Serendipity ตามหา (เจ้าชาย) เมืองอกแตก
“ว้าย...ตาบ้า อะไรเนี่ย!!!” เธอผรุสวาทออกมาอย่างตกใจ พ่นคำภาษาไทยออกมาไม่รู้ตัว ที่เขาปาหิมะที่ปั้นกลมๆ มาที่เธอ
“so soft…don’ t worry…นิ่มอยู่นะ อย่าห่วง” ชายหนุ่มหน้าขาวชาวยุโรปแท้เดินมามองสาวน้อย ขณะเธอกำลังรอรถรางอยู่หน้าตึกทำการ เธอเดินตามแผนที่และเปิดดูงานที่ได้รับมาจากแดนไกล
“Hey นายรู้จักชื่อร้านอะไรนี่ไหม...” เธอตะโกนเรียกเขา คิดว่าเขาน่าจะเป็นคนในพื้นที่
“No idea…” เธอรีบคว้าแขนเขาไว้ ขณะเขาบอกเธอแล้วจะเดินหนี
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ...ว่า นายหมายความว่ายังไง แต่ฉันจะขอความช่วยเหลือ help me please!!!” เธอนึกอยู่ในใจว่ามันแปลว่าอะไร no idea นี่นะ
ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวอย่างลังเล และพยายามจะบอกว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่นี่
“I’ m not here, you know…? ยูเข้าใจไหม ไอก็ไม่ใช่คนที่นี่” เธอฟังเขาตอบมาเร็วมากฟังสำเนียงไม่ค่อยรู้เรื่อง เมืองแห่งนี้อากาศหนาวหิมะตกขนาดนี้ เธออุตส่าห์ใจกล้าดันทุรังมาจนได้ ด้วยกลัวไม่ได้งานนี้จนตัวสั่น มันหนาวสั่นไปหมดทั้งตัวจริงๆ ณ บัดนาว ชายหนุ่มมีทีท่ารีบเร่งอะไรสักอย่าง แต่สาวน้อยอย่างเธอไม่ยอมให้เขาไปไหนได้ เกาะติดแจในเมื่อตกเป็นเหยื่อแล้ว
“ถามอะไรหน่อย มาทำอะไรที่นี่”
“ไอมาทำงาน แล้วยูล่ะ” เธอตอบกลับจ้องหน้าด้วย แถมควงแขนไว้ไม่ให้เขาหายไปเด็ดขาด ต้องการคนช่วยใจแทบขาด นายนี่กลายเป็นเหยื่อแล้ว ยังไงต้องจัดการมัดมือไว้ให้แน่น
“ยูไม่เคยมา...จะแย่นะ” ไอจากปากพ่นออกมาขณะพูด
“เราเข้าไปที่ร้านนั่นก่อนดีไหม แล้วคุยกัน” เขาชวนเธอ ด้วยความดีใจเธอดันปล่อยแขนที่ควงเขาไว้ เขาจึงก้าวยาวมากเดินห่างไปไกลจนเธอต้องวิ่งตาม นึกว่าเขาคงจะหนีเธอ ที่ไหนได้ไปยืนเปิดประตูหน้าร้านหันมามองเธอวิ่งอย่างกระหืดกระหอบ
“crazy…บ้าจริง เดินไวมาก” เธอบ่นพึมพำ
“blame me? ว่าผมรึไง ควรขอบคุณนะ” เขาจ้องหน้าแสยะยิ้ม
ทันทีที่เข้าไปในร้าน สาวน้อยต่างแดนรีบเดินหาฮีดเตอร์ เพื่อต้องการไออุ่น มือชาจนเป็นเหน็บ ทำไมอากาศแถบยุโรปจึงหนาวขนาดนี้ เธอเช็คตอนอยู่บนเครื่องบินแล้วทำไมพอลงมาเจอสภาพจริง มันโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อ ที่บอกว่าคนบนดอยหนาวตายคงเป็นเช่นนี้เหมือนกัน
“No need ไม่จำเป็นมานี่...ผมจะเลี้ยงกาแฟ เอาสักแก้วไหม” เขาเอื้อเฟื้อจะเลี้ยงกาแฟ เธอเลยพยักหน้าตกลง
“Thanks ขอบคุณนะ...คนรูปหล่อ” เธอต่อท้ายให้ด้วยภาษาไทย
“เอาไป...มาเริ่มคุยกัน ผมไม่ว่างนะ” เขายื่นแก้วกาแฟที่ไปสั่งมาให้ แล้วถามทันที
“จะให้ช่วยอะไร...”
