สงครามตอนปลายๆเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกจากปืนใหญ่ที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
กระสุนและธนูไฟก่อให้เกิดเป็นเปลวเพลิงสีเเดงฉานร้อนระอุลถกโชนแผดเผาทุกหย่อมหญ้า มีเพียงควันดำทะมึนที่ปกคลุมจนเเทบมองไม่เห็นเเสงสว่าง
ร่างของผู้คนล้มตายบาดเจ็บนอนแผ่เต็มสนาม ย้างนอนรอความตายที่กำลังคืบคลานมาในไม่ช้า บ้างกลายเป็นศพเหวอะหวะจากการสังหารของศัตรู บ้างกลายเป็นเศษซากที่ถูกเปลวเพลิงแผดเผาจนไม่เหลือสภาพเก่า
ในขณะที่สงครามกำลังระอุ ข้าศึกมหาศาลเริ่มกู่ร้องประกาศชัยชนะด้วยกำลังได้เปรียบอย่างเห็ได้ชัดเพราะฝ่ายตรงข้ามกำลังสูญเสียกำลังคนไปจำนวนมาก เหลือเพียงชายสองคนที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ยืนหยัดอยู่ในจุดที่ใกล้จะถึงทางตันเจ้าไปทุกที
ข้าศึกตีวงล้อมเข้าหาบุรุษทั้งสองที่จะพ่ายในไม่ช้า ฝ่ายได้เปรียบกระหยิ่มยิ้มย่องจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างย่ามใจ รับนู้ไก้ว่าสงครามจะกำลังจะเจ้าสู่จุดสิ้นในไม่กี่อึดใจ
"เราไม่เหลือทางรอดแล้ว..." ชายหนุ่มต่างแดนพึมพัมกับตัวเอง ฝ่ามือคล้ายจะสั่นเทาเล็กน้อยเมื่อกวาดตาไปเห็นซากศพจองเพื่อนร่วมรบที่สละชีวิตไป
ภาพสุดท้ายของคนรักที่แล่นวาบเจ้ามาในห้วงความคิด ราวกับเป็นสัญญาณบอกว่าวาระสุดท้ายของขีวิตใกล้มาถึง
มันคือภาพจองหญิงสาวร่างเล็ก ที่ร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต แววตาอันคุ้นเคยกำลังตะไร้ซึ่งแสงแห่งชีวิต คำสั่งเสียสุดท้ายจองเธอนาม 'สโรชา' ผู้นี้ ยังคงแจ่มชัดในความทรงจำของ 'โทระ นากิ'
"นากิ!" น้ำเสียงดุดันของเต้าพระยาจิติยาพิทักษ์ดังขึ้นท่ามกลางเสียงอื้ออึงของสงคราม เรียกให้นากิสะดุ้งเฮือกหลุดออกจากภวังค์ทันควัน "เจ้าจงตั้งสติให้มั่นและฟังข้า"
เจ้าพระยาหนุ่มพูดเสียงเข้มหลังจากเห็นสหายจมอยูากับความคิดในภาวะขับขัน เขาทราบว่านากิต้องพบการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
สโรชาเองก็เป็นน้องสาวแท้ๆของเขา ความเจ็บปวดนั้นยังคงฝังแน่นอยู่กับความทรงจำ
ทว่าในภาวะเข้าตาจนเช่นนี้ หากไม่ต่อสู้อย่างหมาจนตรอก ก็เท่ากับรอความตายไม่ต่างจากศพที่นอนเกลื่อนพื้นพวกนั้น
"ขอรับท่านเจ้าพระยา" ชายหนุ่มเอ่ยตอบรับทั้งที่ความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่เต็มอก
นัยน์ตาไหววูบมองศัตรูที่ตีวงล้อมเข้ามาด้วยความลังเล มันไม่ใช่ความรู้สึกของคนขี้แพ้ หมดหวัง เเต่เป็นความรู้สึกบางอย่างที่ลึกล้ำยิ่งกว่า
เต้าพระยาจิติยาพอทักษ์มองไปยังกำลังข้าศึกซึ่งกำลังเป็นต่อ เเววตาห้าวหาญเต็มไปด้วยความมุ่งมุ่นไม่มีท่าทีท้อถอย เเม้ไพร่พลของตนจะเเตกพ่ายไปเเล้วก็ตาม
บัดนี้เขาเเละนากิมีเพียงสองหนทางให้เลือกเท่านั้น คือจะเลือกสละชีพให้เปลวเพลิงที่ลามเข้ามาจวนจะถึงตัวในไม่ช้าแผดเผา หรือจะยอมสู้เเล้วโดนข้าศึกสังหารด้วยคมดาบ
แน่นอนว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว...
