ไหม เย็นๆ ผมจะมารับเธอ” สุธนรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องให้แม่เป็นภาระ

“แม่ครับ...คืนนี้ให้นิจนอนกับผมนะครับ” สุธนพูดอย่างเกรงใจแม่ เพราะเขาทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

“ทำไม...ล่ะ ก็เอาเธอมาอยู่บ้านนานแล้ว จะมาขอทำไม” แม่งงกับคำพูด

เขาพาคนึงนิจออกไปเดินรอบหมู่บ้านใกล้ๆ เขาบอกเธอว่าคืนนี้จะนอนที่นี่ เขาจึงรีบโทรไปบอกป้าสมใจว่า คืนนี้เขาจะนอนบ้านแม่ ให้ป้าดูแลบ้านของเขาให้ดี

“คุณพ่อคะ...ทำไมเราต้องนอนที่นี่” เธอทำหน้าสงสัย

“ที่นี่อากาศดี...คุณแม่ชวนเรานอนกันที่นี่” เขาเลี่ยงไม่บอกความจริง

“แล้วคืนนี้ ต้องนอนห้องเดียวกับผมนะ” เขาจ้องแววตาของเธอ ดูปฏิกิริยา

“ได้ค่ะ...หนูจะได้กอดคนนั้นอีกไหมคะ” เธอถามขึ้นโดยมองไปท้องทุ่งข้างหน้า

“แฟนหนูเขาอยู่ฟาร์มที่นอกเมืองลอนดอนนะคะ” เธอพูดราวกับเป็นเรื่องจริง

“งั้นคืนนี้ก็นอนกอดเขาใช่ไหม” สุธนกลายเป็นคนสร้างเรื่องราวเก่งไปโดยปริยาย จริงๆ งานของเขาก็ทำนองนี้ คล้ายสร้างเรื่องจำลองให้ผู้ต้องหารับสารภาพ ไล่ถามไปเรื่อยๆ ครั้นมาเจอเรื่องนี้เขาเลยรู้สึกว่าธรรมดา

ขณะที่กำลังเดินกลับมาที่บ้านสาวน้อยของเขาเกิดตกใจกลัวงูที่แผ่แม่เบี้ยอยู่ตรงหน้า เธอกอดเขาแน่นหลับตาปี๋ สุธนบอกให้เธออยู่นิ่งๆ และเขาจ้องหน้างูสักพัก ทำสมาธิบอกในใจให้มันออกไปจากที่ตรงนี้ ไม่เช่นนั้นเขาจะชักปืนขึ้นมาลั่นไกฆ่ามัน ในที่สุดงูก็เลื้อยเข้าพงหญ้าไป เขาเอามือตบหลังเธอเบาๆ

“มันไปแล้ว ไม่ต้องกลัว” เขาพยุงตัวเธอพาเดินจนถึงบ้าน สาวน้อยของเขาไม่ยอมคลายวงแขนที่กอดเอวของเขาจนแน่น

“เป็นอะไรล่ะนั่น...หนูนิจ” แม่ของสุธนมองภาพเธออย่างเวทนา

“ไป...พาเธอขึ้นไปห้องนอนข้างบน ตอนนี้สะอาดเรียบร้อยแล้ว” แม่ของเขาสั่งให้ป้าสำเนียงญาติกันมาช่วยทำความสะอาดห้องช่วงที่สุธนพาคนึงนิจไปเดินเล่น

ตกเย็นสาวน้อยของสุธนแทบไม่อยากออกจากห้อง เธอยังหวาดผวางูตัวนั้นอยู่ ทำให้สุธนบอกแม่ว่า จะเอาถาดพาข้าวขึ้นมากินที่ห้องนอนสองคนกับเธอ แม่สุภามองหน้าลูกชายอย่างหนักใจ เธอคิดว่าสาวน้อยคนนี้สุธนน่าจะเจอเธอ หลังจากที่เขาหย่ากับบุศรินทร์ ลูกชายเธอเป็นหนุ่มใหญ่แล้วแต่ยังโสด เลยทำให้ไปคว้าแม่สาวคนนี้มาอยู่ในบ้าน ไม่รู้เธอเป็นใครมาจากไหน ในฐานะแม่จึงอดไม่ได้ที่จะกังวลกับชีวิตของเขาในวันข้างหน้า

“อย่าให้หนูนิจ เดินออกมาเข้าห้องน้ำข้างล่างเองนะ” แม่ของชายหนุ่มสั่งเขากลัวว่าเธอจะเตลิดออกจากบ้านไปกลางดึก

“ทำไมครับ...” สุธนทำหน้าสงสัย

“บ้านเราเจ้าที่แรง...กลัวเธอตกใจหากมีอะไร”

“ผมมานอนทุกครั้ง...ไม่เห็นมีอะไร” เขาแย้ง

“เราเป็นคนในบ้าน เธอมาใหม่ เจ้าที่ท่านอาจทัก” แม่สุภามีความเชื่อแบบคนโบราณ

“ถ้าเธอจะเข้าห้องน้ำ ธนต้องออกมาด้วย” ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ

สุธนพาเธอลงไปอาบน้ำที่ห้องน้ำข้างล่าง เขาเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ ให้เธออาบน้ำก่อน แล้วจึงให้เธอขึ้นชั้นบนไป หลังจากนั้นเขาจึงอาบน้ำต่ออย่างใจร้อน ไม่อยากปล่อยเธอไว้คนเดียว เขาขึ้นมาที่ห้องนอนเห็นเธอนั่งกอดตุ๊กตาหอมแก้มราวกับกอดคนรัก

“เป็นไง กอดคนนั้นอุ่นไหม”

“ค่ะ...หายหนาวเลย เราอยู่ที่ฟาร์มนอกลอนดอน”

“เหรอ...ขึ้นไปนอนบนเตียงข้างผมนะ”

“คุณพ่อค่ะ...คืนนี้เขาจะกอดหนูเหมือนทุกคืนไหม” เธอถามอย่างน่าเอ็นดู

“กอดสิ...ต้องเอาไออุ่นจากเขาด้วยนะ”

“อากาศค่อนข้างเย็น จะเข้าห้องน้ำต้องบอกผมนะ” เขาเตือนเธอ

คนึงนิจนอนหลับไปราวเด็กน้อย ไม่นานสุธนได้ยินเสียงละเมอของเธอ

“มาร์คุสคะ...ฉันขอกอดคุณนะ คุณเป็นที่รักของฉัน”

“ได้เลย...ที่รัก” สุธนโมเมกลายเป็นที่รักของสาวน้อยที่โผตัวเข้ามากอดเขา

ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ได้กอดสาวคนไหนมานานเกือบปีแล้ว คนึงนิจกลายเป็นคนแรกในรอบขวบปีที่ทำให้ใจเขาเต้นอีกครั้ง

ใจของเขาเริ่มคิดเตลิดไปไกล พึมพำเบาๆ

“แผงอกอุ่นๆ นี้...จะให้ไอรักซึมซาบเข้าไปในหัวใจเธอ...สักวัน”

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!