“ฉันกำลังตามหาคนที่ชื่อขึ้นต้นด้วยตัว P”
“Why P? ทำไมต้องตัว P” เขายิ้มกับเธอ
“งานฉันคือมา รีวิว...”
“ยังไง...give me some info ขอข้อมูลหน่อย” เขายังอยากช่วย ดูแล้วไม่เลวเลยในความคิดของหญิงสาว
“ฉันได้งานที่เรียกว่า mistery review รีวิวสายลับ” เธอบอกเขาคร่าวๆ แต่ชายหนุ่มยังทำหน้าไม่เข้าใจ
“ต้องมารีวิว คนที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยตัว P และต้องเป็นคำว่า Prince ด้วย” เธอยังจ้องหน้าเขาแบบขอความช่วยเหลือราวกับเขาเป็นพระเจ้า
“เพื่อ....for what?” เขายังซักไซ้
“มีสินค้าตัวหนึ่งของบริษัทที่รับจ้างรีวิว คนที่จ้างฉันต้องการให้มาสอบถามคนที่นี่ว่าใช้แล้วเป็นยังไง คุณภาพชีวิตดีไหม”
“What product…สินค้าคืออะไร” เขาขมวดคิ้ว
“Med…bed” เธอตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ
“What? อะไรนะ” เขาจ้องหน้าเธออย่างลังเลสงสัย ด้วยไม่อยากเชื่อสาวน้อย
“Incredible… เหลือเชื่อ!!!”
“ทำไม...” เธอถามตะกุกตะกัก ตกใจกับคำพูดของเขา เธอไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
เขาบอกเธอว่าให้รออยู่ที่ร้าน เขามีธุระต้องออกไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วจะกลับมาหาเธอ
สาวน้อยแดนไกลนั่งใจเหม่อคิดถึงงานสุดบ้าหฤโหดขนาดนี้ ไม่รู้มาได้ยังไง เธอนึกแล้วขำตัวเอง ใจเหม่อนึกถึงเรื่องราวก่อนเดินทาง
สาวน้อยจากเมืองแห่งเทพนคร เธอมีนิวาสถานอยู่ที่บางกอก พอร่ำเรียนจนจบมีความรู้พอจะทำมาหาเลี้ยงชีพได้ จึงได้สมัครทำงานส่งผ่านบนฟากฟ้าที่เรียกว่า คลาวน์ ไปทำงานยังแดนไกลถิ่นที่ไม่ใช้ภาษาบ้านเธอ มีภารกิจหลายสิบอย่างอันลำบากยากเข็ญ
ด่านแรกต้องผ่านสัมภาษณ์อันโหดร้าย ฝันร้ายคือต้องทำการบ้านหนักหนาสาหัส ไปเดินเกมส์อยู่ในออนไลน์เพื่อชนะผ่านพ้นเกมส์สุดแสนบ้าระห่ำ แล้วด่านสองต้องไปหาว่า ชื่อสถานที่ที่ต้องไปรีวิวนั้นมันอยู่จุดไหนบนโลกใบนี้ ด่านสามต้องฝึกฝนพูดจาภาษาถิ่นไม่พอ ยังต้องพูดอีกภาษาหนึ่งอันอินเตอร์ให้ได้อีก และยังมีอีกนะที่สุดแสบสันคือ ต้องเอามือถือตระเวนไปทั่วหาถ่ายภาพให้ถูกใจกรรมการ เพื่อจะได้ค่าตอบแทนเกินพอเลี้ยงปากท้องไปยาวนาน ไม่ต้องอดอยากหิวโหยให้พ่อแม่รำคาญใจ
“ฉันว่าแล้ว น้ำหน้าอย่างแก จะทำได้ไหม”
“น่า...แม่ อย่าเพิ่งดูถูกหนู”
“จะเดินทางพรุ่งนี้ล่ะ...หนูขอนอนให้เต็มอิ่มก่อนนะ” อลิสารีบขึ้นชั้นบนเข้าห้องนอนทันที เก็บกระเป๋าเตรียมไว้หนึ่งเดือนล่วงหน้าเอาฤกษ์ ต้องได้ไปแน่นอน แล้วชะตาเกิดเข้าข้างเธออีกด้วย