ข้าศึกค่อยๆเคลื่อนทับผ่านหมอกทะทึนเข้าใกล้ตัวผู้นำทั้งสอง ขณะเดียวกันเปลียวเพลิงก็โหมกระหน่ำส่งไอร้อนระอุมาจากอีกทาง บรรยากาศในสงครามอื้ออึงจนแทบไม่ได้ยินเสียงใดนอกจากไฟที่ลุกไหม้แผ่นดินเป็นสีเเดงฉาน
"เราจะตีฝ่าออกไปพร้อมกัน...นากิ ข้ายินดีเหลือเกินที่ได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับเจ้า"
"ท่านเจ้าพระยา..."
เจ้าพระยาจิติยาพิทักษ์ตัดสินใจก้าวเท้าออกไปด้วยความอาจหาญ นัยน์ตาไหววูบของนากิมองไปยังร่างสูงใหญ่ของคนตรงหน้า พร้อมกับเสียงของหญิงสาวผู้เป็นที่รักดังก้องในความทรงจำครั้งเเบ้วครั้งเมื่
'ข่วยพี่ชายข้าด้วย'
โทระ นากิ ขบฟันเเน่นอ เสียงของสงครามและเสียงจองสโรชาถาโถมเจ้าสู่โสตประสาทจนปวดร้าวไปทั้งกายและใจ มือสั่นระริกผละออกตากด้ามดาบคาตานะ แล้วเลื่อนตำแหน่งไปยังด้ามดาบสั้นสีขาวเลี่ยมเงินงดงามซึ่งไม่เคยถูกขักออกจากฝัก
"ข้าจำเป็นจริงๆ ท่านเจ้าพระยา" เสียงกระซิบแผ่วเบาดังจากริมฝีปากของนากิ คล้ายเป็นคำสั่งเสียของคนตรงหน้า ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแผดดังกังวานจนกลบเสียงเปลวไฟที่กำลังปะทุลั่น
"ข้าขอโทษ!"
คมดาบสีเงินสะท้อนแสงวาววับเสียบแทงกลางอก ทะลุเข้าไปยังขั้วหัวใจของเจ้าพระยาจิติยาพิทักษ์พอดิบพอดีด้วยฝีมือของนากิ
บุรุษร่างสูงใหญ่ชะงักค้าง ดวงตาเบิกโพลงจ้องน้องชายคนสำคัญไม่ละสายตา ความเจ็บปวดที่รับบนร่างกาย ไม่อาจเทียบเท่าความเจ็บปวดที่ถาโถมเจ้ากลางใจ
เบื้องหน้าของเจ้าพระยาจิติยาพิทักษ์ ปรากฎใบหน้าแดงก่ำเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาที่ไหลนองอย่างไม่ขาดสายของชายหนุ่มสายเลือดซามูไรที่ควรถือศักดิ์และห้าวหาญ
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่ลอบสังหารเขาอย่างเลือดเย็น...จะมีใบหน้าทุกข์ระทมและสิ้นหวังอย่างคนขี้แพ้ได้ขนาดนี้
"เจ้าทรยศข้าหรือนากิ..." น้ำเสียงแผ่วเบาขาดห้วงหลุดออกจากริมฝีปากของชายใกล้สิ้นลม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวังและปวดร้าว
คำกล่าวสุดท้ายของเจ้าพระยาจิติยาพิทักษ์กระแทกลงกลางใจคนทรยศ กรีดแทงให้เจ็บปวดยิ่งกว่าถูกทิ่มตำโดยเข็มนับพันเล่ม
"ข้าขอโทษ ท่านเจ้า... ข้าขอโทษ จิติซัง"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments