ณเขตป่านอกเมือง
เหยียนอี้:นั้นไง ค่ายของพวกนั้นที่คนของฉันตามสืบมา
เฟิง:แค่สิบสองคน เจ้าจัดการได้สบายนี้
-สิ่งนี้เฟิงไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย เพราะแต่เดิมองครักษ์ราชวงศ์นั้นเพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะสยบกองทัพศัตรูร้อยคนได้อย่างไม่ยากเย็น
เหยียนอี้:ก็ข้าจะได้ดู อดีตองครักษ์ที่ถูกขนานนามดาบไร้เสียง
เฟิง:นั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว ข้านะไม่ใช่ดาบไร้เสียงอีกแล้ว เมื่อเทียบกับเทพดาบ
-เฟิงกำดาบเก่าๆของตนไว้แน่น ตัวดาบที่เคยเป็นสีดำปัจจุบันมีเพียงคราบสนิมและการเสื่อมโทรมตามกาลเวลา มันเป็นสิ่งบ่งบอกได้ชัดเจนว่า ของสิ่งนี้เคียงกายเจ้าของและถูกใช้งานมานานเพียงใด
เหยียนอี้:นี้เจ้าคงจะไม่ใช่ดาบผุๆนั้นหรอกใช่ไหม
-เบื่องหน้าคือค่ายโจรที่ต้องกำจัด เมื่อมองกลับมาที่เฟิง ดาบเก่าๆของเขานั้นสามารถถูกทำลายได้ทุกวินาที
แม้จะคิดเช่นนั้น ทว่า เมื่อวินาที่เตรียมการโจมตีบรรยากาศของเฟิงก็ได้เปลี่ยนไป
การหายใจที่เงียบ ตัวตนที่เหมือนกับจะถูกทำให้เลือนลางจนเหมือนกับอากาศ
แต่เฟิงกลับไม่แม้แต่จะขยับตัว
เฟิง:เจ้าเริ่มเลยข้าจะรอดู
เฟิงกลับนั่งนิ่งพูดออกไปทำให้ เหยียนอี้ สับสนก่อนจะเตรียมท่าและโคจรพลังปราณ เพียงวินาทีที่นางขยับตัว ร่างของนางก็หายไปราวกับเงาพรายที่ทิ้งไว้เพียงภาพติดตา
-เหยียนอี้ องค์ระดับสูง พลังปราณธาตุไฟ เป็นพวกบ้าพลัง แต่ก็มีความระวังตัวเป็นอย่างมาก
เฟิง: ข้าเองก็ต้องขยับบ้างแล้ว คู่หูเจ้าเองก็ได้เวลาออกมาสนุกด้วยแล้วละ
-เพียงชั่ววินาทีที่เฟิงลุกขึ้น ร่างของเขาก็เลือนหายไปราวกับกลุ่มควันก่อนจะมาโผล่อีกครั้งข้างหลังกลุ่มโจร
ช่วงเวลานั้นเพียงวินาทีที่เฟืองปรากฏตัว มีเพียงเสียงหวีดหวิวของอากาศและโจรสองคนที่ลงไปทรุดนอนกับพื้น
เฟิง:ข้าดูแลใบดาบแต่ข้าไม่ได้ดูและฝักดาบ คบดาบของข้ามันถูกลับคมมาตลอดสี่ปี แต่ข้าหาได้ดูแลฝักดาบไม่
-เพียงช่วงเวลาที่แทบจะใกล้เคียงกัน เหยียนอี้ นางก็ได้จัดการกองโจรเกือบทั้งหมด เฟิงทำเพียงยืนดูนาง วันวานในอดีดก็ได้หวนคืนมา
สามปีก่อน......
เนื่องจากตระกูลชินได้เข้าร่วมสงคราม ทำให้เฟิงและ
เหยียนอี้ได้พบกันเป็นครั้งแรก ทั้งสองสบตากันเพียงเสี่ยววินาที จิตสังหารของทั้งสองก็ได้แผ่ออกมา
หากเวลานั้นไม่ได้แม่ทัพของหน่วยลาดตระเวนมาหยุดทั้งสองคงได้ประทะกันในเวลานั้น
แม้ทั้งสองจะเดินจากกันไปแต่ เมื่อเริ่มเปิดศึกการต่อสู้กับคนเถื่อน ทั้งสองกลับเป็นกลุ่มแรกที่พุ้งเข้ากลางคมดาบมากมาย ทว่าเพียงไม่ถึงสี่ลมหายใจ เสียงกรีดร้องและกองเลือดมากมายได้อาบพื้นที่นั้นจนกลายเป็นแอ่งโลหิตขนาดเล็ก
เวลาเดียวกัน ทางของเฟิงกลับมีเพียงเสียงหวีดหวิวและเสียงกรีดร้องอย่างสุดเสียงจนราวกับเสียงนั้นเป็นเสียงกรีดร้องของจิตวิญญาณ
หลังจากจบการต่อสู้ ทั้งสองยืนอยู่บนกองซากศพ และด้วยไม่มีใครสามารถห้ามปรามทั้งสองได้อีก ทั้งสองเริ่มต่อสู้กันเอง แม้ทั้งสองจะอยู่ท่ามกลางศัตรู แต่ทั้งสองก็ยังคงหันคมดาบเข้าหากัน ทุกที่ที่ทั้งสองวิ่งผ่าน ศัตรูทั้งหมดจะถูกสบั้นในดาบเดียว
จนกระทั้งเวลาที่ตะวันจะลับฟ้า กองทับคนเถื่อนก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น และวินาทีนั้น ลมที่เย็นยะเยือกก็ถูกแผ่ออกมาจากตัวของเฟิง
และเหยียนตี้เองก็เริ่มปล่อยออร่าออกมา ทั้งสองเริ่มใช้พลังปราณต่อสู้กัน เพียงเสียงตวัดดาบของนางคลื่นความร้อนประหลาดก็ถูกแผ่ออกมาก่อนจะหายไป
ทว่าดาบของเฟิงนั้นเพียงกระทบพื้นดิน สายลมโดยรอบก็สงบลงราวกับถูกควบคุมชั่วครู่
และร่างของทั้งสองก็เลือนหายไปก่อนจะมาปะทะกัน แม้ทั้งสองจะแลกดาบกันนับสิบนับร้อยกระบวนท่า แต่กลับไม่มีใครเสียเปรียบ จนสุดท้ายทั้งสองก็ได้หยุดลง เวลานั้นฟ้าก็ได้มืดลงจนมีเพียงดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า และซากศพที่ย้อมพื้นดินจนเป็นสีแดงฉาน
ในตอนนั้นทั้งสองถูกขนานนามว่า นักดาบอำมหิต
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 6
Comments