“ให้มันจริง...แม่อยากให้ไปซะไกลๆ รำคาญเหมือนกัน นังลูกสาวคนนี้ วันๆ เอาแต่อยู่ในห้อง” แม่เธอบ่นจนอลิสาเริ่มเข้าใจว่า มนุษย์แม่คือต้นแบบของการจู้จี้และขี้บ่นอีกมากมาย
วันแห่งการผจญภัยเริ่มใกล้เวลาเข้ามา แม่ของสาวน้อยอลิสาตกใจที่เห็นลูกสาวลากกระเป๋าใบโตออกจากห้องชั้นบน ลงมาตั้งโชว์ที่ห้องรับแขกชั้นล่าง พ่อของนางอยู่ในห้องนอนเดินออกมามองลูกสาวคนเดียว ทำหน้าสงสัยว่าลูกสาวคนนี้จะไปไหน ไม่เคยบอกกล่าวให้ผู้ใหญ่ในบ้านได้รับรู้
“จะไปไหนเหรอ...ลิซ่า ทำไมพ่อแม่ไม่รู้เรื่องเลย” พ่อเดินเข้ามาที่ห้องครัวเห็นลูกสาวกำลังกินข้าวโอ๊ตมื้อเช้า ฮัมเพลงอย่างเบิกบานอารมณ์
“ก็เคยบอกแล้ว พ่อกับแม่ไม่เห็นสนใจ” เธอพูดตีรวน
“นี่แก...เป็นลูกหรือเป็นอย่างอื่นกันแน่”
“พ่อคะ...หนูคือลูกบังเกิดเกล้านะคะ” เธอพูดไปขำไป
“นี่พูดจาอะไรเหมือนคนบ้า” พ่อเธอเดินมาเขกกบาลสาวน้อย แล้วหยิกแก้ม
“จะปล่อยพ่อกับแม่ให้เหงาใช่ไหม” พ่อแซว
“พ่อคะ...หนูไม่อยู่ อนุญาตให้พ่อไปหากิ๊กได้เลยค่ะ ถือว่าหนูไม่รู้ไม่เห็น...ดีไหม”
“พูดเบาๆ แม่แกได้ยิน พ่อถูกตีกบาลแยก”
“แหม...แม่ดุขนาดนี้ พ่อคงไปไหนไม่รอดหรอกนะคะ” เธอทำหน้ายิ้มเยาะ
ในที่สุดพ่อกับแม่ได้พาสาวน้อยไปส่งถึงสนามบินและนั่งคอยจนเธอเดินเข้าประตูไป อลิสาเหินฟ้าข้ามไปอีกซีกโลกหนึ่งและนี่คือเกมส์ของการทำงานนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ เมืองที่หิมะกำลังตก
เธอนั่งเหม่อใจคิดถึงบ้านยาวนาน ....อีกชั่วโมงเศษ ชายหนุ่มหน้าขาวสุดหล่อของสาวน้อยดันกลับมาจริง ไม่ทิ้งให้เธอหงอยเดียวดายไร้ผู้ช่วยเหลือ
“Hey…your mind’ s away? ใจลอยเลย” เขาเอาฝ่ามือมาโบกอยู่หน้าเธอ
“Sorry ขอโทษนะ...คิดถึงบ้าน” เธอเริ่มรู้สึกไม่ไหวแล้ว ใจมันอยากไปสนามบินและไปเช็คอินเลย
“มาคุยกันต่อ...”
“ยูช่วยรีวิวหน่อยได้ไหม...” เธอออดอ้อน
“ได้...ทำยังไง” เขาถาม
“มั่วๆ ไป Med bed ต้องไปหาที่ไหนกัน”
เขาตอบชัดเจนไม่ลังเล เหมือนฟ้าสั่งพลิกล็อก
“ที่บ้านไอ...มีหนึ่งตัว” คำตอบทำสาวน้อยตื่นเต้น
“It’ s My Bed…คือเตียงผม เข้าใจไหม” เธอทำหน้าตาตื่นตกใจ
“จะบ้าตาย...สุดบ้าบอ!!!”
“ทำไม...” เขายังถามว่าทำไม
“จะชวนฉันขึ้นเตียง...ใช่ไหม”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 14
Comments
Cô bé mùa đông
แอดอัพเร็วๆนี้หน่อยค้าบ
2024-02-18
1